ผมกำลังจะเสียเค้าไป ผมต้องทำยังไง

ผมเป็นรุ่นพี่ที่ทำงาน  อายุห่างจากน้องรอบนิดๆ  ผมเป็นคนหนึ่งที่อยู่กับน้องทุกกะ แล้วประกบสอนงานน้องมาตลอด  เราสนิทกันพอสมควร  น้องเป็นคนยิ้มน่ารัก แต่นัยตาแฝงไปด้วยความเศร้าและคิดมาก  ผมรักเหมือนน้องสาวคนหนึ่ง(เหมือนน้องสาวแท้ที่ผูกพันธ์มากๆเวลาเค้าเป็นอะไรผมจะคอยมองดูด้วยความเป็นห่วง แต่ไม่กล้าเข้าไปถามมาก) ผมไม่เคยเล่นกับผู้หญิงคนอื่นแบบเล่นกับน้อง  ผมชอบจี้เอวน้องเพราะเวลาน้องบ้าจี้ตลกดี  ซึ่งปกติ ผมจะไม่กล้าเล่นแบบนี้กับใคร ยกมือยกเท้าใส่กันจนเป็นเรื่องธรรมดา ผมผิดหวังกับความรักมาตลอด3ปีที่ผ่านมา  จนไม่กล้าจีบใคร หรือเปิดใจรับใคร  จนวันนึงความรู้สึกผมก็เปลี่ยนไป  ในสมองผมมีแต่รอยยิ้มของน้อง ผมเริ่มสับสนในตัวเอง เพราะกลัวว่าความรู้สึกจะทำให้ความไว้ใจของน้องเปลี่ยนไป  ผมรักษาระยะห่างไว้แต่ก็อดเล่นแบบเดิมไม่ได้  จนเมื่อ14กุมภา  ผมจึงแวะซื้อดอกไม้ และเอาเข้าไปให้ที่ทำงานตอนต่อรอบงาน  ผมโกหกน้องว่า พอดีผ่านมันลดราคาเลยให้  ตอนแรกผมถามก่อนว่า วันนี้ได้ดอกไม้รึยัง  น้องบอกว่ายังเลย   แล้วผมก็ส่งให้ อะ พร้อมประโยคโกหกของผม เพราะผมกลัวว่าถ้าบอกว่าตั้งใจซื้อให้น้องจะเปลี่ยนไป  น้องรับไว้ แล้วแซวผมว่าไปไหนมาแน่ๆเลย  ซึ่งผมไม่ได้ไปไหน  แต่เดินทางมาทำงาน และตั้งใจแวะซื้อไปให้นี่แหล่ะ   จนมาถึงวันที่เราเข้ากะเดียวกันตอนเช้า  ผมเห็นน้องดูเงียบๆเหมือนคิดอะไร  จริงๆน้องน่าจะมีปัญหาอะไรส่วนตัวสักอย่าง  แต่ผมก็ไม่ได้ถาม เพราะผมเกร็งผลที่ตามมาจากดอกไม้ดอกนั้น   น้องดูแปลกๆกับผม  แต่เล่นหัวเราะกับทุกคน  ผมเดินเข้าไปใกล้ๆ บางทีก็คุยด้วย บางทีก็เงียบ  จนผมคิดเองไปไกลว่าเคืองแน่นอน  ผมเครียดมากจนต้องหาคนปรึกษา  ก็มีแต่คนบอกว่าผมเกร็งไปเอง  มันก็คงใช่แหล่ะ  ผมคิดไปเอง  เกร็งไปเอง  ผมพูดจากใจเลยว่ากลัวเสียสัมพันธ์ดีๆแบบพี่น้องที่เคยมีไป  เพราะผมไม่เคยสนิทกับน้องคนไหนขนาดนี้  จนวันที่เราต้องเข้าดึกด้วยกัน น้องมาคุยด้วยเรื่องจะหางานให้เพื่อน เล่าประวัติตั้งแต่ม.