โดนมาเยอะมากจนล่าสุดนี่รู้สึกว่าเข้าข่ายต้มตุ๋นกันแล้ว ทนไม่ไหวจริงๆ แต่ละครั้งโดนเป็นพันๆทั้งนั้น
ถ้าแบ่งเป็นกลุ่มๆ เท่าที่เราเคยโดนแบ่งได้ประมาณนี้
กลุ่มที่ 1 ความมั่วของผู้ค้าในลาซาด้า โดยลาซาด้าปฏิเสธความรับผิดชอบที่เกิดขึ้นทั้งหมด
1) ส่งหมึกพิมพ์หมดอายุมาให้ ปริ๊นท์ไม่ออก ไอ้เราตอนรับของก็ไม่ได้ดู กว่าจะรู้ก็เกินกำหนดคืนของแล้ว
2) บริษัทไม่ออกใบกำกับภาษีให้ตามที่แจ้งไป ตามอยู่เกือบปี เพราะต้องใช้จริงๆ ก็อิดออด อ้างไปเรื่อย แจ้งทางลาซาด้าว่าจะรับผิดชอบอะไรให้ได้บ้าง ตามเรื่องให้ได้มั๊ย ก็ปฏิเสธทุกอย่าง ในที่สุดก็ต้องควักเงินตัวเองออก เพราะเบิกไม่ได้
3) สินค้าไม่ตรงตามที่โฆษณา แบบตั้งใจต้มตุ๋นชัดเจน (อันนี้โดนหลายรอบแล้ว) เพราะตั้งราคาตาม spec ของที่ลงโฆษณา แต่ของที่ส่งให้เป็น spec ต่ำกว่าที่ราคาต่างกันเกินเท่าตัว อันนี้ล่าสุดทำเรื่องคืนไป ผ่านมา 50 วันแล้ว ไม่มีวี่แววได้รับเงินคืน (อ่านต่อด้านล่าง)
กลุ่มที่ 2 ความขี้โกง/เอาแต่ได้ของ lazada เองโดยตรง
1) เพิ่งจะเคยคืนสินค้าครั้งแรกก็โดนเลย (ก่อนหน้านี้ทนๆใช้ไป เพราะขี้เกียจเรื่องเยอะ ของไม่กี่ร้อยบาท แต่รอบนี้มันเป็นพัน ยอมไม่ได้) คือ ทางลาซาด้าแจ้งว่าคืนเงินสำหรับของที่โดนต้มมาจากข้อด้านบนให้แล้ว บอกว่าเงินจะเข้าบัตรเครดิตใน 5-7 วัน เช็คเท่าไหร่ก็ไม่มี โทรตามทุกรอบก็พูดเหมือนเดิม โบ้ยให้ลูกค้าไปตามกับธนาคารเอาเอง ผ่านไปเกือบ 50 วันหลังจากที่ทางลาซาด้ายืนยันว่าคืนเงินแล้วและย้ำเหมือนเดิมทุกรอบที่โทรไปว่าช้าที่ธนาคาร ไม่เกี่ยวกับ lazada จึงโทรตามไปที่ธนาคาร พบว่าไม่เคยมีการทำเรื่องคืนเงินจากลาซาด้าเลย อันนี้เลวสุดที่เคยเจอมาละ
2) ไม่ว่าจะคุยๆไปแล้วสายตัดระหว่างรอพนักงานหาข้อมูล หรือแจ้งทางอีเมลให้ติดต่อกลับทางโทรศัพท์หลังจากเราโทรจนหมดค่าโทรไปเป็นร้อยแล้ว ก็ไม่เคยมีการติดต่อกลับเลยแม้แต่ครั้งเดียว คงเป็นนโยบายประหยัดลดต้นทุนหรืออย่างไรไม่ทราบ แต่ปัญหาที่เกิดจากทางบริษัทชุ่ยนี่ ทำให้ลูกค้าต้องตามเรื่องเสียค่าโทรศัพท์ตามเรื่องครั้งนึงไม่รู้เท่าไหร่ต่อเท่าไหร่ ที่แย่กว่านั้นคือ ไม่เคยได้เรื่องเลยด้วย นี่มันคืออะไร มันเอาเปรียบลูกค้ามากๆนะ อย่างน้อยๆก็ควรมีบริการแบบพวกเครือข่ายมือถือที่โทรเข้าคิดครั้งละ 3 บาท เหมาๆไปมั๊ย
