เกิดมา ชีวิตผมต้องหวาดระแวงอยู่เสมอๆ ไม่ว่าทำอะไรแม่ผมจะต้องดุด่าตั้งแต่เด็ก ซึ่งด่านี่คือด่าแบบคนโตๆเขาด่ากันเลยนะครับ จำความได้ตอนไหนก็โดนด่าตั้งแต่ตอนนั้นมาจนถึงปัจจุบันครับ แม่ผมจะห้ามผมเล่นเกม ดูหนัง การ์ตูน ตั้งแต่อนุบาล เวลาผมจะทำอะไรที่โดนห้ามจะต้องแอบเสมอ ต้องโกหกเสมอ คนรอบข้างผมในวัยนั้นเลยออกแนวเกลียดผมเพราะเห็นว่าผมชอบโกหก ทั้งๆที่ผมไม่อยากโกหกก็ตาม มันเหมือนเป็นการกระทำไปโดยไม่รู้ตัว
ปัจจุบันผมโตแล้ว ใกล้จะเข้าทำงานเร็วๆนี้ ผมมีเรื่องกับแม่ประจำ เอาเป็นว่าชีวิตวัยเด็กผมนั้นมันช่างบัดซบซะเหลือเกินพอมานั่งมองดู แม้ผมจะถูกและแม่ผมผิด แม่จะโมโหและจะทำให้ตัวเองเป็นฝ่ายถูกเสมอ การทะเลาะจะรุนแรงขึ้นถ้าผมไม่ยอมเงียบ แล้วพอเราเงียบแม่จะใส่หนักกว่าเก่า ผมต่างจากพี่สาวผมที่เป็นคนฉลาดและมักจะเงียบเวลาทะเลาะกับแม่ พี่สาวผมทะเลาะกับแม่น้อยมากเพราะไม่ค่อยอยู่บ้านแต่ไหนแต่ไร ดังนั้นพี่ผมจะไม่เข้าใจว่าทำไมผมถึงเถียง
ครอบครัวผมแตกแยกครับ พ่อผมเป็นราชการออกจากบ้านไปนานแล้วเขาบอกว่าทนอยู่ไม่ได้ ถ้าอยู่ ได้มีคนตายแน่นอน พอพ่อออกไปแม่ก็จะไซโคเราตลอดว่าพ่อไม่ดี พ่อมีผู้หญิง แม่จะโทรไปตามรังควานที่ทำงานพ่อเสมอ ซึ่งตรงนี้เราไม่ยุ่งเพราะไม่เชื่อใจใครยกเว้นตัวเอง
ขอพูดถึงความรุนแรงของการด่าของแม่ก่อนครับ แม่ผมด่าคนได้เจ็บมาก เจ็บจนอยากจะฆ่าตัวตาย แล้วยิ่งเราไม่สามารถทำอะไรได้มันยิ่งเจ็บปวดแสนสาหัส คำดูถูก เหยียดหยามที่ออกมา ไม่คิดเลยว่าคนที่ด่าจะเป็นแม่ของเราเอง ย้อนกลับไปช่วงเด็กๆ เวลาเราทำอะไรผิดแม่จะด่าแรงมากเหมือนกัน แต่จะไล่เราออกไปนั่งนอกบ้านบ่อยมาก ไปนั่งกับสุนัขที่บ้านบ้าง ไล่ไปอยู่นอกตัวบ้านเลยก็มี ไล่ลงรถบ้างแล้วจะขับรถหนีไปไกลๆให้เดินตาม จำได้เลยว่าร้องไห้จนไม่มีน้ำตาออกมา จากนั้นมันก็ฝังลึกลงไปในความคิด จนนานๆเข้ามันไม่ร้องแล้วครับ มันคับแค้นใจจนอยากจะฆ่าตัวตายให้มันจบสิ้นไปสักที น้ำร้อนสาดเท้า, ถือมีดขู่จะฆ่าก็เจอมาแล้ว, ถ่มน้ำลายใส่หน้าก็โดนมาแล้ว,
