กระทู้เก่าลงทุนหุ้นครบ 4 ปี เมื่อปีที่แล้ว
https://pantip.com/topic/35411826
ยังดอยน้าอินอยู่ครับ 555
มีซื้อเพิ่มช่วงปลายๆปี
ถัวจากทุน 66 เหลือ 62
คิดว่าจะได้หลุดดอยในเร็ววัน
ปีนี้ปันผล INTUCH ลดลงพอสมควรเลย
เนื่องมาจากกำไรของ ADVANC ลดลง
แต่ก็ยังมั่นใจในตัวน้าอินอยู่นะครับ
เปรียบเทียบกับ SET Index ช่วงเวลาเดียวกันกับเมื่อปีที่แล้ว
20 ก.ค. 2559 ที่ 1510
กับวันนี้ 21 ก.ค. 2560 ที่ 1575 ยังไม่จบวัน
ดัชนีเพิ่มขึ้นมาประมาณ 65 จุด คิดเป็น 4.3%
พอร์ตผมบวกแค่ 1% กว่าๆ
พอร์ตแพ้ตลาด อย่างไม่ต้องสงสัย
ก่อนหน้านี้ติดลบหนักสุดประมาณ -10%
แต่ก็ไม่ได้ห่วงอะไร เพราะเน้นหุ้นปันผล กับหุ้นเติบโตอย่างละครึ่งครับ
ปีที่แล้วบ่นๆว่าอยากได้ AOT
สุดท้ายก็สอยมาจนได้สมใจอยาก
กิเลสระงับได้ด้วยการซื้อ
เลยจัดไปหนึ่งไม้
เป็นตัวดึงพอร์ตพอสมควร
เสียดายตรงที่ กล้าๆ กลัวๆ เลยได้มานิดเดียวก่อนแตกพาร์
ปีนี้ทั้งปี ยังถือเงินสดล้วนๆเลยครับ ปันผลช่วงกลางปีแรกที่ได้มาจาก INTUCH, BTS ก็ยังถือไว้
ไม่ได้ซื้อหุ้นเพิ่มเลย Wait and See เหมือนต้นปีที่แล้วเลย
มีหุ้นที่ต้องการซื้อ แต่ราคามันแพงเกินไป ทำใจซื้อไม่ลงครับ
ปีนี้เป็นปีที่ผมเริ่มลงทุนกับการเข้าคอร์สสัมมนา เกี่ยวกับการอ่านงบการเงิน และประเมินมูลค่าหุ้น DCF เป็นปีแรกครับ
เอาจริงๆ ผมไม่เคยให้ความสำคัญกับการลงทุนในการเข้าสัมมนาไรพวกนี้เลยนะ
แต่เพื่อนมันชวน ก็เลยลองดู
ปรากฎว่าได้อะไรเยอะกว่าที่คิดครับ
ถามว่าอ่านงบการเงินเป็นไหม
ก็บอกได้เลยว่าพอดูเป็นครับ แต่ไม่ได้ถึงกับเก่งกาจอะไรครับ
ต้องใช้ประสบการณ์ไปเรื่อยๆครับ เรียนรู้ข้อผิดพลาดไปเรื่อยๆ
ผมคิดว่ามันเป็นการลงทุนที่คุ้มค่ามากจริงๆครับ
จากที่เคยคิดว่าอ่านงบการเงิน ประเมินมูลค่าหุ้นเป็นแล้ว
แต่จริงๆแล้วแทบไม่รู้อะไรเลยครับ งูๆปลาๆทั้งนั้น
สิ่งที่พยายามจะทำให้ได้ในปีนี้คือ
พยายามใช้เวลาว่างอ่านหนังสือพิมพ์ เพื่อติดตามข่าวสาร ให้ได้มากที่สุดครับ
เพราะว่าคิดว่าตัวเองยังรู้น้อยมากเกี่ยวกับข่าวสาร ความรู้ใหม่ๆต่างๆ
ใจลึกๆคืออยากวิเคราะห์เทรนด์ในอนาคต ว่าหุ้นไหนกำลังมา
จริงๆการลงทุนของผม ไม่ค่อยได้มานั่งคิดว่ากำไรหรือขาดทุนเป็นตัวเลขเป๊ะๆเท่าไรนะครับ
