[CR] BufFeast Review :"Neta Grill" ร้านทะเลย่างและข้าวปั้นราคาแรงในร้านแสนคับแคบ @ เซ็นทรัลพระราม 2 ชั้น 4

เมื่อต้นเดือนมานี้ ผมมาฉลองเงินเดือนออก ด้วยร้านปิ้งย่างควบของทะเลตัวแรงๆแบรนด์นึง ที่ชอบเปิดสาขาตามชานเมือง
นั่นคือ เนตตะ กริลล์ ร้านนี้จัดว่าเป็นอีกหนึ่งร้านที่เสียแตกพอสมควร ส่วนมากก็เรื่องของความสดด้านวัตถุดิบนั่นแหละ ซึ่งไหนๆก็แล้ว
จัดมันเลยแล้วกันให้รู้ดำรู้แดงไปเลย


วันนี้ผมเลือกที่จะมาใช้บริการที่สาขา เซ็นทรัลพระราม 2 อันซึ่งใกล้กับบ้านแฟน ช่วงที่ไปกินนั้นเขาจัดโปรโมชั่น
ซูชิฟัวกราด้วย ก็เลยตกลงปลงใจกัน กินตัว 999 นี้แหละครับ เวลากินร้านนี้ อยู่ที่ 1.45 ชั่วโมง

น้ำจิ้มหลักๆก็มาสามแบบตามนี้เลยครับ มิโซะจะออกเปรี้ยวอมเผ็ดคล้ายๆน้ำจิ้มสุกี้ตามร้านทั่วไปเสียมากกว่า ซีฟู้ดออกเปรี้ยวแหลมและแสบเด่น
ส่วนบาร์บีคิวรสชาติจะเข้มหวานและมีอมกระเทียมคล้ายของไดโดม่อนนิดๆนะ

กั้งกระดาน รสคล้ายปูม้าแต่ไม่ค่อยจะได้อิ่มเอมเท่าไหร่เพราะเนื้อยุ่ยไปหมด
วากิวใบโฮบะ เห็นในเมนู นึกว่าจะมาเป็นเนื้อแผ่น กลับมาเป็นท่อนแบบสเต็กซะได้ เนื้อเหนียวเด้ง หวานหอมมันวัวและซอสมิโสะแบบหนักๆ
ไข่กุ้ง กลิ่นซอสดองไข่ค่อนข้างแรงอยู่

ย่างกินแบบทั้งชิ้นแบบสเต็กคู่กับหอมซอย

เนื้อวัวพรีเมี่ยมสามสหาย
ร่องซี่โครงกับซี่โครงวากิว จะเหมือนๆกันเลย คือ หอมมันวัวลึกล้ำ และนุ่มนิ่มเคี้ยวสบายมาก
ส่วนเนื้อกระบังลม ก็จะหอมกลิ่นมันย่างแบบพอดีๆ จะมีความกรึบและเหนียวกว่าสองชนิดแรกเล็กน้อย

หอยเชลล์ชีส กลิ่นหอยหอมมาก เนื้อเด้งฉ่ำ
ไข่หวานย่าง เนื้อเนียน หวานแบบแป้งเค้ก
ปลาไหลโอซาก้า เป็นเนื้อปลาไหลทะเล(อะนาโกะ) เนื้อปลาหวานแหลมและมีความนุ่มแบบทรายๆละลายในปาก
ซอสอย่างสองแบบ คือแบบสไปซี่และเกาหลี ส่วนตัวชอบแบบเกาหลีมากกว่า เพราะแบบสไปซี่กินแล้วรู้สึกไปชูรสคาวของปลาไงไม่รู้

คอหมูซอสเนตตะ เนื้อเด้งกรอบสู้ฟัน หวานหอมเครื่องปรุงแทรกซึมเข้าเนื้อและมันแบบพอดีๆ
สามชั้นซอสเกาหลี เนื้อหนาแต่กัดเคี้ยวง่าย ย่างเกรียมๆหน่อยตรงมัน อร่อยหอมได้ใจ

ปลาไหลย่างใบโฮบะ เนื้อหวานอมขมปลาย เนื้อทรายรุ่ยๆเหมือนแบบเสียบไม้ แต่ดีหน่อยตรงอันนี้ย่างร้อนได้ และมีกลิ่นมิโสะมาช่วยดับคาวปลา

