สวัสดีครับ

วันนี้จะมารีวิวร้านขนมหวานที่พึ่งไปทานมาเมื่อวานครับ
ผมพึ่งจะเคยรีวิวในหมวดประเภทนี้เป็นครั้งแรกยังไงก็ติชมได้นะครับ
================
ก่อนอื่นต้องขอบอกก่อนเลยว่า ตอนที่ตัดสินใจไปทานตอนแรก ไม่ได้รู้สึกว่าจะประทับใจในร้านนี้ครับ แค่เห็นป้ายโฆษณาแล้วก็เลยเดินเข้าไป55+ แต่เดี๋ยวจะมีบอกครับว่าทำไมผมถึงรู้สึกว่า มารีวิวร้านนี้ดีกว่า
ร้าน"Kyobar" ที่ผมไปทานมาเป็นร้านที่เปิดใหม่ครับ(หรือเปิดนานแล้วแต่ผมพึ่งจะเห็นก็ไม่แน่ใจครับ) ตั้งอยู่ที่พารากอนครับ ติดกับร้าน Kyo Roll En เลยครับ เพราะว่าเป็นร้านเดียวกันครับ แต่เป็นเวอร์ชั่นพิเศษกว่า อยู่ตรงโซนร้านขนมหวานที่มาเปิดใหม่กันเยอะๆหนะครับ แถวๆ Shio กับHomsuwanแล้วก็ Milcheครับ
หน้าตาของร้านจะเหมือนกับร้านทานซูชิครับ บนโต๊ะจะมีช้อนส้อมให้ และบางเมนูอาจจะต้องใช้ "ตะเกียบ" (เอ๋?)
ผมเคยเดินผ่านร้านไปมาประมาณ2-3รอบครับ และครั้งนี้ก็ตัดสินใจว่าต้องมาลองให้ได้แล้วหละ มาดูกันครับ
ฝั่งตรงข้ามของร้านก็คือร้าน Kyo Roll En ครับ
เราจะเหมือนนั่งหันหน้าเข้าหา Chef (Patissier) ครับ แล้วเขาก็จะนำเมนูมาเสิร์ฟให้ หน้าตาแบบนี้ครับ

จริงๆพนักงานต้อนรับได้อธิบายไว้ก่อนเข้ามาในร้านแล้วครับ ต้องบอกเลยว่าประทับใจการบริการของพนักงานทุกคนมากๆ เป็นมิตรแล้วตั้งใจใส่ใจอธิบายมากครับ (เป็นเหตุผลหนึ่งที่เดินเข้ามาในร้านหนะ55+)
ก็คือขนมที่นี่จะให้สั่งประหนึ่งเป็นคอร์สอาหารครับ โดยจะมีให้สั่งได้3แบบ
1. Main course + Beverage (จานหลัก+เครื่องดื่ม) 300บาท
2. Main + Appetizer (จานหลัก+จานเรียกน้ำย่อย) 350บาท //Appetizerก็เป็นขนมหวานนะ
3. All (Main + Beverage + Appetizer) 400 บาทครับ ได้ทั้ง3อย่าง

ผมเลือกสั่งเป็น Main + Appetizer 2ชุดครับ 700บาท เป็นราคาnet แล้วไม่มีบวกเพิ่มครับ
ตอนแรกนึกว่าถ้าไม่สั่งเครื่องดื่มก็คงต้องทนหิวน้ำเอา แต่ว่าเขามีน้ำเปล่าฟรีบริการ เป็นพนักงานเติมจากขวดให้ครับ ไม่ต้องเดินไปเติมเอง
หลังจากสั่งทุกอย่างไปแล้ว พนักงานก็จะเริ่มหันไปเตรียมนู่นนี่ครับ
มีป้ายบอกว่าห้ามถ่ายรูปแบบโปรครับ แต่พนักงานบอกว่าถ่ายเล่นๆได้ครับ (สงสัยเห็นผมใช้มือถือถ่ายละมั้ง)

สักพักก็มีถ้วยเล็กๆมาวางขนมแล้วมีก้อนกลมเตี้ยๆ พอพนักงานเอาน้ำราด มันก็ขยายเด้ง!!! ขึ้นมาครับ ผมตื่นตาตื่นใจมาก สรุปมันคือผ้าเช็ดมือครับ555+ นึกว่าของกิน