พอโตมาผมตัวใหญ่กว่า แม่จะไม่กล้าทำอะไรมากแต่จะยังคงด่าว่าเราได้แบบเจ็บกว่าเดิม ชอบไล่เราออกนอกบ้านว่าไปหาบ้านอยู่เองไป ด่าว่าไม่น่ามีเลย อย่างนู้นอย่างนี้ หลายครั้งที่เรื่องเล็ก เช่น การวางของเข้าที่ จะนำไปสู่การทะเลาะใหญ่โต แม่ผมเป็นคนที่เมื่อก่อนยิ่งใหญ่ รวย ทุกคนต้องเคารพ แต่ผ่านมานานมากแล้ว ตอนนี้ไม่ได้มีอะไรดีเลย ชีวิตคนปกติ ไม่ได้รวย ไม่ได้จน แต่ อีโก้ ยังคงสูงมากกลายเป็นคนที่ไม่ฟังใคร ฉันถูกเสมอไม่ว่าอะไรก็ตาม เวลามีเรื่องผมจะอธิบายดีๆ ก็จะด่าเอาๆ ชอบอ้างว่าประสบการณ์ไม่ถึง 20 ปีจะมา

สอนคนอื่น
เวลาทะเลาะกันผมจะยืนสู้เสมอถ้าผมเป็นฝ่ายถูก ผมไม่ยอมแล้วยิ่งเป็นแม่ด้วย ผมจะสู้สุดชีวิต แต่! ผมเริ่มด้วยการอธิบายดีๆ แต่ก็ไม่รอดสุดท้ายกลายเป็นการทะเลาะกันเช่นเดิม โดนด่าเจ็บแสบเหมือนเดิม แม่ชอบทำให้ผมเจ็บใจด้วยการปาอะไรก็ตามที่เป็นของผม หนังสือนิยายที่เพื่อนให้มา ซึ่งมันหายากมาก ปาลงพื้นยับเละเทะ , ของมีค่าต่างๆนาๆ, และมีอีกมากมายครับ หลังจากนั้นจะไล่เราไปอยู่ข้างนอก ขอเล่าเพิ่มนิดนึงสมัยช่วงมัธยมแม่ผมโยน กระเป๋าเรียนผมทิ้งผมก็ต้องไปตามหากลับมา, รองเท้าก็โยนลงคลองมาแล้ว ผมก็ต้องวิ่งไปเก็บกลับมา
จิตเวชแม่ผมเคยไปมาแล้ว แต่ไม่ได้ไปเพราะตัวเอง ไปเพราะไม่ชอบการกระทำของผม (คือผมเป็นสมาธิสั้น 5%) แต่หมอกลับบอกผมว่าแม่น่ะเป็นโรคจิตประเภทหนึ่ง ผมก็เล่าให้หมอฟังหลายๆเรื่อง เล่าไปก็ร้องไห้ไป (ช่วงมัธยม) รู้สึกดีที่มีคนรับฟังเราครับ แต่บอกเลยว่าการไปจิตเวชในช่วงหลายปีไม่ได้ช่วยอะไรแม่ผมเลย หมอพยายามบอกหลายอย่าง แม่ผมก็โกหกจะทำตามไปแต่ไม่เคยทำเพราะคิดว่า วิธีการของตัวเองดีที่สุด
แม่จะชอบอ้างเสมอว่าอะเป็นหนี้กู ทุกบาทที่เอาไปต้องมาคืน เวลามีอะไรจะอ้างคำนี้เสมอ ชอบทำเสียงดัง โวยวาย ด่าทอเราต่างๆนาๆ พอเราพยายามจะอธิบาย ทำแบบนี้ตลอด ยอมรับเลยว่าตอนนี้ผมไม่คิดว่าตัวเองเป็นลูกแล้ว ไม่คิดว่ามีแม่ด้วยซ้ำ อยู่บ้านเหมือนใส่หน้ากากตลอดเวลารอเวลาว่าวันไหนจะได้เวลาเปลี่ยนหน้ากากอันใหม่เพื่อเลี่ยงปัญหาก็แค่นั้น วันไหนพลาดวันนั้นก็

ผมคงบ้าไปแล้วจริงๆแหละ แต่ไม่รู้ตัว ชีวิตปกติสุขหาเจอได้จากข้างนอกเท่านั้นครับ กลับมาบ้านที่ไรเหมือนนั่งอยู่ในห้องทึบๆตลอดเวลา ห้ามพูด ห้ามออกเสียง ห้ามถูก