ผมอาศัยว่าผมวิเคราะห์ ละซื้อหุ้นที่มีอนาคต เลือกหุ้นดีๆ แล้วสบายใจที่จะถือมากกว่าครับ
เอาจริงๆคือขี้เกียจมานั่งคิดว่ากำไร หรือขาดทุน 555
แต่เอาความสบายใจเป็นหลักครับ ไม่ต้องเปิดพอร์ตดูหุ้นทุกเวลาเหมือนแต่ก่อน
อย่างที่เห็นคือ ผมเน้นลงทุนระยะยาว ก็ต้องดูกันยาวๆครับ
5 ปี ที่ผ่านมา ยังแทบบอกอะไรไม่ได้เลย เอาจริงๆ
แต่คิดว่าผมได้ตกผลึกทางความคิดเกี่ยวกับการลงทุนในหุ้นแบบ VI มาปรับใชักับการใช้ชีวิตมากพอสมควร
เช่น การซื้อเสื้อผ้า หรือพวก Gadget ต่างๆ จะคิดก่อนว่าเราจำเป็นต้องใช้จริงๆไหม
เทียบ ราคา กับ มูลค่า ว่ามันเหมาะสมไหม ถ้าจะซื้อในราคานี้ หรือรอมันตกรุ่น แล้วลดราคา จะได้ MOS เยอะๆหน่อย
แล้วซื้อมาแล้วใช้ได้นานกี่ปี คิดๆๆๆ อ่านรีวิว ดูรีวิว บลาๆ จนบางทีสิ่งของที่อยากได้มากๆในตอนแรก
ไปๆมาๆ กลับไม่ได้อยากได้ซะงั้น ก็ประหยัดเงินไปได้เยอะมากๆ พอเราเริ่มลดความต้องการเกี่ยวกับของไร้สาระลง
ทำให้มีเงินเหลือมาลงทุน สร้างพอร์ตให้เติบโตต่อไปครับ
สรุปภาพรวมการลงทุนของผม ก็ยังมีความสุขกับการลงทุนในหุ้นครับ
และคิดว่าจะมีความสุขต่อไปครับ เพราะหาที่ลงของเงินที่ให้ผลตอบแทนเท่าหุ้นไม่ได้ละครับ
ถ้าไม่นับปล่อยกู้นอกระบบนะครับ 555
ช่วงที่ผ่านมาได้ Application มาช่วยคำนวณค่าต่างๆ เบาแรงไปได้เยอะครับ
แอพแรกที่อยากแนะนำคือ Ez Calculators
ผมเอาไว้ใช้คำนวณค่า ROI กับค่าที่ใช้คำนวณ DCF ทั่วๆไปครับ
จริงๆตัวแอพมันคำนวณได้หลายๆแบบ แล้วแต่เราต้องการครับ
ผมก็ยังใช้แค่ไม่กี่ฟังก์ชั่น เลยไม่สามารถรีวิวได้ละเอียดมาก
ยังไงก็ลองโหลดมาเล่นดูนะครับ
แอพที่สองคือ AVA Advisor
เป็นแอพที่เอาไว้ดูกราฟ
สแกนหุ้น ตามค่าต่างๆที่เราต้องการจะคัดกรอง เช่นสแกนค่า PE บลาๆๆ
หรือสายเทคนิคอลก็ลากเส้น ดูแนวรับแนวต้านได้
ที่ชอบคือสามารถตั้งแจ้งเตือนได้เมื่อหุ้นที่เราสนใจตรงตามที่เราตั้งค่าไว้
เช่นพวก New High, New Low หรือ Volume ขึ้นมาถึงจุดที่เรากำหนด
โดยรวมถือว่าเป็นแอพที่ประทับใจพอสมควรเลยครับ
ไม่แน่ใจว่าต่อไปต้องเสียตังค์รายเดือนรึเปล่านะครับ แต่ตอนนี้ยังใช้ฟรีอยู่ครับ
ติชมได้นะครับ
ยินดีรับฟังทุกคำแนะนำจากพี่ๆนักลงทุนทุกท่านครับผม
หรือใครมีประสบการณ์อยากแชร์ก็ไม่ว่ากันครับ
