หลายท่านที่ได้เล่นหรือดูแคสของเกมส์นี้คงได้เห็นการปรากฎตัวของเหล่าเปรตในรูปร่างต่าง ๆ และหาทางหนีเปรตกันหลายฉาก
ก่อนอื่น เรามาทำความเข้าใจกันก่อน ว่าเปรตคืออะไร และการเกิดเป้็นเปรตนั้น เกิดเพราะกรรมอะไร ซึ่งตรงนี้อาจทำให้เราไขกุญใจได้ว่าในตัวเกมส์นั้น คนที่เป็นเปรต ทำกรรมอะไรมา เปรตที่เราเจอมีความเกี่ยวข้องกับตัวละครในข่าว(ของในเกมส์)อย่างไร
เปรต คืออะไร ?
เปรต คือสัตว์ชนิดหนึ่งที่เกิดขึ้นได้โดยไม่ต้องอาศัยมารดาบิดา (โอปปาติกะ)
เปรตเกิดจากคนเราในสมัยที่เป็นมนุษย์ ชอบประกอบอกุศลกรรมเป็นอาจิณหลังจากที่ได้ตายไปแล้ว และไปอุบัติเป็น สัตว์นรกเสวยทุกขเวทนาเป็นเวลานานแสนนานพอหมดอายุขัยจากนรกแล้ว ด้วยเศษอกุศลกรรมที่ยังเหลืออยู่ก็จะส่งผลให้ไปอุบัติเป็นชีวิตใหม่อีกรูปแบบหนึ่งเพื่อ เสวยทุกขเวทนาบนโลกมนุษย์ มีชื่อเรียกว่า “เปรตวิสัย”
เปรตบางตนเมื่อครั้งเป็นมนุษย์เคยประกอบอาชีพฆ่าสัตว์ตัดชีวิตเป็นอาจิณหลังจากหมดอายุขัยในนรกแล้วก็ไปอุบัติเป็นเปรตที่มีรูปร่างเป็นก้อนเนื้อให้นกกาจิกแทะกลางอากาศ
เปรตบางตนมีรูปร่างสวยงามแต่กลิ่นปากเน่าเหม็นคละคลุ้งเพราะในสมัยมีชีวิตอยู่แม้จะประกอบกุศลกรรมบ้าง (ทำให้ร่างกายสวยงาม)
แต่ปากคอระรานชอบด่าว่าผู้ทรงศีลและพ่อแม่เลยเกิดมาเป็นเปรตรูปร่างสวยงามแต่ปากเหม็น เป็นต้น
สรุปคือ รูปร่างของเปรตแต่ละตัวล้วนแตกต่างกันไปตามอำนาจปรุงแต่งของกรรมที่ตนทำไว้นั่นเองหาใช่มีแต่เปรตตัวสูงเท่าต้นตาล ปากเท่ารูเข็ม อย่างที่คนทั่วไปเข้าใจเท่านั้นไม่
กรรมที่เป็นเหตุให้ไปจุติเป็นเปรต
๑. ผู้มักอิจฉาริษยาผู้อื่น คิดอยากได้ทรัพย์สินของเขา ไม่ให้ทาน ตลอดจนโกงทรัพย์สินของสงฆ์มาเป็นของตน ตายไปเกิดเป็นเปรตตัวใหญ่ ปากเท่ารูเข็ม มีแต่กระดูก ตัวเหม็นสาป ผมรุ่ยร่ายลงมาคลุมปาก เสวยทุกขเวทนาทั้งกายใจ ร้องไห้คร่ำครวญนานนับพันปี
๒. ผู้บวชเป็นสมณชีพราหมณ์ มักดูถูก กล่าวร้าย ติเตียนครูอาจารย์และคณะสงฆ์ ตายไปเกิดเป็นเปรตมีกายงามดังทอง มีปากเหมือนหมู ปากนั้นเหม็นหนักหนา มีหนองเต็มปาก หนอนเจาะกินปากหน้าตาและเนื้อตัวเขา
๓. หมอหญิงให้ยาหญิงมีครรภ์กินเพื่อให้แท้งลูก ตายไปเกิดเป็นเปรตผู้หญิง เปลือยกาย ตัวเน่าเหม็น มีแมลงวันตอมจำนวนมาก ร่างกายมีแต่เส้นเอ็นและหนังหุ้มกระดูก กินเนื้อลูกน้อยตนตลอดเวลา