3) เจ้าหน้าที่ call center ชุ่ย ตอบแบบปัดๆให้พ้นตัว โดยการให้ข้อมูลผิดๆเพื่อจะได้วางสายหนีๆไปซะที เช่น เรื่องที่โทรตามเรื่องการคืนเงิน พอแจ้งว่านี่เดือนกว่าแล้วยังไม่เห็นมีเงินคืนมา ก็แจ้งว่าต้องรอ 45 วันค่ะ ทั้งที่จริงๆการคืนทางบัตรเครดิตมันแค่ 5-7 วัน เรามารู้ทีหลังว่าโดนโกหก ไม่รู้จากการตอบมั่วเพราะไม่รู้ หรือตั้งใจปัดให้พ้นตัวไป
คิดว่าน่าจะมีคนโดนอะไรเลวร้ายกว่านี้แน่ๆ อยากให้แชร์ๆกัน บริษัทที่เอาเปรียบผู้บริโภคพวกนี้จะได้สำนึก หรือปรับตัว หรืออย่างน้อยก็เป็นการเตือนภัยให้คนอื่นๆไม่ต้องมาเจอประสบการณ์แบบนี้ หรือใครพอมีความรู้ว่าเราจะทำอะไรกับบริษัทที่ขาดจริยธรรมในการทำธุรกิจพวกนี้ได้ยังไงบ้างมั๊ยคะ นอกจากการเลิกสนับสนุนบริการของเค้า
มารวบรวมความโกงของลาซาด้า lazada เพื่อเตือนภัย หรืออาจไปถึงการฟ้องร้องบริษัทกันเถอะ
ถ้าแบ่งเป็นกลุ่มๆ เท่าที่เราเคยโดนแบ่งได้ประมาณนี้
กลุ่มที่ 1 ความมั่วของผู้ค้าในลาซาด้า โดยลาซาด้าปฏิเสธความรับผิดชอบที่เกิดขึ้นทั้งหมด
1) ส่งหมึกพิมพ์หมดอายุมาให้ ปริ๊นท์ไม่ออก ไอ้เราตอนรับของก็ไม่ได้ดู กว่าจะรู้ก็เกินกำหนดคืนของแล้ว
2) บริษัทไม่ออกใบกำกับภาษีให้ตามที่แจ้งไป ตามอยู่เกือบปี เพราะต้องใช้จริงๆ ก็อิดออด อ้างไปเรื่อย แจ้งทางลาซาด้าว่าจะรับผิดชอบอะไรให้ได้บ้าง ตามเรื่องให้ได้มั๊ย ก็ปฏิเสธทุกอย่าง ในที่สุดก็ต้องควักเงินตัวเองออก เพราะเบิกไม่ได้
3) สินค้าไม่ตรงตามที่โฆษณา แบบตั้งใจต้มตุ๋นชัดเจน (อันนี้โดนหลายรอบแล้ว) เพราะตั้งราคาตาม spec ของที่ลงโฆษณา แต่ของที่ส่งให้เป็น spec ต่ำกว่าที่ราคาต่างกันเกินเท่าตัว อันนี้ล่าสุดทำเรื่องคืนไป ผ่านมา 50 วันแล้ว ไม่มีวี่แววได้รับเงินคืน (อ่านต่อด้านล่าง)
กลุ่มที่ 2 ความขี้โกง/เอาแต่ได้ของ lazada เองโดยตรง