ขอบคุณสำหรับคำแนะนำล่วงหน้านะครับ
ลงทุนในหุ้นครบ 5 ปี จะโชว์ความคืบหน้าครับ
https://pantip.com/topic/35411826
ยังดอยน้าอินอยู่ครับ 555
มีซื้อเพิ่มช่วงปลายๆปี
ถัวจากทุน 66 เหลือ 62
คิดว่าจะได้หลุดดอยในเร็ววัน
ปีนี้ปันผล INTUCH ลดลงพอสมควรเลย
เนื่องมาจากกำไรของ ADVANC ลดลง
แต่ก็ยังมั่นใจในตัวน้าอินอยู่นะครับ
เปรียบเทียบกับ SET Index ช่วงเวลาเดียวกันกับเมื่อปีที่แล้ว
20 ก.ค. 2559 ที่ 1510
กับวันนี้ 21 ก.ค. 2560 ที่ 1575 ยังไม่จบวัน
ดัชนีเพิ่มขึ้นมาประมาณ 65 จุด คิดเป็น 4.3%
พอร์ตผมบวกแค่ 1% กว่าๆ
พอร์ตแพ้ตลาด อย่างไม่ต้องสงสัย
ก่อนหน้านี้ติดลบหนักสุดประมาณ -10%
แต่ก็ไม่ได้ห่วงอะไร เพราะเน้นหุ้นปันผล กับหุ้นเติบโตอย่างละครึ่งครับ
ปีที่แล้วบ่นๆว่าอยากได้ AOT
สุดท้ายก็สอยมาจนได้สมใจอยาก
กิเลสระงับได้ด้วยการซื้อ
เลยจัดไปหนึ่งไม้
เป็นตัวดึงพอร์ตพอสมควร
เสียดายตรงที่ กล้าๆ กลัวๆ เลยได้มานิดเดียวก่อนแตกพาร์
ปีนี้ทั้งปี ยังถือเงินสดล้วนๆเลยครับ ปันผลช่วงกลางปีแรกที่ได้มาจาก INTUCH, BTS ก็ยังถือไว้
ไม่ได้ซื้อหุ้นเพิ่มเลย Wait and See เหมือนต้นปีที่แล้วเลย
มีหุ้นที่ต้องการซื้อ แต่ราคามันแพงเกินไป ทำใจซื้อไม่ลงครับ
ปีนี้เป็นปีที่ผมเริ่มลงทุนกับการเข้าคอร์สสัมมนา เกี่ยวกับการอ่านงบการเงิน และประเมินมูลค่าหุ้น DCF เป็นปีแรกครับ
เอาจริงๆ ผมไม่เคยให้ความสำคัญกับการลงทุนในการเข้าสัมมนาไรพวกนี้เลยนะ
แต่เพื่อนมันชวน ก็เลยลองดู
ปรากฎว่าได้อะไรเยอะกว่าที่คิดครับ
ถามว่าอ่านงบการเงินเป็นไหม
ก็บอกได้เลยว่าพอดูเป็นครับ แต่ไม่ได้ถึงกับเก่งกาจอะไรครับ
ต้องใช้ประสบการณ์ไปเรื่อยๆครับ เรียนรู้ข้อผิดพลาดไปเรื่อยๆ
ผมคิดว่ามันเป็นการลงทุนที่คุ้มค่ามากจริงๆครับ
จากที่เคยคิดว่าอ่านงบการเงิน ประเมินมูลค่าหุ้นเป็นแล้ว
แต่จริงๆแล้วแทบไม่รู้อะไรเลยครับ งูๆปลาๆทั้งนั้น
สิ่งที่พยายามจะทำให้ได้ในปีนี้คือ
พยายามใช้เวลาว่างอ่านหนังสือพิมพ์ เพื่อติดตามข่าวสาร ให้ได้มากที่สุดครับ
เพราะว่าคิดว่าตัวเองยังรู้น้อยมากเกี่ยวกับข่าวสาร ความรู้ใหม่ๆต่างๆ
ใจลึกๆคืออยากวิเคราะห์เทรนด์ในอนาคต ว่าหุ้นไหนกำลังมา
จริงๆการลงทุนของผม ไม่ค่อยได้มานั่งคิดว่ากำไรหรือขาดทุนเป็นตัวเลขเป๊ะๆเท่าไรนะครับ
