มหาวงศา 3

(ตอนที่ 2 https://pantip.com/topic/37110367)
"เอ็งพูดอะไรบ้าๆวะ?" อิสมาแอลตะโกนลั่น
"ผมกำลังจะบอกว่า ถ้าคุณเชื่อในพระเจ้า ผมก็เชื่อในพรหมลิขิต เชื่อในกรรม พูดง่ายๆ ผมได้เจอสิ่งดีๆ ด้วยความบังเอิญ" พงษ์ตอบด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล เรียบเฉย
"สิ่งดีๆอะไรวะ?"
"น้องสาวคุณ"
เมื่อพงษ์พูดจบ อิสมาแอลเกิดอารมณ์ขึ้น ผลักพงษ์ล้มลงแล้วต่อยเข้าแก้มของพงษ์อย่างจัง พงษ์พยายามปกป้องตัวเองด้วยการผลักอิสมาแอลออกแต่อิสมาแอลก็กลับมาสวนหมัดต่ออีก การต่อสู้เกิดขึ้นได้ไม่นาน อิบรอฮีมได้เข้ามาห้ามปราบก่อนที่จะเกิดเหตุถึงขั้นนองเลือดไปมากกว่านี้ และไต่สวนถามทั้งคู่ด้วยอาการสีหน้าไม่ค่อยสู้ดีนัก
"ทั้ง 2 คน ทะเลาะกันเรื่องอะไร ถึงขั้นต้องลงไม้ขนาดนี้?"
ยังไม่ทันที่อิสมาแอลจะพูด พงษ์ก็ตอบขึ้น
"ไม่มีอะไรครับลุง พอดีผมไปพูดถึงเหตุการณ์เมื่อคืนครับ"
อิสมาแอลทำหน้างงๆ ก่อนที่พงษ์จะพูดต่อ
"ผมแค่ถามไปว่าเขาเป็นห่วงลุงจริงๆ หรือเพียงเพราะอยากสร้างภาพว่าเป็นลูกที่ดีครับ"
อิสมาแอลพยายามคัดค้านแต่อิบรอฮีมพูดสวนก่อน
"สร้างเรื่องวันไม่เว้นวันจริงๆ อย่าให้เจอเหตุการณ์แบบนี้อีก ไม่อย่างนั้น ข้าจะส่งเอ็งไปปอเนาะจริงๆด้วย"
พูดจบ อิบรอฮีมก็รีบขึ้นบ้านไป ทิ้งให้อิสมาแอลหน้างงๆก่อนที่จะไปถามพงษ์
"เอ็งทำบ้าอะไรอีกวะ?"
พงษ์ตอบ "ผมก็ช่วยปกป้องคุณนั้นแหละ"
ทันทีที่พูดจบ อิสมาแอลถึงกับหัวเราะลั่น "ข้าไม่โกรธเอ็งแล้วว่ะ เอ็งพูดบ้าอะไรอีก? ฮ่าๆๆๆๆๆๆ"
"ผมไม่ได้บ้า"  พงษ์สวน "ถ้าหากคุณตอบไปก่อน พ่อคุณไม่มีทางเชื่อแน่ๆ และก็คงจะเข้าข้างผมอยู่ดี"
ประโยคนี้ถึงกับทำให้อิสมาแอลสะอึกและจุกในคอ เพราะเขาพูดแทงใจเขาเหลือเกิน
"คุณเชื่อไหม? ถ้าคุณอ้างว่าคุณต่อยเพราะปกป้องน้องสาว หรือ คุณต่อยเพราะผมพูดเรื่องน้องสาวคุณขึ้นมา พ่อคุณต้องไม่เชื่อแน่ๆ"
อิสมาแอลถาม "ทำไมวะ?"
พงษ์ตอบ "พ่อของคุณน่ะไม่เชื่อใจคุณตั้งแต่ตอนที่ตอนที่คุณจับพวกผมไปให้พ่อคุณแล้ว และเขาก็รู้ดีว่านิสัยแบบคุณจะหาทางรังแกผมอยู่ตลอดเวลา"
อิสมาแอลทำหน้าไม่พอใจปนงงๆ ก่อนที่จะตอบสวน
"ข้าไม่เชื่อหรอก เอ็งคงกลัวพ่อข้าจะเล่นงานเอ็งอีกคนล่ะมั้ง"
พงษ์ตอบกลับ "ผมไม่เคยกลัว แต่นอกจากคุณแล้ว ผมก็เป็นห่วงน้องสาวคุณด้วย"
อิสมาแอลทำหน้าไม่พอใจอีกครั้งแต่ก็ระงับอารมณ์ไว้
"ทำไมวะ? น้องสาวข้ามีอะไรน่าสนใจหรือ?"
