มาแชร์ประสบการณ์การเข้าคอร์สทรีทเม้นท์กับสถาบันลดน้ำหนัก--เซลล์หลอกให้ซื้อคอร์ส
*** ปัญหาตอนแรก **
ต้องบอกก่อนว่าเราอายุ 26 ปี ส่วนสูง 160 น้ำหนัก 65-66 กก. ซึ่งก็ถือว่าเป็นคนอ้วนๆ อวบระยะสุดท้าย และเราก็มีปัญหากับน้ำหนักมาตลอดพยายามลดน้ำหนักมาตั้งแต่สมัยเรียนอยู่มหาวิทยาลัย จนสามารถลดลงได้มากที่สุดคือ น้ำหนัก 59 กก. ในช่วงปี2แต่พอเรียนจบ เข้าทำงานได้ 1-2 ปี น้ำหนักก็ดีดขึ้นมาเป็น 65 กก. อาจจะเพราะเครียด นอนน้อย งานเยอะ แล้วก็ไม่ค่อยมีเวลาออกกำลังกายและสาเหตุคงมาจากเรากินตามใจปากเกินไปเลยทำให้น้ำหนักไม่ลดซักที ทำให้เราเครียดมาก แฟนก็อยากให้ลด อยากให้หุ่นดี ใส่เสื้อผ้าแล้วสวยซึ่งตรงนี้เราก็พยายามทำมาตลอด แต่ก็อย่างที่บอกค่ะ อาจจะยังไม่มากพอ แต่โชคดีที่เป็นคนขาว แล้วก็ไม่มีปัญหาเรื่องสุขภาพ ไม่เป็นเบาหวานความดันแล้วก็ไม่เจ็บป่วยเลยค่ะ พออายุมากขึ้นก็เลยไม่มีเวลาออกกำลังกาย เลยอยากหาทางลัดให้กับตัวเองอยู่บ่อยครั้ง เคยไปปรึกษาคุณหมออยากจะดูดไขมันด้วยช่วงนึงแต่ก็ไม่มีเงินมากพอจะไปทำ
** วันที่ซื้อคอร์สทำทรีทเม้นท์ **
วันนั้นไปทำธุระประมาณกลางเดือน เมษายน 2560 วันนั้นไปทำธุระกับแฟนที่เซ็นทรัลปิ่นเกล้า ระหว่างทางกำลังจะกลับบ้าน เราก็เดินผ่านบูธของสถาบันลดน้ำหนักที่มีนักร้องรุ่นใหญ่เป็นพรีเซ็นเตอร์ อักษรย่อ ม. ตอนนั้นไม่ได้คิดอะไรค่ะ ระหว่างที่เดินผ่านพนักงานก็เชื้อเชิญโปรโมทชั่นต่างๆ โดยพนักงานได้พูดกับผู้คนที่เดินผ่านไปผ่านมาว่า ท่านใดที่มีบัตรเครดิตหมายเลข 4 ให้เดินมารับกิ๊ฟวอเชอร์ทำทรีทเม้นท์ฟรี !! กับทางเราได้เลยนะค่ะ ฟรีค่ะ ฟรีค่ะด้วยคำว่าเป็นของฟรี เข้าใจไหมค้ะ ผู้หญิงทุกคน โดยเฉพาะคนที่อยากผอมอยากลอง เราก็เป็นหนึ่งในนั้น ก็เลยลองเข้าไปดู ไม่น่าเสียหายอะไร ก็เลยยืมบัตรเครดิตของแฟนไปโชว์กับเซลล์ที่ยืนรอบริเวณบูธจัดแสดง โดยที่แฟนขอไปยืนรอที่อื่น (อาจจะเพราะเขินคนเยอะ) ตอนนั้นสำคัญมากค่ะ ต้องอ่านดีดีนะค่ะ หลังจากที่เรายืมบัตรเครดิตของแฟนมาแล้ว (ซึ่งตอนแรกตั้งใจจะเอารับกิ๊ฟวอเชอร์ทำทรีทเม้นท์ฟรีอย่างเดียว) เราก็เอาไปยื่นให้กับเซลล์ เขาก็เชิญเราไปนั่งเพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมก่อนที่จะแจกคอร์สฟรี เราก็ไม่ติดใจอะไรค่ะ เดินไปตามที่เขาบอก