มาดู Appetizerแรกกัน "BBQ"

**ถ้าใครอ่านถึงตรงนี้แล้วคิดว่าจะลองไปทานดู ข้าม2-3รูปต่อไปนี้ไปก่อนนะครับ เดี๋ยวจะโดยสปอย เพราะว่าเมนูนี้ทางร้านบอกว่าเป็นสเปเชียลครับ ผมก็เลยสั่งมา
ผมถ่ายรูปๆพร้อมกับคิดไปในใจครับว่าเขาจะทำเนื้อปูมาจากอะไรนะ เปลือกกินได้รึเปล่านะ อลังการจังเลยนะ
แล้วทันใดนั้นเองพนักงานก็หยิบปูออกไปเฉยเลยครับ แล้วบอกว่าพิเศษ เป็นเซอไพรซ์ค่า ให้ทานถ่านนะคะ

รู้สึกเหมือนจะมีอะไรมาให้ตื่นเต้นตลอดเวลาเลยครับ เป็นการทานอาหารที่สนุกดี ตัวถ่านทำมาจากเมอแรงครับ แล้วซอสจิ้มมีรสมะม่วงกับชาเขียว อร่อยดีครับ
ต่อมาAppetizerที่2 "Soba"

ไอเดียแบบบะหมี่เย็นครับ ถ้วยวางอยู่ในน้ำแข็ง แล้วตัวเส้นทำจากอะไรสักอย่างหนึบๆเหมือนวุ้นครับ น้ำซอสสีน้ำตาลๆรสชาติแบบโมจิตรับ แล้วให้เราโรยถั่ว(?)บดลงไปด้วยครับ แล้วใช้ตะเกียบคีบกิน อันนี้ก็อร่อยครับ

ถึงเวลาของMainแล้วววววว~

จานแรก: Cocoa story กินได้ทุกอย่างบนจาน

พนักงานบอกว่าไอเดียเป็นการเจริญเติบโตของเมล็ดโกโก้ตั้งแต่แรกในปุ๋ยจนโตเป็นต้นครับ แล้วก็บรรยายที่มาเป็นเรื่องเป็นราวเลยครับ แต่ว่าเล่าด้วยความจริงใจมาก ผมตั้งใจฟังจนจบเลยนะ55+
จากการลองชิมและสอบถามพนักงานครับ ตัวต้นไม้ทำจากคุกกี้รสมิโซธครับ(อันเดียวกับในซุปหนะครับ) เงาต้นไม้จากช็อคโกแลตครับ ปุ๋ยเป็นเกล็ดช็อคโกแลตผสมคุกกี้มิโซะ ดินทำจากบราวนี่และไอติมช็อคโกแลต เห็ดน่าจะทำจากสายไหมครับหรือน้ำตาลเคลือบครับ

จานนี้ให้ 3 จาก 5ครับด้านรสชาติ รู้สึกว่ามันหวานๆไปหน่อยครับ แล้วมาตัดเค็มจากคุกกี้ ปะแล่มๆหน่อยๆนะ แต่โดยรวมๆก็กินได้จนหมดครับ เรื่อยๆดี
มัวแต่ถ่ายรูปจนจานต่อไปมาถึง

อีกสักรูปคู่กันกับจานที่2ครับ "Pantone"มาในธีมเมล่อนครับ

จานนี้จำไม่ได้ว่าอะไรยังไงครับ แจ่ในจานจะเป็นรสเมล่อนผสมมินท์ครับ ถ้าเขียมเข้มก็จเป็นมินท์ (โหระพา) ถ้าสีอ่อนจะเป็นเมล่อนครับ

ภายในเจ้าลูกเมล่อน(ของปลอมครับ) เป็นกรานิต้า2รสครับ มินท์กับเมล่อน เมล่อนอีกลูกเป็นเค้กครับ และกลมๆบนจานทำมาจากวุ้นครับ ตกแต่งซะสวยเชียว

ผ่าในเค้กให้ดูครับ

เมนูนี้ก็ให้3 จาก5ครับ รสมินท์มันเหมือนจะมีแต่กลิ่นจากรสแรงๆครับ พอมาตัดกับเมล่อนที่หวานๆแล้วมันออกจะเป็นเผ็ดครับ
หลังจากทานหมด พนักงานก็บอกว่ามี นามะช็อคโกแลต มาให้ชิมครับ

