ลุยเดี่ยวเที่ยวทั่วโลก ฉบับ “บุกแอฟริกา 4 ประเทศ 17 วัน” ตอน สารบัญการเดินทาง

สวัสดีค่ะ หลังจากที่รีวิวทริป Ethiopia จบไป (อย่างลุ่มๆ ดอนๆ) ตอนนี้ก็เกิดแรงฮึดอยากงัดทริปเก่าที่เคยไปเที่ยวมาเมื่อปี 2015 มารีวิวให้เพื่อนๆ พันทิปได้อ่านกันค่ะ โดยครั้งนี้เราไปเที่ยวทั้งหมด 4 ประเทศ (+1) คือ South Africa, Zimbabwe, Zambia, Lesotho เป้าหมายหลักของเราคือ Victoria Falls & Sani Pass

อ่านทริปเอธิโอเปียได้ใน : https://pantip.com/topic/36464768

ที่มาของทริปนี้

เราเชื่อว่าหลายคนที่เสพติดการท่องเที่ยวจะต้อง Like Page ที่แจ้งโปรโมชั่นตั๋วอย่างน้อย 2 Pages เราก็เป็นหนึ่งในนั้น แล้ววันหนึ่งที่เรากำลังตั้งใจทำงานอยู่ ก็มีโปรฯ ตั๋วเครื่องบิน Etihad บินจาก Singapore ไป Johannesburg และบินกลับกรุงเทพฯ ในราคา 18,000 บาท โผล่ขึ้นมา!!! (ทำงานแต่เห็นโพสในเฟสได้ไง?)  ในตอนนั้นคือคิดว่าถูก ต่อให้ต้องเสียตังค์ค่าตั๋วจากกรุงเทพฯ ไปสิงคโปร์ก็ยังถือว่าถูก (แต่เดี๋ยวนี้เหมือนมีโปรเยอะกว่า ถูกกว่า บินออกจากไทยอีกต่างหาก) ณ ห้วงเวลานั้นความรู้สึกเหมือนโดนยาป้าย (ซึ่งเค้าว่ากันว่าไม่มี) มันเริ่มเบลอๆ มึนๆ เปิดปฏิทินนับวันลาทั้งหมดที่ยังเหลือ แล้วกดปุ่มซื้อทันที ส่วนแผนการเที่ยวน่ะเหรอ.....ยังไม่มี 555 คติประจำใจคือ “มีตั๋วเมื่อไหร่ เดี๋ยวแผนมาเอง”  

ขั้นตอนการวางแผน

พอได้ตั๋วก็วางแผนค่ะ ซื้อหนังสือมาอ่าน เปิดเนทดูแล้วจิ้มๆ ดูว่าอยากไปไหนบ้าง แล้วเหมือนความอยากที่ไม่มีเป้าหมายมันสะเปสะปะมาก อยากไปทั้ง South Africa, Swaziland, Lesotho แต่พอเห็นน้ำตก Victoria Falls ก็อยากไปอีก!!! แต่ต้องมีสติค่ะ เวลา 17 วันจะไปทุกที่ไม่ได้ค่ะ ดังนั้นต้องตัดทิ้งไปบ้างเราเลยได้ข้อสรุปได้คร่าวๆ ว่าอยากไปตามด้านล่างนี้
                     •    Soweto-Johannesburg, South Africa
                     •    Cape Town,  South Africa
                     •    Sani Pass, South Africa / Lesotho
                     •    ล่า Big 5, South Africa
                     •    Victoria Falls, Zambia/Zimbabwe
                     •    Lesotho

วีซ่า

พอรู้แล้วว่าอยากไปไหน คราวนี้ก็มาทำ Visa กันต่อ แน่นอนว่าคนไทยไม่ต้องทำวีซ่าไป South Africa แต่อีก 3 ประเทศที่เหลือคือต้องทำ

                     •    วีซ่า Zambia ทำที่หน้าด่าน (น้ำตก Victoria falls) เลย จ่าย USD50 รอตรายางปั้มๆ เขียนฉึกๆ  ก็เข้าประเทศได้เลย


                     •    วีซ่า Zimbabwe ทำออนไลน์ได้ ง่ายมาก

1.    ลงทะเบียน


2.    ใส่ข้อมูลในส่วนของหมายเลขหนังสือเดินทาง, สัญชาติ, วัตถุประสงค์การท่องเที่ยว, ส่วนอันสุดท้ายแล้วแต่ว่าจะทำแบบรอบเดียวหรือ สองรอบ สำหรับเราทำแบบ Double Entry เพราะเราพักที่ Zimbabwe เป็นหลัก แล้วเดินข้ามแดนไปฝั่ง Zambia หนึ่งวันค่ะ


