ช่วยแสดงความคิดเห็นที

หมอธรรมหนุ่ม : กำเนิดผู้พิทักษ์หนองบัวงาม
 
แสงแดดยามเช้าอาบไล่ยอดไม้ในหมู่บ้านหนองบัวงาม เสียงไก่ขันก้องไปทั่วทุ่งนา กลิ่นดินและหญ้าอาบไอหมอกยามเช้า สะท้อนความเงียบสงบและเรียบง่ายที่แตกต่างจากชีวิตในเมืองใหญ่โดยสิ้นเชิง
 
นที เด็กหนุ่มวัย 19 ปี ถูกส่งมาที่วัดกลางหมู่บ้านเพื่อฝึกวินัยและปรับนิสัย เนื่องจากความซุกซนและเกเรเกินขอบเขต ชีวิตเขาที่เคยเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะกับเพื่อน ๆ ในเมืองใหญ่กลับถูกแทนที่ด้วยความเรียบง่ายและความเงียบสงบของวัด
 
หลวงลุง พระชราผู้เป็นพี่ชายของแม่ รับหน้าที่ดูแลนที ท่านเป็นพระผู้เปี่ยมด้วยเมตตาและภูมิรู้ ทั้งด้านพระธรรมและพิธีกรรมโบราณของท้องถิ่น เสียงท่านนุ่มลึกแต่หนักแน่น เมื่อสอนอะไรสักอย่าง มักทำให้นทีต้องตั้งใจฟังด้วยความเคารพ

แรกเริ่ม นทีเต็มไปด้วยความหงุดหงิดไม่ชินกับการตื่นตีห้า การบิณฑบาต และการนั่งสมาธิเป็นชั่วโมง เขาพยายามขดตัวหลับในโบสถ์บ้าง แอบเล่นโทรศัพท์บ้าง แต่หลวงลุงก็ไม่เคยละเลย นั่งเงียบสอนด้วยสายตาและคำพูดช้า ๆ
 
“นที… ความสงบภายในสำคัญกว่าความสนุกชั่วครู่ ความสุขที่แท้จริงไม่ได้อยู่ที่เสียงหัวเราะ แต่คือใจที่สงบเยือกเย็น” หลวงลุงกล่าว
 
ค่อย ๆ ผ่านวันเวลา นทีเริ่มซึมซับวินัย เขาฝึกนั่งสมาธิ จิตเริ่มสงบลง เริ่มเข้าใจความสำคัญของการอยู่กับปัจจุบัน
 
หลายครั้ง นทีได้ช่วยหลวงลุงดูแลชาวบ้าน บางครั้งเป็นการรักษาสัตว์บาดเจ็บด้วยสมุนไพร บ้างก็ช่วยเด็ก ๆ ที่เจ็บไข้ หรือทำงานเล็ก ๆ เช่นซ่อมคันนา ขุดร่องน้ำ หรือช่วยลำเลียงผลผลิตไปยังชาวบ้าน ความช่วยเหลือเล็ก ๆ เหล่านี้ทำให้เขาเห็นรอยยิ้มและคำขอบคุณของผู้คน ทำให้หัวใจเขาอบอุ่นขึ้นอย่างไม่เคยรู้สึกมาก่อน

วันหนึ่งขณะนั่งใต้ต้นโพธิ์หลวงลุงหันมาพูดกับนที
 
“นที… ลุงเห็นแล้วว่าหัวใจเอ็งไม่เหมือนเดิม เอ็งมีเมตตา มีขันติ ถึงเวลาที่ลุงจะสอนสิ่งที่ลึกซึ้งกว่าให้”
 
นับแต่นั้น นทีได้เรียนรู้การปฏิบัติกรรมฐานอย่างจริงจัง ฝึกบริกรรมบทสวด เช่น “นะโมพุทธายะ” และ “อิติปิโส ภควา” พร้อมวิชาอาคมสายขาวที่ใช้ในการปัดเป่าเคราะห์ร้าย รักษาผู้คน และปกป้องชุมชน
 
หลวงลุงเตือนเสมอ
“ของที่ลุงสอนนี้ ไม่ใช่ของเล่น อย่าได้เอาไปเบียดเบียนผู้ใด เอ็งต้องเป็นที่พึ่งให้คน ไม่ใช่ภัยของเขา”
 
นทีน้อมรับด้วยใจจริง เขาเริ่มซึมซับความหมายของคำสอนและวิชาเก่าแก่
 
ไม่นานนัก ความดีของนทีเริ่มเป็นที่รู้จักในหมู่บ้าน ใครเจ็บไข้ได้ป่วย หรือเกิดเหตุไม่เป็นมงคลก็มักมาขอให้ “หมอธรรมหนุ่ม” ช่วยเหลือ
 
นทีทำงานร่วมกับหมอทำเก่าแก่ของหมู่บ้าน ทำพิธีสะเดาะเคราะห์ รดน้ำมนต์ หรือฝังตะกรุดป้องกันภัย ทุกครั้งที่เขาช่วย ผู้คนจะส่งรอยยิ้มและคำขอบคุณ ทำให้นทีรับรู้ถึงความหมายของการเป็นผู้พิทักษ์
 
คำร่ำลือถึงความสามารถและความเมตตาของนที ทำให้ชาวบ้านรักใคร่และยกย่องเขาเป็นเสมือนผู้พิทักษ์แห่งหนองบัวงาม

แต่ความรุ่งเรืองนี้กลับสร้างความไม่พอใจให้แก่ “ขุนผีคำแดง” หมอผีเก่าแก่ที่เคยมีอำนาจในหมู่บ้าน เขาเคยเป็นผู้ที่ผู้คนต้องพึ่งพาเวลามีภัยร้าย แต่เมื่อหมอธรรมหนุ่มปรากฏ ผู้คนกลับหันไปหานทีแทน
 
ความโกรธและริษยาสุมใจคำแดง เขาเริ่มทำพิธีเรียกวิญญาณร้าย ปล่อยผีตายโหงออกมาหลอกหลอนชาวบ้านในยามค่ำคืน บ้างทำให้วัวควายล้มตาย บ้างทำให้ผู้คนล้มป่วยโดยหาสาเหตุไม่ได้
 
คืนหนึ่ง ชาวบ้านพากันมาขอร้องที่วัด
 
“หลวงลุงเจ้าขา… ช่วยพวกข้าด้วย ผีมันอาละวาด วัวควายตายไม่เว้นวัน”
 
หลวงลุงหันมามองนทีด้วยสายตาแน่วแน่
“นที… ถึงเวลาแล้วที่เอ็งจะได้พิสูจน์ตนเอง ไปเถอะ ช่วยชาวบ้านให้พ้นทุกข์”
 
นทีรับเทียน ธูป บาตรน้ำมนต์ และคัมภีร์บทสวดที่หลวงลุงมอบให้ ก้าวออกไปสู่เส้นทางของหมอธรรมอย่างแท้จริง
 
เขารู้สึกทั้งตื่นเต้นและเกรงกลัว แต่หัวใจยังมั่นคง เขายืนบนลานกลางทุ่งนา ปรับลมหายใจ น้อมจิตเข้าสมาธิ เตรียมรับมือกับผีร้ายที่จะมาประชิดตัว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่