เข้าเรื่องกันเลยเนอะ...คือเรามีเพื่อนอยู่คนนึงรู้จักกันมาตั้งแต่ม.1 ไม่ได้สนิทกัน แต่คุยๆกันได้ ขอใช้นามสมมติว่าPแล้วกันนอะ ผ่านมา5ปี บ้านเค้ามีปัญหากัน เหมือนแบบ พ่อตบตีเค้าและแม่หลายครั้งจนเค้าทนไม่ไหว ต้องหนีออกจากบ้าน ไปอยู่บ้านเพื่อน บ้านตายาย พ่อเค้าก็ออกมาตามหลายครั้งตบตีบ้างเอาปืนจี้บ้าง จขกท.ก็งงเหมือนกันว่าเค้าเป็นพ่ออะไรยังไงถึงทำกับลูกกับเมียขนาดนั้น จนอยู่มาวันหนึ่งเพื่อนคนนั้นเค้าก็ทนไม่ไหว เลยหนีออกมาอีก คราวนี้ไปหลบที่บ้านเพื่อนอีกคน พ่อเค้าเลยตามไม่เจอ จนสุดท้ายเค้าบอกว่าเค้าจะไม่กลับไปที่บ้านอีก เค้าหนีหายไปหลายวัน พ่อก็มาตามที่รร. ครูเลยเรียกคุยจนรร.รู้เรื่อง แล้วทีนี้เรื่องมันเลยมาที่เรา เพราะเราเป็นเด็กหอรร. ผอ.เค้าเลยจะช่วยเพื่อนคนนั้นโดยการให้พักหอพักรร.ฟรี วันแรกที่เพื่อนคนนั้นเข้ามา เค้ามาตัวเปล่าเลย ชุดนักเรียนก็ไม่มี ยาสระผม หมอนผ้าห่มยังไม่มีเลย เรามีอะไรคือขนไปให้เค้าหมดเลยนะเพราะตอนนั้นเรารู้สึกว่าเออ เค้ามาตัวเปล่า เค้าไม่มีอะไรเลย มีอะไรช่วยทุกอย่า จนอยู่มา2-3วัน เพื่อนคนนั้นเริ่มแบบชวนเราทำนู่นทำนี่ทั้งๆที่เราบอกแล้วว่าเราไมอยากทำก็ลากเราไปทำจนได้ เราก็เออไม่คิดอะไร เราอยู่หอกับคนหลายคนเวลามีขนมก็ต้องแบ่งกันอยู่แล้ว เราแบ่งเพื่อนๆน้องๆในกลุ่มเราแล้วเราก้แบ่งให้เค้าด้วย แต่คือทุกคนเข้าใจใช่ป้ะว่าสนิทกันขนาดไหนมันก็มีเส้นแบ่งกันอ่ะ น้องๆที่สนิทกะเราอยู่ก่อนหน้านี้แล้วยังไม่กล้าเอาถุงขนมเรามาเปิดกินเองเลยอะ แต่เค้าทำแบบนั้นอ่ะ แล้วให้อะไรไม่เคยปฏิเสธเลยนะ เราก็ไม่ตะหงิดอะไรเพราะเราเต็มใจให้ แต่คนอื่นมาบอกเราว่าเออ เยอะไปหน่อยมั้ย เราก็ยังไม่อะไรมาก
เกริ่นก่อนว่าหอเราให้เด็กกลับบ้านอาทิตย์เว้นอาทิตย์ ส่วนเด็กที่บ้านไกลมากๆ หรือมีเหตุจำเป็นให้กลับไม่ได้จริงๆก็ไม่ต้องกลับ แต่มีเพื่อนอยู่คนนึงเค้าเป็นเด็กใต้ แล้วเค้าให้พ่อแม่เพื่อนของเด็กในรร.เซ็นเป็นผู้ปกครอง เค้าจึงกลับบ้านอาทิตย์เว้นอาทิตย์ได้เหมือนคนอื่นๆ Pก็เลยบอกให้พ่อแม่เรามาเซ็นเป็นผู้ปกครองให้เค้าบ้างเพื่อที่เค้าจะได้กลับบ้านเราทุกอาทิตย์ ซึ่งใจเราจริงๆเราไม่โอเคเลยอ่ะ แต่เราไม่รู้จะปฏิเสธเค้ายังไง เลยได้แต่บอกว่าเออ เดี๋ยวดูก่อน เค้าก็มาไล่ถามทุกวันเลยว่าเออ...