ที่บ้านมีต้นพลับ (Persimmon) หรือญี่ปุ่นเรียกว่า 柿 (かき) Kaki
แต่เป็นพันธุ์ที่ฝาดต้องเอาไปบ่มด้วยแก๊สแก้ความฝาด แต่ยากเกินความสามารถ เลยเก็บมาตากแห้งค่ะ
คัดลอกข้อมูลลูกพลับมาให้อ่านกันเครดิตตามนี้ค่ะ
Café de Osaka - โอ้ โอซาก้าLike Page
October 29, 2013 ·
ผลไม้ฤดูใบไม้ร่วง : ลูกพลับ (kaki)
พลับเป็นผลไม้ที่มีต้นกำเนิดที่เมืองจีน เชื่อกันว่าเข้ามาในญี่ปุ่นในสมัยเฮอัน เห็นได้จากชื่อ “Kaki”
ในวรรณกรรมเมื่อปีค.ศ.736 ปัจจุบันจังหวัดที่ปลูกพลับมาก 3 อันดับต้นๆในญี่ปุ่นคือวาคายามะ นารา และฟุกุโอกะ
พลับที่วางขายตามท้องตลาดทั่วไปมีหลายพันธุ์ด้วยกันเช่น Fuyu-kaki, Hiratanenashi, Tone-wasei ฯลฯ มากมาย
แต่แยกเป็น 2 ประเภทใหญ่ๆคือ Shibu-gaki กับ Ama-gaki หรือพลับฝาดกับพลับหวาน
พลับฝาดกับพลับหวานต่างกันตรงที่สาร Tannin ที่อยู่ในตัวละลายหรือไม่ละลายในปากคน ถ้าละลายก็จะฝาด หากไม่ละลายก็จะหวาน
ระหว่างยังดิบๆอยู่ สารดังกล่าวจะละลายทำให้มีรสชาติฝาดทั้งคู่ แต่พลับหวานจะเปลี่ยนสารดังกล่าวให้ไม่ละลายระหว่างที่โตขึ้นและเริ่มสุกงอม
พลับฝาดก็จะกลายเป็นพลับหวานได้เมื่อนำไปบ่มโดยใช้แอลกอฮอลล์หรือก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ หรือนำมาตากแห้ง
พลับเป็นผลไม้ที่มีปริมาณวิตามิน C สูงในอันดับต้นๆของผลไม้ที่คนญี่ปุ่นทานประจำในชิวิตประจำวัน ช่วยป้องกันไม่ให้เป็นไข้หวัด
สีส้มของพลับยังมีเบต้าแคโลตินช่วยฆ่าเชื้อโรค และมี β-cryptoxanthin ซึ่งช่วยลดการเกิดมะเร็งได้
ส่วน Tannin ที่เป็นสารสร้างความฝาดในพลับก็สามารถช่วยแยกแอลกอฮอลล์ในร่างกาย และมีสารแคลเลียมช่วยขับปัสสาวะ
ช่วยให้สร่างเมาเร็วขึ้น อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่า Tannin จะช่วยลดระดับความดันโลหิตลงได้ก็ตาม แต่ก็จะทำให้ร่างกายดูดซึมธาตุเหล็กได้น้อยลง
ดังนั้นคนที่เป็นโรคเลือดจางจึงไม่ควรทานพลับมากเกินไป
วิธีเลือกให้สังเกตที่ขั้วยังเขียวสด และติดกับตัวผลไม้
สีของลูกก็ยังดูมันสด สีส้มทั้งผล วิธีเก็บพลับได้นานคือให้ใส่ในถุงพลาสติคแล้วแช่ไว้ในตู้เย็น ซึ่งจะทำให้อยู่ได้นานราวหนึ่งสัปดาห์
แต่ถ้าเก็บไว้ในอุณหภูมิปกติจะอยู่ได้เพียง 2-3 วันเท่านั้น เพราะพลับที่ออกมาวางขายผ่านการบ่มมาเรียบร้อยแล้ว
ตอนแรกด้วยความขี้เกียจเลยตัดขั้นตอนบางอย่างทิ้ง เฟลมากๆค่ะ
การทำลูกพลับแห้งด้วยวิธีปอกเปลือก ไม่ได้ลวกฆ่าเชื้อโรค
แล้วใส่ตาข่าย ตากแดด ส่วนใหญ่ต้องทิ้งไปเพราะขึ้นรา เหลือแห้งๆไม่กี่ลูก
หลังจากนั้นทำตามแบบฉบับที่เฮียค้นมาจากเนต ทำได้ผลค่อนข้างดีค่ะ
1. เก็บลูกพลับตัดขั้วให้มีกิ่งติดมาด้วยเพื่อจะได้ใช้เชือกผูกตรงขั้ว
นำมาล้าง สะเด็ดน้ำให้แห้ง