"คุณคงไม่เชื่อ แต่ผมจะบอกว่า ผมเคยเห็นหน้าน้องสาวคุณมาแล้ว ทั้งๆที่ผมเพิ่งเห็นจริงๆแค่เมื่อวาน" พงษ์ตอบ
"คุณรู้ไหม? น้องสาวของคุณหน้าตาคล้ายกับผู้หญิงในฝันของผมมาก เธอเข้ามาในฝันผมอยู่ทุกคืน"
อิสมาแอลแสดงสีหน้าแปลกประหลาดใจ ก่อนที่พงษ์จะเล่าเรื่องราวของตัวเองต่อไป
"ผมเคยฝันถึงผู้หญิงคนนั้นหลายครั้งหลายหนนับตั้งแต่ผมไปทัศนศึกษาเมืองเก่าที่จังหวัดของผมเอง นับตั้งแต่นั้นมา ผมก็เลยฝันถึงเธออยู่ตลอด"
"เอ็งหมายความว่า..?"
"ใช่ ผมเชื่อเรื่องชาติปางก่อน"
อิสมาแอลหัวเราะใส่ ก่อนที่จะพูด
"ชีวิตคนเราน่ะ เกิดมาได้แค่ครั้งเดียว ไม่มีชาติก่อน ชาติหน้า พอตายไปก็ต้องเฝ้ารอเวลาของสวรรค์เท่านั้น ข้าเชื่อแบบนี้มาตั้งแต่เกิด"
พงษ์ตอบกลับ "แต่ผมเชื่อแบบนี้ การเวียนว่ายตายเกิด แม้อาจจะพิสูจน์ไม่ได้ว่ามีจริงหรือไม่ แต่จากประสบการณ์ของผม ผมเชื่อสนิทใจว่ามันมีอยู่จริง"
"พูดเป็นเล่น" อิสมาแอลเหยียดหยัน
"คุณลองคิดดูสิ ถ้าพระเจ้ามีอยู่จริงและเลือกเมตตาเฉพาะคนที่เชื่อแบบท่าน ท่านก็คงให้ผมเกิดมาแบบคุณแล้ว คงไม่ต้องให้ผมเกิดมาเป็นคนพุทธหรอก"
"มนุษย์ทุกคนต้องผ่านการทดสอบ พระเจ้าย่อมสร้างบทพิสูจน์ บททดสอบ อยู่เสมอ" อิสมาแอลข่มและแย้งพงษ์ด้วยหลักความเชื่อของตัวเอง
"ขอถามหน่อย คุณกินหมูได้ไหม? คุณกราบพระพุทธรูปได้ไหม? คุณไหว้พระได้ไหม?"
อิสมาแอลตอบ "ไม่ได้หรอก นรกจะกินหัวข้าแบบไร้ปราณีแน่นอน"
พงษ์ยิ้มก่อนตอบ "แต่หลักพระพุทธศาสนา เราสามารถกินแพะได้ ละหมาดได้ สลามพวกคุณได้ เพราะอะไรรู้ไหม?"
อิสมาแอลงงก่อนที่พงษ์จะเฉลยเอง
"เพราะว่าพระพุทธศาสนา เป็นศาสนาที่มนุษย์ทุกคนเข้าถึงได้ อยู่ที่ว่าใจจะเข้าถึงได้เท่าใดเท่านั้นเอง หลักบังคับจริงๆมีไม่กี่อย่างหรอก และล้วนแต่เป็นทางงดการเบียดเบียนตนเองและผู้อื่นทั้งสิ้น ไม่เคยห้ามหลักความคิดอื่นๆ"
พงษ์ตอบ
"ในฐานะที่คุณไม่ใช่พุทธศาสนิกชน คุณเองก็สามารถเข้าถึงได้เท่าที่จะเข้าถึง อยู่ที่ว่าใจคุณจะยอมสักเท่าใด คุณยอมนั่งสมาธิ คุณก็เข้าถึงแล้ว แต่ถ้าคุณไม่ยอมสวดมนต์ไหว้พระ ก็ไม่เป็นไร เพราะไม่ใช่กฎบังคับ เราไม่เคยแม้แต่บังคับคนศาสนาอื่นๆให้เข้ารีตด้วยซ้ำ เพราะเราบังคับกันจริงๆแค่อย่างเดียว คือ ห้ามทำผิด ทำสิ่งไม่ดีต่อผู้อื่น นอกนั้นไม่เคยห้าม เราจึงสามารถร่วมทำกิจศาสนาอื่นได้ ขึ้นอยู่กับว่าศาสนาอื่นจะยอมหรือเปล่าก็อีกเรื่อง"
อิสมาแอลฟังแล้วเข้าใจ แต่ก็ตอบไป
"ขอบใจที่บอกเล่าเรื่องราว แต่ข้าคงละทิ้งศรัทธาที่ได้มาตั้งแต่เกิดไม่ได้หรอก เอาเป็นว่าข้าจะพอทำเท่าที่ได้ล่ะกัน"
"ว่าแต่ข้าขอถามเอ็งสักนิด ว่าทำไมเอ็งต้องโกหกเพื่อปกป้องน้องสาวข้าด้วย" อิสมาแอลถาม