3.    หน้านี้จะแจ้งว่าเราต้องเตรียมเอกสารอะไรบ้าง เพราะพอถึงหน้าสุดท้ายเราต้อง upload ค่ะ ในส่วนของ Proof of residence in country of origin เราส่งบัตรประชาชน และสำเนาทะเบียนบ้านไปค่ะ เมื่อสองปีที่แล้วต้องใส่ "Letter of invitation from host in Zimbabwe" และ "Proof of residence from host"เรางงว่ามันคือะไรเลยส่งเมล์ไปถามแบบเปิ่นๆ ค่ะ คำตอบที่ได้มาคือ “คุณคะ...คุณสอบถามเรื่องวีซ่าของ Zimbabwe ใช่ไหมคะ? แต่อีเมล์นี้เป็นของสถานฑูต Swaziland ค่ะ” โดยสรุปแล้วเลยไม่ต้องส่งเมล์ไปถามใครอีก กลัวส่งผิดอีกค่ะ อ๊าย อาย เลยใส่ Booking Confirmation จากโรงแรมไปแทนค่ะ


4.    อันนี้ใส่ประวัติส่วนตัวค่ะ


5.    กรอกที่อยู่ของเราด้านบน และที่อยู่ที่เราจะไปอยู่ด้านล่าง ส่วนด้านขวา โสดใสๆ ไม่ต้องไปใส่ใจค่ะ


6.    กรอกข้อมูลการเดินทางค่ะ ว่าเราไปทำไม, เข้าที่ด่านไหน, ข้อมูลหนังสือเดินทาง และวันที่เราคาดว่าจะเดินทางไปถึง


7.    ถ้ายื่นคนเดียว ตรงนี้ continue ไปได้เลยค่ะ ไม่แน่ใจว่ายื่นเผื่อคนอื่นต้องกดที่ Add Dependent ต่อหรือเปล่า


8.    อัพโหลดเอกสารในข้อ 3 ที่เราเตรียมไว้แล้ว


9.    เมื่อเรียบร้อยแล้วก็ Submit เลยจ้า

ค่าวีซ่าออนไลน์อยู่ที่ USD45 แต่ถ้า Apply ผ่านสถาฑูตที่มาเลเซีย จะเสียแค่ USD30 ค่ะ แต่เราไม่สามารถเลือกแบบหลังได้เพราะเรารักพาสปอร์ตเรามากกกกก ไม่อาจให้ห่างหายจากกายไปได้เกิน 10 วัน (เรามีเวลาอยู่ไทยเดือนละแค่ 10 วันในช่วงนั้นค่ะ)

หลังจากยื่นออนไลน์แล้วก็รอๆๆๆๆ ประมาณ 5-10 วันก็จะได้รับจดหมายตอบกลับว่า "วีซ่าคุณผ่านนะจ๊ะ....เตรียมเงิน USD45 ไปจ่ายที่หน้าด่านด้วย" จดหมายหน้าตาตามรูปด้านล่าง

จากนั้นเราก็พกกระดาษใบนี้ไว้พร้อมเงิน USD45 แล้วไปยื่นให้ตม. ที่สนามบิน จากนั้นตม. เอาสติ๊กเกอร์วีซ่ามาแปะๆ รูดๆ ขีดๆ เขียนๆ แล้ว Stamp ตราให้เราผ่านเข้าไปได้


                     •    วีซ่า Lesotho อันนี้หนักใจสุด ข้อมูลน้อยสุด ปวดหัวสุด และพบว่าเจ้าหน้าที่คนไทยใจดีสุดๆ  (ค่าวีซ่า 5,000 บาท)

เอกสารที่ต้องเตรียม
1.    Completed application.
2.    A valid passport - Valid of not less than six months.
3.    2 passport size photos.
4.    Confirmed return Air ticket's copy.
5.    For private visit to Lesotho, submit an invitation letter from Lesotho with full contact details, duration of visit and banks statement for the last three months.
6.     For diplomatic and official visits please submit invitation or deputation letter.
7.    For tourists, submit the copy of bank statement for the last three months and a letter from host and or hotel confirmation.
8.    For employment, Letter of Offer of Employment from Lesotho and copy of a work permit should be submitted.
9.    Visa processing fee is BHT 5,000 for single entry (1-5 passports), BHT 6,000 (more than 5 passports) upon visa approval.


