ตอน สารบัญการเดินทาง
https://pantip.com/topic/36521948
ตอนที่ 1 เยื้องย่างผ่านสิงคโปร์
https://pantip.com/topic/36523872
ตอนที่ 2 คืนเบาๆ ใน South Africa
https://pantip.com/topic/36528187
ตอนที่ 3 Soweto โลโก้สะท้อนการเหยียดสีผิว
https://pantip.com/topic/36533506
ตอนที่ 4 อลังการม่านน้ำตกในหน้าแล้งที่ Victoria Falls
https://pantip.com/topic/36539251
เมื่อคืนมีรูมเมทมาเพิ่มแต่เราไม่มีโอกาสทักทายเพราะหลับเป็นตายไปเรียบร้อย ที่รู้ๆ คือเธอตื่นตลอดทุกชั่วโมงมาเปิดแอร์บ้าง เปิดประตูบ้าง สุดท้ายก็เปิดประตูค้างไว้แล้วออกไปไหนไม่รู้ เรานอนตื่นมาอีกทีขาเรามีลาย Polka Dot อยู่เต็มขา (ยุงกัดอ่ะ)
วันนี้จะเป็นวันกิจกรรมของเราใน Zimbabwe เริ่มจากไป Rafting แล้วตามด้วยขึ้นเฮลิคอปเตอร์ดูน้ำตกจากมุมสูง ปิดท้ายด้วยล่องเรือชมชีวิตสัตว์ป่า รถมารับเราก่อนเจ็ดโมงเช้าและแวะรับคนอื่นๆ ก่อนไปที่ออฟฟิศเพื่อจ่ายเงิน และให้คนในเรือลำเดียวกันรู้จักกัน ที่นี่มีอาหารเช้าให้กินด้วย เราก็กินไปนิดหน่อย (เป็นเรื่องที่ไม่สมควรทำเป็นอย่างยิ่ง...ควรกินเยอะๆ เข้าไว้ เพราะกว่าจะจบทริปคือบ่ายสอง) จากนั้นก็ตรงไปยังจุด Start สำหรับ Rafting กันเลย
ทุกคนพร้อมกันที่รถ เพื่อที่จะไปยังจุด Rafting
ก่อนจะเริ่มเราต้องแต่งตัวให้เรียบร้อยก่อน และเก็บของมีค่าทุกอย่างเข้ากล่องเซฟ ถ้าจำไม่ผิดกล่องนี้มันจะไปล่องแก่งกับเราด้วย เราเลยมีโอกาสถ่ายรูปสุดท้ายแค่ตอนที่แต่งตัวเสร็จแล้วเท่านั้น ส่วนรูปขวานั้นเพื่อนในทริปที่มี GoPro ส่งกลับมาให้
ตอนแรกเราจะเริ่มจากหัดพายเรือ หัดตกน้ำ หัดช่วยกันขึ้นเรือ ในใจคิดมันคงไม่ได้ใช้จริงหรอก ทีมเรามีคู่รักออสซี่ 2 คน พ่อลูก Iceland 2 คน คู่สะใภ้ชาวแอฟิกาใต้ (อายุ 60 ปีแล้ว) สองคน แล้วก็เราอีกคน ดูอาการแล้วถ้าตกน้ำกันจะลำบาก เพราะมีผู้ชายวัยรุ่นแค่สองคน แต่ใครจะรู้ว่าแต่ละคนอึดถึกมากจริงๆ เราช่วยกันพายมาอย่างเรื่อยๆ เฉื่อยๆ มาเจอแก่งแรกๆ ก็เฉยๆ