๔. หญิงเห็นสามีถวายข้าว น้ำ และผ้าแก่คณะสงฆ์ กลับโกรธเคืองด่าทอสามี ตายไปเกิดเป็นเปรตผู้หญิงเปลือย อดอยาก เห็นข้าวน้ำอยู่ตรงหน้าก็จะหยิบมากิน แต่ข้าวน้ำนั้นกลายเป็นอาจม เป็นเลือด เป็นหนอง เห็นผ้าจะหยิบมานุ่งห่ม ผ้านั้นกลายเป็นแผ่นเหล็กแดงลุกไหม้ตลอดตัว
๕. ผู้มักตระหนี่ไม่เคยทำบุญให้ทาน เห็นคนอื่นทำบุญให้ทานก็ห้ามปราม ตายไปเกิดเป็นเปรตร่างสูงใหญ่เท่าต้นตาล เส้นผมหยาบ ตัวเหม็นมาก อดอยากยากไร้นักหนา
๖. ผู้เอาข้าวลีบปนข้าวดีแล้วไปหลอกขาย ตายไปเกิดเป็นเปรตเอามือกอบข้าวลีบลุกเป็นไฟใส่ศรีษะของตนตลอดเวลา ต้องทุกข์ทรมานมากมายหลายพันปีในนรก
๗. ผู้ที่ตีศรีษะมารดาบิดาด้วยมือ ไม้ และเชือก ตายไปเกิดเป็นเปรตเอาฆ้อนเหล็กแดงตีศรีษะตนเอง
๘. ผู้ที่มีคนมาขอข้าว ข้าวมีแต่หลอกว่าไม่มี ตายไปเกิดเป็นเปรต กินแต่ลามกอาจมปนหนองเน่าเหม็นนักหนา
๙. ผู้เป็นข้าราชการ รับสินบนผู้ผิด ตัดสินความผิดเป็นถูก ถูกเป็นผิด ตายไปเกิดเป็นเปรตมีวิมาน มีบริวารนางฟ้า แต่เอาเล็บมือคมดังมีดกรด ขูดเนื้อหนังตัวเองกินต่างอาหาร
๑๐. ผู้ด่าทอ กล่าวเท็จต่อพระสงฆ์ ผู้ใหญ่ผู้มีศีล ตายไปเกิดเป็นเปรตมีเปลวไฟพุ่งออกจากปาก อกและลิ้นแล้วลามไหม้ทั่วตัวเขา
๑๑. ผู้มักข่มเหงรังแกคนยากไร้เข็ญใจอย่างไร้กรุณาปราณี เอาทรัพย์ของคนอื่นมาเป็นของตน และใส่ความผู้ไม่มีความผิด ตายไปเกิดเป็นเปรตผอม อดอยากมาก เห็นน้ำใสเอามือกอบจะกิน น้ำนั้นกลายเป็นไฟไหม้เขาทั้งตัว เขากลิ้งเกลือกตายในไฟนั้น
๑๒. ผู้เผาป่า สรรพสัตว์หนีไม่ทันถูกไฟป่าคลอกตาย ตายไปเกิดเป็นเปรตผอม ตัวเปื่อยเน่ามือเน่า ตีนเปื่อยหลังโก่ง เขาเอาไฟคลอกตัวเองตลอดเวลา
๑๓. ข้าราชการตัดสินความโดยไม่ชอบธรรม ไม่วางตัวเป็นกลาง ฉ้อราษฎร์บังหลวง ขูดรีดชาวบ้าน ตายไปเกิดเป็นเปรต ตัวใหญ่เท่าภูเขา มีขน เล็บตีนเล็บมือใหญ่ยาว คมดังมีดกรดและหอกดาบ ลุกเป็นเปลวไฟแทงตัวเขาตลอดเวลา