"เพราะผมกลัวว่า ถ้าผมพูดอะไรไปแล้ว จะเสียหายถึงน้องสาวของคุณ และจะทำให้เกิดปัญหาต่อน้องสาวคุณอีก"
"เข้าใจล่ะ ขอบใจมาก"
กล่าวจบอิสมาแอลกล่าวลา
"ข้าขอตัวก่อน ข้าคงจะต้องไปทำธุระกับเพื่อนๆที่นอกหมู่บ้านเสียหน่อย" กล่าวจบอิสมาแอลเดินออกจากเขตบ้านไป
#
พงษ์นั่งยิ้มนั่งบนแคร่ไม้ใกล้ๆใต้ถุนบ้าน ก่อนที่จะพบกับมัรยัมอีกครั้งอย่างจริงๆ ครั้งนี้พงษ์ไม่เกิดอาการปวดหัว แต่พอได้เห็นหน้าตาของมัรยัมแล้ว พงษ์กลับรู้สึกหน้าแดง หัวใจเต้นแรง เผลอยิ้มให้จนมัรยัมเขิน เพราะไม่เคยเจอผู้ชายที่ไหนยิ้มให้ก่อน จึงรีบเดินขึ้นบ้าน แต่เพราะความเขินอาย จึงทำให้ยังไม่ทันก้าวบันไดครบขั้น กลับเผลอสะดุดดีดออก พงษ์รีบวิ่งเข้าไปกอดมัรยัมจังๆ ผ้าคลุมหัวของมัรยัมหลุดออก เผยให้เห็นสีผมดำและหอม ทันทีที่ผมเผลอก่อนมัรยัม หัวใจของพงษ์รู้สึกเต้นแรงมากจนกระทั่งพงษ์แทบจะล้มลงไป ก่อนที่จะตั้งสติประคองมัรยัมได้ มัรยัมพยายามจะดึงตัวเองออกไปแต่จิตสำนึกกลับบอกให้เข้าหาตัวพงษ์ไว้
"เจ็บมากไหมจ้ะ?" พงษ์ถามมัรยัม
"ไม่เป็นไร ฉันไม่เจ็บหรอก" มัรยัมพูดก่อนจะหลบตัวเองออกจากตัวพงษ์ด้วยความเขินอาย
"ขอบใจนะที่ช่วยฉันไว้"
มัรยัมพูดก่อนที่จะเดินขึ้นบ้านอีก พงษ์รู้สึกยิ้มและนั่งยิ้มแบบนี้ไปนานๆ ก่อนที่จะไปนอนที่แคร่ไม้ต่อ
#
ขณะเดียวกัน ณ ด่านชายแดนไทย-มาเลเซีย เพื่อนๆรู้สึกหัวเสียกับเอกสารที่เทพเตรียมมา เนื่องจากเทพอ้างว่าลืมพาสปอร์ตไว้ ส่งผลทำให้เพื่อนๆทุกคนต่างหัวเสียกันหนัก จึงพากันหาจุดพักใกล้ๆด่านชายแดนเพื่อถกวิธีแก้ปัญหา
"โง่ซ้ำซากจริงๆเลยเอ็งเนี่ย พอบอกว่าเอาพาสปอร์ตมาไหม บอกว่าเอามา ดันหยิบบัญชีรายรับรายจ่ายพ่อเอ็งมาอีก" แหลมพูดอย่างอารมณ์เสีย
"ข้าถามเอ็งจริงๆ เอ็งไม่สังเกตหรือว่าพาสปอร์ตเนี่ย มันต้องมีรูปพญาครุฑอยู่หน้า มีประเทศไทยอยู่ข้างหน้า" แหลมพูดต่อพลางหยิบและใช้นิ้วจิกปกพาสปอร์ตของตัวเองซ้ำๆ
"ตอนแรกข้าก็ไม่รู้หรอก พอพอข้าโทรบอกว่าเผลอหยิบพาสปอร์ตข้าไปนี้ ข้าก็ตกใจเหมือนกัน" เทพกล่าวถึงสาเหตุ
"ขอโทษนะไอ้เทพ ข้าว่าทั้งเอ็งทั้งพ่อควรจะดูอะไรดีๆด้วย ไม่อย่างนั้นคงไม่ต้องเสียเวลาขนาดนี้"
ทั้ง 3 คน ถกเถียงกันไปๆมาๆสักพัก โทรศัพท์ของเทพดังขึ้นมา เทพรับสาย
"ฮัลโหลครับ .. เตี่ยเหรอ? .. อะไรนะครับ ..ครับๆเตี่ย"
พอเทพวางสาย แหลมแซว
"ไอ้นี้บ้านรวยถึงขั้นซื้อกระดูกหมามาโทรเล่น แต่ดันเป็นโรคขี้ลืมจนลืมพาสปอร์ต"
เทพสวนกลับ "ลืมบ้าอะไร พ่อข้าบอกว่าเจอบัญชีรายรับรายจ่ายแล้ว"
"หือ?" ทั้งแหลมและเสือแสดงอาการแปลกใจ
"ว่าแต่ บัญชีนี้มันบัญชีอะไร?"