จนกระทั่งด่านที่ 5 มันเริ่มเป็นด่านที่เชี่ยว แต่คนนำพายบอกเราว่าถ้าเราพายกันอย่างเต็มที่เราจะผ่านมันไปได้ ให้ฟังเค้าว่าใครต้องพายหน้าหรือหลัง ซ้ายหรือขวา และในที่สุดเราก็ทำมันได้ เย้ๆๆๆ เราหันกลับไปเห็นเรือลำหลังคว่ำ เราพายมาจนมาถึงด่านที่ 8 คนนำพายบอกมีทางเลือก 2 ทางคือ เรือไม่คว่ำแน่นอน โดยพาไปข้างๆ กับอีกทางคือพายผ่านแก่งตรงกลาง มีโอกาสคว่ำ 50/50 ซึ่งคำถามนี้เป็นคำถามเกรงใจ โยนการตัดสินใจกันไปมา สุดท้ายสาวออสซี่บอกว่าเรา 50/50 นั่นแหละ ทุกคนก็โอเคด้วยความซุปเปอร์เต็มใจ 555 มันเป็นกรุ๊ปที่ลงตัวจริงๆ ส่วนผลสรุปก็...คว่ำไปตามระเบียบ ถึงจะเปียก แต่ทุกคนกลับมีรอยยิ้มที่กว้างขึ้น เราฮึดกันมากขึ้นจนกระทั่งด่านที่เท่าไหร่ก็ไม่รู้ เรือเราก็คว่ำอีกแล้ว คราวนี้คว่ำแรง เราดำดิ่งลงไปลึกมาก แถมหัวกระแทกเข้ากับอะไรก็ไม่รู้ หมวกก็หลุดหายไปอีก พอโผล่มาอ้าว...หมวกเราไปอยู่อีกฝั่งของลำน้ำ มีคนขว้างกลับมาให้แต่เชือกมันขาดแล้ว ช่างมันเราต้องรีบปีนกลับขึ้นเรือก่อน พอหันกลับไปดูทำไมเรือหลังเราไม่คว่ำล่ะ? คำตอบที่ได้คือ มีผู้หญิงคนหนึ่งในกลุ่มร้องไห้แล้วบอกว่าห้ามทำเรือคว่ำอีก เอิ่ม...ถ้าเราอยู่เรือลำนั้นเราคงไม่สนุกอ่ะ
เราพายมาถึงปลายทาง เราลงจากเรือแล้วเงยหน้ามองหน้าผาชันๆ นี่ชั้นต้องปีนขึ้นไปหรอเนี่ย เวลานั้นคือบ่ายสองโมงแล้ว ร้อนและไม่มีอาหารตกถึงท้องเลย แถมยังต้องปีนเขาอีก เราแค่คิดในใจ แต่ป้าๆ สองคนถามหาบันไปเลื่อนเลย สาวออสซี่ได้ยินบอกว่า "ชั้นขอเป็นลิฟท์เลยได้ไหม?" สรุปทุกคนคิดแบบเดียวกัน แต่มันก็แค่ความคิด ความจริงคือเราต้องปีนขึ้นไป ไปกันได้ ¼ ของทาง คุณป้าสองคนจ้างผู้ชายแบกขึ้นหลัง ส่วนเรากัดฟันเดิน จนคนนำพายทนไม่ได้ต้องจูงมือเราแล้วลากขึ้นไป เพราะเราเดินช้ามาก ระหว่างทางมีแต่คนเดินแซงแล้วหันมาถามว่า “ใกล้ตายยัง?” นี่คือเค้าเป็นห่วงเราใช่ไหมนะ?