โดยทั่วไปคนส่วนใหญ่เข้าใจว่า เปรตเป็นผีชนิดหนึ่งที่มีลำตัวสูง บ้างว่าสูงเท่าลำตาล สูงเท่าต้นตาลหรือยอดตาล บ้างว่าสูงเท่าเสาชิงช้าวัดสุทัศน์ บ้างว่าสูงเท่ายอ ดธง หากเป็นสมัยนี้คงต้องเปรียบเทียบให้เห็นภาพกันใหม่ว่า สูงกว่าตึกห้าชั้น หรือสูงเท่ากับคอนโดมิเดียมริมน้ำอะไรทำนองนี้ สรุปใจความก็คือ เปรตเป็นผีที่มี รูปร่างสูงมาก จนมีคำพูดติดปากล้อใครที่ตัวโย่งๆว่า ….สูงยังกับเปรต แต่เนื่องจากกรรมหรือการกระทำในทางที่ชั่วร้ายมีแตกต่างกันไป เมื่อตายแล้วจึงได้เกิดเ ป็นเปรตชนิดต่างๆกัน เช่น คนที่ชอบดุด่าตบดีพ่อแม่ผู้มีพระคุณ จะต้องไปเกิดเป็นเปรตจำพวกที่มีปากเท่ารูเข็ม มือโตเท่าใบพายหรือใบตาล อดอยากและหิวโ หยอยู่เป็นนิตย์ ลองคิดดูว่าหากใครเกิดมามีปากเท่ารูเข็ม เวลาจะกินข้าวต้องเอายัดเข้าปากไปทีละเมล็ดมันจะทรมานทรกรรมขนาดไหน เป็นคำขู่หรือเตือนสติของคนโบราณ ให้ลูกหลาน มีความกตัญญู ให้การเลี้ยงดูพ่อแม่ยามแก่ชราและไม่ทำร้ายทั้งร่างกายจิตใจใครขืนเป็นอย่าง ที่ว่ารวมทั้งพวกเกกมะเหรกเกเร ชาวบ้ านก็จะพากันด่าประณามว่า…

คนที่ชอบฆ่าเป็ดฆ่าไก่ ตีไก่ เชือดหมู เชือดวัว อยู่เป็นอาจิณ เวลาตายไปแล้วอาจต้องไปเกิดเป็นเปรตประเภท ตัวเป็นคนหัวเป็นไก่ หรือหัวเป็นหมู ตามแต่ผลกรรม ใครทำกรรมเอาไว้อย่างไรก็จะได้ผลกรรมอันนั้นตอบสนอง ฉะนั้นเปรตอาจมีอยู่หลายชนิดหลายจำพวก ใครอยากเห็นก็ลองดูรูปปั้นเปรตชนิดต่างๆ ได้ที่วัดไผ่โรงวัว จังหวัดสุพรรณบุรี
ในคัมภีร์ทางพระพุทธศาสนามีบันทึกไว้ว่า เปรตแบ่งเป็น 4 ประเภทใหญ่ๆ ก็มี บางแห่งแบ่งเป็น 12 ตระกูลบ้าง หรือแยกย่อยออกเป็น 21 ชนิดบ้าง แล้วแต่จุดประสงค์ในการจำแนก ในลำดับต่อไปนักศึกษาจะได้ทราบรายละเอียดของเปรตชนิดต่างๆ
เปรต 4 จำพวก ในเปตวัตถุ อรรถกถา แสดงเปรต 4 จำพวก คือ
1. ปรทัตตูปชีวิกเปรต เป็นเปรตที่เลี้ยงชีวิตอยู่โดยอาศัยอาหารที่ผู้อื่นให้ โดยการเซ่นไหว้ เป็นต้น
2. ขุปปีปาสิกเปรต เป็นเปรตที่อดอยาก หิวข้าวหิวน้ำอยู่เป็นนิตย์
3. นิชฌามตัณหิกเปรต เป็นเปรตที่ถูกไฟเผาให้เร่าร้อนอยู่เสมอ
4. กาลกัญชิกเปรต เป็นเปรตในจำพวกอสุรกาย หรือเป็นชื่อของอสุรกายที่เป็นเปรต
ในอปทาน อรรถกถา สุตตนิบาตอรรถกถา และพุทธวังสะอรรถกถา แสดงว่าบรรดาพระโพธิสัตว์ ทั้งหลาย นับตั้งแต่ได้รับพุทธพยากรณ์เป็นต้นไป จะไม่เกิดเป็น ขุปปีปาสิกเปรต นิชฌามตัณหิกเปรต หรือกาลกัญจิกเปรต ถ้าจะต้องไปเกิดเป็นเปรต ก็จะเกิดเป็น ปรทัตตูปชีวิกเปรต ประเภทเดียว
เปรต 12 ตระกูล ได้แก่