หมึกอิกะราดซอส เนื้อหมึกหอมมาก รสชาติเข้มข้นและเด้งในปากแบบอร่อยเหาะ


ชีสเป็นแบบเช้ดด้าข้นๆ ย่างบนเปลือกหอย

เซ็ตปลาดิบไม่ได้จัดแซลมอนมาเพราะกินบ่อยแล้ว อยากเผื่อท้องไว้ของอย่างอื่น ซึ่งก็เอามาแค่ กุ้งโบตั๋น ที่รสหวานอ่อน ข้นและคาวกุ้งกลางๆ
กับฮามาจิ ที่รสชาติเปรี้ยวโดด ไม่ค่อยมันเท่าไหร่ แถมบางชิ้นกางติดมาชิ้นเบิ้มเลยด้วย
ส่วนทูน่ากับซาบะนี้แฟนอยากกินเลยติดมาด้วย แอบลองชิมดู ปรากฎว่าทูน่านี่รสเปรี้ยวอมเค็มอ่อนๆ และมีความคาวเลือดพอควร
ซาบะนั้นเนื้อแห้งไปหน่อยแม้จะมีความเปรี้ยวมันแบบเด่นชัด รวมๆแล้วจานปลาดิบ ไม่ค่อยว้าวเท่าใดนักครับ

ไม่ได้กินดิบ เอาแบบ คาปาชิโอ้ มาแทนก็ได้
แต่ซอสที่นี่เน้นพวกมายองเนส มิโสะ และสไปซี่ครีม ซึ่งแปลกตากว่าร้านอื่น
สำหรับแซลมอนนั้น ก็มาแบบซาซิมิเลย แล่มาชิ้นหนา มันนุ่มและหอมซอสทรัฟเฟิลแบบตะโกน ช่วยชูรสได้เยอะ
ส่วนฮามาจิก็ยังคงเปรี้ยวอยู่ กินกับพวกซอสมันๆ ดูดีขึ้นหลายขุม

ย่างๆเบื่อแล้ว มาที่ของทอดกันหน่อยดีกว่า
ช่วงที่ผมไปนอกจาก ฟัวกราแล้ว ยังมีปูชูไวให้ได้ลิ้มลองด้วย เลยจัดแบบทอดมาซะ
รสชาติเฉพาะตัวต่างจากปูม้าปูมะเลบ้านเราเยอะ ที่ชอบคือสามารถกัดแทะได้ทั้งเปลือกเลย
แต่ตรงปลายๆขาก็ต้องบ้วนทิ้งออกมาอยู่ดี
เส้นข้างๆนั่นคือ ปอเปี๊ยะกุ้งบด แต่ไส้ในไม่ได้มีแค่กุ้ง แต่เป็นกุ้งผสมแป้งและกลิ่นแบบพริกไทย กินๆไปนึกว่าหมูยอทอดเสียด้วยซ้ำ

สไปซี่แซลมอนโนริ เป็นแซลมอนสับห่อสาหร่ายแล้วไปชุบแป้งทอด ไส้ใน มันอมเปรี้ยวมายองเนสและปลาย ได้ความกรอบของสาหร่ายช่วยชูรสได้เยอะ

ลงย่างในเตะอันแสนเล็กจ้อยและร้อนแรง(เฉพาะตรงกลางนะ)

แฮมเบิร์กเนื้อท็อปไข่ลวก มาแบบแปลกตาอีกแล้ว เพราะเป็นเนื้อสับแบบรวนกะทะมาเลย
รสชาติก็ไม่เลวร้าย หวานเครื่องปรุงแบบพวกหมูสับผัดซอส แต่ถ้าใครหวังจะมากินแบบฟีลเหมือนเนื้อบดเบอร์เกอร์ คงจะผิดหวังเมื่อเจอแบบนี้

มื้อนี้ไม่ค่อยเน้นข้าวปั้น ก็เลยจัดของหนักท้องมาซักหน่อย
เป็นพาสต้าชูไวคานิ เส้นมีความหนืดซอส รสชีสผงเด่น ส่วนเนื้อปูที่เคียงมาด้วย มีรสน้ำเกลือเค็มกว่าแบบทอดเมื่อกี้
ไม่รู้ว่าอยู่ที่การปรุงหรือพันธุ์มันเปลือกนิ่มงี้อยู่แล้วเปล่านะ แต่ตัดแกะง่ายกว่าปูไทยเยอะ

อีกจานหนักท้อง คาโบนาร่าซอสศรีราชา มาครบทั้ง ชีสผง เบคอนและไข่ลวก พอยีรวมกันแล้ว
ได้รสชาติมันนัวผสานระหว่าง ไข่ ครีม และซอสศรีราชารสเปรี้ยวๆ

ยิ่งเมื่อมาคลุกกับชีสย่างและไข่กุ้ง จะยิ่งเพิ่มความกรุบกรอบและหอมมันเข้าไปอีก

พอเห็นว่าปูเเกะง่ายก็เอาสักหน่อย ไหนๆก็สั่ง พาสต้าปูมาและ เขาไม่แกะให้ก็แกะเองซะเลย มองๆไปแล้วยังกับเนื้อไก่ฉีกเลยอ่ะ