จากนั้นเซลล์ก็ถามนู้นนี่นั่นสารพัดเราก็พอจะรู้คะ เขาก็อยากจะขายคอร์สอื่นๆกับเรา เขาก็พยายามพูดโน้มน้าวจนเราอยากจะลองทำดูซักคอร์ส เป็นคอร์สเล็กๆ โดยเซลล์อ้างว่าเป็นคอร์สราคาพรีเซ็นเตอร์ ได้ราคาถูกมาก (อันนี้เรายอมรับค่ะว่าหน้ามืดและอยากได้ แต่ใจลึกๆก็แอบเสียดายเงิน) ซึ่งเซลล์เขาก็จะมีวิธีพูดโน้มน้าวทำนองว่า จริงๆราคาพรีเซ็นเตอร์วันนี้เขารับแค่ 10 คนนะค่ะ ถ้าลูกค้าสนใจ พี่จะลองคุยกับเขาให้พิเศษเลย ทำทรีทเม้นท์ (ผ้าห่มไฟฟ้า+ดีท๊อก+สปาร้อนเฉพาะจุด) ทั้งหมด 5 ครัง เป็นเงิน 19,900 บาท จาก 35,000 บาท เราก็แอบคิดในใจว่าก็ยังแพงอยู่ดี เซลล์เขาก็เสนอมาอีกว่า แบ่งผ่อนชำระได้นะคะ เดี๋ยวเขาจัดการให้เลย ซึ่งในตอนนั้นเราก็สองจิตสองใจ แต่ประมาณ 70 เปอร์เซ็น คือเสียดายเงินไม่เอาดีกว่า จากนั้นพนักงานก็บอกว่าถ้าพี่คุยให้น้องได้ราคานี้ น้องสนใจไหม เราก็บอกว่าคุยมาก่อนแล้วกันค่ะ เดี๋ยวลองดูอีกที ฟังอีกครั้งนะค่ะ เราบอกว่าเดี๋ยวเราลองดูอีกที (ซึ่งตอนนั้นคืออยากออกไปจากตรงนั้นแล้ว แต่ก็เกรงใจ อีกอย่างเขาถือบัตรเครดิตไว้ไม่ยอมให้เรามา เราก็ต้องนั่งอยู่ตรงนั้นค่ะ จนกว่าเขาจะคืนบัตรเราก่อน) แล้วเซลล์เขาก็ขอบัตรเครดิตเราไป ผ่านไป 3 นาที เดินกลับมาพร้อมกับสลิปบัตรที่รูดเงินไปแล้ว 14,000 บาท !!!!! เราตกใจมาก ถามว่าพี่นี่มันคืออะไร เขาบอกคุยให้แล้วค่ะ แต่วงเงินเหลือแค่ 14,000 บาท เดี๋ยวน้องเซ็นตรงนี้เลยนะค่ะ คือเราก็ไม่โอเคมากๆ กับการทำของเซลล์ เราก็ถามกลับไปว่า นี่เรายังไม่ได้ตกลงจะซื้อนะค่ะ เขาก็อ้างว่าพี่คุยให้แล้วไงค่ะ ได้ราคานี้ น้องก็บอกว่าสนใจ แล้วจะให้เราจ่ายเงินสดที่ขาดอีก 5 พันบาท เราบอกว่าไม่ได้ตกลงกันแบบนี้นะค่ะ ทำไมไม่ถามกันก่อน ยังไม่ได้ตกลงจะซื้อเลย แค่บอกว่าถ้าคุยได้เดี๋ยวพิจารณาดูอีกที เราก็ยืนยันว่าเราจะเอาคืน เซลล์เขาก็หน้าเสียไปแปบนึงค่ะ และก็ยังพยายามยัดโปรโมชั่นเสริมสารพัดมาให้เรา ซึ่งตอนนั้นเรารู้สึกไม่โอเคเลย และบอกว่าส่วนต่างที่เหลือเราก็จะไม่จ่าย เซลล์เขาก็บอกว่างั้นน้องจ่ายเท่านี้ที่ที่เหลือพี่จัดการเอง เดี๋ยวโทรไปผ่อนชำระกับธนาคารให้ด้วย พร้อมรับผิดชอบเรื่องดอกเบี้ยเอง ตอนนั้นเราก็คิดว่า โอเค..ไหนๆก็ไหนๆแล้ว เงินก็ไม่ได้คิดอยู่แล้ว ก็ลองดูซักตั้ง ก็เลยกลับบ้านไปแบบมึนๆ....