อยากระบายน่ะครับ ชีวิตคนเรามันสั้นนะผมว่า ถ้าใครมีลูกก็เลี้ยงเขาให้ดีๆนะครับ ผมคิดว่าคนรุ่นใหม่ต้องดีกว่ารุ่นเก่าแน่นอน ด้วยหลายๆอย่าง เพราะอายุไม่ใช่ตัวกำหนดประสบการณ์อีกต่อไป
ผมอาจไม่ใช่เคสที่เลวร้ายที่สุด แต่ผมมั่นใจว่าผมก็แย่กว่าหลายๆคนชีวิตผมแน่นอน
ขอบคุณที่รับฟังครับ
(ระบายครับ) มีแม่ไม่ปกติ ผมคงเป็นโรคจิตไปแล้ว แต่ไม่รู้ตัว
ปัจจุบันผมโตแล้ว ใกล้จะเข้าทำงานเร็วๆนี้ ผมมีเรื่องกับแม่ประจำ เอาเป็นว่าชีวิตวัยเด็กผมนั้นมันช่างบัดซบซะเหลือเกินพอมานั่งมองดู แม้ผมจะถูกและแม่ผมผิด แม่จะโมโหและจะทำให้ตัวเองเป็นฝ่ายถูกเสมอ การทะเลาะจะรุนแรงขึ้นถ้าผมไม่ยอมเงียบ แล้วพอเราเงียบแม่จะใส่หนักกว่าเก่า ผมต่างจากพี่สาวผมที่เป็นคนฉลาดและมักจะเงียบเวลาทะเลาะกับแม่ พี่สาวผมทะเลาะกับแม่น้อยมากเพราะไม่ค่อยอยู่บ้านแต่ไหนแต่ไร ดังนั้นพี่ผมจะไม่เข้าใจว่าทำไมผมถึงเถียง
ครอบครัวผมแตกแยกครับ พ่อผมเป็นราชการออกจากบ้านไปนานแล้วเขาบอกว่าทนอยู่ไม่ได้ ถ้าอยู่ ได้มีคนตายแน่นอน พอพ่อออกไปแม่ก็จะไซโคเราตลอดว่าพ่อไม่ดี พ่อมีผู้หญิง แม่จะโทรไปตามรังควานที่ทำงานพ่อเสมอ ซึ่งตรงนี้เราไม่ยุ่งเพราะไม่เชื่อใจใครยกเว้นตัวเอง
ขอพูดถึงความรุนแรงของการด่าของแม่ก่อนครับ แม่ผมด่าคนได้เจ็บมาก เจ็บจนอยากจะฆ่าตัวตาย แล้วยิ่งเราไม่สามารถทำอะไรได้มันยิ่งเจ็บปวดแสนสาหัส คำดูถูก เหยียดหยามที่ออกมา ไม่คิดเลยว่าคนที่ด่าจะเป็นแม่ของเราเอง ย้อนกลับไปช่วงเด็กๆ เวลาเราทำอะไรผิดแม่จะด่าแรงมากเหมือนกัน แต่จะไล่เราออกไปนั่งนอกบ้านบ่อยมาก ไปนั่งกับสุนัขที่บ้านบ้าง ไล่ไปอยู่นอกตัวบ้านเลยก็มี ไล่ลงรถบ้างแล้วจะขับรถหนีไปไกลๆให้เดินตาม จำได้เลยว่าร้องไห้จนไม่มีน้ำตาออกมา จากนั้นมันก็ฝังลึกลงไปในความคิด จนนานๆเข้ามันไม่ร้องแล้วครับ มันคับแค้นใจจนอยากจะฆ่าตัวตายให้มันจบสิ้นไปสักที น้ำร้อนสาดเท้า, ถือมีดขู่จะฆ่าก็เจอมาแล้ว, ถ่มน้ำลายใส่หน้าก็โดนมาแล้ว,
