สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 48
จขกท. จบสาขาอะไรมาคะ เราทำงานอยู่บริษัทรับเหมาก่อสร้าง รับพนักงานหลายตำแหน่งเลย มีบ้านให้นอน มีรถพามาส่งที่ทำงาน เรื่องอาหารการกินช่วยเหลือกันไปได้ เราคนทำงานก่อสร้างมีน้ำใจกับทุกๆคน ข้าวบางคนก็เอามาจากบ้านตจว. ก็แจกจ่ายกัน กับข้าวถ้าไม่ถือสาอะไรจะทานกับป้าแม่บ้านก็ได้ ให้แกสัปดาห์ละพัน วันนึงแกก็จัดให้ได้3มื้อเลย
ยังไงก็ ib มานะคะ หรือทักเฟสมาก็สะดวกกว่า
Facebook : PHECHARIN BUALUN
ขอให้คุณ จขกท. มีความอดทนและมีสติในการใช้ชีวิตนะคะ ไม่มีใครล้มไปทุกวันหรอก มันต้องมีวันนึงที่เราจะวิ่งได้ สู้ๆนะคะ
ยังไงก็ ib มานะคะ หรือทักเฟสมาก็สะดวกกว่า
Facebook : PHECHARIN BUALUN
ขอให้คุณ จขกท. มีความอดทนและมีสติในการใช้ชีวิตนะคะ ไม่มีใครล้มไปทุกวันหรอก มันต้องมีวันนึงที่เราจะวิ่งได้ สู้ๆนะคะ
ความคิดเห็นที่ 10
อย่างเเรกขอชื่นชมคุณ ที่คุณเขียนภาษาไทยได้ถูกต้อง มีเว้นวรรค เเบ่งจังหวะได้ดี
เขียนนะคะ ค่ะ ถูกต้องกว่าสาวๆบางคนสมัยนี้
เเละอย่างต่อมา คุณเป็นผู้หญิงที่เข้มเเข็งเเละอดทนต่อชีวิตที่คุณไม่อาจจะลิขิตเองได้ในบางอย่าง
เรามองคุณเป็นผู้หญิงที่บางทีก็ต้องอ่อนแอบ้าง แม้จะเป็นสาวประเภทสอง
เราอยากให้คุณ เข้มเเข็ง
ไม่รู้จะอยู่เพื่อใคร ขอให้อยู่เพื่อตัวเองนะคะ เเละเราเชื่อว่า คุณแม่ของคุณ ก็รักคุณที่สุด
เค้าอาจจะผิดหวังบ้างที่คุณอาจจะไม่ได้เป็นลูกชายให้เค้าได้ เเต่เชื่อว่าเค้ารักคุณที่สุดนะคะ
เราล็อคอินมาตอบโดยเฉพาะเลย
อย่าคิดสั้นอีกนะ ถ้าบางอย่างไม่ไหว ลองไปพบจิตเเพทย์ดู ก็พอช่วยได้นะคะ.
กอดคุณเเน่นๆเลย
พอมีตังเเล้วมาบำรุงให้ตัวเองสวยๆเลยน้าาาาาาาา เเละอย่าไปสนใจพวกปากหอยปากปูค่ะ
อย่าเอาคำพูดพวกนั้นมามีเเรงกระทบต่อชีวิตคุณเอง เพราะมันไม่ได้มีความสำคัญอะไรเลยต่อชีวิตเรา
จุฟๆน้า
เขียนนะคะ ค่ะ ถูกต้องกว่าสาวๆบางคนสมัยนี้
เเละอย่างต่อมา คุณเป็นผู้หญิงที่เข้มเเข็งเเละอดทนต่อชีวิตที่คุณไม่อาจจะลิขิตเองได้ในบางอย่าง
เรามองคุณเป็นผู้หญิงที่บางทีก็ต้องอ่อนแอบ้าง แม้จะเป็นสาวประเภทสอง
เราอยากให้คุณ เข้มเเข็ง
ไม่รู้จะอยู่เพื่อใคร ขอให้อยู่เพื่อตัวเองนะคะ เเละเราเชื่อว่า คุณแม่ของคุณ ก็รักคุณที่สุด
เค้าอาจจะผิดหวังบ้างที่คุณอาจจะไม่ได้เป็นลูกชายให้เค้าได้ เเต่เชื่อว่าเค้ารักคุณที่สุดนะคะ
เราล็อคอินมาตอบโดยเฉพาะเลย
อย่าคิดสั้นอีกนะ ถ้าบางอย่างไม่ไหว ลองไปพบจิตเเพทย์ดู ก็พอช่วยได้นะคะ.