ปล. ลืมเล่าไปตอนนึงค่ะ ระหว่างที่เซลล์สอบถามข้อมูลส่วนตัวกับเราเขาถามว่าถ้าสนใจทำทรีทเม้นท์สะดวกทำสาขาไหน ซึ่งจริงๆ ห้างที่ใกล้บ้านคือ เซ็นทรัลพระราม 2 เราก็บอกไปว่าขอทำที่เซ็นทรัลพระราม 2 (ซึ่งตอนแรกเข้าใจว่าที่ถามหมายถึงว่าสาขาที่ต้องการทำทรีทเม้นท์ฟรีที่เขาจะแจกให้) หลังจากนั้นที่เขาเอาบัตรเราไปรูดเสร็จสรรพ กลับเดินมาบอกว่าเรา คุณลูกค้าคะ สาขาเซ็นทรัลพระราม 2 ปิดปรับปรุงไม่รู้จะเสร็จเมื่อไหร่ !!! เราก็...อ้าว... แล้วทำไมเพิ่งมาบอกกันตอนนี้ แล้วก็รูดบัตรไปเรียบร้อย เสียเงินไม่พอ ยังต้องเสียเวลาขับรถมาทำถึงที่นี่ !!!
** วันที่เริ่มทำทรีทเม้นท์ครั้งแรก **
เอาสั้นๆเลยนะค่ะ ไม่มีอะไรดีขึ้นเลยค่ะ ทำมาแล้ว 3 ครั้ง ก็ยังปกติดีทุกอย่าง น้ำหนักไม่ลด สัดส่วนก็ไม่ลด จบค่ะ ไม่ปลื้มม (ซึ่งจุดนี้เราเข้าใจนะค่ะทำแค่ 3 ครั้งจะให้เห็นผลทันตาก็คงเป็นไปไม่ได้) จุดนี้ไม่ได้ซีเรียสอะไรเพราะเราซื้อคอร์สมาแค่ 3 ครั้ง แต่ตอนที่เซลล์อธิบายเขาบอกว่าจะเห็นผลตั้งแต่ครั้งแรก ซึ่งเราไม่เห็นอะไรเลย จบค่ะ !!!!โดยทุกครั้งที่เข้าไปทำทรีทเม้นท์ ก็จะมีเซลล์มากหน้าหลายตาเดินตรงปรี่เพื่อที่จะขายคอร์สบอกว่าจะเข้ามาดูแลด้วยตนเองอย่างใกล้ชิด พิเศษสุดๆ ไม่เคยเจอตัวเลยคะ มาเจออีกทีคือครั้งที่ 3 แล้วตอนที่ขายคอร์สบอกว่าจะโทรมาแจ้งผลการโทรผ่อนชำระกับทางธนาคารก็ไม่โทรมา วันแรกที่ไปถึงเราก็โทรไป เขาบอกทำธุระอยู่ข้างนอก หมายความว่าไง........?? ซื้อคอร์สแล้วจบไป ไม่รับบริการหลังการขายหรือไงคะ ?? ตรงนี้คือแย่มาก อย่างเห็นได้ชัดว่าไม่สนใจเราเลย เราก็ไม่ซีเรียสค่ะ ก็ไปทำทรีทเม้นท์ปกติ ตามที่นัดกันไว้ ตามนั้นค่ะ !!