เนื้อสัมผัสเนียนมากเลยครับ เนียนกว่าRoyceละมั้ง ส่วนรสชาติจะหวานช้าครับ แต่พอหวานแล้วจะหวานมากๆเลย ถ้าไม่ได้ชอบทานหวานอาจจะรู้สึกหวานแสบคอได้ครับ
โดยรวมๆแล้วขอให้คะแนนตามนี้ครับ
การบริการของพนักงาน อัธยาศัย ความเป็นมิตร 5/5
บรรยากาศร้าน ความสะอาด สะดวกสบาย 4.5/5
ความครีเอท น่าถ่ายรูป น่าตื่นเต้น สร้างสรรค์ 5/5
รสชาติ 3/5
(ไม่ต้องตกใจที่ให้3นะครับ ด้านรสชาติ สำหรับผม3คะแนนสำหรับรสยถึง รสชาติมาตรฐานครับ คือร้านขนมหวานส่วนใหญ่ก็รสชาติประมาณนี้ ไม่ได้โดดเด่น ไม่ได้หวือหวาแบบทานแล้วจดจำได้ทันทีว่าเป็นของร้านนี้ ร้านนี้ครับ)
ง่ายๆคือรสชาติดีแล้วครับ แค่ไม่ได้กินแล้วรู้สึก อ็วววว ว้าวววววววว ยิ้มออกมาอะไรแบบนั้นครับ เป็นความรู้สึกแบบอืม ก็ขนมหวานอะ แล้วก็ทานๆได้ไปจนหมดครับ
ผมคิดว่าคงกลับไปทานอีกครับ เพราะมีอีกหลายอันสวยดี อยากไปลองดูลูกเล่นครับ แล้วพนักงานก็บริการดีมากๆเลย ผมเป็นคนตัดสินใจจากบริการเป็นอย่างแรกหนะ55+
จบแล้วครับ
[CR] "Kyobar" ร้านขนมหวานญี่ปุ่นสุดน่ารัก พร้อมการตกแต่งสุดครีเอท
วันนี้จะมารีวิวร้านขนมหวานที่พึ่งไปทานมาเมื่อวานครับ
ผมพึ่งจะเคยรีวิวในหมวดประเภทนี้เป็นครั้งแรกยังไงก็ติชมได้นะครับ
ก่อนอื่นต้องขอบอกก่อนเลยว่า ตอนที่ตัดสินใจไปทานตอนแรก ไม่ได้รู้สึกว่าจะประทับใจในร้านนี้ครับ แค่เห็นป้ายโฆษณาแล้วก็เลยเดินเข้าไป55+ แต่เดี๋ยวจะมีบอกครับว่าทำไมผมถึงรู้สึกว่า มารีวิวร้านนี้ดีกว่า
ร้าน"Kyobar" ที่ผมไปทานมาเป็นร้านที่เปิดใหม่ครับ(หรือเปิดนานแล้วแต่ผมพึ่งจะเห็นก็ไม่แน่ใจครับ) ตั้งอยู่ที่พารากอนครับ ติดกับร้าน Kyo Roll En เลยครับ เพราะว่าเป็นร้านเดียวกันครับ แต่เป็นเวอร์ชั่นพิเศษกว่า อยู่ตรงโซนร้านขนมหวานที่มาเปิดใหม่กันเยอะๆหนะครับ แถวๆ Shio กับHomsuwanแล้วก็ Milcheครับ
หน้าตาของร้านจะเหมือนกับร้านทานซูชิครับ บนโต๊ะจะมีช้อนส้อมให้ และบางเมนูอาจจะต้องใช้ "ตะเกียบ" (เอ๋?)
ผมเคยเดินผ่านร้านไปมาประมาณ2-3รอบครับ และครั้งนี้ก็ตัดสินใจว่าต้องมาลองให้ได้แล้วหละ มาดูกันครับ
ฝั่งตรงข้ามของร้านก็คือร้าน Kyo Roll En ครับ
เราจะเหมือนนั่งหันหน้าเข้าหา Chef (Patissier) ครับ แล้วเขาก็จะนำเมนูมาเสิร์ฟให้ หน้าตาแบบนี้ครับ