กอดคุณเเน่นๆเลย
พอมีตังเเล้วมาบำรุงให้ตัวเองสวยๆเลยน้าาาาาาาา เเละอย่าไปสนใจพวกปากหอยปากปูค่ะ
อย่าเอาคำพูดพวกนั้นมามีเเรงกระทบต่อชีวิตคุณเอง เพราะมันไม่ได้มีความสำคัญอะไรเลยต่อชีวิตเรา
จุฟๆน้า
ความคิดเห็นที่ 20
คุยกับแม่ค่ะว่าแม่ป่วยใช้เงินจริงหรือเปล่า? เพราะพ่ออาจจะหลอกเอาเงินไปกินเหล้า และต่อไปให้กำหนดไว้เลยว่าจะส่งให้ที่บ้านเดือนละเท่าไหร่ ทำให้เป็นระบบ ไม่ใช่ส่งพ่อแม่หมดจนตัวเองอดแทบตาย ตัวคุณเองก็ต้องเก็บเงินไว้ดูแลตัวเองด้วย ให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น มีสุขภาพที่ดีขึ้น ไม่งั้นจะไม่มีแรงทำงาน
เรื่องเดินไปทำงานสามกิโล คงมีเหงื่อไม่น้อยเลยมีกลิ่น ต่อไปเตรียมชุดทำงานไปเปลี่ยนที่ทำงานแทน ใส่ชุดอื่นเดินค่ะ ไปทำงานควรดูสะอาดสะอ้านปลอดกลิ่นเพื่อให้ตัวเองดูดีในที่ทำงาน
เรื่องเจ็บป่วยใช้สิทธิประกันสังคมค่ะ ไม่ต้องจ่ายเงินเอง
คุณยังมีแม่ต้องดูแล ตายไม่ได้ค่ะ
เรื่องเดินไปทำงานสามกิโล คงมีเหงื่อไม่น้อยเลยมีกลิ่น ต่อไปเตรียมชุดทำงานไปเปลี่ยนที่ทำงานแทน ใส่ชุดอื่นเดินค่ะ ไปทำงานควรดูสะอาดสะอ้านปลอดกลิ่นเพื่อให้ตัวเองดูดีในที่ทำงาน
เรื่องเจ็บป่วยใช้สิทธิประกันสังคมค่ะ ไม่ต้องจ่ายเงินเอง
คุณยังมีแม่ต้องดูแล ตายไม่ได้ค่ะ
แสดงความคิดเห็น
Review เงิน 7000 กับการมาอยู่กรุงเทพตัวคนเดียว
บอกก่อนว่าเราเป็นสาวประเภทสองนะคะ ที่มาทำงานกรุงเทพเพราะไม่ถูกกับพ่อค่ะ ท่านเป็นคนที่ไม่ชอบกระเทยเอามากๆ ตั้งแต่เด็กเราก้อโดนทุบตี ทำร้ายมาตลอด เราลูกคนเดียวด้วย ครอบครัวเดี่ยวด้วย ไม่มีใครคอยปกป้องค่ะ ยกเว้นคุณแม่ เราเคยแต่งตัวเป็นผู้หญิง เพราะใจเราเป็นผู้หญิงจริงๆค่ะ ร่ายกายเราก้ออยากเป็นผู้หญิงตาม พอพ่อเราเห็นเท่านั้นแหละ โดนตบจนเลือดหูไหล ปกติแม่จะไม่สู้พ่อ เพราะกลัวโดนทำร้ายไปด้วย แต่วันนั้นแม่เราเข้ามาช่วยก็โดนซัดกันน่วมทั้งคู่ เราค่อนข้างรักแม่เรา ท่านจะสอนเสมอให้อโหสิให้พ่อ แต่วันดีคืนดีท่านทนไม่ไหวก้อเคยบ่นออกมาให้เราได้ยินว่าไปทำเวรกรรมอะไรไว้ ลูกชายคนเดียวก้อมาเป็นกะเทย มีผัวก้อคอยผลาญเงิน กินเหล้า เราได้ยินก้อเจ็บแปร๊บ ลึกๆแล้วแม่เราก้อคงรับไม่ได้เหมือนกัน เราได้ยินก้อแอบไปร้องไห้คนเดียว ชีวิตเราทำไมเคว้งคว้าง เหงา เศร้า โดดเดี่ยว เหมือนเราเป็นเอเลี่ยน เหมือนเราเกิดมาผิดทุกอย่าง
