แชร์ประสบการณ์ อรูปฌาน

กระทู้สนทนา
ผมเริ่มฝึกนั่งสมาธิมาได้เกือบ 1 ปีครับ ในช่วงการฝึกของผมในช่วงแรกๆ ผมลองหัดลองผิดลองถูกครับ เริ่มจากนับ1-1000 แล้วก็เปลี่ยนมาเป็น พุท-โธ และในวันหนึ่งที่ไปนั่งสมาธิที่วัดหลังจากเริ่มได้ 3 เดือน ก็สามารถเข้าสมาธิในระดับฌานได้แบบบังเอิญ โดยในครั้งแรกที่ทำได้ผมคิดว่าเป็นวิธีใหม่ และลองพยายามนั่ง แต่นั่งไปถึงระดับนั้นไม่ได้อยู่เกือบสัปดาห์ครับ

และก็ได้ไปเจอเพจหนึ่งที่สอนในเรื่องการทำสมาธิ เมื่ออ่านดูจึงพบว่าระดับที่เคยทำได้นั้นคือ ฌาน และเปลี่ยนการกำหนดลมหายใจเป็น อยุโลม(เกษา โลมา นขา ทันตา ตโจ)-ปฏิโลม(ตโจ-ทันตา-นขา-โลมา-เกษา) ซึ่งเมื่อฝึกตามเพจนั้นไปก็สามารถเข้าถึงในระดับฌานได้อีกครั้งครับ แต่ยังไม่บ่อยมาก ยังควบคุมได้ยาก ทำสมาธิ 10 ครั้งจะเข้าถึงได้ 2-3 ครั้ง

อันนี้ขอแชร์เทคนิคนะครับในการเข้าสู่ระดับฌานทีาทำได้เร็วที่สุดของผม
เริ่มจากกราบ 5 ครั้ง ระลึกถึง พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ บิดามารดา ครูบาอาจารย์ทั้งหลาย ขอให้ช่วยสั่งสอนและทำสมาธิได้ราบรื่น  ต่อมา คือ นั่งขาขวาทับขาซ้าย และหายใจลึกๆ เข้าทางจมูกปล่อยออกทางปาก 3-4 ครั้ง พยายามให้กำหนดลมหายใจไปไว้ที่ลิ้นปี่ แล้วจึงหลับตาลงก็เริ่มกำหนดลมหายใจโดย อนุโลม-ปฏิโลม พยายามกำหนดลมลงไปที่ท้อง (สำหรับมือใหม่แนะนำว่าถ้ากำหนดไปที่ปลายจมูกจะทำให้จิตไปรวมที่หน้าฝากจนติดและเอาออกได้ยากมาก ควรกำหนดที่ลิ้นปี่จะง่ายกว่ามาก)  เมื่อเรากำหนดลมไปที่ลิ้นปีแล้ว ก็ปล่อยให้ร่างกายหายใจเอง เราเพียงรับรู้การหายใจเข้าออก ซึ่งตรงนี้ผมมี้เทคนิคที่ได้จากการอ่านหนังสือ คือ การเปลี่ยนจุดกำหนดจากลิ้นปี่ ไปท้องน้อย ไปก้นกบ ขึ้นไปที่ท้ายทอย ขึ้นไปสุดที่กระหม่อม ทำแบบนี้สัก 3 รอบ

เมื่อเวียนจุดกำหนดแล้วก็กำหนดมาที่ลิ้นปี่ หรือ ท้องน้อย ในใจก็ อนุโลม-ปฏิโลมวนไปเรื่อยๆ ถ้าสับสนก็เริ่มใหม่อย่าพยายามไปคิดย้อนว่าทำไม ให้ทำวนไปโดยกำหนดใจไปที่ท้องอย่างต่อเนื่อง

โดยความรู้สึกเท่าที่ได้ค้นหาข้อมูลและลองปฏิบัติ คือ ขั้นแรกหยุดคิด สองกายบิดเบี้ยว สามหมุนไร้น้ำหนัก สี่ชาไปทั่วกาย

