เป็นเรื่องราวที่ตามแล้วฟังรู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบ้าง เพราะว่า ศัพท์เทคนิคเยอะ ปะติดปะต่อก็ยาก
เลยอยากจะขอไล่เลียงให้เข้าใจง่ายๆแบบนี้ครับ
ทุกจังหวัดบ้านเรา ก็จะมีการวางผังเมืองกัน แต่ละจังหวัดก็ทำกันไปมีของตัวเอง มีกระบวนการกันไปด้วย ประเด็นคือ รัฐบาลเอง ผุดนโยบาย ที่จะพัฒนาสามจังหวัดภาคตะวันออก อันได้แก่ ฉะเชิงเทรา ระยอง และ ชลบุรี กลายมาเป็น เขตเศรษฐกิจพิเศษ เพื่อรองรับ อุตสาหกรรมเป้าหมาย
การพัฒนาพวกนี้ เขาก็มี โครงสร้างพื้นฐาน เช่น พวก ระบบราง ท่าเรือ หรือแม้แต่ สนามบิน และองค์ประกอบรอบๆ ที่กำลังจะไปวางบนพื้นที่ กลุ่มจังหวัดสามจังหวัดนั้น
ประเด็นคือ ที่ผ่านมาเวลาทำผังเมือง เขาทำแยกกันคนละจังหวัดๆ คำถามคือทีนี้ถ้ามี โครงสร้างพื้นฐานที่จะ เชื่อมต่อกันใน สามจังหวัดนี้ แต่ผังเมืองเดิมถูกพัฒนากันมาแบบแยกๆ กันแล้ว มันจะเชื่อมกันเพื่อให้พัฒนากันยังไงหนอ
สาเหตุที่แต่เดิมเขาแยกผังเมืองกันคนละจังหวัดๆเขามีที่มานะจ๊ะ คือ เขาแยกการทำผังเมืองแบ่งตาม "เขตการปกครอง" ว่าง่ายๆประเทศไทยมี 77 จังหวัด เวลาทำก็แยกกัน แต่ประเด็นคือบางอย่าง มีการพัฒนาครอบคลุม "กลุ่มจังหวัด" มันก็เลย ทำให้ต้อง หาวิธีใหม่ในการที่จะ รองรับกรอบการพัฒนาที่เป็น "กลุ่มจังหวัด" และมีโครงสร้างพื้นที่คาบเกี่ยวกัน
จะใช้ผังเมืองเดิม ที่ แยกกันแต่ละจังหวัดๆ มันก็จะไม่ได้ เพราะว่าไม่ได้รองรับ โครงสร้างพื้นฐานที่เขาจะเชื่อม กลุ่มจังหวัดเข้าด้วยกัน และหากว่าจะใช้ กระบวนการตามปกติ เขาก็จะใช้เวลา เอาเร็วสุดก็ปีครึ่ง ไหนๆก็จะทำแล้วอย่าเสียเวลาเลย เพราะยังไง โครงสร้างพื้นฐานพวกนี้ก็ต้องเดินหน้า ก็เลยใช้อำนาจตาม มาตรา 44 นี้ มาทำให้ กระบวนการที่จะใช้เวลายาวๆนั้น รวดเร็วขึ้น
เอ... แล้วทำแบบเร็วๆแบบนี้ เดี๋ยวไม่รอบคอบมีปัญหากับสิ่งแวดล้อมไหมนั่น
ต้องมาทำความเข้าใจกันว่า ตรงนี้ ไม่ได้เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม เลย เพราะพื้นที่ อุตสาหกรรม ที่จะมีในพื้นที่สามจังหวัดนี้ จะอยู่ใน "นิคมอุตสาหกรรม" ที่เขามีอยู่แล้ว (และก็มีมาตรฐานของเขาอยู่ มาหลายทศวรรษแล้ว) ไม่ได้ไปเกินเลยอะไรที่ไหน นอกจากนี้ ต้องแยก "โครงสร้างพื้นฐาน" กับ "สิ่งแวดล้อม" เอามาคละๆกัน รวมๆกันเป็นก้อนกลมๆบอกว่ามันเป็นเรื่องเดียวกันก็ไม่ได้ มองแยกเป็นส่วนๆจะได้กระจ่างดี
เรื่องสิ่งแวดล้อม นี่หากว่ามีอะไรจะต้องเริ่มกันใหม่ ก็จะต้อง ทำกระบวนการต่างๆ เริ่มต้นจาการฟังเสียงคนในพื้นที่ และผู้มีส่วนได้เสีย ที่ภาษาฝรั่งเขาเรียกว่า สะเต้กโฮเด้อ stakeholders กันก่อนอยู่แล้ว การใช้อำนาจตาม มาตรา 44 หนนี้ไม่ได้ ไปกระทบกับส่วนนั้นเลย
จากคำสั่ง ม.44 ที่ว่านี้จะส่งผลให้การจัดทำผังเมืองกลุ่มจังหวัด eec มีการ ต่อเนื่องเชื่อมโยงด้าน โครงสร้างพื้นฐาน การ zoning การใช้ประโยชน์ที่ดินให้ชัดเจน ซึ่งแน่นอน ประชาชนในพื้นที่จะมีระบบสาธารณูปโภคและสิ่งแวดล้อมที่ดีจากการลงทุน และการท่องเที่ยวมีเส้นทางคมนาคมที่ดีขึ้น ท้ายสุดประชาชนมีวิถีชีวิตที่ดีขึ้น มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
อธิบายชัดๆแบบนี้น่าจะพอรู้ละว่า อะไรเป็นอะไร.....