หลังจากทำทรีทเม้นท์ได้ 3 ครั้ง ซึ่งครั้งสุดท้ายได้เจอกับเซลล์คนที่ขายคอร์สให้เราค่ะ วันนั้นเขาก็ยังมาตามขายคอร์สเพิ่มเติมโดยอ้างโปรโมชั่นมากมาย ขายถูกกว่าครั้งแรกอีกค่ะ บอกว่าเป็นคอร์สสิทธิ์แลกซื้อ สำหรับลูกค้า ทำทรีทเม้นท์ 10 ครั้ง เพียง 15,000 บาท ซึ่งเราก็ตอบปฏิเสธไปอย่างที่ตั้งใจไว้ตั้งแต่แรกว่าจะไม่มาทำอีกแล้ว
** เกิดปัญหาเรื่องบัตรเครดิตที่รูดซื้อทรีทเม้นท์**
ด้วยครั้งสุดท้ายที่เจอกับเซลล์เราก็ไม่ได้ถามเขาว่าเขาจัดการเรื่องผ่อนชำระบัตรให้หรือยัง ก็เลยแอดไลน์ไปหลังจากนั้น 2 วันเลยแอดไลน์ไปถามเลยค่ะ สรุปเซล์ตอบกลับมาว่าลืมโทรให้ ขอโทษด้วย ??? !!!! ให้เราแจ้งเลขที่บัตรไปอีกครั้ง แล้วเขาจะจัดการให้ คืออะไรค่ะ !!!! คือเราไม่โอเคอย่างแรง..... ด้วยความร้อนใจ เพราะว่าบัตรเครดิตเป็นของแฟนไม่ใช่ของตัวเอง ก็รีบโทรไปหาคอลเซ็นเตอร์ ปรากฎว่า คอลเซ็นเตอร์แจ้งว่า ยอดรูด 14,000 บาท ถูกตัดยอดไปเรียบร้อยแล้วไม่สามารถโทรเพื่อขอแบ่งผ่อนชำระได้ (จากการศึกษาของเรานะค่ะ ไม่แน่ใจว่าเข้าใจถูกหรือเปล่า ถ้ากรณีแบ่งผ่อนชำระไม่ได้ เราจะต้องเสียดอก 20 เปอร์เซ็น โดยสามารถชำระขั้นต่ำตามที่ธนาคารกำหนดได้)
เราเลยไลน์ไปหาเซลล์อีกครั้งเพื่อแจ้งว่ามันเกิดกรณีแบบนั้น... ??? แล้วเขาก็อ่านค่ะ ตอนนี้ก็ยังไม่ตอบ มาถึงจุดนี้แล้วเรารู้สึกว่า เฮ้ยยย ….หากินง่ายๆแบบนี้ก็ได้ ?? คือเสียความรู้สึกมาก จากที่ตอนแรกก็ไม่ได้รู้สึกประทับใจกับสถาบันลดน้ำหนักอยู่แล้ว เพราะมีแต่คนพูดว่ามันหลอกลวง ก็เพิ่งมาเจอกับตัวเองวันนี้แหล่ะค่ะ ขอบคุณทุกคนที่รับฟัง
มาแชร์ประสบการณ์การเข้าคอร์สทรีทเม้นท์กับสถาบันลดน้ำหนัก--เซลล์หลอกให้ซื้อคอร์ส
*** ปัญหาตอนแรก **
ต้องบอกก่อนว่าเราอายุ 26 ปี ส่วนสูง 160 น้ำหนัก 65-66 กก. ซึ่งก็ถือว่าเป็นคนอ้วนๆ อวบระยะสุดท้าย และเราก็มีปัญหากับน้ำหนักมาตลอดพยายามลดน้ำหนักมาตั้งแต่สมัยเรียนอยู่มหาวิทยาลัย จนสามารถลดลงได้มากที่สุดคือ น้ำหนัก 59 กก. ในช่วงปี2แต่พอเรียนจบ เข้าทำงานได้ 1-2 ปี น้ำหนักก็ดีดขึ้นมาเป็น 65 กก. อาจจะเพราะเครียด นอนน้อย งานเยอะ แล้วก็ไม่ค่อยมีเวลาออกกำลังกายและสาเหตุคงมาจากเรากินตามใจปากเกินไปเลยทำให้น้ำหนักไม่ลดซักที ทำให้เราเครียดมาก แฟนก็อยากให้ลด อยากให้หุ่นดี