ขอเพิ่มรายละเอียดในแต่ละขั้นนะครับ เมื่อเรานั่งภาวนาไปเรื่อยๆ เอาใจไว้ที่ท้องเมื่อเราหยุดคิดได้เมื่อจะเข้าสู่ระลับสอง คือกายบิดเบี้ยวจะเกิดปิติ ทำให้เรารู้สึกว่า ยืดออก พองออก หดเล็กลง หรือแม้แต่รู้สึกตัวลอยเหมือนยืนอยู่ และมีน้ำตาไหลออกมาเอง

ระดับต่อมาคือ หมุนไร้น้ำหนัก ในระดับนี้จะหมุนคว้างเลยครับ หมุนรอบทิศเลย ตรงนี้ต้องคุมจิตดีๆ เพราะตอยแรกๆ ผมจะควบคุมได้ยากมาก ให้เราคุมจิตภาวนาไปเรื่อยๆ ในระดับต่อมาคือ กายชาทั่วร่าง จะรู้สึกชาไปทั่วตัว บางครั้งเริ่มจากปลายเท้า บางครั้งเริ่มจากนิ้วมือ บางครั้งเริ่มจากหัวไล่ลงมา ซึ่งแล้วแต่ว่าฌานจะจับระดับไหน เพราะเมื่อฌานจับดีๆ นี่ ชาทั้งจัวแม้แต่ลิ้นก็ยังชาเลย ตอนที่ผมเข้าถึงระดับนี้ครั้งแรก ผมยังภาวนา พุทโธ อยู่เลย ในครั้งแรกผมออกจากระดับนี้ไม่ได้ อยู่ในสมาธิออกไม่ได้ ขนาดหลานชายอายุ4ขวบมาเขย่าตัวแรงๆ จิตก็ข้ามไปเลย มันจะรู้แต่ว่าตอนนี้เราหายใขเข้าหรือออกแค่นั้น ซึ่งทางที่ถูก คือ ค่อยๆ ออกมาทีละขั้น โดยพยายามให้จิตถอยออกมาทีละขั้นเหมือนตอนเข้าไป ซึ่งฌานที่ดีสำหรับผม คือ เมื่อออกจากฌานแล้วจะสดใสเบิกบาน และไม่เมื่อยสามารถลุกเดินได้ทันทีครับ ซึ่งกว่าจะนั่งได้คล่องเข้าออกได้ระดับนี้ก็มี7-8 เดือนครับ

ต่อมาผมอยากรู้ว่าอรูปฌานนั้นเป็นอย่างไร เพราะพยายามหาข้อมูลแล้ว หาไม่ได้เลยครับ รู้แต่ว่าการเข้าอรูปฌาน คือ ต้องไม่กำหนด ตรงจุดนี้ผมลองผิดลองถูกเองครับ ซึ่งก็ไม่แน่ใจว่าใช่อรูปฌานหรือไม่อย่างไรครับ เพราะยังไม่มีข้อมูลของบุคคลอื่นมาแชร์เลยครับ โดยในการเข้าระดับนี้นั้น ผมฝึกในระดับฌานที่ชาทั้งกายได้จนเหมือนจะควบคุมได้เกือบ 100% ครับ แต่ขึ้นอยู่กับวันและเวลาด้วยครับ

เมื่อสามารถนั่งแบบที่ชาทั้งตัวจนเข้าออกได้ชำนาญแล้ว ผมเคยเข้าในระดับนี้ได้ จนถึงวันนี้ 3-4 ครั้งเองครับ ซึ่งผมใช้วิธีไม่กำหนดลมหายใจครับ โดยจะต่างจากระดับรูปฌานแบบคนละขั้วเลย ซึ่งความรู้สึกในระดับนั้นจำได้ดีครับ คือ มันว่างๆ ครับ ไม่มีอะไร เหมือนเราลืมไปแม้กระทั่งลมหายใจ ลืมทุกสิ่งไปเลย ไม่มีความรู้สึกใดๆ  แต่ยังรู้ตัวรู้สติตลอดนะครับ จะว่าเหมือนเราหลับไปแต่รู้ตัวตลอดเวลาครับ

ซึ่งผมยังฝึกฝนเองได้เพียงเท่านี้ครับ ขอความกรุณาผู้ปฏิบัติทุกท่านช่วยแชร์ด้วยครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่