ลุยเดี่ยวเที่ยวทั่วโลก ฉบับ “บุกแอฟริกา 4 ประเทศ 17 วัน” ตอนที่ 2 คืนเบาๆ ใน South Africa

ตอน สารบัญการเดินทาง
https://pantip.com/topic/36521948
ตอนที่ 1 เยื้องย่างผ่านสิงคโปร์
https://pantip.com/topic/36523872


“ขณะนี้เครื่องกำลังลดระดับเพื่อลงจอด ณ สนามบิน......” เสียงแอร์โฮสเตสบนเครื่องกระชากเราออกจากฝัน เราลุกจากเก้าอื้เหมือนร่างไร้วิญญาณเดินตามฝูงชนเข้าไปยังตัวอาคาร ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่เรามาเยือนสนามบินอาบูดาบี ตอนนี้เที่ยงคืนกว่า ถ้าหาที่นอนได้มันจะเจ๋งมากๆ เพราะไฟล์ต่อไปของเราคือ 9.30 น ความอยากรู้และอยากนอนเราจึงพาตัวเองไปถามราคาโรงแรม (USD90/3hrs) และ lounge (USD40/2hrs) พอรู้ราคาปุ๊บ กราบลาทันที (หนูนี้ไม่มีปัญญาจ่ายค่ะ)

เราเลยเดินไป counter transit เพื่อสอบถามว่าเราจะเอาร่างไปสิงสถิตย์ที่ไหนได้บ้าง พนักงานก็น่ารักมากให้คูปองทานอาหาร 2 ใบ แล้วบอกว่าเราต้องไปต่อเครื่องที่ T2 แต่ถ้าอยากอาบน้ำสามารถไปที่ T3 ได้ ด้วยความขี้เกียจบวกกับความง่วงนอนเลยเอาแค่ไปห้องน้ำล้างหน้า แปรงฟัน ซักแห้ง แล้วไปนั่งรอพร้อมชาร์ตแบตมือถือที่ T2 นั่งรอคือนั่งจริงๆ เพราะนอนไม่หลับแล้ว กว่าจะมางีบบหลับก็เกือบ 7 โมงเช้า รู้ตัวอีกทีเลยเดินสำรวจจนมาถึง Gate ปรากฎว่าแถวนั้นมีเข้าอี้ยาวแบบเอนนอนได้วางเรียงรายไว้ โอเคค่ะ...หนูพลาดไปแล้ว ขากลับมาได้ใช้บริการแน่นอน!

คูปองอาหารฟรีที่ได้มาก็ไม่รู้จะกินอะไร เอาที่ basic ดีกว่าเพราะไม่มีห้องน้ำส่วนตัว ณ เวลานี้

พอขึ้นเครื่องปุ๊บเราคิดว่าจะหลับ แต่พนักงานเสริฟอาหารอีกแล้ว ของฟรีนี่ก็ไม่อยากพลาด พอกินเสร็จคราวนี้เลยนอนไม่หลับแล้ว ดูการ์ตูนยาวๆ ไป 3 เรื่องจนเครื่องถึง Johannesburg ตอนผ่านตม. เราเจอคนจีนแซงเรา!!! เป็นปกติคงต้องวางมวยกันแล้ว (เวอร์ไปหน่อย) แต่นี่คือแอฟริกาใต้ไม่ใช่บ้านชั้น และชั้นยังไม่ผ่านตม. เลยได้เคยเหยียดตามองแล้วปล่อยผ่านไป พอรับกระเป๋าเสร็จเดินออกมาเจอเจ้าหน้าที่ตำรวจสองคนรอดักอยู่ซ้ายมือ ส่วนขวามือเป็นเครื่องสแกนที่เค้าปล่อยให้เราผ่านไป เราได้ยินมาว่าตำรวจพวกนี้จะพยายามให้เราเปิดกระเป๋าแล้วรีดไถ ซึ่งกระเป๋าแบ็คแพคเรารัดด้วยลวดเหล็กจะเปิดก็ลำบาก พาสปอร์ตเราวางไว้ด้านนอกสุด ส่วนเงินไม่เก็บไว้ในกระเป๋าไหนทั้งนั้น รัดเอาไว้แนบตัว สรุปแล้วเจ้าหน้าที่ไม่ได้อะไรจากเราไปค่ะ (รู้สึกถึงชัยชนะเล็กๆ)
(พี่ที่รู้จักเล่าว่าน้องเค้าโดนเอากระเป๋าตังค์ไปค้นกะรีดไถเต็มที่ แต่ในนั้นดันมีแต่แบงค์ไทยตำรวจเลยไม่เอา บอกจะเอา USD หรือ  Zar ก็ได้ พอเค้าบอกไม่มีเลยยอมปล่อยตัวไป)