1. วันตาสเปรต เปรตที่กินน้ำลาย เสมหะ อาเจียน เป็นอาหาร
2. กุณปาสเปรต เปรตที่กินซากศพคน หรือสัตว์ เป็นอาหาร
3. คูถขาทกเปรต เปรตที่กินอุจจาระต่างๆ เป็นอาหาร
4. อัคคิชาลมุขเปรต เปรตที่มีเปลวไฟลุกอยู่ในปากเสมอ
5. สุจิมุขเปรต เปรตที่ปากเท่ารูเข็ม
6. ตัณหัฏฏิตเปรต เปรตที่ถูกตัณหาเบียดเบียนให้หิวข้าวหิวน้ำเสมอ
7. นิชฌามกเปรต เปรตที่มีตัวดำเหมือนตอไม้ที่เผา
8. สัพพังคเปรต เปรตที่มีเล็บมือ เล็บเท้ายาวคมเหมือนมีด
9. ปัพพตังคเปรต เปรตที่มีร่างกายสูงใหญ่เท่าภูเขา
10. อชครเปรต เปรตที่มีร่างกายคล้ายสัตว์เดียรัจฉาน
11. มหิทธิกเปรต เปรตที่มีฤทธิ์มาก
12. เวมานิกเปรต เปรตที่ต้องเสวยทุกข์ในเวลากลางวัน แต่กลางคืนได้ไปเสวยสุขในวิมาน
เปรต 21 จำพวก ในวินัย และลักขณสังยุตตพระบาลี แสดงเปรต 21 จำพวก คือ
1. อัฏฐีสังขสิกเปรต เปรตที่มีกระดูกติดกันเป็นท่อนๆ แต่ไม่มีเนื้อ
2. มังสเปสิกเปรต เปรตที่มีเนื้อเป็นชิ้นๆ แต่ไม่มีกระดูก
3. มังสปิณฑเปรต เปรตที่มีเนื้อเป็นก้อน
4. นิจฉวิเปรต เปรตที่ไม่มีหนัง
5. อสิโลมเปรต เปรตที่มีขนเป็นพระขรรค์
6. สัตติโลมเปรต เปรตที่มีขนเป็นหอก
7. อุสุโลมเปรต เปรตที่มีขนเป็นลูกธนู
8. สูจิโลมเปรต เปรตที่มีขนเป็นเข็ม
9. ทุติยสูจิโลมเปรต เปรตที่มีขนเป็นเข็มชนิดที่ 2
10. กุมภัณฑเปรต เปรตที่มีอัณฑะใหญ่โตมาก
11. คูถกูปนิมุคคเปรต เปรตที่จมอยู่ในอุจจาระ
12. คูถขาทกเปรต เปรตที่กินอุจจาระ
13. นิจฉวิตกิเปรต เปรตหญิงที่ไม่มีหนัง
14. ทุคคันธเปรต เปรตที่มีกลิ่นเหม็นเน่า
15. โอคิลินีเปรต เปรตที่มีร่างกายเป็นถ่านไฟ
16. อลิสเปรต เปรตที่ไม่มีศีรษะ
17. ภิกขุเปรต เปรตที่มีรูปร่างสัณฐานเหมือนพระ
18. ภิกขุนีเปรต เปรตที่มีรูปร่างสัณฐานเหมือนภิกษุณี
19. สิกขมานเปรต เปรตที่มีรูปร่างสัณฐานเหมือนสิกขมานา
(สามเณรีที่ได้รับการอบรมเป็นเวลา 2 ปี เพื่อบวชเป็นภิกษุณี)
20. สามเณรเปรต เปรตที่มีรูปร่างสัณฐานเหมือนสามเณร
21. สามเณรีเปรต เปรตที่มีรูปร่างสัณฐานเหมือนสามเณรี
เปรตที่ปรากฎในเกมส์
[สปอยล์] Home Sweet Home : ชนิดของ ผี เปรต ในเกม
สปอยล์ สรุป เนื้อเรื่อง Home Sweet Home : 10 ทฤษฎีเนื้อเรื่องของผีในเกม
ปล. สำหรับใครที่ยังไม่ได้ลองเล่น บอกได้เลยว่า ....