ใส่เสื้อผ้าแล้วสวยซึ่งตรงนี้เราก็พยายามทำมาตลอด แต่ก็อย่างที่บอกค่ะ อาจจะยังไม่มากพอ แต่โชคดีที่เป็นคนขาว แล้วก็ไม่มีปัญหาเรื่องสุขภาพ ไม่เป็นเบาหวานความดันแล้วก็ไม่เจ็บป่วยเลยค่ะ พออายุมากขึ้นก็เลยไม่มีเวลาออกกำลังกาย เลยอยากหาทางลัดให้กับตัวเองอยู่บ่อยครั้ง เคยไปปรึกษาคุณหมออยากจะดูดไขมันด้วยช่วงนึงแต่ก็ไม่มีเงินมากพอจะไปทำ
** วันที่ซื้อคอร์สทำทรีทเม้นท์ **
วันนั้นไปทำธุระประมาณกลางเดือน เมษายน 2560 วันนั้นไปทำธุระกับแฟนที่เซ็นทรัลปิ่นเกล้า ระหว่างทางกำลังจะกลับบ้าน เราก็เดินผ่านบูธของสถาบันลดน้ำหนักที่มีนักร้องรุ่นใหญ่เป็นพรีเซ็นเตอร์ อักษรย่อ ม. ตอนนั้นไม่ได้คิดอะไรค่ะ ระหว่างที่เดินผ่านพนักงานก็เชื้อเชิญโปรโมทชั่นต่างๆ โดยพนักงานได้พูดกับผู้คนที่เดินผ่านไปผ่านมาว่า ท่านใดที่มีบัตรเครดิตหมายเลข 4 ให้เดินมารับกิ๊ฟวอเชอร์ทำทรีทเม้นท์ฟรี !! กับทางเราได้เลยนะค่ะ ฟรีค่ะ ฟรีค่ะด้วยคำว่าเป็นของฟรี เข้าใจไหมค้ะ ผู้หญิงทุกคน โดยเฉพาะคนที่อยากผอมอยากลอง เราก็เป็นหนึ่งในนั้น ก็เลยลองเข้าไปดู ไม่น่าเสียหายอะไร ก็เลยยืมบัตรเครดิตของแฟนไปโชว์กับเซลล์ที่ยืนรอบริเวณบูธจัดแสดง โดยที่แฟนขอไปยืนรอที่อื่น (อาจจะเพราะเขินคนเยอะ) ตอนนั้นสำคัญมากค่ะ ต้องอ่านดีดีนะค่ะ หลังจากที่เรายืมบัตรเครดิตของแฟนมาแล้ว (ซึ่งตอนแรกตั้งใจจะเอารับกิ๊ฟวอเชอร์ทำทรีทเม้นท์ฟรีอย่างเดียว) เราก็เอาไปยื่นให้กับเซลล์ เขาก็เชิญเราไปนั่งเพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมก่อนที่จะแจกคอร์สฟรี เราก็ไม่ติดใจอะไรค่ะ เดินไปตามที่เขาบอก จากนั้นเซลล์ก็ถามนู้นนี่นั่นสารพัดเราก็พอจะรู้คะ เขาก็อยากจะขายคอร์สอื่นๆกับเรา เขาก็พยายามพูดโน้มน้าวจนเราอยากจะลองทำดูซักคอร์ส เป็นคอร์สเล็กๆ โดยเซลล์อ้างว่าเป็นคอร์สราคาพรีเซ็นเตอร์ ได้ราคาถูกมาก (อันนี้เรายอมรับค่ะว่าหน้ามืดและอยากได้ แต่ใจลึกๆก็แอบเสียดายเงิน) ซึ่งเซลล์เขาก็จะมีวิธีพูดโน้มน้าวทำนองว่า จริงๆราคาพรีเซ็นเตอร์วันนี้เขารับแค่ 10 คนนะค่ะ ถ้าลูกค้าสนใจ พี่จะลองคุยกับเขาให้พิเศษเลย ทำทรีทเม้นท์ (ผ้าห่มไฟฟ้า+ดีท๊อก+สปาร้อนเฉพาะจุด) ทั้งหมด 5 ครัง เป็นเงิน 19,900 บาท จาก 35,000 บาท เราก็แอบคิดในใจว่าก็ยังแพงอยู่ดี เซลล์เขาก็เสนอมาอีกว่า