ย้อนความไปตอนเด็กๆแล้ว มาหลังจบปริญญาตรีนะคะ เราเองก้ออาศัยอยู่กับที่บ้านตลอด เงินใช้ประจำวันพ่อเราไม่ให้ตั้งแต่มัธยมปลาย เพราะแกอยากให้เราเป็นทหาร แกบอกฐานะทางบ้านไม่ได้ดีอะไรมากมาย ถ้าเราเป็นทหารที่บ้านก้อไม่ต้องส่งเสียแล้ว ประหยัดเงินไปอีกเยอะ ถ้าต่อม.ปลายกว่าจะจบมหาลัยก้ออีกไม่รู้ตั้งกี่บาท แต่ใจเราเป็นแบบนี้จะให้ไปเป็นทหาร เราก้อไม่ยอม ร้องไห้ แม่เราก้อเห็นใจ บอกจะส่งเราเรียนเอง ตกเย็นแม่ก้อเย็บผ้าเสริมจากงานประจำ ส่วนเราก้อช่วยแม่อีกแรง แต่พอพ่อมาเห็นก้อใช้เราไปทำอย่างอื่น บอกขัดหูขัดตา
จนเราจบปริญญาตรี เราเห็นแม่เหนื่อยมามาก เราอยากส่งเงินให้แม่ ตอนนั้นพ่อเราก้อพยายามขับไล่ไสส่งเราทุกวัน บอกโตแล้วควรแยกบ้านอยู่ บางทีก้อมาปลุกตีสี่ให้ไปกวาดบ้านบ้าง ให้ไปเก็บใบไม้บ้าง แล้วก้อมากดดันว่ามีปัญญาจบป.ตรี เราควรได้งานทำ เลี้ยงที่บ้านได้แล้ว เราก้อเครียด จบมาเดือนกว่าเราหางานแถวบ้านเราไม่ได้ แล้วเงินใช้ในชีวิตประจำวันเราไม่มีแม้แต่บาทเดียว เพราะพ่อเราก้อไม่ได้ให้เราใช้ แม่เราก้อไม่มี จนสุดท้ายพ่อเราเอ่ยปากให้เงินเรา 7000 บอกเป็นเงินก้อนเดียวที่จะให้เรา จะไปอยู่ไหนก้อช่าง ตั้งตัวให้ได้ มีให้แค่นี้
ตอนนั้นก้อคิดในใจเราจะอยู่แถวบ้านต่อทำไม ในเมื่อไม่มีพ่อแม่ให้ความรัก ก้อไม่รู้จะอยู่ต่อทำไมแล้ว จึงตัดสินใจมากรุงเทพคนเดียว ไม่รู้จักใครเลย แต่ทำไมไม่รู้ เราคิดว่าเมืองนี้ตอบโจทย์เรา
พอเราลงรถไฟฟรีมาถึงหัวลำโพง เราคว้ากระเป๋าไปอาบน้ำแถวปั๊มเอาช่วยได้มาก ตอนแรกกะจะขอที่วัดใช้ แต่คนเยอะมาก แล้วก้อจัดการเดินเลย ตั้งแต่เช้าแดดเปรี้ยงๆ เดินหาหอไปเรื่อยๆ เอาที่ถูกที่สุด แล้วอยู่ได้ จนเราได้หอนึง ราคาเดือนละ 2300 บาท รวมมัดจำกับคีการ์ด ราวๆ สามพันบาท แต่มีอินเตอเน็ตฟรี แม้จะอืดหน่อย แต่มันช่วยไม่ให้เราเสียตัง แถมช่วยเราสมัครงานได้ อีกอย่างที่ช่วยชีวิตเราคือน้ำ กับ หมูฝอย อันนี้เราเน้นมาก หมูฝอยสำหรับเราคือซื้อข้าวมาห้าบาท หมูฝอยแพงหน่อยร้อยกว่าบาท แต่กินได้นานเป็นเดือน รวมกินกับข้าวแล่วประหยัดกว่ามาม่าหรือปลากะป๋อง ส่วนน้ำเปล่าก้อกดเติมเอา
ประมาณสองสัปดาห์เราได้งาน ตอนนั้นเงินเราเหลือสามพัน ต้องไปทำงานให้ครบเดือนกว่าเงินจะออก เราเลยใช้วิธีเดินไปทำงาน ประมาณสามกิโล เราไปถึงที่ทำงานเค้าก้อซุบซิบกัน บอกเหม็นเราบ้าง บอกเราสกปรก ซึ่งก้อตามใจ แต่ถ้าเราขึ้นรถไปกลับ วันละเกือบยี่สิบบาท แล้วค่ากินอีกเราตายแน่ เราเลยเลือกไม่กินข้าวกลางวัน กินแต่ข้าวเช้าห้าบาท กับหมูฝอยที่เราซื้อเก็บไว้ น้ำก้อเติมจากที่ทำงานละพกกลับ ข้าวกบางวันเราไม่ไปนั่งกินกับที่ทำงานไม่งั้นเราจะเสียอีกอย่างต่ำ 35 บาท/วัน บางทีก้อหิวมากๆๆๆๆๆๆๆ เราซื้อมาม่าซองเข้าไปกินในห้องน้ำ กิบดิบเลยเพื่อให้มันอืดและอิ่ม
