ขอเกริ่นก่อนนะครับว่าบ้านผมทำธุรกิจร้านขายเครื่องใช้ไฟฟ้าที่จังหวัดทางภาคตะวันออกแห่งหนึ่ง
แล้วช่วง 3 เดือนที่ผ่านมามีห้างสรรพสินค้าชื่อดังมาเปิดที่อำเภอข้างๆบ้านผม
ทำให้ยอดขายของบ้านผมตกลงฮวบ บวกกับเศรษฐกิจค่อนข้างจะแย่
จากเมื่อก่อนที่พ่อออกจากบ้านไปทำงานติดแอร์ ติดจานดาวเทียมทุกวัน กลายเป็นเงียบหาย
ไม่ค่อยมีงานให้ออกไปทำ เลยต้องนั่งอยู่ที่ร้านเป็นเพื่อนแม่ทุกวัน แล้วก็อยู่กันแค่ 2 คน
เพราะผมกับน้องชายกำลังเรียนมหาวิทยาลัยอยู่ในกรุงเทพ นานๆจะได้กลับบ้านที
แล้วช่วงปิดปีใหม่ผมกลับมาเยี่ยมพ่อแม่ที่บ้าน ก็อยู่ได้จะอาทิตย์แล้วครับ
พ่อผมก็มาคุยกับผมเรื่องปัญหาสุขภาพเพราะผมเรียนสายสุขภาพครับ
คือโรคประจำตัวพ่อผมเนี่ยเป็นเบาหวาน ความดันโลหิตสูงอยู่แล้ว แต่ช่วงนี้แกรู้สึกอ่อนเพลีย
ถ่ายน้อย นอนไม่ค่อยหลับ ปวดจุกเสียดบริเวณลิ้นปี่ แกก็เลยเอาใบที่ไปตรวจสุขภาพมาให้ดู
คือผมก็พบว่าแกมีภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะและหัวใจห้องบนซ้ายโตนิดหน่อยแต่ยังไม่รุนแรง
แล้วก็มีตรงที่วินิจฉัยในใบรายงานว่าแกเป็น Chronic kidney disease stage 2 ร่วมด้วย
แต่ปัญหาหลักๆก็คือแกดูเศร้าซึม หดหู่ ไม่ร่าเริง เบื่อหน่าย คิดวิตกกังวลกับเรื่องเศรษฐกิจ สุขภาพ
แล้วก็ปัญหาของอา ป้า ย่า เรียกได้ว่าแทบจะเอาปัญหาทุกคนมาไว้กับตัวเอง
วันๆได้แต่นั่งถอนหายใจ แล้วก็บ่น และในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมาแกก็น้ำหนักลง 5 กิโลกรัมจาก 80 เหลือ 75
ผมดูแล้วกลัวว่าแกจะเป็นโรคซึมเศร้า เลยลองหาเกณฑ์วินิจฉัยดู
เกณฑ์การวินิจฉัย
มีอาการดังต่อไปนี้ 5 อาการหรือมากกว่า
1. มีอารมณ์ซึมเศร้า (ในเด็กและวัยรุ่นอาจเป็นอารมณ์หงุดหงิดก็ได้)
2. ความสนใจหรือความเพลินใจในกิจกรรมต่างๆ แทบทั้งหมดลดลงอย่างมาก
3. น้ำหนักลดลงหรือเพิ่มขึ้นมาก (น้ำหนักเปลี่ยนแปลงมากกว่าร้อยละ 5 ต่อเดือน) หรือมีการเบื่ออาหารหรือเจริญอาหารมาก
4. นอนไม่หลับ หรือหลับมากไป
5. กระวนกระวาย อยู่ไม่สุข หรือเชื่องช้าลง
6. อ่อนเพลีย ไร้เรี่ยวแรง
7. รู้สึกตนเองไร้ค่า
8. สมาธิลดลง ใจลอย หรือลังเลใจไปหมด
9. คิดเรื่องการตาย คิดอยากตาย
* ต้องมีอาการในข้อ 1 หรือ 2 อย่างน้อย 1 ข้อ
