[Hornamese] Backpack in Vietnam DAY 6


ถึงตอนนี้แล้วถ้าหากใครยังไม่ได้อ่านของตอนแรกๆ ผมขอแนะนำให้ไปเริ่มอ่านตั้งแต่ตอนแรก เพื่ออรรถรสในการอ่าน
DAY 1: https://pantip.com/topic/36705169
DAY 2: https://pantip.com/topic/36982039
DAY 3: https://pantip.com/topic/36982721
DAY 4: https://pantip.com/topic/37014220
DAY 5: https://pantip.com/topic/37014562

วันนี้เป็นวันที่สบายๆครับ ไม่ต้องรีบตื่นมาก เราตื่นมาสายๆ แล้วจึงขึ้นไปกินอาหารเช้าบน rooftop ที่เมื่อวานเรามาสังสรรค์กัน อาหารก็ไม่ได้มีอะไรมากครับ เป็น American Breakfast ทั่วๆไป ไข่ดาว ไส้กรอก แฮม ตอนเราตื่นนอนเราเห็นแค่แพทที้ที่หลับสนิท แต่เราไม่เห็น เคนนี่ ซึ่งเคนนี่ตื่นแต่เช้าแล้วขึ้นมานั่งชิวบน rooftop เนี่ยแหละ

กินข้าวกันเสร็จก็อาบน้ำเก็บกระเป๋าแล้วก็ลงไปเช็คเอ้าท์ ที่โรงแรมนี้เขาจะให้เช็คเอ้าท์ก่อน 11 โมง เราจึงลงไปเช็คเอ้าท์แล้วทิ้งกระเป๋าไว้ที่ห้องเก็บของ แล้วเริ่มเดินสำรวจเมือง Nha Trang แห่งนี้

Nha Trang เป็นเมืองติดทะเลของเวียดนามเทียบได้กับพัทยาบ้านเราเลย ตอนแรกเมืองนี้เกือบจะถูกยกเลิกจากแผนแล้ว แต่พอมาจริงๆก็ไม่ผิดหวังเลยครับ มีมิตรภาพดีๆ และอีกอย่างนึงสาวรัสเซียเยอะมากๆ เราเดินกันไปที่โบสถ์ Nha Trang Cathedral เป็นระยะทางนานพอสมควรประมาณ 30 นาทีได้ แล้วแดดก็เริ่มแรงขึ้นด้วยเพราะเวลาตอนนั้นประมาณเที่ยวแล้ว โชคดีจริงๆครับ พอไปถึงโบสถ์ก็ปิดพอดี เลยได้แค่ถ่ายรูปเล่นข้างนอกแล้วนั่งพักให้หายเหนื่อย ตอนนั้นฉุนเหมือนกันครับ แต่ก็โทษใครไม่ได้เพราะเราไม่ได้เช็คเวลาปิดของที่นี่ให้ดีก่อน

ห่างจากโบสถ์เพียงไม่กี่ก้าว ก็มาถึงสถานีรถไฟ Nha Trang ซึ่งกำลังมีขบวนรถจอดอยู่ รถไฟของเวียดนามก็ไม่ได้ต่างจากรถไฟไทยมากนักครับ บรรยากาศพอๆกันเลย

แต่สถานีรถไฟ Nha Trang จะเงียบแปลกๆ สงสัยยังไม่ถึงเวลาที่จะปล่อยรถ ระหว่างนั่งแช่ที่ชานชลา อู๋ก็ได้เปิดแผนที่ที่เราไกด์กันไว้ เห็นว่ามีวัดนึงอยู่ใกล้ๆกับสถานีรถไฟ คือวัด Long Sơn Pagoda พวกเราเลยตัดสินใจเดินไปยังวัดนี้

เดินไปถึงวัดว่าเหนื่อยแล้วนะครับเพราะตอนบ่ายวันนี้ร้อนมาก แต่เห็นบันไดที่จะขึ้นไปข้างบนพระพุทธรูปแล้วเหนื่อยยิ่งกว่าอีก บันไดมันก็ไม่ได้เยอะมากขนาดนั้นหรอกครับแต่ ความเหนื่อยตอนนั้นมันบังตา ผมก็ฝืนเดินขึ้นไปเพื่อวิวเมือง Nha Trang แห่งนี้ ข้างบนลมแรงมากครับมีร่มเงาต้นไม้ให้หลบแดด เราพักความเหนื่อยและถ่ายรูปจนพอใจ

เราลงบันไดลงมา และออกจากวัด เผอิญมีรถไอศครีมขับผ่านมาพอดี เราเลยจัดคนละแท่ง ไอศกรีมที่นี่ไม่มีไม้ฟรีเหมือนที่บ้านเรานะครับ 55555 ระหว่างกินเราก็เดินไปด้วย ตอนนั้นภูอยากได้ memory card เพิ่มเนื่องจากภูถ่ายรูปและคลิปจน memory ใกล้เต็ม เราเลยเดินหาซื้อ memory card ที่นี่ ซึ่งแปลกมากเพราะเราไม่เจอห้างที่นี่เลย อาจจะมีแต่น้อยมากๆ สิ่งที่เราเห็นมากกว่าคือร้านขายของ electronic ที่เจอแทบทุกหัวมุมบนถนน เราก็แวะเกือบทุกร้าน แต่ราคาค่อนข้างสูง สรุปก็เลยไม่ได้ซื้อ
  