วิวจากด้านบน คือเราปีนขึ้นมาสูงและชันมาก แถมไม่ได้กินข้าวเช้าแบบจริงจังเข้าไป บอกเลยว่าเกือบเป็นลมตาย
กว่าจะลากสังขารมาถึงด้านบนก็เห็นทุกคนกำลังรอเราอยู่ พอถึงที่พักทุกคนคะยันคะยอให้เรากินข้าว แต่จุดนั้นคืออยากแค่น้ำจริงๆ เราคุยกันอย่างสนุกสนานสักพัก คุณป้าก็ถามถึงเป้าหมายต่อไปของเรา เราบอกจะไป Cape Town คุณป้าให้เบอร์ลูกสาวมาแล้วบอกว่าให้ลูกสาวป้าพาเที่ยวได้เลย เดี๋ยวจะโทรไปบอก แต่เราเกรงใจอ่ะ ส่วนออสซี่ก็เล่าว่าเธอไป Uganda มา ไปดูคิงคอง (อันนี้ความฝันตั้งแต่วัยเด็กของเราเลย) แต่ค่าดู USD600 อันนี้ขอให้มันเป็นแค่ฝันไปก่อนละกันนะ แล้วก็พูดคุยกันเรื่องอาหารเย็น เราได้ความรู้มาว่าที่ Burma Restaurant ในโรงแรมห้าดาว อาหารอร่อย สามารถดูพระอาทิตย์ตก พร้อมชมฝูงช้างมากินน้ำได้ แล้วเค้าตกลงจะไปกัน แต่เรามีกิจกรรมอื่นต่อจากนี้เราเลยไป Join ไม่ได้
ในที่สุดเราก็เดินถึงจุดพักด้านบน
ก่อนแยกย้ายจากกันเราก็ถ่ายรูปเป็นที่ระลึก
ระหว่างทางเราก็ชื่นชมธรรมชาติที่แห้งแล้งในแบบแอฟริกันกันไป
กลับจาก Rafting เรากลับมาอาบน้ำแล้วรอรถมารับตอนบ่าย 3 โมง เพื่อไปขึ้นเฮลิคอปเตอร์ มันคือครั้งแรกของชีวิตบนแมงปอเครื่อง ตื่นเต้นยิ่งกว่าสอบเข้ามหาวิทยาลัย เราจะได้ไปอยู่บนฟ้าแล้วมองลงมาเห็น Victoria Falls ชัดๆ ก็คราวนี้แหละ
บนเฮลิคอปเตอร์มีกล้อง Go Pro ติดไว้เก็บภาพเราแล้วขายในตอนท้าย เราได้นั่งกับกรุ๊ปป้าๆ จากญี่ปุ่นที่ดูตื่นเต้นมาก (แต่ไม่เท่าเรา) ถามว่าประทับใจมั๊ย? เราว่ามันตื่นเต้นช่วงแรก หลังจากนั้นก็ดูรีบๆ เพราะมีเวลาน้อยมากที่จะถ่ายรูปบนนั้น พอลงมาก็มีรูปเราแปะขายอยู่เยอะมาก แต่ละรูปหน้าก็บานมากเช่นกัน ป้าๆ ในกลุ่มเดียวกับเราบอกว่าเรา Kirei นะ น่าจะซื้อเก็บไว้ ตอนนั้นแทบจะเปลี่ยนใจกลับไปเหมารูปทั้งหมดเลยทีเดียว 555
กลังจากเฮลิคอปเตอร์เราไปต่อที่ Cruise อันนี้เข้าใจผิดไปเองคิดว่าเป็น Dinner Cruise จริงๆ มันแค่ Snack Cruise เพื่อดูชีวิตสัตว์ป่าริมน้ำในช่วงก่อนพระอาทิตย์ตก เราได้นั่งกับคู่รักชาวฝรั่งเศส เลยคุยกันเรื่อยๆ สักพักก็มีคนลุกฮือไปอีกมุมของเรือ เค้าบอกว่ามีฮิปโปเล่นน้ำอยู่ เราเลยรีบวิ่งไปดูแล้วก็ได้รูปมานิดหน่อย เพราะมันไม่ยอมโผล่จากน้ำเลย