* ต้องมีอาการเป็นอยู่นาน 2 สัปดาห์ขึ้นไป และต้องมีอาการเหล่านี้อยู่เกือบตลอดเวลา แทบทุกวัน ไม่ใช่เป็นๆ หายๆ เป็นเพียงแค่วันสองวันหายไปแล้วกลับมาเป็นใหม่
(อ้างอิงจากคณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี)
ผมพบว่าพ่อผมตรงเกณฑ์ตั้งแต่ข้อ 1 ยันข้อ 8 เลยครับ เหลือข้อ 9 อย่างเดียว
แล้วปัญหาก็คือช่วงนี้แกเรียกร้องกำลังใจจากครอบครัวค่อนข้างมากอ่ะครับ
คิดเล็กคิดน้อย ความรู้สึกอ่อนไหวมาก ตัวผมเองก็รับฟังพ่อตลอดครับ
แต่แม่นี่สิ เพราะเมื่อก่อนพ่อผมเป็นคนอารมณ์ฉุนเฉียวมาก เหมือนเป็นไบโพล่าร์อ่ะ
อะไรนิดหน่อยก็โมโห ชอบทำร้ายร่างกายแม่ ผม แล้วก็น้อง เรียกได้ว่าไม่มีใครกล้าคุย
หรือกล้าหือกับพ่อเลยครับ แล้วพอแกเริ่มรู้ตัวว่าป่วย แกก็ไปบอกแม่ว่าขอกำลังใจหน่อย
ขอกอด ขอหอม ถามว่ารักมั้ย คือแม่ผมก็เฉยๆ ไม่ตอบสนองอะไร
แต่แม่มาบอกผมว่าแม่ลืมอดีตที่พ่อทำไม่ได้จริงๆ บางทีแม่เคยโดนด่า โดนซ้อม
กดดันจนอยากจะวิ่งออกไปให้รถชนตาย แต่แม่ก็ไม่ทำเพราะห่วงผมกับน้อง
แม่ต้องอยู่แบบเก็บกดมาเป็นสิบๆปี จะให้มาทำดีด้วย ให้กำลังใจตอนนี้แม่ทำไม่ได้
แล้วผมกับน้องก็ต้องกลับไปเรียนต่อหลังหมดวันหยุดนี้ ผมควรทำยังไงต่อดีครับ
เมื่อพ่อผมเหมือนจะเป็นโรคซึมเศร้าต้องทำยังไงครับ?
แล้วช่วง 3 เดือนที่ผ่านมามีห้างสรรพสินค้าชื่อดังมาเปิดที่อำเภอข้างๆบ้านผม
ทำให้ยอดขายของบ้านผมตกลงฮวบ บวกกับเศรษฐกิจค่อนข้างจะแย่
จากเมื่อก่อนที่พ่อออกจากบ้านไปทำงานติดแอร์ ติดจานดาวเทียมทุกวัน กลายเป็นเงียบหาย
ไม่ค่อยมีงานให้ออกไปทำ เลยต้องนั่งอยู่ที่ร้านเป็นเพื่อนแม่ทุกวัน แล้วก็อยู่กันแค่ 2 คน
เพราะผมกับน้องชายกำลังเรียนมหาวิทยาลัยอยู่ในกรุงเทพ นานๆจะได้กลับบ้านที
แล้วช่วงปิดปีใหม่ผมกลับมาเยี่ยมพ่อแม่ที่บ้าน ก็อยู่ได้จะอาทิตย์แล้วครับ
พ่อผมก็มาคุยกับผมเรื่องปัญหาสุขภาพเพราะผมเรียนสายสุขภาพครับ
คือโรคประจำตัวพ่อผมเนี่ยเป็นเบาหวาน ความดันโลหิตสูงอยู่แล้ว แต่ช่วงนี้แกรู้สึกอ่อนเพลีย
ถ่ายน้อย นอนไม่ค่อยหลับ ปวดจุกเสียดบริเวณลิ้นปี่ แกก็เลยเอาใบที่ไปตรวจสุขภาพมาให้ดู
คือผมก็พบว่าแกมีภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะและหัวใจห้องบนซ้ายโตนิดหน่อยแต่ยังไม่รุนแรง
แล้วก็มีตรงที่วินิจฉัยในใบรายงานว่าแกเป็น Chronic kidney disease stage 2 ร่วมด้วย