จริงๆพนักงานต้อนรับได้อธิบายไว้ก่อนเข้ามาในร้านแล้วครับ ต้องบอกเลยว่าประทับใจการบริการของพนักงานทุกคนมากๆ เป็นมิตรแล้วตั้งใจใส่ใจอธิบายมากครับ (เป็นเหตุผลหนึ่งที่เดินเข้ามาในร้านหนะ55+)
ก็คือขนมที่นี่จะให้สั่งประหนึ่งเป็นคอร์สอาหารครับ โดยจะมีให้สั่งได้3แบบ
1. Main course + Beverage (จานหลัก+เครื่องดื่ม) 300บาท
2. Main + Appetizer (จานหลัก+จานเรียกน้ำย่อย) 350บาท //Appetizerก็เป็นขนมหวานนะ
3. All (Main + Beverage + Appetizer) 400 บาทครับ ได้ทั้ง3อย่าง
ผมเลือกสั่งเป็น Main + Appetizer 2ชุดครับ 700บาท เป็นราคาnet แล้วไม่มีบวกเพิ่มครับ
ตอนแรกนึกว่าถ้าไม่สั่งเครื่องดื่มก็คงต้องทนหิวน้ำเอา แต่ว่าเขามีน้ำเปล่าฟรีบริการ เป็นพนักงานเติมจากขวดให้ครับ ไม่ต้องเดินไปเติมเอง
หลังจากสั่งทุกอย่างไปแล้ว พนักงานก็จะเริ่มหันไปเตรียมนู่นนี่ครับ
มีป้ายบอกว่าห้ามถ่ายรูปแบบโปรครับ แต่พนักงานบอกว่าถ่ายเล่นๆได้ครับ (สงสัยเห็นผมใช้มือถือถ่ายละมั้ง)
สักพักก็มีถ้วยเล็กๆมาวางขนมแล้วมีก้อนกลมเตี้ยๆ พอพนักงานเอาน้ำราด มันก็ขยายเด้ง!!! ขึ้นมาครับ ผมตื่นตาตื่นใจมาก สรุปมันคือผ้าเช็ดมือครับ555+ นึกว่าของกิน
มาดู Appetizerแรกกัน "BBQ"
**ถ้าใครอ่านถึงตรงนี้แล้วคิดว่าจะลองไปทานดู ข้าม2-3รูปต่อไปนี้ไปก่อนนะครับ เดี๋ยวจะโดยสปอย เพราะว่าเมนูนี้ทางร้านบอกว่าเป็นสเปเชียลครับ ผมก็เลยสั่งมา
ผมถ่ายรูปๆพร้อมกับคิดไปในใจครับว่าเขาจะทำเนื้อปูมาจากอะไรนะ เปลือกกินได้รึเปล่านะ อลังการจังเลยนะ
แล้วทันใดนั้นเองพนักงานก็หยิบปูออกไปเฉยเลยครับ แล้วบอกว่าพิเศษ เป็นเซอไพรซ์ค่า ให้ทานถ่านนะคะ
รู้สึกเหมือนจะมีอะไรมาให้ตื่นเต้นตลอดเวลาเลยครับ เป็นการทานอาหารที่สนุกดี ตัวถ่านทำมาจากเมอแรงครับ แล้วซอสจิ้มมีรสมะม่วงกับชาเขียว อร่อยดีครับ
ต่อมาAppetizerที่2 "Soba"
ไอเดียแบบบะหมี่เย็นครับ ถ้วยวางอยู่ในน้ำแข็ง แล้วตัวเส้นทำจากอะไรสักอย่างหนึบๆเหมือนวุ้นครับ น้ำซอสสีน้ำตาลๆรสชาติแบบโมจิตรับ แล้วให้เราโรยถั่ว(?)บดลงไปด้วยครับ แล้วใช้ตะเกียบคีบกิน อันนี้ก็อร่อยครับ
ถึงเวลาของMainแล้วววววว~
จานแรก: Cocoa story กินได้ทุกอย่างบนจาน
พนักงานบอกว่าไอเดียเป็นการเจริญเติบโตของเมล็ดโกโก้ตั้งแต่แรกในปุ๋ยจนโตเป็นต้นครับ แล้วก็บรรยายที่มาเป็นเรื่องเป็นราวเลยครับ แต่ว่าเล่าด้วยความจริงใจมาก ผมตั้งใจฟังจนจบเลยนะ55+