เรือแล่นไปสักพักอีกฝั่งเราก็เห็นจระเข้ เห็นนก และฝูงช้าง ช้างค่อยๆ เดินออกมาทีละตัว มีทั้งเดินมาเป็นครอบครัว เดินมาสองตัว หรือเดินมาเป็นกลุ่ม มันออกมากินน้ำ เล่นทราย แล้วก็โป่งดินก่อนที่จะกลับเข้าป่าไปก่อนที่ตะวันจะลับขอบฟ้า
ขากลับเราขอให้รถไปส่งเราที่ร้านอาหารไทยชื่อ “น้ำตก” เราเลือกสั่งน้ำตกหมู เพราะมันน่าจะเป็นเมนูที่ไม่มีผัก แต่ตอนมาเสริฟนึกว่าเป็นสลัดหมูย่าง ผักเยอะมากจริงๆ แต่ที่เยอะกว่าคือข้าว กินคนเดียวแต่ให้มาเป็นกะละมัง เลยขอเปลี่ยนเป็นถ้วยเล็กๆ พอ พอเจ้าของร้านรู้ว่าเป็นคนไทยเลยออกมาคุยด้วย พี่เค้าถามว่านั่งสายการบินอะไรมา เราบอกว่า Flyafrica เค้าก็บอกว่าพี่เลิกนั่งไปแล้ว คิดจะยกเลิกเที่ยวบินก็ยกเลิก เราก็อมยิ้มแล้วตอบว่า “หนูคงไม่โชคร้ายอย่างนั้นมั๊งคะ”
กินเสร็จพี่เค้าไม่คิดเงินค่าข้าว คิดแต่ค่าอาหารกับน้ำ แถมยังให้พนักงานในร้านไปส่งกลับที่พักอีก เค้าบอกว่าดึกแล้วเดินคนเดียวอันตราย กลับมาถึงห้องแทบร้อง “ว้าววว” มีพัดลมด้วย รีบไปอาบน้ำ ซักผ้าแล้วมาเป่าผมนอนให้ชุ่มฉ่ำกับพัดลมเย็นๆ ดีกว่า
ลุยเดี่ยวเที่ยวทั่วโลก ฉบับ “บุกแอฟริกา 4 ประเทศ 17 วัน” ตอนที่ 5 เหนื่อยแค่ไหนไม่หวั่น ชีวิตต้องมันส์ให้สุด (Zimbabwe)
ตอน สารบัญการเดินทาง
https://pantip.com/topic/36521948
ตอนที่ 1 เยื้องย่างผ่านสิงคโปร์
https://pantip.com/topic/36523872
ตอนที่ 2 คืนเบาๆ ใน South Africa
https://pantip.com/topic/36528187
ตอนที่ 3 Soweto โลโก้สะท้อนการเหยียดสีผิว
https://pantip.com/topic/36533506
ตอนที่ 4 อลังการม่านน้ำตกในหน้าแล้งที่ Victoria Falls
https://pantip.com/topic/36539251
เมื่อคืนมีรูมเมทมาเพิ่มแต่เราไม่มีโอกาสทักทายเพราะหลับเป็นตายไปเรียบร้อย ที่รู้ๆ คือเธอตื่นตลอดทุกชั่วโมงมาเปิดแอร์บ้าง เปิดประตูบ้าง สุดท้ายก็เปิดประตูค้างไว้แล้วออกไปไหนไม่รู้ เรานอนตื่นมาอีกทีขาเรามีลาย Polka Dot อยู่เต็มขา (ยุงกัดอ่ะ)