แต่ปัญหาหลักๆก็คือแกดูเศร้าซึม หดหู่ ไม่ร่าเริง เบื่อหน่าย คิดวิตกกังวลกับเรื่องเศรษฐกิจ สุขภาพ
แล้วก็ปัญหาของอา ป้า ย่า เรียกได้ว่าแทบจะเอาปัญหาทุกคนมาไว้กับตัวเอง
วันๆได้แต่นั่งถอนหายใจ แล้วก็บ่น และในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมาแกก็น้ำหนักลง 5 กิโลกรัมจาก 80 เหลือ 75
ผมดูแล้วกลัวว่าแกจะเป็นโรคซึมเศร้า เลยลองหาเกณฑ์วินิจฉัยดู
เกณฑ์การวินิจฉัย
มีอาการดังต่อไปนี้ 5 อาการหรือมากกว่า
1. มีอารมณ์ซึมเศร้า (ในเด็กและวัยรุ่นอาจเป็นอารมณ์หงุดหงิดก็ได้)
2. ความสนใจหรือความเพลินใจในกิจกรรมต่างๆ แทบทั้งหมดลดลงอย่างมาก
3. น้ำหนักลดลงหรือเพิ่มขึ้นมาก (น้ำหนักเปลี่ยนแปลงมากกว่าร้อยละ 5 ต่อเดือน) หรือมีการเบื่ออาหารหรือเจริญอาหารมาก
4. นอนไม่หลับ หรือหลับมากไป
5. กระวนกระวาย อยู่ไม่สุข หรือเชื่องช้าลง
6. อ่อนเพลีย ไร้เรี่ยวแรง
7. รู้สึกตนเองไร้ค่า
8. สมาธิลดลง ใจลอย หรือลังเลใจไปหมด
9. คิดเรื่องการตาย คิดอยากตาย
* ต้องมีอาการในข้อ 1 หรือ 2 อย่างน้อย 1 ข้อ
* ต้องมีอาการเป็นอยู่นาน 2 สัปดาห์ขึ้นไป และต้องมีอาการเหล่านี้อยู่เกือบตลอดเวลา แทบทุกวัน ไม่ใช่เป็นๆ หายๆ เป็นเพียงแค่วันสองวันหายไปแล้วกลับมาเป็นใหม่
(อ้างอิงจากคณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี)
ผมพบว่าพ่อผมตรงเกณฑ์ตั้งแต่ข้อ 1 ยันข้อ 8 เลยครับ เหลือข้อ 9 อย่างเดียว
แล้วปัญหาก็คือช่วงนี้แกเรียกร้องกำลังใจจากครอบครัวค่อนข้างมากอ่ะครับ
คิดเล็กคิดน้อย ความรู้สึกอ่อนไหวมาก ตัวผมเองก็รับฟังพ่อตลอดครับ
แต่แม่นี่สิ เพราะเมื่อก่อนพ่อผมเป็นคนอารมณ์ฉุนเฉียวมาก เหมือนเป็นไบโพล่าร์อ่ะ
อะไรนิดหน่อยก็โมโห ชอบทำร้ายร่างกายแม่ ผม แล้วก็น้อง เรียกได้ว่าไม่มีใครกล้าคุย
หรือกล้าหือกับพ่อเลยครับ แล้วพอแกเริ่มรู้ตัวว่าป่วย แกก็ไปบอกแม่ว่าขอกำลังใจหน่อย
ขอกอด ขอหอม ถามว่ารักมั้ย คือแม่ผมก็เฉยๆ ไม่ตอบสนองอะไร
แต่แม่มาบอกผมว่าแม่ลืมอดีตที่พ่อทำไม่ได้จริงๆ บางทีแม่เคยโดนด่า โดนซ้อม
กดดันจนอยากจะวิ่งออกไปให้รถชนตาย แต่แม่ก็ไม่ทำเพราะห่วงผมกับน้อง
แม่ต้องอยู่แบบเก็บกดมาเป็นสิบๆปี จะให้มาทำดีด้วย ให้กำลังใจตอนนี้แม่ทำไม่ได้
แล้วผมกับน้องก็ต้องกลับไปเรียนต่อหลังหมดวันหยุดนี้ ผมควรทำยังไงต่อดีครับ