จากการลองชิมและสอบถามพนักงานครับ ตัวต้นไม้ทำจากคุกกี้รสมิโซธครับ(อันเดียวกับในซุปหนะครับ) เงาต้นไม้จากช็อคโกแลตครับ ปุ๋ยเป็นเกล็ดช็อคโกแลตผสมคุกกี้มิโซะ ดินทำจากบราวนี่และไอติมช็อคโกแลต เห็ดน่าจะทำจากสายไหมครับหรือน้ำตาลเคลือบครับ
จานนี้ให้ 3 จาก 5ครับด้านรสชาติ รู้สึกว่ามันหวานๆไปหน่อยครับ แล้วมาตัดเค็มจากคุกกี้ ปะแล่มๆหน่อยๆนะ แต่โดยรวมๆก็กินได้จนหมดครับ เรื่อยๆดี
มัวแต่ถ่ายรูปจนจานต่อไปมาถึง
อีกสักรูปคู่กันกับจานที่2ครับ "Pantone"มาในธีมเมล่อนครับ
จานนี้จำไม่ได้ว่าอะไรยังไงครับ แจ่ในจานจะเป็นรสเมล่อนผสมมินท์ครับ ถ้าเขียมเข้มก็จเป็นมินท์ (โหระพา) ถ้าสีอ่อนจะเป็นเมล่อนครับ
ภายในเจ้าลูกเมล่อน(ของปลอมครับ) เป็นกรานิต้า2รสครับ มินท์กับเมล่อน เมล่อนอีกลูกเป็นเค้กครับ และกลมๆบนจานทำมาจากวุ้นครับ ตกแต่งซะสวยเชียว
ผ่าในเค้กให้ดูครับ
เมนูนี้ก็ให้3 จาก5ครับ รสมินท์มันเหมือนจะมีแต่กลิ่นจากรสแรงๆครับ พอมาตัดกับเมล่อนที่หวานๆแล้วมันออกจะเป็นเผ็ดครับ
หลังจากทานหมด พนักงานก็บอกว่ามี นามะช็อคโกแลต มาให้ชิมครับ
เนื้อสัมผัสเนียนมากเลยครับ เนียนกว่าRoyceละมั้ง ส่วนรสชาติจะหวานช้าครับ แต่พอหวานแล้วจะหวานมากๆเลย ถ้าไม่ได้ชอบทานหวานอาจจะรู้สึกหวานแสบคอได้ครับ
โดยรวมๆแล้วขอให้คะแนนตามนี้ครับ
การบริการของพนักงาน อัธยาศัย ความเป็นมิตร 5/5
บรรยากาศร้าน ความสะอาด สะดวกสบาย 4.5/5
ความครีเอท น่าถ่ายรูป น่าตื่นเต้น สร้างสรรค์ 5/5
รสชาติ 3/5
(ไม่ต้องตกใจที่ให้3นะครับ ด้านรสชาติ สำหรับผม3คะแนนสำหรับรสยถึง รสชาติมาตรฐานครับ คือร้านขนมหวานส่วนใหญ่ก็รสชาติประมาณนี้ ไม่ได้โดดเด่น ไม่ได้หวือหวาแบบทานแล้วจดจำได้ทันทีว่าเป็นของร้านนี้ ร้านนี้ครับ)
ง่ายๆคือรสชาติดีแล้วครับ แค่ไม่ได้กินแล้วรู้สึก อ็วววว ว้าวววววววว ยิ้มออกมาอะไรแบบนั้นครับ เป็นความรู้สึกแบบอืม ก็ขนมหวานอะ แล้วก็ทานๆได้ไปจนหมดครับ
ผมคิดว่าคงกลับไปทานอีกครับ เพราะมีอีกหลายอันสวยดี อยากไปลองดูลูกเล่นครับ แล้วพนักงานก็บริการดีมากๆเลย ผมเป็นคนตัดสินใจจากบริการเป็นอย่างแรกหนะ55+
จบแล้วครับ
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น