"เอ็งยังไม่ได้เปิดดูเหรอวะ?" แหลมถามเทพ
"ไม่ ข้าคิดว่าเป็นสมุดบัญชีก็ตอนที่พ่อข้าโทรมานี้แหละ ข้าก็ไม่กล้าเปิดดูเพราะมันเป็นของผู้ใหญ่เขา"
"ลองเปิดดูสิวะ" เสือย้ำ
ทั้ง 3 คนดูพร้อมๆกันแล้วพบอะไรบางอย่างจนตกใจเล็กน้อย
"ภาษาทำไมมันแปลกๆวะ" เทพงง
"เฮ้ย ภาษาแบบนี้ข้าคุ้นๆว่ะ เหมือนเคยเห็นที่ไหนสักแห่ง" แหลมแสดงอาการแปลกใจปนคุ้นเคย พลางเกาหัว
"ข้ารู้แล้วว่ามันคือภาษาอะไร?" เสือตอบ เทพและแหลมหันมา
"ข้าเคยเห็นภาษาแบบนี้ที่ป้ายหน้าศาสนสถานของพวกมลายู ข้างล่างภาษาไทย" ..
#
.. "นี้มันสมุดอะไรวะ?"
อิสมาแอลถามกับเพื่อนๆที่กำลังดูอยู่ทางข้างหลัง
"มีรูปหน้าคน ชื่อ วันเกิด เพศ แล้วก็ไม่ใช่ของข้า ข้าหยิบของคนอื่นผิดหรือเปล่าวะ?" อิสมาแอลกล่าว
"เฮ้ยบ้าละ สมุดบันทึกเส้นทางหายไปไหนวะ?" เพื่อนคนหนึ่งของอิสมาแอลถาม อิสมาแอลเอาสมุดตีหัวแล้วตอบ
"ถ้าข้ารู้ ข้าจะหัวเสียเหรอวะ?"
"โอ้ยตาย เราจะไปตัวเมืองได้อย่างไร?" มูหะหมัด เพื่อนคนหนึ่งแสดงอาการหัวเสีย
"ไปตามมีตามเกิดเถอะ" พูดจบ อิสมาแอลและเพื่อนๆร่วมประมาณ 10 กว่าคน นั่งรถกระบะไป อิสมาแอลนั่งหน้า ส่วนอาลี เพื่อนอีกคนเป็นคนขับ มีนั่งหลังกระบะ 2 คน ที่เหลือนั่งท้ายกระบะ
ขณะที่รถขับไปสักพัก อิสมาแอลนึกขึ้นได้ "รู้แล้ว สมุดข้าอยู่ไหน?"
อาลีถาม "อยู๋ไหนวะ?"