เข้าใจ การใช้อำนาจตรา ม. 44 จัดระเบียบผังเมือง สามจังหวัด EEC
เลยอยากจะขอไล่เลียงให้เข้าใจง่ายๆแบบนี้ครับ
ทุกจังหวัดบ้านเรา ก็จะมีการวางผังเมืองกัน แต่ละจังหวัดก็ทำกันไปมีของตัวเอง มีกระบวนการกันไปด้วย ประเด็นคือ รัฐบาลเอง ผุดนโยบาย ที่จะพัฒนาสามจังหวัดภาคตะวันออก อันได้แก่ ฉะเชิงเทรา ระยอง และ ชลบุรี กลายมาเป็น เขตเศรษฐกิจพิเศษ เพื่อรองรับ อุตสาหกรรมเป้าหมาย
การพัฒนาพวกนี้ เขาก็มี โครงสร้างพื้นฐาน เช่น พวก ระบบราง ท่าเรือ หรือแม้แต่ สนามบิน และองค์ประกอบรอบๆ ที่กำลังจะไปวางบนพื้นที่ กลุ่มจังหวัดสามจังหวัดนั้น
ประเด็นคือ ที่ผ่านมาเวลาทำผังเมือง เขาทำแยกกันคนละจังหวัดๆ คำถามคือทีนี้ถ้ามี โครงสร้างพื้นฐานที่จะ เชื่อมต่อกันใน สามจังหวัดนี้ แต่ผังเมืองเดิมถูกพัฒนากันมาแบบแยกๆ กันแล้ว มันจะเชื่อมกันเพื่อให้พัฒนากันยังไงหนอ
สาเหตุที่แต่เดิมเขาแยกผังเมืองกันคนละจังหวัดๆเขามีที่มานะจ๊ะ คือ เขาแยกการทำผังเมืองแบ่งตาม "เขตการปกครอง" ว่าง่ายๆประเทศไทยมี 77 จังหวัด เวลาทำก็แยกกัน แต่ประเด็นคือบางอย่าง มีการพัฒนาครอบคลุม "กลุ่มจังหวัด" มันก็เลย ทำให้ต้อง หาวิธีใหม่ในการที่จะ รองรับกรอบการพัฒนาที่เป็น "กลุ่มจังหวัด" และมีโครงสร้างพื้นที่คาบเกี่ยวกัน
จะใช้ผังเมืองเดิม ที่ แยกกันแต่ละจังหวัดๆ มันก็จะไม่ได้ เพราะว่าไม่ได้รองรับ โครงสร้างพื้นฐานที่เขาจะเชื่อม กลุ่มจังหวัดเข้าด้วยกัน และหากว่าจะใช้ กระบวนการตามปกติ เขาก็จะใช้เวลา เอาเร็วสุดก็ปีครึ่ง ไหนๆก็จะทำแล้วอย่าเสียเวลาเลย เพราะยังไง โครงสร้างพื้นฐานพวกนี้ก็ต้องเดินหน้า ก็เลยใช้อำนาจตาม มาตรา 44 นี้ มาทำให้ กระบวนการที่จะใช้เวลายาวๆนั้น รวดเร็วขึ้น
เอ... แล้วทำแบบเร็วๆแบบนี้ เดี๋ยวไม่รอบคอบมีปัญหากับสิ่งแวดล้อมไหมนั่น
ต้องมาทำความเข้าใจกันว่า ตรงนี้ ไม่ได้เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม เลย เพราะพื้นที่ อุตสาหกรรม ที่จะมีในพื้นที่สามจังหวัดนี้ จะอยู่ใน "นิคมอุตสาหกรรม" ที่เขามีอยู่แล้ว (และก็มีมาตรฐานของเขาอยู่ มาหลายทศวรรษแล้ว) ไม่ได้ไปเกินเลยอะไรที่ไหน นอกจากนี้ ต้องแยก "โครงสร้างพื้นฐาน" กับ "สิ่งแวดล้อม" เอามาคละๆกัน รวมๆกันเป็นก้อนกลมๆบอกว่ามันเป็นเรื่องเดียวกันก็ไม่ได้ มองแยกเป็นส่วนๆจะได้กระจ่างดี
เรื่องสิ่งแวดล้อม นี่หากว่ามีอะไรจะต้องเริ่มกันใหม่ ก็จะต้อง ทำกระบวนการต่างๆ เริ่มต้นจาการฟังเสียงคนในพื้นที่ และผู้มีส่วนได้เสีย ที่ภาษาฝรั่งเขาเรียกว่า สะเต้กโฮเด้อ stakeholders กันก่อนอยู่แล้ว การใช้อำนาจตาม มาตรา 44 หนนี้ไม่ได้ ไปกระทบกับส่วนนั้นเลย
จากคำสั่ง ม.44 ที่ว่านี้จะส่งผลให้การจัดทำผังเมืองกลุ่มจังหวัด eec มีการ ต่อเนื่องเชื่อมโยงด้าน โครงสร้างพื้นฐาน การ zoning การใช้ประโยชน์ที่ดินให้ชัดเจน ซึ่งแน่นอน ประชาชนในพื้นที่จะมีระบบสาธารณูปโภคและสิ่งแวดล้อมที่ดีจากการลงทุน และการท่องเที่ยวมีเส้นทางคมนาคมที่ดีขึ้น ท้ายสุดประชาชนมีวิถีชีวิตที่ดีขึ้น มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
อธิบายชัดๆแบบนี้น่าจะพอรู้ละว่า อะไรเป็นอะไร.....