ชื่อกระทู้วันนี้ผมนำมาจากเพจเฟสบุ๊คของผม คือ www.facebook.com/รำพึงรำพันโดยหนุ่มร้อยปี เพจนี้ผมใช้เขียนอะไรต่อมิอะไรสไตล์ครอบจักรวาล แล้วแต่ว่ามีความบันดาลใจจะเขียนเรื่องอะไร ทำนองเดียวกับการเขียนไดอารี่นั่นแหละครับ
ผมเข้ามาเป็นสมาชิกของห้องนี้ประมาณเกือบหนึ่งสัปดาห์แล้ว สังเกตุเห็นว่าไม่ค่อยมีผู้สูงอายุเข้ามาแลกเปลี่ยนหรือแชร์ประสบการณ์ เห็นมีท่านพี่เจียวต้ายที่เข่ามาเกือบจะทุกวัน จึงใคร่ขอเชิญผู้สูงอายุทุกท่านเข้ามามากๆครับ จะได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์ที่เป็นประโยชน์ต่อกัน
สำหรับท่านที่ยังไม่อยู่ในเกณฑ์ผู้สูงอายุก็เข้ามาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันได้นะครับ แชร์เรื่องราวญาติผู้ใหญ่ของท่านว่ามีความเป็นอยู่อย่างไร ใช้ชีวิตประจำวันอย่างไร เป็นโรคภัยไข้เจ็บอะไบ้าง ก็จะเป็นอีกมิติหนึ่งของผู้สูงวัยที่น่าสนใจครับ
ผมวันนี้ก็อายุย่างขึ้น 80 ปี (14 พฤษภาคม 2481) แล้วครับ เคยมีคนถามผมว่ารู้สึกอย่างไรที่มีอายุเข้าวัยนี้ ผมก็ตอบว่าดีใจที่สามารถมีอายุมาถึงวัยนี้ได้ จะไม่อ้างอิงอะไรหรอกครับว่า ชาติก่อน(ถ้ามี)ทำบุญอะไรมาจึงมีอายุยืน แต่มีความเชื่อเป็นส่วนตัวว่าคงจะเป็นเพราะไม่ไปเสพอะไรที่เป็นภัยต่อร่างกายมาตั้งแต่อายุยังน้อยๆ เช่น สุรา บุหรี่ ฯลฯ ทานอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย ทำงานและใช้ชีวิตอย่างไม่ประมาท
ในทางพระพุทธศาสนาแบ่งชีวิตของคนเราออกเป็นสองภาค คือ จิต และร่างกาย ซึ่งมีความสัมพันธ์กันอย่างใกล้ชิด มีคำกล่าวที่คุ้นเคยกันว่า "จิตเป็นนาย กายเป็นบ่าว" ฉะนั้น ผู้สูงอายุจึงควรจะทำความเข้าใจกับ จิต และ กาย ให้ดี เพื่อให้ชีวีมีความสุขตามอัตถภาพ
สิ่งที่พิสูจน์ว่า จิต และ กาย มีความสัมพันธ์กันคือ เวลาผู้สูงอายุเจ็บป่วยไม่สบาย จะมีความไม่สบายใจ น้อยใจ บ่นจู้จี้ สร้างความรำคาญใจให้กับผู้ใกล้ชิดหรือลูกหลาน หรือบางโรคก็ทำให้ท้อแท้หมดกำลังใจไปเลย เช่น โรคมะเร็ง เป็นต้น
หากผู้สูงอายุทำความเข้าใจเกี่ยวกับร่างกายและโรคภัยไข้เจ็บได้ในระดับหนึ่ง ก็จะทำให้สุขภาพจิตดีขึ้น อาการเจ็บป่วยก็จะไม่รุนแรงและอาจจะหายเร็วขึ้น
รำพึงรำพัน โดย หนุ่มร้อยปี (1)
ผมเข้ามาเป็นสมาชิกของห้องนี้ประมาณเกือบหนึ่งสัปดาห์แล้ว สังเกตุเห็นว่าไม่ค่อยมีผู้สูงอายุเข้ามาแลกเปลี่ยนหรือแชร์ประสบการณ์ เห็นมีท่านพี่เจียวต้ายที่เข่ามาเกือบจะทุกวัน จึงใคร่ขอเชิญผู้สูงอายุทุกท่านเข้ามามากๆครับ จะได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์ที่เป็นประโยชน์ต่อกัน
สำหรับท่านที่ยังไม่อยู่ในเกณฑ์ผู้สูงอายุก็เข้ามาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันได้นะครับ แชร์เรื่องราวญาติผู้ใหญ่ของท่านว่ามีความเป็นอยู่อย่างไร ใช้ชีวิตประจำวันอย่างไร เป็นโรคภัยไข้เจ็บอะไบ้าง ก็จะเป็นอีกมิติหนึ่งของผู้สูงวัยที่น่าสนใจครับ
ผมวันนี้ก็อายุย่างขึ้น 80 ปี (14 พฤษภาคม 2481) แล้วครับ เคยมีคนถามผมว่ารู้สึกอย่างไรที่มีอายุเข้าวัยนี้ ผมก็ตอบว่าดีใจที่สามารถมีอายุมาถึงวัยนี้ได้ จะไม่อ้างอิงอะไรหรอกครับว่า ชาติก่อน(ถ้ามี)ทำบุญอะไรมาจึงมีอายุยืน แต่มีความเชื่อเป็นส่วนตัวว่าคงจะเป็นเพราะไม่ไปเสพอะไรที่เป็นภัยต่อร่างกายมาตั้งแต่อายุยังน้อยๆ เช่น สุรา บุหรี่ ฯลฯ ทานอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย ทำงานและใช้ชีวิตอย่างไม่ประมาท
ในทางพระพุทธศาสนาแบ่งชีวิตของคนเราออกเป็นสองภาค คือ จิต และร่างกาย ซึ่งมีความสัมพันธ์กันอย่างใกล้ชิด มีคำกล่าวที่คุ้นเคยกันว่า "จิตเป็นนาย กายเป็นบ่าว" ฉะนั้น ผู้สูงอายุจึงควรจะทำความเข้าใจกับ จิต และ กาย ให้ดี เพื่อให้ชีวีมีความสุขตามอัตถภาพ
สิ่งที่พิสูจน์ว่า จิต และ กาย มีความสัมพันธ์กันคือ เวลาผู้สูงอายุเจ็บป่วยไม่สบาย จะมีความไม่สบายใจ น้อยใจ บ่นจู้จี้ สร้างความรำคาญใจให้กับผู้ใกล้ชิดหรือลูกหลาน หรือบางโรคก็ทำให้ท้อแท้หมดกำลังใจไปเลย เช่น โรคมะเร็ง เป็นต้น
หากผู้สูงอายุทำความเข้าใจเกี่ยวกับร่างกายและโรคภัยไข้เจ็บได้ในระดับหนึ่ง ก็จะทำให้สุขภาพจิตดีขึ้น อาการเจ็บป่วยก็จะไม่รุนแรงและอาจจะหายเร็วขึ้น