ความสังเวชเป็นเหตุให้ปรารภความเพียร(พระสูตร)

ภิกษุทั้งหลาย. ! บุรุษอาชาไนยผู้เจริญ ๔ จำพวก เหล่านี้ มีอยู่ หาได้อยู่ในโลก.
สี่จำพวก เหล่าไหนเล่า ? สี่จำพวก คือ :-

๑. ภิกษุทั้งหลาย. ! บุรุษอาชาไนยผู้เจริญบางคน ในกรณีนี้ ได้ยินว่า
"ในบ้านหรือนิคมโน้น มีหญิงหรือชายผู้ถึงความทุกข์ หรือทำกาลกิริยา"
ดังนี้ แล้ว เขาก็สังเวช ถึงความสลดใจเพราะเหตุนั้น; ครั้นสลดใจแล้ว ก็เริ่ม
ตั้งความเพียรโดยแยบคาย มีตนส่งไปในแนวธรรมะ
ย่อมทำให้แจ้งซึ่งปรมัตถสัจจะด้วยนามกาย และเห็นแจ้งแทงตลอดด้วยปัญญา.
ภิกษุทั้งหลาย. ! เรากล่าวบุรุษอาชาไนยผู้เจริญชนิดนี้ ว่ามีอุปมาเหมือนม้าอาชาไนยตัวเจริญที่พอเห็นเงาของปฏักก็สังเวชถึงความสลดใจ ฉะนั้น.

๒. ภิกษุทั้งหลาย. ! จำพวกอื่นยังมีอีก : บุรุษอาชาไนยผู้เจริญบางคนในกรณีนี้
ไม่ได้ยินว่า ในบ้านหรือนิคมโน้น มีหญิงหรือชายผู้ถึงความทุกข์หรือ
ทำกาลกิริยา, แต่เขาได้เห็นหญิงหรือชายผู้ถึงความทุกข์หรือทำกาลกิริยาด้วย
ตนเอง เขาก็สังเวชถึงความสลดใจเพราะเหตุนั้น ; ครั้นสลดใจแล้ว ก็เริ่มตั้งความ
เพียรโดยแยบคาย มีตนส่งไปในแนวธรรมมะ ย่อมทำให้แจ้งซึ่งปรมัตถสัจจะด้วย
นามกาย และเห็นแจ้งแทงตลอดด้วยปัญญา.
ภิกษุทั้งหลาย. ! เรากล่าวบุรุษอาชาไนยผู้เจริญชนิดนี้ ว่ามีอุปมาเหมือนม้าอาชาไนยตัวเจริญที่ถูกเขาแทงด้วยปฏักที่ขุมขนแล้ว ก็สังเวชถึงความสลดใจ ฉะนั้น.

๓. ภิกษุทั้งหลาย. ! จำพวกอื่นยังมีอีก : บุรุษอาชาไนยผู้เจริญบางคนใน
กรณีนี้ ไม่ได้ยินว่า ในบ้านหรือนิคมโน้น มีหญิงหรือชายผู้ถึงความทุกข์หรือ
ทำกาลกิริยา, ทั้งเขาไม่ได้เห็นหญิงหรือชายผู้ถึงความทุกข์หรือทำกาลกิริยาด้วย
ตนเอง, แต่ญาติหรือสาโลหิตของเขาเป็ นผู้ถึงความทุกข์หรือทำกาลกิริยา เขาก็
สังเวชถึงความสลดใจเพราะเหตุนั้น; ครั้นสลดใจแล้ว ก็เริ่มตั้งความเพียรโดย
แยบคาย มีตนส่งไปในแนวธรรมะ ย่อมทำให้แจ้งซึ่งปรมัตถสัจจะด้วยนามกาย
และเห็นแจ้งแทงตลอดด้วยปัญญา. ภิกษุทั้งหลาย. ! เรากล่าวบุรุษอาชาไนยผู้เจริญ
ชนิดนี้ ว่ามีอุปมาเหมือนม้าอาชาไนยตัวเจริญที่ถูกเขาแทงด้วยปฏักที่หนังก็
สังเวชถึงความสลดใจ ฉะนั้น.

๔. ภิกษุทั้งหลาย. ! จำพวกอื่นยังมีอีก : บุรุษอาชาไนยผู้เจริญบางคนในกรณีนี้
ไม่ได้ยินว่า ในบ้านหรือนิคมโน้น มีหญิงหรือชายผู้ถึงความทุกข์หรือ
ทำกาลกิริยา และเขาไม่ได้เห็นหญิงหรือชายผู้ถึงความทุกข์หรือทำกาลกิริยาด้วยตนเอง,
ทั้งญาติหรือสาโลหิตของเขาเป็นผู้ถึงความทุกข์หรือทำกาลกิริยา
แต่ว่าเขาเองถูกต้องแล้วด้วยทุกขเวทนาที่เป็นไปในสรีระ ซึ่งกล้าแข็ง แสบเผ็ดไม่น่ายินดี
ไม่น่าพอใจ แทบจะนำชีวิตไปเสีย เขาก็สังเวชถึงความสลดใจเพราะเหตุนั้น;
ครั้นสลดใจแล้ว ก็เริ่มตั้งความเพียรโดยแยบคาย มีตนส่งไปในแนวธรรมะ
ย่อมทำให้แจ้งซึ่งปรมัตถสัจจะด้วยนามกาย และเห็นแจ้งแทงตลอดด้วยปัญญา.
ภิกษุทั้งหลาย. ! เรากล่าวบุรุษอาชาไนยผู้เจริญชนิดนี้ ว่ามีอุปมาเหมือนม้าอาชาไนยตัวเจริญที่ถูกเขาแทงด้วยปฏักถึงกระดูก ก็สังเวชถึงความสลดใจฉะนั้น.
ภิกษุทั้งหลาย. ! เหล่านี้แล บุรุษอาชาไนยผู้เจิญ ๔ จำพวก ซึ่งมีอยู่หาได้ อยู่ในโลก.

จตุกฺก. อํ. ๒๑/๑๑๔/๑๑๓
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่