2. ปอกเปลือก (ใช้รูปตอนที่ใส่ตาข่ายตากแดดเลยไม่มีขั้ว)
ถ้าจำนวนมากๆใช้ที่ปอกเปลือกจะผ่อนแรงกว่าใช้มีด

3. ตัดเชือกยาวประมาณ 10-12 นิ้ว ผูกตรงกิ่งขั้วลูกพลับข้างละลูก

4. ตั้งน้ำให้เดือด ให้น้ำมากพอที่จะท่วมลูกพลับ
5. จับเชือก หย่อนลูกพลับลงไปในน้ำเดือด 3 วินาที แล้วเอาขึ้นมาแขวน

6. หาที่แขวนตากลูกพลับ ให้มีลมพัดผ่าน ไม่ให้โดนฝน (รอประมาณ 2 สัปดาห์)
ผ่านไป 1 สัปดาห์
ผ่านไปประมาณ 10 วัน

ผ่านไป 16 วัน
ส่วนตัวคิดว่าน่าจะรออีกนิดให้แห้งกว่านี้ แต่เฮียบอกว่าเค้ากินกันประมาณนี้ เลยเอาตามที่เฮียพอใจ
เอาไปให้ป้าๆกลุ่มโยคะ รับประทานกันเอร็ดอร่อย รสหวานม๊ากกกกก แกล้มกับชาร้อนๆ เข้ากั๊นเข้ากันค่ะ