ผมอาศัยว่าผมวิเคราะห์ ละซื้อหุ้นที่มีอนาคต เลือกหุ้นดีๆ แล้วสบายใจที่จะถือมากกว่าครับ
เอาจริงๆคือขี้เกียจมานั่งคิดว่ากำไร หรือขาดทุน 555
แต่เอาความสบายใจเป็นหลักครับ ไม่ต้องเปิดพอร์ตดูหุ้นทุกเวลาเหมือนแต่ก่อน
อย่างที่เห็นคือ ผมเน้นลงทุนระยะยาว ก็ต้องดูกันยาวๆครับ
5 ปี ที่ผ่านมา ยังแทบบอกอะไรไม่ได้เลย เอาจริงๆ
แต่คิดว่าผมได้ตกผลึกทางความคิดเกี่ยวกับการลงทุนในหุ้นแบบ VI มาปรับใชักับการใช้ชีวิตมากพอสมควร
เช่น การซื้อเสื้อผ้า หรือพวก Gadget ต่างๆ จะคิดก่อนว่าเราจำเป็นต้องใช้จริงๆไหม
เทียบ ราคา กับ มูลค่า ว่ามันเหมาะสมไหม ถ้าจะซื้อในราคานี้ หรือรอมันตกรุ่น แล้วลดราคา จะได้ MOS เยอะๆหน่อย
แล้วซื้อมาแล้วใช้ได้นานกี่ปี คิดๆๆๆ อ่านรีวิว ดูรีวิว บลาๆ จนบางทีสิ่งของที่อยากได้มากๆในตอนแรก
ไปๆมาๆ กลับไม่ได้อยากได้ซะงั้น ก็ประหยัดเงินไปได้เยอะมากๆ พอเราเริ่มลดความต้องการเกี่ยวกับของไร้สาระลง
ทำให้มีเงินเหลือมาลงทุน สร้างพอร์ตให้เติบโตต่อไปครับ
สรุปภาพรวมการลงทุนของผม ก็ยังมีความสุขกับการลงทุนในหุ้นครับ
และคิดว่าจะมีความสุขต่อไปครับ เพราะหาที่ลงของเงินที่ให้ผลตอบแทนเท่าหุ้นไม่ได้ละครับ
ถ้าไม่นับปล่อยกู้นอกระบบนะครับ 555
ช่วงที่ผ่านมาได้ Application มาช่วยคำนวณค่าต่างๆ เบาแรงไปได้เยอะครับ
ผมเอาไว้ใช้คำนวณค่า ROI กับค่าที่ใช้คำนวณ DCF ทั่วๆไปครับ
จริงๆตัวแอพมันคำนวณได้หลายๆแบบ แล้วแต่เราต้องการครับ
ผมก็ยังใช้แค่ไม่กี่ฟังก์ชั่น เลยไม่สามารถรีวิวได้ละเอียดมาก
ยังไงก็ลองโหลดมาเล่นดูนะครับ
แอพที่สองคือ AVA Advisor
เป็นแอพที่เอาไว้ดูกราฟ
สแกนหุ้น ตามค่าต่างๆที่เราต้องการจะคัดกรอง เช่นสแกนค่า PE บลาๆๆ
หรือสายเทคนิคอลก็ลากเส้น ดูแนวรับแนวต้านได้
ที่ชอบคือสามารถตั้งแจ้งเตือนได้เมื่อหุ้นที่เราสนใจตรงตามที่เราตั้งค่าไว้
เช่นพวก New High, New Low หรือ Volume ขึ้นมาถึงจุดที่เรากำหนด
โดยรวมถือว่าเป็นแอพที่ประทับใจพอสมควรเลยครับ
ไม่แน่ใจว่าต่อไปต้องเสียตังค์รายเดือนรึเปล่านะครับ แต่ตอนนี้ยังใช้ฟรีอยู่ครับ
ติชมได้นะครับ
ยินดีรับฟังทุกคำแนะนำจากพี่ๆนักลงทุนทุกท่านครับผม
หรือใครมีประสบการณ์อยากแชร์ก็ไม่ว่ากันครับ
ขอบคุณสำหรับคำแนะนำล่วงหน้านะครับ