จำได้ว่าตอนไปจีบคนอื่น มันเป็นความรู้สึกแบบหน่วงๆ ทั้งหวานทั้งขม ผสมและกลมกลืน จนยากจะจำแนกรสชาติของมัน
ตอนหวานก็เหมือนน้ำผึ้งเดือนห้า ตอนขมก็สุดแสนจะรำทมช่ำใจ ก็ใครละที่บังคับให้เราไปหลงรักคนใจร้ายแบบนั้น
ค่อยๆพัฒนาความสัมพันธ์ ค่อยๆสื่อสารข้างในที่มันมีอยู่ในใจออกไป....
ถ้าตอนไปแอบชอบคนอื่นคือความขมประสมปนหวาน
การที่คนอื่นมาชอบเราก็นับเป็นความรู้สึก...ยากจะพิจารณาและจำแนกรสชาติของมัน
มันเป็นความรู้สึก ตื่นเต้น แปลกประหลาด กำกึ่งไปกับความ 'กลัว'
เพราะเคยแอบชอบ จึงเข้าใจกับความรู้สึกของคนที่เข้ามาชอบ
เข้าใจทุกอย่างเลยจริงๆ
ทั้งคำพูดและสติกเกอร์ที่ส่งมาทุกวัน ทั้งบทสนทนาที่พยายามต่อบท ทั้งอะไรต่อมิอะไรที่แสดงถึงความรู้สึกของอีกฝ่าย
และก็ได้สะท้อนให้เราเข้าใจ ว่าตอนที่เราไปชอบคนอื่นเขา เราแมร่งทำตัวน่ารำคาญในบางจังหวะมากแค่ไหน
ราวกับเห็นภาพเสมือนที่เคยเกิดขึ้นมา ความลำบากใจจากคำว่า 'ไม่ใช่' เป็นรสชาติที่ไม่รู้จะพิจารณายังไงดี
จะให้ตอบปฎิเสธตัดความหวังไปทั้งๆที่อีกฝ่ายเพิ่งเริ่มต้นก็ดูจะใจร้ายเกินไป
แต่จะให้สานต่อทั้งๆที่รู้อยู่เต็มหัวใจว่ามันไม่ใช่ ก็รู้สึกยิ่งกลายเป็นคนใจร้ายเพิ่มเติมมากขึ้นไปอีก....
อีกมุมหนึ่งของการไม่ได้สมหวังในความรัก
คือการได้ทำความรู้จักกับอีกด้านของความรู้สึก
สุขและทุกข์ ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปยังไงคงวนเวียนเกียวพันกันต่อไป
ส่วนอนาคตของหัวใจคงต้องปล่อยไปให้เป็นเรื่องของเวลา
ปล. ในส่วนของคำถามนั้น ก็ตามหัวข้อเลยครับ
ตอนไปจีบคนอื่นกับตอนโดนคนอื่นมาจีบ เราทำตัวแตกต่างกันมากไหมครับ?
ตอนไปจีบคนอื่นกับตอนโดนคนอื่นมาจีบ เราทำตัวแตกต่างกันมากไหมครับ?
ตอนหวานก็เหมือนน้ำผึ้งเดือนห้า ตอนขมก็สุดแสนจะรำทมช่ำใจ ก็ใครละที่บังคับให้เราไปหลงรักคนใจร้ายแบบนั้น
ค่อยๆพัฒนาความสัมพันธ์ ค่อยๆสื่อสารข้างในที่มันมีอยู่ในใจออกไป....
ถ้าตอนไปแอบชอบคนอื่นคือความขมประสมปนหวาน
การที่คนอื่นมาชอบเราก็นับเป็นความรู้สึก...ยากจะพิจารณาและจำแนกรสชาติของมัน
มันเป็นความรู้สึก ตื่นเต้น แปลกประหลาด กำกึ่งไปกับความ 'กลัว'
เพราะเคยแอบชอบ จึงเข้าใจกับความรู้สึกของคนที่เข้ามาชอบ
เข้าใจทุกอย่างเลยจริงๆ
ทั้งคำพูดและสติกเกอร์ที่ส่งมาทุกวัน ทั้งบทสนทนาที่พยายามต่อบท ทั้งอะไรต่อมิอะไรที่แสดงถึงความรู้สึกของอีกฝ่าย
และก็ได้สะท้อนให้เราเข้าใจ ว่าตอนที่เราไปชอบคนอื่นเขา เราแมร่งทำตัวน่ารำคาญในบางจังหวะมากแค่ไหน
ราวกับเห็นภาพเสมือนที่เคยเกิดขึ้นมา ความลำบากใจจากคำว่า 'ไม่ใช่' เป็นรสชาติที่ไม่รู้จะพิจารณายังไงดี
จะให้ตอบปฎิเสธตัดความหวังไปทั้งๆที่อีกฝ่ายเพิ่งเริ่มต้นก็ดูจะใจร้ายเกินไป
แต่จะให้สานต่อทั้งๆที่รู้อยู่เต็มหัวใจว่ามันไม่ใช่ ก็รู้สึกยิ่งกลายเป็นคนใจร้ายเพิ่มเติมมากขึ้นไปอีก....
อีกมุมหนึ่งของการไม่ได้สมหวังในความรัก
คือการได้ทำความรู้จักกับอีกด้านของความรู้สึก
สุขและทุกข์ ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปยังไงคงวนเวียนเกียวพันกันต่อไป
ส่วนอนาคตของหัวใจคงต้องปล่อยไปให้เป็นเรื่องของเวลา
ปล. ในส่วนของคำถามนั้น ก็ตามหัวข้อเลยครับ
ตอนไปจีบคนอื่นกับตอนโดนคนอื่นมาจีบ เราทำตัวแตกต่างกันมากไหมครับ?