แบ่งผ่อนชำระได้นะคะ เดี๋ยวเขาจัดการให้เลย ซึ่งในตอนนั้นเราก็สองจิตสองใจ แต่ประมาณ 70 เปอร์เซ็น คือเสียดายเงินไม่เอาดีกว่า จากนั้นพนักงานก็บอกว่าถ้าพี่คุยให้น้องได้ราคานี้ น้องสนใจไหม เราก็บอกว่าคุยมาก่อนแล้วกันค่ะ เดี๋ยวลองดูอีกที ฟังอีกครั้งนะค่ะ เราบอกว่าเดี๋ยวเราลองดูอีกที (ซึ่งตอนนั้นคืออยากออกไปจากตรงนั้นแล้ว แต่ก็เกรงใจ อีกอย่างเขาถือบัตรเครดิตไว้ไม่ยอมให้เรามา เราก็ต้องนั่งอยู่ตรงนั้นค่ะ จนกว่าเขาจะคืนบัตรเราก่อน) แล้วเซลล์เขาก็ขอบัตรเครดิตเราไป ผ่านไป 3 นาที เดินกลับมาพร้อมกับสลิปบัตรที่รูดเงินไปแล้ว 14,000 บาท !!!!! เราตกใจมาก ถามว่าพี่นี่มันคืออะไร เขาบอกคุยให้แล้วค่ะ แต่วงเงินเหลือแค่ 14,000 บาท เดี๋ยวน้องเซ็นตรงนี้เลยนะค่ะ คือเราก็ไม่โอเคมากๆ กับการทำของเซลล์ เราก็ถามกลับไปว่า นี่เรายังไม่ได้ตกลงจะซื้อนะค่ะ เขาก็อ้างว่าพี่คุยให้แล้วไงค่ะ ได้ราคานี้ น้องก็บอกว่าสนใจ แล้วจะให้เราจ่ายเงินสดที่ขาดอีก 5 พันบาท เราบอกว่าไม่ได้ตกลงกันแบบนี้นะค่ะ ทำไมไม่ถามกันก่อน ยังไม่ได้ตกลงจะซื้อเลย แค่บอกว่าถ้าคุยได้เดี๋ยวพิจารณาดูอีกที เราก็ยืนยันว่าเราจะเอาคืน เซลล์เขาก็หน้าเสียไปแปบนึงค่ะ และก็ยังพยายามยัดโปรโมชั่นเสริมสารพัดมาให้เรา ซึ่งตอนนั้นเรารู้สึกไม่โอเคเลย และบอกว่าส่วนต่างที่เหลือเราก็จะไม่จ่าย เซลล์เขาก็บอกว่างั้นน้องจ่ายเท่านี้ที่ที่เหลือพี่จัดการเอง เดี๋ยวโทรไปผ่อนชำระกับธนาคารให้ด้วย พร้อมรับผิดชอบเรื่องดอกเบี้ยเอง ตอนนั้นเราก็คิดว่า โอเค..ไหนๆก็ไหนๆแล้ว เงินก็ไม่ได้คิดอยู่แล้ว ก็ลองดูซักตั้ง ก็เลยกลับบ้านไปแบบมึนๆ....
ปล. ลืมเล่าไปตอนนึงค่ะ ระหว่างที่เซลล์สอบถามข้อมูลส่วนตัวกับเราเขาถามว่าถ้าสนใจทำทรีทเม้นท์สะดวกทำสาขาไหน ซึ่งจริงๆ ห้างที่ใกล้บ้านคือ เซ็นทรัลพระราม 2 เราก็บอกไปว่าขอทำที่เซ็นทรัลพระราม 2 (ซึ่งตอนแรกเข้าใจว่าที่ถามหมายถึงว่าสาขาที่ต้องการทำทรีทเม้นท์ฟรีที่เขาจะแจกให้) หลังจากนั้นที่เขาเอาบัตรเราไปรูดเสร็จสรรพ กลับเดินมาบอกว่าเรา คุณลูกค้าคะ สาขาเซ็นทรัลพระราม 2 ปิดปรับปรุงไม่รู้จะเสร็จเมื่อไหร่ !!! เราก็...อ้าว... แล้วทำไมเพิ่งมาบอกกันตอนนี้ แล้วก็รูดบัตรไปเรียบร้อย เสียเงินไม่พอ ยังต้องเสียเวลาขับรถมาทำถึงที่นี่ !!!