สปอยแน่นอน ! อธิบายชนิดของผีและเปรต ที่ปรากฎในเกม Home Sweet Home อันโด่งดังทั่วโลกแบบแบบจัดเต็ม
ก่อนอื่น เรามาทำความเข้าใจกันก่อน ว่าเปรตคืออะไร และการเกิดเป้็นเปรตนั้น เกิดเพราะกรรมอะไร ซึ่งตรงนี้อาจทำให้เราไขกุญใจได้ว่าในตัวเกมส์นั้น คนที่เป็นเปรต ทำกรรมอะไรมา เปรตที่เราเจอมีความเกี่ยวข้องกับตัวละครในข่าว(ของในเกมส์)อย่างไร
เปรต คืออะไร ?
เปรต คือสัตว์ชนิดหนึ่งที่เกิดขึ้นได้โดยไม่ต้องอาศัยมารดาบิดา (โอปปาติกะ)
เปรตเกิดจากคนเราในสมัยที่เป็นมนุษย์ ชอบประกอบอกุศลกรรมเป็นอาจิณหลังจากที่ได้ตายไปแล้ว และไปอุบัติเป็น สัตว์นรกเสวยทุกขเวทนาเป็นเวลานานแสนนานพอหมดอายุขัยจากนรกแล้ว ด้วยเศษอกุศลกรรมที่ยังเหลืออยู่ก็จะส่งผลให้ไปอุบัติเป็นชีวิตใหม่อีกรูปแบบหนึ่งเพื่อ เสวยทุกขเวทนาบนโลกมนุษย์ มีชื่อเรียกว่า “เปรตวิสัย”
เปรตบางตนเมื่อครั้งเป็นมนุษย์เคยประกอบอาชีพฆ่าสัตว์ตัดชีวิตเป็นอาจิณหลังจากหมดอายุขัยในนรกแล้วก็ไปอุบัติเป็นเปรตที่มีรูปร่างเป็นก้อนเนื้อให้นกกาจิกแทะกลางอากาศ
เปรตบางตนมีรูปร่างสวยงามแต่กลิ่นปากเน่าเหม็นคละคลุ้งเพราะในสมัยมีชีวิตอยู่แม้จะประกอบกุศลกรรมบ้าง (ทำให้ร่างกายสวยงาม)
แต่ปากคอระรานชอบด่าว่าผู้ทรงศีลและพ่อแม่เลยเกิดมาเป็นเปรตรูปร่างสวยงามแต่ปากเหม็น เป็นต้น
สรุปคือ รูปร่างของเปรตแต่ละตัวล้วนแตกต่างกันไปตามอำนาจปรุงแต่งของกรรมที่ตนทำไว้นั่นเองหาใช่มีแต่เปรตตัวสูงเท่าต้นตาล ปากเท่ารูเข็ม อย่างที่คนทั่วไปเข้าใจเท่านั้นไม่
กรรมที่เป็นเหตุให้ไปจุติเป็นเปรต
๑. ผู้มักอิจฉาริษยาผู้อื่น คิดอยากได้ทรัพย์สินของเขา ไม่ให้ทาน ตลอดจนโกงทรัพย์สินของสงฆ์มาเป็นของตน ตายไปเกิดเป็นเปรตตัวใหญ่ ปากเท่ารูเข็ม มีแต่กระดูก ตัวเหม็นสาป ผมรุ่ยร่ายลงมาคลุมปาก เสวยทุกขเวทนาทั้งกายใจ ร้องไห้คร่ำครวญนานนับพันปี
๒. ผู้บวชเป็นสมณชีพราหมณ์ มักดูถูก กล่าวร้าย ติเตียนครูอาจารย์และคณะสงฆ์ ตายไปเกิดเป็นเปรตมีกายงามดังทอง มีปากเหมือนหมู ปากนั้นเหม็นหนักหนา มีหนองเต็มปาก หนอนเจาะกินปากหน้าตาและเนื้อตัวเขา