มหากาพย์วีซ่า Lesotho

อย่างที่บอกไปว่าเรามีเวลาอยู่ไทยแค่เดือนละ 10 วัน ดังนั้นการส่งพาสปอร์ตไทยไปยังมาเลเซียเพื่อทำวีซ่า 10 วัน และรอทางนั้นส่งกลับมาจึงเป็นไปไม่ได้ การติดต่อกับเจ้าหน้าที่ของ Lesotho ที่มาเลเซียค่อนข้างมีปัญหาเพราะกว่าจะส่งอีเมล์ตอบกลับแต่ละครั้งก็ใช้เวลา 2-3 วัน แล้วยังมาเจอการสับเปลี่ยนเจ้าหน้าที่กลางคัน เลยเหมือนต้องเริ่มนับศูนย์ใหม่ จากเดิมที่คิดว่าเริ่มติดต่อล่วงหน้า 2 เดือนกว่าก่อนเดินทางเป็นเวลาที่กำลังเหมาะ แต่แล้วผ่านไปครึ่งเดือนก็ไม่คืบหน้า ตอนนี้เริ่มร้อนรนขึ้นมา เราเลยลองหาว่าที่ไทยมีกงสุลกิตติมศักดิ์ไหม เพราะนายเก่าเราก็เป็นทูตกิตติมศักดิ์ของประเทศเล็กๆ ประเทศหนึ่งในแอฟริกา เราเลยว่าเลโซโทก็น่าจะมีแหละน่า และแล้วเหมือนสววรค์มีตา ความพยายามเป็นผล เราจึงรีบติดต่อไปยังเบอร์โทรศัพท์ที่ปรากฏบนเวปไซต์ เจ้าหน้าที่เลยให้เบอร์ติดต่อมา ทางกงสุลกิตติมศักดิ์ให้เราส่งสแกนเอกสารทั้งหมดส่งทางอีเมล์เพื่อตรวจสอบ หลังกจากเรียบร้อยแล้วเราก็รอเวลาเรากลับประเทศไทยเพื่อส่งมอบพาสปอร์ตและรูปถ่าย 2 รูป และได้พาสปอร์ตพร้อมวีซ่ากลับมาในเวลาเพียง 5 วันหลังจากที่ส่งมอบพาสปอร์ตไป ในที่สุดเราก็ได้ไป Lesotho สมใจ
ต้องขอกราบขอบพระคุณกงสุลกิตติมศักดิ์เลโซโทประจำประเทศไทยมา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ (ขออภัยที่ขอบคุณผ่านสื่อช้าไปเกือบ 2 ปี)

ก่อนได้วีซ่ามาเหมือนมีการสัมภาษณ์เล็กน้อยทางโทรศัพท์
กงสุล: คุณจะไปทำไม?
เรา: ไปเที่ยวค่ะ
กงสุล: แค่ Sani Pass หรือเปล่า ถ้าใช่ไม่ต้องขอวีซ่าก็ได้นะครับ
เรา: ไม่ค่ะ เข้าไปเที่ยวข้างในสองสามวัน
กงสุล: ………………มันมีอะไรให้เที่ยว?????...................

นั่นสินะ! มันมีอะไรให้เที่ยว? เราเข้าใจอารมณ์ของท่านนะ เพราะมันไม่ใช่ประเทศท่องเที่ยว ไม่ได้มีแหล่งท่องเที่ยวที่สวยงามจับใจ แต่เราอยากรู้ว่า Lesotho เป็นยังไง ไม่เคยเห็นในสื่อที่ไหนมาก่อน แล้วเป็นประเทศที่ถูกล้อมด้วย South Africa นั่นหมายถึงถ้าครั้งนี้เรามา South Africa แล้วเราไม่เข้ามาที่นี่ มันคงไม่มีโอกาสที่เราจะตรงมาเที่ยวที่นี่โดดๆ แน่นอน

วันรับพาสปอร์ต
วันนี้เราไปรับพาสปอร์ตตามที่นัดหมายไว้คือช่วงเย็น แต่รับกับพนักงานของที่นั่น
เรา: สวัสดีค่ะ หนูมารับพาสปอร์ตค่ะ
คุณป้า: หนูคนที่จะไป Lesotho คนเดียวหรอจ๊ะ?
เรา:  ค่ะ
คุณป้า: ป้าคิดว่าผู้หญิงเที่ยวคนเดียวต้องรูปร่างบึกบืนซะอีก
เรา: ยิ้มเบาๆ (ถึงหนูจะไม่บึกบึน แต่หนูก็เตี้ยตันนะคะป้า.....คุณสมบัติไม่ต่างกับบึกบึนเท่าไหร่ 555)

เขียนไม่พอ..ขอต่อในคอมเม้นท์นะคะ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่