ทำงานมา 4 ปี ค้นพบอะไรบ้าง?

สวัสดีครับ เนื่องด้วยวันนี้เป็นครบรอบ 4 ปี ที่ผมเริ่มต้นชีวิตการทำงานมนุษย์เงินเดือนมา (เริ่มต้นเมื่อ 1 มิถุนายน 2013)
วันนี้จึงอยากมาเล่าให้ทุกคนฟังครับ ว่าผมค้นพบ และเห็นสัจธรรมในชีวิตอะไรบ้าง

ผมอยู่ในยุคของการที่มีแต่คนพูดถึงการเป็นนายตัวเอง โดยให้ลาออกมาทำกิจการของตัวเอง หรือการทำ startup และจะสามารถเห็นข้อความเกี่ยวกับข้อเสียของการเป็นมนุษย์เงินเดือนได้เป็นประจำ ผมคงไม่ขอแสดงความคิดเห็นขัดแย้งเกี่ยวกับข้อความเหล่านั้น ซึ่งบุคคลที่ได้ออกมาเป็นนายตัวเองแล้วประสบความสำเร็จนั้น ผมก็ยินดีด้วย คุณเก่งมากๆครับ

ผมเองก็เป็นคนหนึ่งซึ่งเคยเห็นด้วยกับความคิดเห็นเหล่านี้ และพยายามที่จะออกจากวงจรการเป็นลูกจ้าง เพื่อหาทางออกมา แต่สุดท้ายผมก็ตัดสินใจที่จะไม่ออก เพราะอะไรหละ? เดี๋ยวผมจะเล่าให้ฟัง

เหตุผลหลักๆ ก็คือ ผมคิดว่าตัวผมเองนั้นยังต้องเรียนรู้อีกมากกว่าที่จะออกมาเป็นนายตัวเองได้ (ว่าง่ายๆก็ยังไม่แกร่งพอนั่นแหละ) แต่การที่จะออกมาเพื่อเรียนรู้ให้ตัวเองแกร่งพอ มันคงไม่สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ (เพราะชีวิตนั้นมีรายจ่าย ไหนจะค่าอาหาร ค่าเดินทาง ค่าอุปกรณ์ประกอบอาชีพ และยังอีกมากมาย)

ผมจึงเริ่มต้นคิดว่า จะมีทางไหนที่จะทำให้ผมสามารถเรียนรู้ได้ และได้เงินดำรงชีพไปพร้อมๆกัน.. แล้วผมก็ค้นพบแล้วว่าการเป็นมนุษย์เงินเดือนนี่หละ ที่คุณจะสามารถเรียนรู้และพัฒนาตัวเองได้ และยังได้ตังใช้ทุกเดือนอีก..  แมร่_งโคตรสุดยอดไปเลยว่าไหมหล่ะ

ขอย้อนความไปก่อนว่าสาเหตุที่ผมเริ่มมีความคิดในการลาออกก่อนค้นพบความเจ๋งของชีวิตมนุษย์เงินเดือนนั้น มันเกิดจากการที่ผมรู้สึกว่าชีวิตเป็นเครื่องจักร ต้องถูกบังคับให้ทำอะไรๆเพื่อแลกมาซึ่งการได้รับเงิน ถ้าทุกคุณที่อ่านมาถึงข้อความตรงนี้ ผมอยากให้ทุกคุณลองคิดดู ว่าทุกคุณรู้สึกเหมือนผมในอดีตนี้หรือไม่? ถ้าคุณรู้สึก ผมจะบอกว่างานที่คุณทำอยู่นั้น ไม่เหมาะกับคุณจริงๆ คุณต้องหางานที่คุณทำแล้วรู้สึกว่าคุณได้ใช้ชีวิต นั่นคือส่วนหนึ่งของชีวิตคุณ และคุณไม่เสียใจเลยที่เวลาในชีวิตของคุณที่เหลืออยู่นั่นถูกแบ่งไปให้กับการทำงาน (ถ้าคุณรู้สึกอย่างข้อหลังนี้ ยินดีด้วย คุณได้ทำงานที่ใช่ และคุณมีความสุขกับมันแล้ว)

บุคคลมีชื่อเสียงและประสบความสำเร็จหลายๆคุณ ได้เคยบอกวิถีแห่งการก้าวหน้า ซึ่งผมได้อ่านจากหลายๆคน และขอสรุปในส่วนที่ทุกคุณบอกมาคล้ายๆกันให้ฟัง โดยผมจะขอเน้นในส่วนของสิ่งที่คุณควรจะหลีกหนีออกมาให้เร็วที่สุดในชีวิตของมนุษย์เงินเดือนดังนี้
1. ไม่มีเป้าหมายในชีวิต คุณตอบตัวเองไม่ได้ว่าอีก 3 ปี 5 ปี คุณมองตัวเองในชีวิตการทำงานนี้ต่อไปอย่างไร ต่อให้คุณทำงานได้ดี ได้รับเหรทติ้งสูงๆในแต่ละปี แต่คุณไม่สามารถมองเป้าหมายของคุณได้ เลวร้ายไปใหญ่ ยิ่งถ้าคุณถามหัวหน้า หรือผู้บังคับบัญชาของคุณแล้วเขาให้คำตอบคุณไม่ได้ (ข้อนี้ผมว่าเลวร้ายที่สุด และควรจะต้องหาทางออกให้เร็วโดยไว)
2. งานที่ไม่ได้พัฒนาตัวเอง คุณไม่สามารถตอบได้ว่า คุณจะเก่งขึ้นได้อย่างไร หรือค่าตัวของคุณในอีกห้าปี จะมีทางมากกว่านี้ได้อย่างไร
3. เพื่อนร่วมงานที่ใกล้ชิดกับคุณ อยู่ในกลุ่มของข้อ 1 และ 2 – ผมคงไม่ขอไปก้าวก่ายในชีวิตของแต่ละคน บางคนอาจจะตั้งเป้าหมายของชีวิตไว้ต่างกัน บางคนอาจจะขอทำงานแบบสบายๆ และให้เวลากับครอบครัว ซึ่งนั่นผมก็ไม่ได้เถียงว่าข้อคิดของเขาเหล่านั้นผิด แต่ผมจะแนะนำคุณที่ต้องการความก้าวหน้าในชีวิตของตัวคุณเอง หากคุณมีเพื่อนร่วมงานสายตรงกับคุณที่มีแนวคิดแบบนี้ ผมว่าคุณมีแนวโน้มสูงที่จะถูกหล่อหลอมกลายเป็นเช่นเดียวกับเขา