ตอนนั้นเราโทรมมาก สิวด้วย ดำด้วย พวกที่ทำงานชอบล้อเราว่าเราเป็นกะเทยหน้าผี เคยเห็นแต่กะเทยเค้าจะสวยๆกัน แต่เราเปมือนผี เราก้อพยายามไม่ยุ่ง ไม่อะไร กลับบ้านก้อเดินกลับ บางทีเค้าขับรถผ่านมาเห็นเรา แม้จะผ่านทางเดียวกัน แต่เค้าไม่ชวน เราก้อเดินของเราไปเรื่อยๆ
ผ่านพ้นจนเงินเดือนออก แม้จะได้หมื่นปลายๆ แต่ชีวิตเหมือนเล่นตลก มันมีเรื่องให้ใช้เงินตลอด เช่น รองเท้าขาดบ้าง พัดลมในห้องเสีย หลอดไฟเสีย ฯลฯ คือมันจำเป็นจริงๆแต่ละอย่าง ก้อต้องทนควักตังมาจ่าย
มีอยู่ครั้งนึงจู่ๆพ่อเราก้อโทรมา บอกแม่อาการไม่ดี พูดไม่ได้ กินข้าวไม่ได้ ขอเงินค่ายาหมื่นนึง เรามีในบัญชีหมื่นสาม ก้อรีบโอนเลย ละเหลือสามพัน แต่จู่ๆคืนนั้นเราเป็นอะไรไม่รู้เล็บเราขึ้นเป็นเส้นแปลกๆ ละขึ้นทุกเล็บ ละเท้าเราขยับไม่ได้เลย เราเลยรีบโทรแจ้งหัวหน้างาน แต่หัวหน้าบอกเราลาต้องมีใบรับรองแพทย์ เราก้อจำใจต้องไปตรวจ ขาก้ออ่อนปวกเปียกไปหมด แบ้วต้องไปคนเดียวอีก พอไปถึงหมอบอกร่างกายเรามีบางอย่างผิดปกติ แต่ต้องออกเงินเองในแลปบางอย่าง เราก้อบอกหมอว่าเราไม่พร้อมเรื่องเงิน
คืนนั้นพอกลับมาถึงห้องเราได้ยินโทรศัพท์จากพ่ออีก บอกแม่ดูอาการแย่ ซักพักที่ทำงานโทรมาหาเราอีกบอกจะต่อโปรทำงานเราออกไป เท่ากับว่าเงินเราก้อยังไม่ได้เต็มๆ คืนนั้นเราหดหู่มาก เราเหนื่อย เราท้อ เราเศร้า ทุกอย่างมันถาโถมมาหาเราหมด เราร้องไห้เหมือนเป็นบ้า กรี๊ดในถังน้ำ ซักพักเราหยิบเข็มขัดมาแขวนกับประตูห้อง รัดคอตัวเอง จนรู้สึกชาๆ ซักพักหัวมันจะเริ่มไร้ความรู้สึกมันไม่เจ็บหรอกแต่เราอยากหลับ แต่เสียงจู่ๆเสียงจากไหนมาก้อไม่รู้ มันเป็นเสียงแม่เรา เรารีบถอดสายเข็มขัด รีบวิ่งไปดูคอตัวเองว่ามันมีรอยรัดไหม ละเปิดประตูไปดูข้างนอก เรานึกว่าแม่เรามา ซักพักเราก้อคิดว่าเราทำบ้าอะไร ทำไมเราเป็นคนแบบนี้ เราก้อร้องไห้ เราร้องจนเหนื่อย จนหลับไป
เรารู้ตัวว่าสุขภาพไม่ได้ดีมาก คงไปได้อีกไม่ไกล แต่เราอยากถ่ายทอดให้เห็นว่าทุกอย่างมันสู้กันได้ มันไปต่อได้ สุดท้ายแล้วเราเชื่อว่าเบื้องบนท่านกำหนดมาหมดแล้ว ที่เหลือเราสู้ไปให้สุดก้อพอ
เป็นกำลังใจให้คนสู้ชีวิตทุกคนค่ะ