** วันที่เริ่มทำทรีทเม้นท์ครั้งแรก **
เอาสั้นๆเลยนะค่ะ ไม่มีอะไรดีขึ้นเลยค่ะ ทำมาแล้ว 3 ครั้ง ก็ยังปกติดีทุกอย่าง น้ำหนักไม่ลด สัดส่วนก็ไม่ลด จบค่ะ ไม่ปลื้มม (ซึ่งจุดนี้เราเข้าใจนะค่ะทำแค่ 3 ครั้งจะให้เห็นผลทันตาก็คงเป็นไปไม่ได้) จุดนี้ไม่ได้ซีเรียสอะไรเพราะเราซื้อคอร์สมาแค่ 3 ครั้ง แต่ตอนที่เซลล์อธิบายเขาบอกว่าจะเห็นผลตั้งแต่ครั้งแรก ซึ่งเราไม่เห็นอะไรเลย จบค่ะ !!!!โดยทุกครั้งที่เข้าไปทำทรีทเม้นท์ ก็จะมีเซลล์มากหน้าหลายตาเดินตรงปรี่เพื่อที่จะขายคอร์สบอกว่าจะเข้ามาดูแลด้วยตนเองอย่างใกล้ชิด พิเศษสุดๆ ไม่เคยเจอตัวเลยคะ มาเจออีกทีคือครั้งที่ 3 แล้วตอนที่ขายคอร์สบอกว่าจะโทรมาแจ้งผลการโทรผ่อนชำระกับทางธนาคารก็ไม่โทรมา วันแรกที่ไปถึงเราก็โทรไป เขาบอกทำธุระอยู่ข้างนอก หมายความว่าไง........?? ซื้อคอร์สแล้วจบไป ไม่รับบริการหลังการขายหรือไงคะ ?? ตรงนี้คือแย่มาก อย่างเห็นได้ชัดว่าไม่สนใจเราเลย เราก็ไม่ซีเรียสค่ะ ก็ไปทำทรีทเม้นท์ปกติ ตามที่นัดกันไว้ ตามนั้นค่ะ !!
หลังจากทำทรีทเม้นท์ได้ 3 ครั้ง ซึ่งครั้งสุดท้ายได้เจอกับเซลล์คนที่ขายคอร์สให้เราค่ะ วันนั้นเขาก็ยังมาตามขายคอร์สเพิ่มเติมโดยอ้างโปรโมชั่นมากมาย ขายถูกกว่าครั้งแรกอีกค่ะ บอกว่าเป็นคอร์สสิทธิ์แลกซื้อ สำหรับลูกค้า ทำทรีทเม้นท์ 10 ครั้ง เพียง 15,000 บาท ซึ่งเราก็ตอบปฏิเสธไปอย่างที่ตั้งใจไว้ตั้งแต่แรกว่าจะไม่มาทำอีกแล้ว
** เกิดปัญหาเรื่องบัตรเครดิตที่รูดซื้อทรีทเม้นท์**
ด้วยครั้งสุดท้ายที่เจอกับเซลล์เราก็ไม่ได้ถามเขาว่าเขาจัดการเรื่องผ่อนชำระบัตรให้หรือยัง ก็เลยแอดไลน์ไปหลังจากนั้น 2 วันเลยแอดไลน์ไปถามเลยค่ะ สรุปเซล์ตอบกลับมาว่าลืมโทรให้ ขอโทษด้วย ??? !!!! ให้เราแจ้งเลขที่บัตรไปอีกครั้ง แล้วเขาจะจัดการให้ คืออะไรค่ะ !!!! คือเราไม่โอเคอย่างแรง..... ด้วยความร้อนใจ เพราะว่าบัตรเครดิตเป็นของแฟนไม่ใช่ของตัวเอง ก็รีบโทรไปหาคอลเซ็นเตอร์ ปรากฎว่า คอลเซ็นเตอร์แจ้งว่า ยอดรูด 14,000 บาท ถูกตัดยอดไปเรียบร้อยแล้วไม่สามารถโทรเพื่อขอแบ่งผ่อนชำระได้ (จากการศึกษาของเรานะค่ะ ไม่แน่ใจว่าเข้าใจถูกหรือเปล่า ถ้ากรณีแบ่งผ่อนชำระไม่ได้ เราจะต้องเสียดอก 20 เปอร์เซ็น โดยสามารถชำระขั้นต่ำตามที่ธนาคารกำหนดได้)
เราเลยไลน์ไปหาเซลล์อีกครั้งเพื่อแจ้งว่ามันเกิดกรณีแบบนั้น... ??? แล้วเขาก็อ่านค่ะ ตอนนี้ก็ยังไม่ตอบ มาถึงจุดนี้แล้วเรารู้สึกว่า เฮ้ยยย ….หากินง่ายๆแบบนี้ก็ได้ ?? คือเสียความรู้สึกมาก จากที่ตอนแรกก็ไม่ได้รู้สึกประทับใจกับสถาบันลดน้ำหนักอยู่แล้ว เพราะมีแต่คนพูดว่ามันหลอกลวง ก็เพิ่งมาเจอกับตัวเองวันนี้แหล่ะค่ะ ขอบคุณทุกคนที่รับฟัง