และเช่นกัน สิ่งที่ถ้าคุณเป็นมนุษย์เงินเดือนไม่ควรทำโดยเด็ดขาด
1. คิดว่าตัวเองเป็นคนสำคัญขององค์กร – ข้อนี้สำคัญมาก ต่อให้ท่านเป็นเมเนเจอร์ เป็น technical lead เป็นคน implement และค้นพบทุกอย่าง ให้ท่านตระหนักไว้เสมอว่า เขาสามารถหาคนมาทำแทนท่านได้อยู่แล้ว (ก็เขามีตังหนิ) ต่อให้ผู้บริหารลาออกก็เถอะ ผมไม่เถียงว่าอาจจะเกิดปัญหาบ้างในช่วงแรกที่ไม่มีท่าน แต่ยังไงในระยะยาว องค์กรแก้ปัญหาได้อยู่แล้ว
2. ไม่คิดจะพัฒนาตัวเอง และไม่คิดถึงเป้าหมายของตัวเอง – เช่นเดียวกับข้อความข้างบนที่คุณได้อ่านมาแล้ว ความเจ๋งของมนุษย์เงินเดือน คือคุณจะได้เก่งขึ้น และค่าตัวของคุณก็แพงขึ้นเรื่อยๆ ฉะนั้นผมไม่แนะนำให้คุณทิ้งโอกาสเหล่านี้
3. การไม่ได้เลื่อนขั้น ไม่ใช่ความล้มเหลวในชีวิตของคุณ – หยุดเสียใจซะ เพราะนั่นอาจเป็นการบอกว่าท่านไม่เหมาะกับสิ่งนั้น คุณอาจจะเจอองค์กรและงานที่คุณทำได้ดีกว่า และทางองค์กรใหม่นั้นก็เห็นความสามารถของคุณ

นี่ก็เป็นแค่เพียงส่วนหนึ่งในความคิดของผมที่ผมอยากจะแบ่งปันทุกท่าน ผมเคยประสบปัญหาและรู้สึกว่าตัวเองอยู่จุดที่ต่ำสุดในชีวิต ผมเคยทำงานแทบตายและคิดว่าตัวเองเป็นคนสำคัญ และหวังกับการโปรโมทเอาไว้มากๆ สุดท้ายผมก็ต้องค้นพบกับความผิดหวัง และเห็นรุ่นน้องแซงหน้า เห็นเพื่อนที่ตัดสินใจเรียนต่อ ได้รับปริญญาโท ปริญญาเอก ผมจะบอกว่าสิ่งเหล่านี้เป็นแค่เรื่องธรรมดา อย่างที่บอกว่าคุณอาจจะไม่เหมาะกับจุดๆนั้น ไม่ต้องเสียใจหรอก ลองมองหาโอกาสใหม่ๆดู อีกทั้งผมเคยอยู่ใน comfort zone ที่ทำงานไปวันๆ งานอะไรก็สามารถทำได้ (ก็เรียนรู้ทุกอย่างหมดแล้วนี่) และก็ไม่พัฒนาตัวเองเลย หนึ่งปีผ่านไปผมมองเพื่อนๆก้าวหน้า ผมจึงคิดว่าผมคงต้องทำอะไรซักอย่างแล้ว

สุดท้ายนี้ผมแค่จะมาเล่าให้ทุกคนฟัง ว่าหาให้เจอ ซักวันคุณต้องเจองานที่คุณรัก หน้าที่การงานกับตำแหน่งนั้นมันเป็นแค่เพียงส่วนเล็กๆของนิยามความสำเร็จ สำหรับผมแล้วการได้ทำงานที่ตัวเองมีความสุขมากกว่าที่ทำให้ผมประสบความสำเร็จ

สุดท้ายนี้(สุดท้ายอีกแล้ว) สิ่งหนึ่งที่ท่านควรจะต้องมีคือแรงบันดาลใจ หากท่านเก่งให้ตาย เก่งวัวตายควายล้ม ท่านก็ไม่สามารถประสบความสำเร็จได้ หากท่านไม่มีแรงบันดาลใจ

ขอบคุณที่ฟังผมพล่าม ไปและสวัสดีครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่