ปัจจุบันสังคมไทย มีเด็กมากมายที่กำลังเติบโต รวมถึงวัยรุ่นและผู้ใหญ่อีกมากมายที่โตมาโดยขาดแม่
ในส่วนของผู้ใหญ่ที่โตขึ้นมาโดยปราศจากการใกล้ชิดจากแม่นั้น
เขาเหล่านั้นผ่านอะไรกันมามากแล้ว และชีวิตในปัจจุบันที่ต้องแข่งขัน ดิ้นร้นเพื่อมีชีวิตที่ดี
ในส่วนของวันแม่นั้นคงเป็นแค่ปม ที่ผ่านมาได้ตั้งหลายครั้ง และมันก็จะผ่านไปเหมือนทุกครั้ง
แต่ที่เราเห็นใจและอยากให้กำลังใจมากที่สุดคือ "เด็ก" , "เยาวชน" ที่กำลังอยู่ในวัยเปรียบเทียบสิ่งต่างๆ
พี่ผ่านช่วงเวลาเหล่านั้นมาแล้ว วันนี้พี่อยากให้กำลังใจน้องๆ ให้เราเข้มแข็งและอย่ามองสิ่งที่เป็นอยู่นี้ว่า "เลวร้าย"
เพราะเมื่อเราโตขึ้นเราจะเข้าใจว่า คำว่า "แม่" ไม่ใช่เพียงแต่เป็นผู้ให้กำเนิด "แม่" ที่แท้จริงนั้น คือ ใครก็ตามแต่
ที่หยิบยื่น ความเมตา ความปรารถนาดี และเสียสละ แม้เพียงเล็กน้อย หรือเป็นช่วงเวลาไม่นาน
แม่ = อาจหมายถึงผู้ชายที่คนอื่นเรียกว่า พ่อ
แม่ = อาจหมายถึงผู้หญิงที่คนอื่นเรียกว่า ย่า, ยาย
แม่ = อาจหมายถึงผู้ชายที่คนอื่นเรียกว่า ปู่,ตา
แม่ =อาจหมายถึงคนที่คนอื่นเรียกว่า ครู
ฯลฯ
เราเป็นสิ่งมีชีวิต ที่ไม่สามารถเติบโตเองได้ หากไม่มีคนดูแล
เพราะอย่างนั้นแล้ว เราจะปฏิเสธทุกๆคนที่เอื้ออาทรต่อเรา ไม่ได้
รักและใส่ใจเขาให้มาก แม้เขาไม่ได้ให้กำเนิดเรามาก็ตาม
/////////////////// พี่เข้าใจดี
1วันก่อนวันที่ 12 สิงหา ของทุกปี มีเด็กมากมายต้องเสียน้ำตา
หลายคนต้องร้องไห้กับความซึ้งในบทกลอนและบทเพลงในงาน และความรักจากแม้ผู้ให้เกิด
แต่ก็มีอีกหลายคนที่ต้องเสียน้ำตา เพราะ "ไม่มี"
วันนี้มองย้อนกลับไปมันตลกตัวเอง
แต่วันนั้นมันไม่ใช่ มันไม่เข้าใจ มันคิดอะไรไม่ออก มันได้แต่โทษชะตากรรม โทษโน้นโทษนี้
มันผ่านไปแล้วก็ให้มันผ่านไป
อย่าให้คนที่รักเรา ที่อยู่ตรงนี้เวลานี้ต้องเสียใจ เพราะ "เรา" ที่ไม่ให้คุณค่า
///////////// ท้ายที่สุดนี้อยากฝากคำถามสัก1คำถาม แก่ทุกคนว่า
เมืองนอกเมืองนา เขามีงานวันแม่กันไหม?
และเขาเคยใส่ใจกับความรุ้สึกของเด็กๆที่ยัง ไม่เข้าใจ เรื่องอะไรแบบนี้ไหม?
เนื่องในวันแม่ปี 2560 นี้ ขอเป็นกำลังใจกับลูกๆ ที่ขาดแม่ ทุกคน
ในส่วนของผู้ใหญ่ที่โตขึ้นมาโดยปราศจากการใกล้ชิดจากแม่นั้น
เขาเหล่านั้นผ่านอะไรกันมามากแล้ว และชีวิตในปัจจุบันที่ต้องแข่งขัน ดิ้นร้นเพื่อมีชีวิตที่ดี
ในส่วนของวันแม่นั้นคงเป็นแค่ปม ที่ผ่านมาได้ตั้งหลายครั้ง และมันก็จะผ่านไปเหมือนทุกครั้ง
แต่ที่เราเห็นใจและอยากให้กำลังใจมากที่สุดคือ "เด็ก" , "เยาวชน" ที่กำลังอยู่ในวัยเปรียบเทียบสิ่งต่างๆ
พี่ผ่านช่วงเวลาเหล่านั้นมาแล้ว วันนี้พี่อยากให้กำลังใจน้องๆ ให้เราเข้มแข็งและอย่ามองสิ่งที่เป็นอยู่นี้ว่า "เลวร้าย"
เพราะเมื่อเราโตขึ้นเราจะเข้าใจว่า คำว่า "แม่" ไม่ใช่เพียงแต่เป็นผู้ให้กำเนิด "แม่" ที่แท้จริงนั้น คือ ใครก็ตามแต่
ที่หยิบยื่น ความเมตา ความปรารถนาดี และเสียสละ แม้เพียงเล็กน้อย หรือเป็นช่วงเวลาไม่นาน
แม่ = อาจหมายถึงผู้ชายที่คนอื่นเรียกว่า พ่อ
แม่ = อาจหมายถึงผู้หญิงที่คนอื่นเรียกว่า ย่า, ยาย
แม่ = อาจหมายถึงผู้ชายที่คนอื่นเรียกว่า ปู่,ตา
แม่ =อาจหมายถึงคนที่คนอื่นเรียกว่า ครู
ฯลฯ
เราเป็นสิ่งมีชีวิต ที่ไม่สามารถเติบโตเองได้ หากไม่มีคนดูแล
เพราะอย่างนั้นแล้ว เราจะปฏิเสธทุกๆคนที่เอื้ออาทรต่อเรา ไม่ได้
รักและใส่ใจเขาให้มาก แม้เขาไม่ได้ให้กำเนิดเรามาก็ตาม
/////////////////// พี่เข้าใจดี
1วันก่อนวันที่ 12 สิงหา ของทุกปี มีเด็กมากมายต้องเสียน้ำตา
หลายคนต้องร้องไห้กับความซึ้งในบทกลอนและบทเพลงในงาน และความรักจากแม้ผู้ให้เกิด
แต่ก็มีอีกหลายคนที่ต้องเสียน้ำตา เพราะ "ไม่มี"
วันนี้มองย้อนกลับไปมันตลกตัวเอง
แต่วันนั้นมันไม่ใช่ มันไม่เข้าใจ มันคิดอะไรไม่ออก มันได้แต่โทษชะตากรรม โทษโน้นโทษนี้
มันผ่านไปแล้วก็ให้มันผ่านไป
อย่าให้คนที่รักเรา ที่อยู่ตรงนี้เวลานี้ต้องเสียใจ เพราะ "เรา" ที่ไม่ให้คุณค่า
///////////// ท้ายที่สุดนี้อยากฝากคำถามสัก1คำถาม แก่ทุกคนว่า
เมืองนอกเมืองนา เขามีงานวันแม่กันไหม?
และเขาเคยใส่ใจกับความรุ้สึกของเด็กๆที่ยัง ไม่เข้าใจ เรื่องอะไรแบบนี้ไหม?