๓. หมอหญิงให้ยาหญิงมีครรภ์กินเพื่อให้แท้งลูก ตายไปเกิดเป็นเปรตผู้หญิง เปลือยกาย ตัวเน่าเหม็น มีแมลงวันตอมจำนวนมาก ร่างกายมีแต่เส้นเอ็นและหนังหุ้มกระดูก กินเนื้อลูกน้อยตนตลอดเวลา
๔. หญิงเห็นสามีถวายข้าว น้ำ และผ้าแก่คณะสงฆ์ กลับโกรธเคืองด่าทอสามี ตายไปเกิดเป็นเปรตผู้หญิงเปลือย อดอยาก เห็นข้าวน้ำอยู่ตรงหน้าก็จะหยิบมากิน แต่ข้าวน้ำนั้นกลายเป็นอาจม เป็นเลือด เป็นหนอง เห็นผ้าจะหยิบมานุ่งห่ม ผ้านั้นกลายเป็นแผ่นเหล็กแดงลุกไหม้ตลอดตัว
๕. ผู้มักตระหนี่ไม่เคยทำบุญให้ทาน เห็นคนอื่นทำบุญให้ทานก็ห้ามปราม ตายไปเกิดเป็นเปรตร่างสูงใหญ่เท่าต้นตาล เส้นผมหยาบ ตัวเหม็นมาก อดอยากยากไร้นักหนา
๖. ผู้เอาข้าวลีบปนข้าวดีแล้วไปหลอกขาย ตายไปเกิดเป็นเปรตเอามือกอบข้าวลีบลุกเป็นไฟใส่ศรีษะของตนตลอดเวลา ต้องทุกข์ทรมานมากมายหลายพันปีในนรก
๗. ผู้ที่ตีศรีษะมารดาบิดาด้วยมือ ไม้ และเชือก ตายไปเกิดเป็นเปรตเอาฆ้อนเหล็กแดงตีศรีษะตนเอง
๘. ผู้ที่มีคนมาขอข้าว ข้าวมีแต่หลอกว่าไม่มี ตายไปเกิดเป็นเปรต กินแต่ลามกอาจมปนหนองเน่าเหม็นนักหนา
๙. ผู้เป็นข้าราชการ รับสินบนผู้ผิด ตัดสินความผิดเป็นถูก ถูกเป็นผิด ตายไปเกิดเป็นเปรตมีวิมาน มีบริวารนางฟ้า แต่เอาเล็บมือคมดังมีดกรด ขูดเนื้อหนังตัวเองกินต่างอาหาร
๑๐. ผู้ด่าทอ กล่าวเท็จต่อพระสงฆ์ ผู้ใหญ่ผู้มีศีล ตายไปเกิดเป็นเปรตมีเปลวไฟพุ่งออกจากปาก อกและลิ้นแล้วลามไหม้ทั่วตัวเขา
๑๑. ผู้มักข่มเหงรังแกคนยากไร้เข็ญใจอย่างไร้กรุณาปราณี เอาทรัพย์ของคนอื่นมาเป็นของตน และใส่ความผู้ไม่มีความผิด ตายไปเกิดเป็นเปรตผอม อดอยากมาก เห็นน้ำใสเอามือกอบจะกิน น้ำนั้นกลายเป็นไฟไหม้เขาทั้งตัว เขากลิ้งเกลือกตายในไฟนั้น
๑๒. ผู้เผาป่า สรรพสัตว์หนีไม่ทันถูกไฟป่าคลอกตาย ตายไปเกิดเป็นเปรตผอม ตัวเปื่อยเน่ามือเน่า ตีนเปื่อยหลังโก่ง เขาเอาไฟคลอกตัวเองตลอดเวลา
๑๓. ข้าราชการตัดสินความโดยไม่ชอบธรรม ไม่วางตัวเป็นกลาง ฉ้อราษฎร์บังหลวง ขูดรีดชาวบ้าน ตายไปเกิดเป็นเปรต ตัวใหญ่เท่าภูเขา มีขน เล็บตีนเล็บมือใหญ่ยาว คมดังมีดกรดและหอกดาบ ลุกเป็นเปลวไฟแทงตัวเขาตลอดเวลา
