จุดจบสายแข็ง (เหตุผลที่ควรทำ Warm up และ Stretching “ทุกครั้ง” ที่ออกกำลังกาย)

สวัสดีสายสตรองอมยิ้ม01 เคยไหม คนที่ออกกำลังกายกันเป็นประจำ แล้วรู้สึกว่าร่างกายตัวเองแข็งแรง อึด ถึก ทน ฆ่าไม่ตาย แล้วอยู่มาวันหนึ่งก็เกิดอาการเจ็บแบบหาสาเหตุไม่ได้ซะงั้น ทั้งๆที่ไม่ได้ทำอะไรผิดท่าผิดทางไปจากที่เคยทำเลย เช่น

- วิ่งทุกวัน แข็งแรงดี ไม่เคยบาดเจ็บ แต่จู่ๆก็เจ็บแปลบตอนงอขาลงบันได
- ปั่นจักรยานเป็นประจำ แล้ววันหนึ่งตื่นขึ้นมาก็เจ็บใต้ฝ่าเท้าตอนลุกลงจากเตียง
- ยกเวทตามปกติ กลับบ้านมาปวดคอ บ่า ไหล่ เหมือนคนนอนตกหมอน หรือออฟฟิตซินโดรม

จุดจบสายแข็ง (แข็งแรงแต่เจ็บ) เป็นไปได้ยังไง???

อ่านจากต้นฉบับได้ที่ >> https://sneepsactive.wordpress.com/2017/06/29/06/

สาเหตุที่พบบ่อยของอาการเจ็บในกลุ่มคนที่ออกกำลังกายเป็นประจำไม่ใช่เพราะออกกำลังกายหนักไปหรอกนะคะ แต่เป็นเพราะ การขาดความยืดหยุ่นของเอ็นและกล้ามเนื้อ (flexibility) ซึ่งเป็นเรื่องใหญ่มากกก...ที่คนส่วนใหญ่มักมองข้าม 

กล้ามเนื้อและเอ็นที่มีคุณภาพดี ต้องมีความยืดหยุ่น ยืดหดได้เหมือนอีลาสติก

ทำไมต้องยืดหยุ่น?

ให้ลองจินตนาการถึงเหล็ก เวลาที่ช่างจะนำเหล็กแท่งมาตีให้เป็นดาบ เขาต้องนำเหล็กไปเผาไฟให้ร้อนจนเห็นเป็นสีส้มแดงก่อน ทำให้เนื้อเหล็กอ่อนลงง่ายต่อการขึ้นรูป สามารถตีให้ยืดแผ่ออกหรือหดสั้นลงได้ แต่กลับกันหากตีตอนที่เหล็กเย็นและแข็ง เหล็กนั้นก็จะเปราะและแตกหักง่าย เมื่อถึงขั้นตอนสุดท้ายหลังจากที่ช่างขึ้นรูปเสร็จแล้วก็จะนำเหล็กไปเผาไฟอีกครั้ง แต่คราวนี้จะจุ่มน้ำเย็นทันที เพื่อให้เหล็กนั้นกลายเป็นดาบที่แข็งแกร่งขึ้นมา

ลักษณะเดียวกันกับร่างกายของเราเลยค่ะ ถ้าไม่ทำให้อุ่นก่อน แล้วไปออกกำลังกายพรวดพราดทันที จังหวะที่เราก้าว กระโดดเหวี่ยง ยืดแขนยืดขาหรือรับแรงหนักๆ อาจเกิดการฉีกขาดของเอ็นหรือใยกล้ามเนื้อได้ (เหมือนเหล็กที่แข็งแต่เปราะ) และเช่นเดียวกันเมื่อเราหยุดการเคลื่อนไหว การเต้นของหัวใจลดลง ร่างกายก็จะเย็นลงอย่างรวดเร็ว จังหวะนี้เองถ้าเราไม่รีบยืดเหยียดในตอนที่ร่างกายยังอุ่นอยู่ กล้ามเนื้อก็จะจดจำตำแหน่งการหดรั้งครั้งล่าสุดไว้ ทำให้องศาการเคลื่อนไหวของร่างกายเราไม่คลายกลับคืนสู่สภาวะปกติ เกิดการตึงรั้ง และเมื่อสะสมนานเข้าก็จะกลายเป็นอาการบาดเจ็บเรื้อรัง

นี่คือเหตุผลที่เรามักได้ยินคำแนะนำอยู่บ่อยๆว่า ให้ warm up (อบอุ่นร่างกาย) ก่อนการออกกำลังกาย และ stretching (ยืดเหยียด) หลังการออกกำลังกายทันที ยิ่งออกกำลังกายนาน/หนักเท่าไหร่คุณต้องให้ความสำคัญกับการยืดเหยียดมากเท่านั้น

คนแข็งแรงตัวจริงต้องออกกำลังกายให้ครบ 3 อย่าง 

1. Cardio : การบริหารระบบกล้ามเนื้อหัวใจและหลอดเลือด (Cardiovascular System) ด้วยการเคลื่อนไหวร่างกายแบบกระฉับกระเฉง เช่น เดินเร็ว วิ่ง ว่ายน้ำ ปั่นจักรยาน เต้น เป็นต้น ระบบนี้ถือเป็นพื้นฐานในการขับเคลื่อนร่างกายให้เรามีชีวิตอยู่ เกี่ยวข้องกับระบบฮอร์โมน ภูมิคุ้มกันต่างๆทั้งหมด หากระบบนี้ทำงานได้ไม่ดีเราก็จะป่วย หรือถ้าระบบนี้หยุดทำงานไปเราก็จะตายค่ะ 

2. Strength Training : การฝึกความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ คือการทำให้กล้ามเนื้อคุ้นชินกับแรงต้าน(แรงโน้มถ่วงโลก) ทำให้กล้ามเนื้อต้องพัฒนาตัวเองเพื่อรองรับแรงต้านนั้นๆได้ ด้วยการออกกำลังกายโดยใช้แค่น้ำหนักตัวหรือเพิ่มอุปกรณ์เสริม การมีกล้ามเนื้อที่แข็งแรงจะช่วยให้เราเคลื่อนไหวร่างกายได้อย่างมั่นคงมากขึ้น สามารถออกแรงยก ดึง ดัน ในชีวิตประจำวันได้อย่างไม่เหนื่อยล้า และยังช่วยเสริมบุคลิกภาพให้ดูสง่างามด้วยค่ะ

3. Flexibility : การฝึกความยืดหยุ่น เช่น การยืดเหยียดทุกครั้งหลังออกกำลังกาย หรือการฝึกโยคะ (ซึ่งรวมการฝึกความแข็งแรงและความยืดหยุ่นเข้าไว้ด้วยกัน) เพื่อให้มีความสามารถในการเคลื่อนไหวได้ในหลายทิศทาง เพราะคงจะไม่ดีแน่ ถ้าคันหลังแล้วเกาไม่ถึง หรือเข้าห้องน้ำแต่นั่งยองๆไม่ได้ จริงไหมล่ะคะ

Sneeps Active
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่