1) เพิ่งจะเคยคืนสินค้าครั้งแรกก็โดนเลย (ก่อนหน้านี้ทนๆใช้ไป เพราะขี้เกียจเรื่องเยอะ ของไม่กี่ร้อยบาท แต่รอบนี้มันเป็นพัน ยอมไม่ได้) คือ ทางลาซาด้าแจ้งว่าคืนเงินสำหรับของที่โดนต้มมาจากข้อด้านบนให้แล้ว บอกว่าเงินจะเข้าบัตรเครดิตใน 5-7 วัน เช็คเท่าไหร่ก็ไม่มี โทรตามทุกรอบก็พูดเหมือนเดิม โบ้ยให้ลูกค้าไปตามกับธนาคารเอาเอง ผ่านไปเกือบ 50 วันหลังจากที่ทางลาซาด้ายืนยันว่าคืนเงินแล้วและย้ำเหมือนเดิมทุกรอบที่โทรไปว่าช้าที่ธนาคาร ไม่เกี่ยวกับ lazada จึงโทรตามไปที่ธนาคาร พบว่าไม่เคยมีการทำเรื่องคืนเงินจากลาซาด้าเลย อันนี้เลวสุดที่เคยเจอมาละ
2) ไม่ว่าจะคุยๆไปแล้วสายตัดระหว่างรอพนักงานหาข้อมูล หรือแจ้งทางอีเมลให้ติดต่อกลับทางโทรศัพท์หลังจากเราโทรจนหมดค่าโทรไปเป็นร้อยแล้ว ก็ไม่เคยมีการติดต่อกลับเลยแม้แต่ครั้งเดียว คงเป็นนโยบายประหยัดลดต้นทุนหรืออย่างไรไม่ทราบ แต่ปัญหาที่เกิดจากทางบริษัทชุ่ยนี่ ทำให้ลูกค้าต้องตามเรื่องเสียค่าโทรศัพท์ตามเรื่องครั้งนึงไม่รู้เท่าไหร่ต่อเท่าไหร่ ที่แย่กว่านั้นคือ ไม่เคยได้เรื่องเลยด้วย นี่มันคืออะไร มันเอาเปรียบลูกค้ามากๆนะ อย่างน้อยๆก็ควรมีบริการแบบพวกเครือข่ายมือถือที่โทรเข้าคิดครั้งละ 3 บาท เหมาๆไปมั๊ย
3) เจ้าหน้าที่ call center ชุ่ย ตอบแบบปัดๆให้พ้นตัว โดยการให้ข้อมูลผิดๆเพื่อจะได้วางสายหนีๆไปซะที เช่น เรื่องที่โทรตามเรื่องการคืนเงิน พอแจ้งว่านี่เดือนกว่าแล้วยังไม่เห็นมีเงินคืนมา ก็แจ้งว่าต้องรอ 45 วันค่ะ ทั้งที่จริงๆการคืนทางบัตรเครดิตมันแค่ 5-7 วัน เรามารู้ทีหลังว่าโดนโกหก ไม่รู้จากการตอบมั่วเพราะไม่รู้ หรือตั้งใจปัดให้พ้นตัวไป
คิดว่าน่าจะมีคนโดนอะไรเลวร้ายกว่านี้แน่ๆ อยากให้แชร์ๆกัน บริษัทที่เอาเปรียบผู้บริโภคพวกนี้จะได้สำนึก หรือปรับตัว หรืออย่างน้อยก็เป็นการเตือนภัยให้คนอื่นๆไม่ต้องมาเจอประสบการณ์แบบนี้ หรือใครพอมีความรู้ว่าเราจะทำอะไรกับบริษัทที่ขาดจริยธรรมในการทำธุรกิจพวกนี้ได้ยังไงบ้างมั๊ยคะ นอกจากการเลิกสนับสนุนบริการของเค้า