โดยทั่วไปคนส่วนใหญ่เข้าใจว่า เปรตเป็นผีชนิดหนึ่งที่มีลำตัวสูง บ้างว่าสูงเท่าลำตาล สูงเท่าต้นตาลหรือยอดตาล บ้างว่าสูงเท่าเสาชิงช้าวัดสุทัศน์ บ้างว่าสูงเท่ายอ ดธง หากเป็นสมัยนี้คงต้องเปรียบเทียบให้เห็นภาพกันใหม่ว่า สูงกว่าตึกห้าชั้น หรือสูงเท่ากับคอนโดมิเดียมริมน้ำอะไรทำนองนี้ สรุปใจความก็คือ เปรตเป็นผีที่มี รูปร่างสูงมาก จนมีคำพูดติดปากล้อใครที่ตัวโย่งๆว่า ….สูงยังกับเปรต แต่เนื่องจากกรรมหรือการกระทำในทางที่ชั่วร้ายมีแตกต่างกันไป เมื่อตายแล้วจึงได้เกิดเ ป็นเปรตชนิดต่างๆกัน เช่น คนที่ชอบดุด่าตบดีพ่อแม่ผู้มีพระคุณ จะต้องไปเกิดเป็นเปรตจำพวกที่มีปากเท่ารูเข็ม มือโตเท่าใบพายหรือใบตาล อดอยากและหิวโ หยอยู่เป็นนิตย์ ลองคิดดูว่าหากใครเกิดมามีปากเท่ารูเข็ม เวลาจะกินข้าวต้องเอายัดเข้าปากไปทีละเมล็ดมันจะทรมานทรกรรมขนาดไหน เป็นคำขู่หรือเตือนสติของคนโบราณ ให้ลูกหลาน มีความกตัญญู ให้การเลี้ยงดูพ่อแม่ยามแก่ชราและไม่ทำร้ายทั้งร่างกายจิตใจใครขืนเป็นอย่าง ที่ว่ารวมทั้งพวกเกกมะเหรกเกเร ชาวบ้ านก็จะพากันด่าประณามว่า…
ในคัมภีร์ทางพระพุทธศาสนามีบันทึกไว้ว่า เปรตแบ่งเป็น 4 ประเภทใหญ่ๆ ก็มี บางแห่งแบ่งเป็น 12 ตระกูลบ้าง หรือแยกย่อยออกเป็น 21 ชนิดบ้าง แล้วแต่จุดประสงค์ในการจำแนก ในลำดับต่อไปนักศึกษาจะได้ทราบรายละเอียดของเปรตชนิดต่างๆ
เปรต 4 จำพวก ในเปตวัตถุ อรรถกถา แสดงเปรต 4 จำพวก คือ
1. ปรทัตตูปชีวิกเปรต เป็นเปรตที่เลี้ยงชีวิตอยู่โดยอาศัยอาหารที่ผู้อื่นให้ โดยการเซ่นไหว้ เป็นต้น
2. ขุปปีปาสิกเปรต เป็นเปรตที่อดอยาก หิวข้าวหิวน้ำอยู่เป็นนิตย์
3. นิชฌามตัณหิกเปรต เป็นเปรตที่ถูกไฟเผาให้เร่าร้อนอยู่เสมอ
4. กาลกัญชิกเปรต เป็นเปรตในจำพวกอสุรกาย หรือเป็นชื่อของอสุรกายที่เป็นเปรต
ในอปทาน อรรถกถา สุตตนิบาตอรรถกถา และพุทธวังสะอรรถกถา แสดงว่าบรรดาพระโพธิสัตว์ ทั้งหลาย นับตั้งแต่ได้รับพุทธพยากรณ์เป็นต้นไป จะไม่เกิดเป็น ขุปปีปาสิกเปรต นิชฌามตัณหิกเปรต หรือกาลกัญจิกเปรต ถ้าจะต้องไปเกิดเป็นเปรต ก็จะเกิดเป็น ปรทัตตูปชีวิกเปรต ประเภทเดียว
เปรต 12 ตระกูล ได้แก่
1. วันตาสเปรต เปรตที่กินน้ำลาย เสมหะ อาเจียน เป็นอาหาร
2. กุณปาสเปรต เปรตที่กินซากศพคน หรือสัตว์ เป็นอาหาร