พอถึงสนามบินก็จะมีช้างมารอรับแบบนี้ (ตอนนี้ยังจะอยู่ดีมั๊ยก็ไม่รู้)


ตอนนี้ก็หา Taxi เพื่อไปโรงแรม จริงเรียกข้างนอนกเป็น Taxi meter ราคาน่าจะอยู่ที่ 350 แลน  แต่เราโดนน้องชายไซโคมาเยอะมากก่อนมา แล้วทริปนี้เป็นแอฟริกาทริปแรกเราเลยแอบกลัวเล็กๆ เลยว่าไปหารถ Taxi ที่เป็นบริษัททัวร์ดีกว่า แล้วให้เค้าพาทัวร์ Soweto วันรุ่งขึ้น พร้อมให้เค้ามาส่งที่สนามบินในวันนั้นเลย โดยรวมเราจ่ายไป 1,500 แลน

เราพักในโรงแรมแถว Sandton ราคาพันกว่าบาท น่าจะเป็นโรงแรมที่ดูดีที่สุดในทริปนี้ของเราแล้ว แต่ตอนเช็คอิน “มาดามคะ...ไม่มีบุกกิ้งของมาดามค่ะ” Oh… ไม่นะคะ จุดนี้มาดามอยากอาบน้ำค่ะ ไม่อยากวิ่งหาโรงแรมใหม่ สรุปว่าในบุกกิ้งเป็น นามสกุล + ตัวอักษรแรกในชื่อเรา ไม่ได้ขึ้นต้นด้วยชื่อเหมือนพาสปอร์ต ในที่สุดมาดามก็มีที่ซุกหัวนอนคืนนี้ค่ะ พอได้กุญแจห้องก็ขออาบน้ำให้สมใจอยาก จากนั้นก็ทิ้งตัวลงนอน


ขณะที่เปลือกตากำลังจะปิดก็มีเสียงแว่วข้างหู “หล่อนจะไม่ออกไปเที่ยวหรือไงยะ บินมาตั้งไกลจะมานอนง่ายๆ อย่างนี้อ่ะนะ?” นั่นสินะ ชั้นมาเที่ยวหนิ!!! โทรสอบถามโรงแรมได้ความว่าจะมีรถบัส “ฟรี...ฟรี ...ฟรี...ฟรี (เสียงเอคโค่ดังในหู)” ไปMandala Square ตอนทุ่มครึ่ง ด้วยความที่ไม่ตื่นเต้นเล๊ยยยย เลยลงมารอรถตั้งแต่ทุ่มตรง

ที่ Mandela Square จะมีรูปปั้นขนาดใหญ่ของ Nelson Mandela ตั้งอยู่ สองข้างเป็น Cafeและร้านอาหารที่ดูน่านั่งทุกร้าน ส่วนอีกด้านเป็น Shopping Mall แต่ตอนที่ไป Shopping Mall เริ่มปิดแล้ว เราเลยเดินดูว่ามีร้านอาหารอะไรบ้าง สุดท้ายเราจบที่ Steak ที่ราคา 140 แลน รสชาตโอเคเลย แต่ทำไมมันฝรั่งมันต้มเปรี้ยวๆ ก็ไม่รู้ (มารู้ตอนหลังว่าที่นี่เค้านิยมกินกันแบบนี้ แต่เราไม่นิยมด้วยอ่ะ)


ประมาณ 3 ทุ่มมีรถบัสคันเดิมกลับมารับเรา จุดนัดรับเป็นอะไรที่ค่อนข้างวุ่นวาย เพราะมีคนมากมายมารอรถจากโรงแรมตัวเองมารับ แถมฝนก็ตกอีก สำหรับบบเราฝนไม่ใช่ปัญหา ณ ตอนนี้ปัญหาคือ เราลืมจำทะเบียนรถ จำรุ่นไม่ได้ หน้าคนขับยิ่งจำไม่ได้ใหญ่ จำได้แต่สีขาว (แต่ทุกคนแถวนั้นก็ขาวหมด) แต่ไม่เป็นไร เป็นคนชอบถาม เลยถามทุกคันที่มาจอดว่าใช่ของโรงแรมเรามั๊ย ถ้าใครอยู่ตรงนั้นวันนั้นจะเห็นผู้หญิงเอเชียเตี้ยๆ คนหนึ่งวิ่งเข้าหาผู้ชายทุกคนที่ขับรถตู้มาบริเวณนั้น ช่างดูก๋ากั่น แต่จริงๆ คือเป็นคนมีปัญหาเรื่องจำรถและคนมากกว่า

ในที่สุดรถก็มาส่งเราที่โรงแรม หลังจากนั้นก็หลับเป็นตายยันเช้า เพราะไม่ได้นอนสะสมมานาน

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่