ปลายว่าสอบอัยการ  จะเรียนด้านกฏหมาย  แต่สุดท้ายก็มาเรียนการโรงแรม  ผมก็ทำงานไปด้วยตั้งใจฟังไปด้วย  ช่วงเวลาแบบนี้มันดีมากๆเลย  ผมคิดว่าผมจะไม่คิดอะไรกับน้องอีกแล้ว  อยากเป็นพี่น้องกับน้องแบบนี้มันดีมากๆเลยล่ะ  แต่แล้วตอนเลิกงาน ผมรอกลับพร้อมน้อง ผมบอกน้องว่ามีเรื่องจะคุยด้วย ซึ่งจริงๆมันเป็นข้ออ้างไปงั้นแหล่ะ  เพราะจะได้เดินกลับไปด้วยกัน  น้องเป็นคนค่อนข้างรักสันโดดโลกส่วนตัวสูง  มักกลับบ้านคนเดียว  ผมเลยบอกรอก่อนมีเรื่องจะคุย  น้องทำหน้ายิ้มงงๆ  คุยอะไรว้าาาาา   แล้วสุดท้ายก็กลับมาพร้อมน้อง น้องถามมีอะไรจะคุย เลยบอกไม่มีอะพูดเล่น  น้องก็เงียบไป   ผมดันไปนึกถึงเหตุการณ์เมื่ออาทิตย์ก่อน  ความรู้สึกที่ว่าทำให้น้องเสียความรู้สึกเพราะดอกไม้รึเปล่า  เลยบอกน้องว่า  พี่เคยทำอะไรให้ไม่สบายใจมั้ย  พี่ขอโทดนะ   น้องเงียบไปสักพักจนลิฟท์มา  พอลงลิฟท์มาข้างล่างจึงถามน้องอีกที น้องบอกไม่มีอะไร  แค่เมนส์มาเลยเหวี่ยงไปทั่ว  ผมก็บอกว่าไม่มีแน่นะ  งั้นคงไม่ใช่ผมแระที่น้องเครียด..........แล้วเราก็แยกกันกลับบ้านเพราะขึ้นรถคนละป้าย     ผมหยุดงานไปวันนึง  กลับมาทำงานกะบ่าย  ก็มารู้จากน้องอีกคนว่าน้องไม่ค่อยจะดี  จนพี่ผู้หญิงอีกคนถามว่าเป็นอะไรรึเปล่า สบายดีมั้ย มีอะไรบอกได้นะ  น้องเล่าว่า  ผมอยู่ดีๆไปขอโทษน้องทำไม  ผมไม่ได้ผิด  เค้าแค่เป็นเมนส์ รู้สึกไม่ดีที่ผมไปทำแบบนั้น    ผมถึงกับอึ้งไป  เพราะไม่คิดว่ามันจะกลายเป็นเรื่อง    ผมรอน้องมาทำงานรอบดึกกะว่าจะคุย   พอน้องมาน้องก็เข้าไปนั่งออฟฟิต  ผมเลยเดินเข้าไปหาเรื่องคุยเรื่องงาน  น้องเห็นผมก็ลุกขึ้นเดินสวนผมออกทันที  ผมบอกว่าเป็นอะไรอะ  โอเคมั้ย   น้องบอก พี่แหล่ะเป็นอะไร  ผมบอกป่าวผมสบายดีนะ(แต่จริงๆผมเศร้ามากที่สถานะการณ์เป็นแบบนี้)  ผมพยายามดึงน้องคุยเรื่องงาน  น้องฟังสักพักก็เดินออกไป   ผมตามไปทำงานข้างๆ  น้องก็ไม่คุยด้วยแล้ว  ผมก็เลยไม่พูดอะไรอีกจนกลับบ้าน  ก่อนกลับผมไปเรียกชื่อน้องสามครั้ง  น้องก็ก้มหน้า  อิมๆๆ    ผมบอกว่าผมวางขนมไว้บนโต๊ะนะ  น้องพยักหน้า อืมม  แต่วันรุ่งขึ้นมาดู ขนมก็อยู่ที่เดิม  ซึ่งผมก็รู้อยู่แล้วว่าคงไม่กิน   จนมาวันนี้ มีน้องอีกคนมาบอกว่า  น้องมาถามว่า มีงานอะไรใหม่ๆให้ทำบ้าง จะลาออกเดือนหน้า  ไปทำร้านกาแฟ  ผมใจหายวาบ  แต่ก็คงทำอะไรไม่ได้  ผมไม่ได้สำคัญกับเค้าพอจะห้ามหรือรั้งไว้  แต่ผมเสียใจมากๆ  ผมควรทำยังไงต่อดี ผมคงฝืนความรู้สึกตัวเองไว้ไม่ได้แน่ๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่