3. คูถขาทกเปรต เปรตที่กินอุจจาระต่างๆ เป็นอาหาร
4. อัคคิชาลมุขเปรต เปรตที่มีเปลวไฟลุกอยู่ในปากเสมอ
5. สุจิมุขเปรต เปรตที่ปากเท่ารูเข็ม
6. ตัณหัฏฏิตเปรต เปรตที่ถูกตัณหาเบียดเบียนให้หิวข้าวหิวน้ำเสมอ
7. นิชฌามกเปรต เปรตที่มีตัวดำเหมือนตอไม้ที่เผา
8. สัพพังคเปรต เปรตที่มีเล็บมือ เล็บเท้ายาวคมเหมือนมีด
9. ปัพพตังคเปรต เปรตที่มีร่างกายสูงใหญ่เท่าภูเขา
10. อชครเปรต เปรตที่มีร่างกายคล้ายสัตว์เดียรัจฉาน
11. มหิทธิกเปรต เปรตที่มีฤทธิ์มาก
12. เวมานิกเปรต เปรตที่ต้องเสวยทุกข์ในเวลากลางวัน แต่กลางคืนได้ไปเสวยสุขในวิมาน
เปรต 21 จำพวก ในวินัย และลักขณสังยุตตพระบาลี แสดงเปรต 21 จำพวก คือ
1. อัฏฐีสังขสิกเปรต เปรตที่มีกระดูกติดกันเป็นท่อนๆ แต่ไม่มีเนื้อ
2. มังสเปสิกเปรต เปรตที่มีเนื้อเป็นชิ้นๆ แต่ไม่มีกระดูก
3. มังสปิณฑเปรต เปรตที่มีเนื้อเป็นก้อน
4. นิจฉวิเปรต เปรตที่ไม่มีหนัง
5. อสิโลมเปรต เปรตที่มีขนเป็นพระขรรค์
6. สัตติโลมเปรต เปรตที่มีขนเป็นหอก
7. อุสุโลมเปรต เปรตที่มีขนเป็นลูกธนู
8. สูจิโลมเปรต เปรตที่มีขนเป็นเข็ม
9. ทุติยสูจิโลมเปรต เปรตที่มีขนเป็นเข็มชนิดที่ 2
10. กุมภัณฑเปรต เปรตที่มีอัณฑะใหญ่โตมาก
11. คูถกูปนิมุคคเปรต เปรตที่จมอยู่ในอุจจาระ
12. คูถขาทกเปรต เปรตที่กินอุจจาระ
13. นิจฉวิตกิเปรต เปรตหญิงที่ไม่มีหนัง
14. ทุคคันธเปรต เปรตที่มีกลิ่นเหม็นเน่า
15. โอคิลินีเปรต เปรตที่มีร่างกายเป็นถ่านไฟ
16. อลิสเปรต เปรตที่ไม่มีศีรษะ
17. ภิกขุเปรต เปรตที่มีรูปร่างสัณฐานเหมือนพระ
18. ภิกขุนีเปรต เปรตที่มีรูปร่างสัณฐานเหมือนภิกษุณี
19. สิกขมานเปรต เปรตที่มีรูปร่างสัณฐานเหมือนสิกขมานา
(สามเณรีที่ได้รับการอบรมเป็นเวลา 2 ปี เพื่อบวชเป็นภิกษุณี)
20. สามเณรเปรต เปรตที่มีรูปร่างสัณฐานเหมือนสามเณร
21. สามเณรีเปรต เปรตที่มีรูปร่างสัณฐานเหมือนสามเณรี
เปรตที่ปรากฎในเกมส์
[สปอยล์] Home Sweet Home : ชนิดของ ผี เปรต ในเกม
สปอยล์ สรุป เนื้อเรื่อง Home Sweet Home : 10 ทฤษฎีเนื้อเรื่องของผีในเกม
ปล. สำหรับใครที่ยังไม่ได้ลองเล่น บอกได้เลยว่า ....