ลูกพลับที่ทำเองนี้เป็นเพราะเป็นพันธุ์ที่ไม่ดี มีเมล็ดมาก ทำได้ก็ไม่เหมือนที่เค้าทำขาย แต่ก็อร่อย หวานมากๆ
เคยดูรายการทีวีเมืองไทย มีแนะนำลูกพลับที่ปลูกในเมืองไทยด้วย หากมีโอกาสได้พลับมา รับประทานไม่ทันหรือมีรสฝาด ลองทำตากแห้งกันดูนะคะ
เพิ่มเติม จากข้อมูลคุณคลองห้า ความคิดเห็นที่ 9 บ้านเราให้ระวังเรื่องความชื้นด้วยนะคะ
ลูกพลับที่กินสดแล้วมีรสฝาด......จับมาตากแห้งแล้วหวานมากๆๆๆ ลองมาทำด้วยวิธีง่ายๆกันค่ะ
แต่เป็นพันธุ์ที่ฝาดต้องเอาไปบ่มด้วยแก๊สแก้ความฝาด แต่ยากเกินความสามารถ เลยเก็บมาตากแห้งค่ะ
คัดลอกข้อมูลลูกพลับมาให้อ่านกันเครดิตตามนี้ค่ะ
Café de Osaka - โอ้ โอซาก้าLike Page
October 29, 2013 ·
ผลไม้ฤดูใบไม้ร่วง : ลูกพลับ (kaki)
พลับเป็นผลไม้ที่มีต้นกำเนิดที่เมืองจีน เชื่อกันว่าเข้ามาในญี่ปุ่นในสมัยเฮอัน เห็นได้จากชื่อ “Kaki”
ในวรรณกรรมเมื่อปีค.ศ.736 ปัจจุบันจังหวัดที่ปลูกพลับมาก 3 อันดับต้นๆในญี่ปุ่นคือวาคายามะ นารา และฟุกุโอกะ
พลับที่วางขายตามท้องตลาดทั่วไปมีหลายพันธุ์ด้วยกันเช่น Fuyu-kaki, Hiratanenashi, Tone-wasei ฯลฯ มากมาย
แต่แยกเป็น 2 ประเภทใหญ่ๆคือ Shibu-gaki กับ Ama-gaki หรือพลับฝาดกับพลับหวาน
พลับฝาดกับพลับหวานต่างกันตรงที่สาร Tannin ที่อยู่ในตัวละลายหรือไม่ละลายในปากคน ถ้าละลายก็จะฝาด หากไม่ละลายก็จะหวาน
ระหว่างยังดิบๆอยู่ สารดังกล่าวจะละลายทำให้มีรสชาติฝาดทั้งคู่ แต่พลับหวานจะเปลี่ยนสารดังกล่าวให้ไม่ละลายระหว่างที่โตขึ้นและเริ่มสุกงอม
พลับฝาดก็จะกลายเป็นพลับหวานได้เมื่อนำไปบ่มโดยใช้แอลกอฮอลล์หรือก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ หรือนำมาตากแห้ง
พลับเป็นผลไม้ที่มีปริมาณวิตามิน C สูงในอันดับต้นๆของผลไม้ที่คนญี่ปุ่นทานประจำในชิวิตประจำวัน ช่วยป้องกันไม่ให้เป็นไข้หวัด
สีส้มของพลับยังมีเบต้าแคโลตินช่วยฆ่าเชื้อโรค และมี β-cryptoxanthin ซึ่งช่วยลดการเกิดมะเร็งได้
ส่วน Tannin ที่เป็นสารสร้างความฝาดในพลับก็สามารถช่วยแยกแอลกอฮอลล์ในร่างกาย และมีสารแคลเลียมช่วยขับปัสสาวะ
ช่วยให้สร่างเมาเร็วขึ้น อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่า Tannin จะช่วยลดระดับความดันโลหิตลงได้ก็ตาม แต่ก็จะทำให้ร่างกายดูดซึมธาตุเหล็กได้น้อยลง
ดังนั้นคนที่เป็นโรคเลือดจางจึงไม่ควรทานพลับมากเกินไป
วิธีเลือกให้สังเกตที่ขั้วยังเขียวสด และติดกับตัวผลไม้
สีของลูกก็ยังดูมันสด สีส้มทั้งผล วิธีเก็บพลับได้นานคือให้ใส่ในถุงพลาสติคแล้วแช่ไว้ในตู้เย็น ซึ่งจะทำให้อยู่ได้นานราวหนึ่งสัปดาห์
แต่ถ้าเก็บไว้ในอุณหภูมิปกติจะอยู่ได้เพียง 2-3 วันเท่านั้น เพราะพลับที่ออกมาวางขายผ่านการบ่มมาเรียบร้อยแล้ว
ตอนแรกด้วยความขี้เกียจเลยตัดขั้นตอนบางอย่างทิ้ง เฟลมากๆค่ะ
การทำลูกพลับแห้งด้วยวิธีปอกเปลือก ไม่ได้ลวกฆ่าเชื้อโรค
แล้วใส่ตาข่าย ตากแดด ส่วนใหญ่ต้องทิ้งไปเพราะขึ้นรา เหลือแห้งๆไม่กี่ลูก
หลังจากนั้นทำตามแบบฉบับที่เฮียค้นมาจากเนต ทำได้ผลค่อนข้างดีค่ะ
1. เก็บลูกพลับตัดขั้วให้มีกิ่งติดมาด้วยเพื่อจะได้ใช้เชือกผูกตรงขั้ว
นำมาล้าง สะเด็ดน้ำให้แห้ง
2. ปอกเปลือก (ใช้รูปตอนที่ใส่ตาข่ายตากแดดเลยไม่มีขั้ว)
ถ้าจำนวนมากๆใช้ที่ปอกเปลือกจะผ่อนแรงกว่าใช้มีด
3. ตัดเชือกยาวประมาณ 10-12 นิ้ว ผูกตรงกิ่งขั้วลูกพลับข้างละลูก
4. ตั้งน้ำให้เดือด ให้น้ำมากพอที่จะท่วมลูกพลับ
5. จับเชือก หย่อนลูกพลับลงไปในน้ำเดือด 3 วินาที แล้วเอาขึ้นมาแขวน
6. หาที่แขวนตากลูกพลับ ให้มีลมพัดผ่าน ไม่ให้โดนฝน (รอประมาณ 2 สัปดาห์)
ผ่านไป 1 สัปดาห์
ผ่านไปประมาณ 10 วัน
ผ่านไป 16 วัน
ส่วนตัวคิดว่าน่าจะรออีกนิดให้แห้งกว่านี้ แต่เฮียบอกว่าเค้ากินกันประมาณนี้ เลยเอาตามที่เฮียพอใจ
เอาไปให้ป้าๆกลุ่มโยคะ รับประทานกันเอร็ดอร่อย รสหวานม๊ากกกกก แกล้มกับชาร้อนๆ เข้ากั๊นเข้ากันค่ะ
ลูกพลับที่ทำเองนี้เป็นเพราะเป็นพันธุ์ที่ไม่ดี มีเมล็ดมาก ทำได้ก็ไม่เหมือนที่เค้าทำขาย แต่ก็อร่อย หวานมากๆ
เคยดูรายการทีวีเมืองไทย มีแนะนำลูกพลับที่ปลูกในเมืองไทยด้วย หากมีโอกาสได้พลับมา รับประทานไม่ทันหรือมีรสฝาด ลองทำตากแห้งกันดูนะคะ
เพิ่มเติม จากข้อมูลคุณคลองห้า ความคิดเห็นที่ 9 บ้านเราให้ระวังเรื่องความชื้นด้วยนะคะ