"ข้าจำได้ เมื่อคืน พวกคนนอกเข้ามาอยู่บ้านข้า ในกลุ่มมีไอ้เจ๊กคนหนึ่ง ตอนนั้นข้าถือสมุดมาด้วย แล้วเดินชนมัน มันถือสมุดของมันมาด้วย เลยน่าจะสลับสมุดกัน ข้าว่าต้องเป็นไอ้เจ๊กจากตัวเมืองที่กำลังจะไปชายแดนแน่นอน"
"เอ็งอย่าบอกนะว่า..." อาลีแสดงความรู้ใจ
"ใช่ ไปด่านเสีย ข้าว่ามันคงยังเข้ามาเลเซียไม่ได้หรอก"
"เฮ้ย แต่เราขับมาไกลแล้วนะโว้ย" อาลีโวย อิสมาแอลตบหัวพองามก่อนจะสวน
"ขับไกลบ้าอะไร เพิ่งจะออกจากทางเข้าหมู่บ้านเอง"
อาลีหน้ามึนๆงงๆ
"สลับข้างขับ ข้าจะขับเอง" อิสมาแอลพูดขอรับหน้าที่ขับ
อาลียอมแลกที่นั่งกันก่อนจะเลี้ยวกลับตรงไปยังด่าน
"มันไปด่านทำไมวะ?" เพื่อนคนหนึ่งท้ายกระบะถาม
"มันคงนึกคึกอยากตามพวกคนนอกล่ะมั้ง" เพื่อนอีกคนกล่าวตามที่คิด
อาลีซึ่งกำลังงงๆ ถามอิสมาแอล "อยู่ๆ เอ็งนึกอะไรถึงขับไปเอาสมุดนั้นมา แค่สมุดบันทึกเส้นทางเอง"
อิสมาแอลสวน "มันไม่ได้สำคัญกับเอ็งด้วยหรือ? มันไม่ได้บันทึกแค่เส้นทาง แต่มันบันทึกสิ่งหนึ่งที่สำคัญกับทั้งตัวข้า พ่อข้า และ คนทั้งหมู่บ้านด้วย"
"อะไรวะ?" อาลีถาม
"เรื่องราวของลุงข้าที่ถูกฆ่าตายอย่างโหดเหี้ยม" ..
#
.. "ถอดความได้หรือยังวะ?"
เทพและแหลมถามเสือซึ่งกำลังถอดตัวอักษรแปลกๆ อยู่
"ข้าเรียนมาแค่งูๆปลาๆจากพวกมลายู คงต้องสักพักใหญ่" เสือตอบ
"ให้เอ็งถอดรหัสแบบนี้ ข้าว่าคงอีกนาน" แหลมเย้าเล่น
"ข้าว่าเดี๋ยวให้คนที่เขารู้อักษรนี้จริงๆ ถอดความให้ดีกว่าว่ะ"
"แต่ข้าว่า อย่าเพิ่งสนใจสมุดนี้เลยว่ะ สนใจก่อนว่าพาสปอร์ตข้าไปไหน" เทพตอบ แต่สักพักนึกขึ้นบางอย่าง
"ข้านึกออกแล้ว ตอนนั้นข้าเดินชนลูกลุงแขกเมื่อคืนวานนี้เอง ข้าคงจะสลับสมุดกับเขาแน่ๆ" เทพนึกขึ้นได้
"เอ็งอย่าบอกนะว่า.."
"ใช่ ข้าจะถือโอกาสนี้ ไปดึงไอ้พงษ์มาร่วมเที่ยวกับเราเสีย" กล่าวจบเทพดึงแขนแหลมกับเสือไปที่รถตู้ บอกให้โชเฟอร์นั่งรถกลับไปทางลัดนั้น
"พวกเอ็งอยากกลับไปเสี่ยงตายอีกหรือ? ไอ้พวกเด็กโง่!" โชเฟอร์ตวาดใส่
"น่าลุง ผมขอไปเอาพาสปอร์ตเถอะ จะจ่ายเพิ่มผมก็ยอม" เทพขอร้อง
"เงินมันซื้อชีวิตข้าไม่ได้หรอก รถเสียไม่พอ เกือบต้องทิ้งชีวิตไว้ ข้าไม่ทิ้งพวกเอ็งไว้ด้วยก็บุญแล้ว" โชเฟอร์บ่ายเบี่ยง
"พวกเอ็งจะกลับบ้านไหม? หรือจะไปต่อ?" โชเฟอร์ถามย้ำ
"แหม ลุง เอาอย่างนี้นะ ลุงพาผมกลับไปที่เก่านั้นตั้งแต่ตอนนี้เลย ถ้ากลับทันก่อนเย็นๆ จะได้ไม่ต้องเจอเสียงปืนหรือเสี่ยงตายอะไรอีก" เทพตอบเพื่อสร้างความสบายใจให้โชเฟอร์
"เอาอย่างนั้นก็ได้ แต่จำไว้ ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับข้าอีก ข้าจะทิ้งพวกเอ็งไว้แน่นอน"
เทพตอบรับพลางไหว้ "ขอบคุณมากครับลุง"
กล่าวจบ พวกเขาต่างพากันขึ้นรถตู้กัน และมุ่งไปสู่หมู่บ้านนั้น แล้วก็เกิดเรื่องขึ้นกลางทาง ..
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่