บ่ายกว่าๆแล้ว ได้เวลามื้ออาหารของเรา และแน่นอนว่ามื้ออาหารแต่ละมื้อของเรานั้นไม่มีความธรรมดาแน่นอน สำหรับวันนี้เราได้ไปลอง KFC เวียดนาม ก่อนอื่นต้องบอกเพื่อนๆก่อนครับ ว่า KFC แต่ละประเทศไม่เหมือนกันครับ ที่นี่ไม่มีวิ๊งแซ่บเหมือนบ้านเรา แม้แต่รสชาติไก่หรือซอสมะเขือเทศยังไม่เหมือนกันเลย แต่ส่วนตัวผมไม่ค่อยชอบของที่นี่เท่าไหร่ ผมว่าที่ไทยเนี่ยแหละ the best ละ แต่ที่ผมชอบคือโฆษณา KFC ของที่นี่ คือมีความแซะวัฒนธรรมตัวเองอยู่ด้วย อันนี้ใครอยากดูไปลองหาดูใน Youtube ตลกดี ผมชอบ 5.992/10  

ออกมาจาก KFC แปปเดียว เหงื่อเราก็ออกอีกแล้ว เลยตัดสินใจแวะร้านกาแฟที่ผ่านระหว่างทาง กะจะนั่งชิวในร้านกาแฟ local สักหน่อย แต่ก็ไม่พ้นเพลงทำลายบรรยากาศเหมือนคราวที่เจอที่มุยเน่ อู๋ก็นั่งกินกาแฟ ส่วนผมขอพักงีบสักแปบนึงเพราะทั้งเหนื่อยและอ่อนแรง หลับยังไม่ทันอิ่มอู๋ก็ปลุกผมขึ้นมาเพื่อไปต่อ

ด้วยความที่อากาศร้อนสัสรัสเซีย เราจึงกลับไปที่โรงแรมเปลี่ยนชุดแล้วมุ่งหน้าไปยังหาด Nha Trang เพื่อแช่น้ำทะเล ชมวิวดีๆ ชิวๆ เลยครับ อันนี้เราไม่มีภาพนะครับ อยากรู้ต้องไปเอง น้ำทะเลที่นี่เค็มน้อยกว่าพัทยาเยอะเลย และเล่นยากกว่าด้วยเพราะคนเยอะพื้นที่เลยค่อนข้างน้อย //เรามาถึงจุดนี้ได้ไงวะจุดที่เรารีวิวความเค็มของน้ำทะเล 55555

พระอาทิตย์เริ่มลาลับขอบฟ้า เราเดินกลับที่พักด้วยรอยยิ้ม (จากการเล่นน้ำทะเลนะ อย่าคิดลึก 55555) เรามาอาบน้ำที่ lobby คือที่นี่ดีมากเข้าใจว่าลูกค้าต้องการอะไร

อาบน้ำเสร็จก็สะพายกระเป๋าเก็บผ้าที่ฝากที่พักทำความสะอาด มุ่งหน้าไปที่ The Sinh Tourist เช่นเคย เราจองตั๋วไปที่ Hoi An ซึ่งโคตรไกล จึงเป็นสาเหตุที่เรามานั่งรถตอนเย็น ใช่แล้วครับเรานอนบนรถด้วยรถแบบเดิมที่เรานั่งจาก Ho Chi Minh ไปยัง Mui Ne แต่คราวนี้นานจริงครับ

ระหว่างรอรถออก เราเลยไปหามื้อเย็นครับ หลังจากที่เรา ไม่ “save budget” ไปหลายมื้อเราจึงเลือก “save budget” ในมื้อนี้โดยการกินอาหารพื้นๆอย่าง Banh Mhi
พร้อมกับน้ำอ้อยของเวียดนาม คนขายรู้ว่าเราเป็นคนไทยสิ่งที่เขาพูด เขาบอกว่าเรารู้จักทักษิณ เขาชอบมาก ผมก็พูดกับเลยครับไม่ต้องอังกฤษอะไรทั้งนั้น “อู๋ เอาลุงไปปรับทัศนคติดิ”  ผมว่าถ้าลุงเป็นคนไทยผมคงโดนไม้ยาวๆข้างๆแกฟาดหัวเอาได้

เมื่อถึงเวลาเราก็ขึ้นรถครับ เราโชคดีครับที่ครั้งนี้เราไม่ได้อยู่หลังสุดที่ต้องมานอนเบียดๆกัน เราได้ที่ดีมากครับคราวนี้ แต่ แต่ แต่ ความโชคร้ายคือไอพวกที่ได้ที่นั่งหลังสุดมันดันมาเป็นครอบครัว อีกทั้งเป็นครอบครัวชาวจีนด้วย แล้วก่อนมันขึ้นรถ มันซื้อกับข้าวขึ้นมานั่งกินปิคนิกกันบนรถเหมือนร้านอาหารเลยครับ แต่ผมก็เข้าใจครับเค้าทำทุกที่ให้เหมือนบ้าน ผมล่ะนับถือพวกเขาจริงๆ

ทุกคนเริ่มง่วงหลังจากรถออกมาได้ไม่กี่นาที แล้วก็มีแวะกลางทางครั้งเดียวครับ คือตอนประมาณ 4 ทุ่ม แต่ไม่ได้แวะปั้ม เป็นเหมือนจุดพักรถมากกว่า เข้าห้องน้ำ เดินยืดเส้นยืดสาย พักเกือบๆครึ่งชั่วโมง ก็เดินทางกันต่อ การเดินทางวันนี้จบลงไม่เหมือนกับวันอื่นๆ วันนี้แปลกตรงที่เรานอนบนรถข้ามคืน เป็นการนอนที่ต้องเหนื่อย ถึงจะหลับ แต่กว่าจะหลับได้แสงไฟสลัวๆจากเสาไฟตาม 2 ข้างทาง ผ่านไปหลายต้นเลย กระพริบตาตามแสงไฟไปเรื่อยๆ…….

อ่านตอนอื่นๆ
DAY 7: https://pantip.com/topic/37065746
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่