พอโตมาผมตัวใหญ่กว่า แม่จะไม่กล้าทำอะไรมากแต่จะยังคงด่าว่าเราได้แบบเจ็บกว่าเดิม ชอบไล่เราออกนอกบ้านว่าไปหาบ้านอยู่เองไป ด่าว่าไม่น่ามีเลย อย่างนู้นอย่างนี้ หลายครั้งที่เรื่องเล็ก เช่น การวางของเข้าที่ จะนำไปสู่การทะเลาะใหญ่โต แม่ผมเป็นคนที่เมื่อก่อนยิ่งใหญ่ รวย ทุกคนต้องเคารพ แต่ผ่านมานานมากแล้ว ตอนนี้ไม่ได้มีอะไรดีเลย ชีวิตคนปกติ ไม่ได้รวย ไม่ได้จน แต่ อีโก้ ยังคงสูงมากกลายเป็นคนที่ไม่ฟังใคร ฉันถูกเสมอไม่ว่าอะไรก็ตาม เวลามีเรื่องผมจะอธิบายดีๆ ก็จะด่าเอาๆ ชอบอ้างว่าประสบการณ์ไม่ถึง 20 ปีจะมา
เวลาทะเลาะกันผมจะยืนสู้เสมอถ้าผมเป็นฝ่ายถูก ผมไม่ยอมแล้วยิ่งเป็นแม่ด้วย ผมจะสู้สุดชีวิต แต่! ผมเริ่มด้วยการอธิบายดีๆ แต่ก็ไม่รอดสุดท้ายกลายเป็นการทะเลาะกันเช่นเดิม โดนด่าเจ็บแสบเหมือนเดิม แม่ชอบทำให้ผมเจ็บใจด้วยการปาอะไรก็ตามที่เป็นของผม หนังสือนิยายที่เพื่อนให้มา ซึ่งมันหายากมาก ปาลงพื้นยับเละเทะ , ของมีค่าต่างๆนาๆ, และมีอีกมากมายครับ หลังจากนั้นจะไล่เราไปอยู่ข้างนอก ขอเล่าเพิ่มนิดนึงสมัยช่วงมัธยมแม่ผมโยน กระเป๋าเรียนผมทิ้งผมก็ต้องไปตามหากลับมา, รองเท้าก็โยนลงคลองมาแล้ว ผมก็ต้องวิ่งไปเก็บกลับมา
จิตเวชแม่ผมเคยไปมาแล้ว แต่ไม่ได้ไปเพราะตัวเอง ไปเพราะไม่ชอบการกระทำของผม (คือผมเป็นสมาธิสั้น 5%) แต่หมอกลับบอกผมว่าแม่น่ะเป็นโรคจิตประเภทหนึ่ง ผมก็เล่าให้หมอฟังหลายๆเรื่อง เล่าไปก็ร้องไห้ไป (ช่วงมัธยม) รู้สึกดีที่มีคนรับฟังเราครับ แต่บอกเลยว่าการไปจิตเวชในช่วงหลายปีไม่ได้ช่วยอะไรแม่ผมเลย หมอพยายามบอกหลายอย่าง แม่ผมก็โกหกจะทำตามไปแต่ไม่เคยทำเพราะคิดว่า วิธีการของตัวเองดีที่สุด
แม่จะชอบอ้างเสมอว่าอะเป็นหนี้กู ทุกบาทที่เอาไปต้องมาคืน เวลามีอะไรจะอ้างคำนี้เสมอ ชอบทำเสียงดัง โวยวาย ด่าทอเราต่างๆนาๆ พอเราพยายามจะอธิบาย ทำแบบนี้ตลอด ยอมรับเลยว่าตอนนี้ผมไม่คิดว่าตัวเองเป็นลูกแล้ว ไม่คิดว่ามีแม่ด้วยซ้ำ อยู่บ้านเหมือนใส่หน้ากากตลอดเวลารอเวลาว่าวันไหนจะได้เวลาเปลี่ยนหน้ากากอันใหม่เพื่อเลี่ยงปัญหาก็แค่นั้น วันไหนพลาดวันนั้นก็
อยากระบายน่ะครับ ชีวิตคนเรามันสั้นนะผมว่า ถ้าใครมีลูกก็เลี้ยงเขาให้ดีๆนะครับ ผมคิดว่าคนรุ่นใหม่ต้องดีกว่ารุ่นเก่าแน่นอน ด้วยหลายๆอย่าง เพราะอายุไม่ใช่ตัวกำหนดประสบการณ์อีกต่อไป
ผมอาจไม่ใช่เคสที่เลวร้ายที่สุด แต่ผมมั่นใจว่าผมก็แย่กว่าหลายๆคนชีวิตผมแน่นอน
ขอบคุณที่รับฟังครับ