ได้ป่าว ถามกดดันอ่ะค่ะ แล้วก็พูดประมาณแบบคนนู้นทำได้ เราก็ทำได้ แต่ความคิดเราอ่ะคือเราว่ามันเกินไปอ่ะ บ้านเป็นที่ของเรา จะเอาใครเข้าบ้านมาทุกอาทิตย์ก็ไม่สบายใจ ยิ่งเราไม่ได้ใช้เวลากับครอบครัวอยู่แล้ว พอกลับบ้านก็ต้องเอาเวลาไปดุแลเค้าอีก เลยไม่ค่อยโอเคอ่ะค่ะ เวลาเค้ามีปัญหา มีอะไรก็มาขอยืมแต่เรา มายืมหวี มาใช้ตู้เราทุกวัน แต่พอไม่มีอะไรจะยืมหรือจะเอาจากเรา เค้าจะไม่สนเราเลยอ่ะค่ะ ไม่คุย ไม่ชวน อะไรทั้งสิ้น เราก็คิดว่าเอ๊ะ เค้าเป็นอย่างนี้เพราะปัญหาส่วนตัวหรือเปล่า หรือเรารู้สึกไปเอง เราควรดีกับค้าต่อเพราะเค้าน่าสงสาร หรือควรเลิกดีคะ
เพื่อนที่เราได้มาด้วยความสงสารดีกับเราจริงหรือเปล่า
เกริ่นก่อนว่าหอเราให้เด็กกลับบ้านอาทิตย์เว้นอาทิตย์ ส่วนเด็กที่บ้านไกลมากๆ หรือมีเหตุจำเป็นให้กลับไม่ได้จริงๆก็ไม่ต้องกลับ แต่มีเพื่อนอยู่คนนึงเค้าเป็นเด็กใต้ แล้วเค้าให้พ่อแม่เพื่อนของเด็กในรร.เซ็นเป็นผู้ปกครอง เค้าจึงกลับบ้านอาทิตย์เว้นอาทิตย์ได้เหมือนคนอื่นๆ Pก็เลยบอกให้พ่อแม่เรามาเซ็นเป็นผู้ปกครองให้เค้าบ้างเพื่อที่เค้าจะได้กลับบ้านเราทุกอาทิตย์ ซึ่งใจเราจริงๆเราไม่โอเคเลยอ่ะ แต่เราไม่รู้จะปฏิเสธเค้ายังไง เลยได้แต่บอกว่าเออ เดี๋ยวดูก่อน เค้าก็มาไล่ถามทุกวันเลยว่าเออ...ได้ป่าว ถามกดดันอ่ะค่ะ แล้วก็พูดประมาณแบบคนนู้นทำได้ เราก็ทำได้ แต่ความคิดเราอ่ะคือเราว่ามันเกินไปอ่ะ บ้านเป็นที่ของเรา จะเอาใครเข้าบ้านมาทุกอาทิตย์ก็ไม่สบายใจ ยิ่งเราไม่ได้ใช้เวลากับครอบครัวอยู่แล้ว พอกลับบ้านก็ต้องเอาเวลาไปดุแลเค้าอีก เลยไม่ค่อยโอเคอ่ะค่ะ เวลาเค้ามีปัญหา มีอะไรก็มาขอยืมแต่เรา มายืมหวี มาใช้ตู้เราทุกวัน แต่พอไม่มีอะไรจะยืมหรือจะเอาจากเรา เค้าจะไม่สนเราเลยอ่ะค่ะ ไม่คุย ไม่ชวน อะไรทั้งสิ้น เราก็คิดว่าเอ๊ะ เค้าเป็นอย่างนี้เพราะปัญหาส่วนตัวหรือเปล่า หรือเรารู้สึกไปเอง เราควรดีกับค้าต่อเพราะเค้าน่าสงสาร หรือควรเลิกดีคะ