วันนี้จะเป็นวันกิจกรรมของเราใน Zimbabwe เริ่มจากไป Rafting แล้วตามด้วยขึ้นเฮลิคอปเตอร์ดูน้ำตกจากมุมสูง ปิดท้ายด้วยล่องเรือชมชีวิตสัตว์ป่า รถมารับเราก่อนเจ็ดโมงเช้าและแวะรับคนอื่นๆ ก่อนไปที่ออฟฟิศเพื่อจ่ายเงิน และให้คนในเรือลำเดียวกันรู้จักกัน ที่นี่มีอาหารเช้าให้กินด้วย เราก็กินไปนิดหน่อย (เป็นเรื่องที่ไม่สมควรทำเป็นอย่างยิ่ง...ควรกินเยอะๆ เข้าไว้ เพราะกว่าจะจบทริปคือบ่ายสอง) จากนั้นก็ตรงไปยังจุด Start สำหรับ Rafting กันเลย
ทุกคนพร้อมกันที่รถ เพื่อที่จะไปยังจุด Rafting
ก่อนจะเริ่มเราต้องแต่งตัวให้เรียบร้อยก่อน และเก็บของมีค่าทุกอย่างเข้ากล่องเซฟ ถ้าจำไม่ผิดกล่องนี้มันจะไปล่องแก่งกับเราด้วย เราเลยมีโอกาสถ่ายรูปสุดท้ายแค่ตอนที่แต่งตัวเสร็จแล้วเท่านั้น ส่วนรูปขวานั้นเพื่อนในทริปที่มี GoPro ส่งกลับมาให้
ตอนแรกเราจะเริ่มจากหัดพายเรือ หัดตกน้ำ หัดช่วยกันขึ้นเรือ ในใจคิดมันคงไม่ได้ใช้จริงหรอก ทีมเรามีคู่รักออสซี่ 2 คน พ่อลูก Iceland 2 คน คู่สะใภ้ชาวแอฟิกาใต้ (อายุ 60 ปีแล้ว) สองคน แล้วก็เราอีกคน ดูอาการแล้วถ้าตกน้ำกันจะลำบาก เพราะมีผู้ชายวัยรุ่นแค่สองคน แต่ใครจะรู้ว่าแต่ละคนอึดถึกมากจริงๆ เราช่วยกันพายมาอย่างเรื่อยๆ เฉื่อยๆ มาเจอแก่งแรกๆ ก็เฉยๆ
จนกระทั่งด่านที่ 5 มันเริ่มเป็นด่านที่เชี่ยว แต่คนนำพายบอกเราว่าถ้าเราพายกันอย่างเต็มที่เราจะผ่านมันไปได้ ให้ฟังเค้าว่าใครต้องพายหน้าหรือหลัง ซ้ายหรือขวา และในที่สุดเราก็ทำมันได้ เย้ๆๆๆ เราหันกลับไปเห็นเรือลำหลังคว่ำ เราพายมาจนมาถึงด่านที่ 8 คนนำพายบอกมีทางเลือก 2 ทางคือ เรือไม่คว่ำแน่นอน โดยพาไปข้างๆ กับอีกทางคือพายผ่านแก่งตรงกลาง มีโอกาสคว่ำ 50/50 ซึ่งคำถามนี้เป็นคำถามเกรงใจ โยนการตัดสินใจกันไปมา สุดท้ายสาวออสซี่บอกว่าเรา 50/50 นั่นแหละ ทุกคนก็โอเคด้วยความซุปเปอร์เต็มใจ 555 มันเป็นกรุ๊ปที่ลงตัวจริงๆ ส่วนผลสรุปก็...คว่ำไปตามระเบียบ ถึงจะเปียก แต่ทุกคนกลับมีรอยยิ้มที่กว้างขึ้น เราฮึดกันมากขึ้นจนกระทั่งด่านที่เท่าไหร่ก็ไม่รู้ เรือเราก็คว่ำอีกแล้ว คราวนี้คว่ำแรง เราดำดิ่งลงไปลึกมาก แถมหัวกระแทกเข้ากับอะไรก็ไม่รู้ หมวกก็หลุดหายไปอีก พอโผล่มาอ้าว...หมวกเราไปอยู่อีกฝั่งของลำน้ำ มีคนขว้างกลับมาให้แต่เชือกมันขาดแล้ว ช่างมันเราต้องรีบปีนกลับขึ้นเรือก่อน พอหันกลับไปดูทำไมเรือหลังเราไม่คว่ำล่ะ? คำตอบที่ได้คือ มีผู้หญิงคนหนึ่งในกลุ่มร้องไห้แล้วบอกว่าห้ามทำเรือคว่ำอีก เอิ่ม...ถ้าเราอยู่เรือลำนั้นเราคงไม่สนุกอ่ะ