แล้วก็มาถึงเมนูที่รอคอย นั่นคือ ซูชิฟัวกราเบิร์น มันละลายในปากหอมนุ่มลึกเหมือนอย่างเคย
ซอสปรุงนั้นหวานไปหน่อย แต่มีดีตรงที่ข้าวไม่เยอะมาก และ รสชาติไม่เลี่ยนเท่าไหร่

รสชาติที่คิดถึงตลอดสามปี สมกับการรอคอยจริงๆกับเมนูนี้

ล้างปากกันด้วยของหวานเย็นๆ
มีทั้งไดฟุกุ ซึ่งไส้ช็อคโกแลตไม่ค่อยโดนเพราะรสแบบช็อคโกแลตเหรียญทั่วไป สู้รสนมที่หอมหวานมันนมไม่ได้เลย
กับอีกจานที่มาแบบล้มๆหน่อย คือ พุดดิ้งคาราเมล ที่ควรต้องเรียกว่า เยลลี่คาราเมลมากกว่า เพราะเนื้อสัมผัสเด้งแบบเยลลี่เป๊ะ
รสชาติหวานและเนื้อสัมผัสก็คล้ายกับเฉาก๊วย ที่ผสมกลิ่นคาราเมลเข้าไปจางๆและมีสีน้ำตาล แค่นั้น

ตัดเกรด
รสชาติอาหาร : ****
มีดีมีแย่คละเค้ากันไปครับ ซาซิมิไม่ค่อยโดนเท่าไหร่สำหรับที่นี่ การเตรียมก็ไม่ดีนัก มีก้างติดมาเยอะ เนื้อย่างถือว่าอร่อยคุณภาพดี มันหอมโดดเด่น
พวกของทอดโอเค ที่เด่นเลยคือพวกเครื่องปรุงและซอสทำได้ดีนะ ชูรสกลบคาวอาหารทะเลได้เยอะ ทั้งชีสและซอสต่างๆเอามายำรวมกับจานเส้น
และจิ้มกับอาหารทะเลได้รสชาติที่แปลกไปอีกแบบ ปูถือว่าสอบผ่าน แกะง่ายแม้ในตัวจะมีน้ำเยอะไปหน่อย ฟัวกราดีงามตามท้องเรื่องและสมมงมากๆ
ส่วนอันไหนที่บ๊วยสุดก็คงต้องยกให้ สัตว์เปลือกย่างหนึ่งเดียวที่สั่งมา ก็เจ้ากั้งนั่นแหละครับ

อร่อยมากสุด : ข้าวปั้นหน้าฟัวกรา
อร่อยน้อยสุด : กั้งกระดาน

บรรยากาศในร้าน : ***1/2
อีกหนึ่งข้อด้อยคือ ร้านมีความคับแคบมาก ทั้งเตา โต๊ะ และที่นั่ง ล้วนเล็กจ้อยไปหมด

การบริการ : ****1/2
แนะนำอาหารและเสิร์ฟของได้เร็วอยู่ ส่วนอย่างอื่นก็ตามมาตรฐานทั่วไป

ความหลากหลาย : *****
มีเป็นร้อยครับสำหรับอาหารของที่นี่ มาคนหรือสองคน ไม่มีทางกินหมดแน่ เพราะอิ่มเหรอ? เปล่า..สั่งไม่ทัน!

ราคา : 1/2
โหดอยู่นะครับอันนี้แม้จะแรงสมกับจำนวนเมนูและชนิดของอาหารก็เถอะ มากินบ่อยๆไม่ได้แน่

การเข้าถึง : *****
ร้านเห็นง่าย อยู่ตรงหัวมุมบันไดเลื่อนตรงกลางห้างเลยครับ

ความคุ้มค่า : ****1/2
โดยรวมก็ถือว่าโอเคตามราคาครับ มีอะไรให้เลือกกินเยอะดี เพียงแต่เมนูชูโรงเด่นๆอย่างพวกของทะเลปิ้งไม่โดนใจเท่าไหร่ ปูชูไวให้ผ่านก็จริง
แต่กินๆไปรสชาติก็ไม่ได้เลิศอะไรมาก พวกเนื้อย่างยังจะอร่อยเสียกว่า อีกจุดเสียร้ายกาจเลยคือ ขนาดร้านที่เล็กมากๆ และพอเป็นปิ้งย่างควันขึ้น
จะทำให้ร้อนอบอ้าวได้ง่าย และผมไปดูๆมา แต่ละสาขานี่ก็พื้นที่แคบทั้งสิ้น ใครมีเงินเหลือๆแล้วคิดอยากจะลองก็คงต้องทำใจในส่วนนี้หน่อยแหละครับ

ภาพรวม : ****