เราพายมาถึงปลายทาง เราลงจากเรือแล้วเงยหน้ามองหน้าผาชันๆ นี่ชั้นต้องปีนขึ้นไปหรอเนี่ย เวลานั้นคือบ่ายสองโมงแล้ว ร้อนและไม่มีอาหารตกถึงท้องเลย แถมยังต้องปีนเขาอีก เราแค่คิดในใจ แต่ป้าๆ สองคนถามหาบันไปเลื่อนเลย สาวออสซี่ได้ยินบอกว่า "ชั้นขอเป็นลิฟท์เลยได้ไหม?" สรุปทุกคนคิดแบบเดียวกัน แต่มันก็แค่ความคิด ความจริงคือเราต้องปีนขึ้นไป ไปกันได้ ¼ ของทาง คุณป้าสองคนจ้างผู้ชายแบกขึ้นหลัง ส่วนเรากัดฟันเดิน จนคนนำพายทนไม่ได้ต้องจูงมือเราแล้วลากขึ้นไป เพราะเราเดินช้ามาก ระหว่างทางมีแต่คนเดินแซงแล้วหันมาถามว่า “ใกล้ตายยัง?” นี่คือเค้าเป็นห่วงเราใช่ไหมนะ?
วิวจากด้านบน คือเราปีนขึ้นมาสูงและชันมาก แถมไม่ได้กินข้าวเช้าแบบจริงจังเข้าไป บอกเลยว่าเกือบเป็นลมตาย
กว่าจะลากสังขารมาถึงด้านบนก็เห็นทุกคนกำลังรอเราอยู่ พอถึงที่พักทุกคนคะยันคะยอให้เรากินข้าว แต่จุดนั้นคืออยากแค่น้ำจริงๆ เราคุยกันอย่างสนุกสนานสักพัก คุณป้าก็ถามถึงเป้าหมายต่อไปของเรา เราบอกจะไป Cape Town คุณป้าให้เบอร์ลูกสาวมาแล้วบอกว่าให้ลูกสาวป้าพาเที่ยวได้เลย เดี๋ยวจะโทรไปบอก แต่เราเกรงใจอ่ะ ส่วนออสซี่ก็เล่าว่าเธอไป Uganda มา ไปดูคิงคอง (อันนี้ความฝันตั้งแต่วัยเด็กของเราเลย) แต่ค่าดู USD600 อันนี้ขอให้มันเป็นแค่ฝันไปก่อนละกันนะ แล้วก็พูดคุยกันเรื่องอาหารเย็น เราได้ความรู้มาว่าที่ Burma Restaurant ในโรงแรมห้าดาว อาหารอร่อย สามารถดูพระอาทิตย์ตก พร้อมชมฝูงช้างมากินน้ำได้ แล้วเค้าตกลงจะไปกัน แต่เรามีกิจกรรมอื่นต่อจากนี้เราเลยไป Join ไม่ได้
ในที่สุดเราก็เดินถึงจุดพักด้านบน
ก่อนแยกย้ายจากกันเราก็ถ่ายรูปเป็นที่ระลึก
ระหว่างทางเราก็ชื่นชมธรรมชาติที่แห้งแล้งในแบบแอฟริกันกันไป
กลับจาก Rafting เรากลับมาอาบน้ำแล้วรอรถมารับตอนบ่าย 3 โมง เพื่อไปขึ้นเฮลิคอปเตอร์ มันคือครั้งแรกของชีวิตบนแมงปอเครื่อง ตื่นเต้นยิ่งกว่าสอบเข้ามหาวิทยาลัย เราจะได้ไปอยู่บนฟ้าแล้วมองลงมาเห็น Victoria Falls ชัดๆ ก็คราวนี้แหละ
บนเฮลิคอปเตอร์มีกล้อง Go Pro ติดไว้เก็บภาพเราแล้วขายในตอนท้าย เราได้นั่งกับกรุ๊ปป้าๆ จากญี่ปุ่นที่ดูตื่นเต้นมาก (แต่ไม่เท่าเรา) ถามว่าประทับใจมั๊ย? เราว่ามันตื่นเต้นช่วงแรก หลังจากนั้นก็ดูรีบๆ เพราะมีเวลาน้อยมากที่จะถ่ายรูปบนนั้น พอลงมาก็มีรูปเราแปะขายอยู่เยอะมาก แต่ละรูปหน้าก็บานมากเช่นกัน ป้าๆ ในกลุ่มเดียวกับเราบอกว่าเรา Kirei นะ น่าจะซื้อเก็บไว้ ตอนนั้นแทบจะเปลี่ยนใจกลับไปเหมารูปทั้งหมดเลยทีเดียว 555
กลังจากเฮลิคอปเตอร์เราไปต่อที่ Cruise อันนี้เข้าใจผิดไปเองคิดว่าเป็น Dinner Cruise จริงๆ มันแค่ Snack Cruise เพื่อดูชีวิตสัตว์ป่าริมน้ำในช่วงก่อนพระอาทิตย์ตก เราได้นั่งกับคู่รักชาวฝรั่งเศส เลยคุยกันเรื่อยๆ สักพักก็มีคนลุกฮือไปอีกมุมของเรือ เค้าบอกว่ามีฮิปโปเล่นน้ำอยู่ เราเลยรีบวิ่งไปดูแล้วก็ได้รูปมานิดหน่อย เพราะมันไม่ยอมโผล่จากน้ำเลย
เรือแล่นไปสักพักอีกฝั่งเราก็เห็นจระเข้ เห็นนก และฝูงช้าง ช้างค่อยๆ เดินออกมาทีละตัว มีทั้งเดินมาเป็นครอบครัว เดินมาสองตัว หรือเดินมาเป็นกลุ่ม มันออกมากินน้ำ เล่นทราย แล้วก็โป่งดินก่อนที่จะกลับเข้าป่าไปก่อนที่ตะวันจะลับขอบฟ้า
ขากลับเราขอให้รถไปส่งเราที่ร้านอาหารไทยชื่อ “น้ำตก” เราเลือกสั่งน้ำตกหมู เพราะมันน่าจะเป็นเมนูที่ไม่มีผัก แต่ตอนมาเสริฟนึกว่าเป็นสลัดหมูย่าง ผักเยอะมากจริงๆ แต่ที่เยอะกว่าคือข้าว กินคนเดียวแต่ให้มาเป็นกะละมัง เลยขอเปลี่ยนเป็นถ้วยเล็กๆ พอ พอเจ้าของร้านรู้ว่าเป็นคนไทยเลยออกมาคุยด้วย พี่เค้าถามว่านั่งสายการบินอะไรมา เราบอกว่า Flyafrica เค้าก็บอกว่าพี่เลิกนั่งไปแล้ว คิดจะยกเลิกเที่ยวบินก็ยกเลิก เราก็อมยิ้มแล้วตอบว่า “หนูคงไม่โชคร้ายอย่างนั้นมั๊งคะ”
กินเสร็จพี่เค้าไม่คิดเงินค่าข้าว คิดแต่ค่าอาหารกับน้ำ แถมยังให้พนักงานในร้านไปส่งกลับที่พักอีก เค้าบอกว่าดึกแล้วเดินคนเดียวอันตราย กลับมาถึงห้องแทบร้อง “ว้าววว” มีพัดลมด้วย รีบไปอาบน้ำ ซักผ้าแล้วมาเป่าผมนอนให้ชุ่มฉ่ำกับพัดลมเย็นๆ ดีกว่า