สังขตธรรม สังขาร , ขันธ์ ๕ , นามรูป
สัพเพ สังขารา อนิจจัง
สัพเพ สังขารา ทุกขัง
สังขารทั้งปวงไม่เที่ยง เป็นทุกข์
ขันธ์ ๕ = สังขารทั้งปวง
ขันธ์ ๕ , นามรูป = รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ
เหตุแห่งนามรูป คือ อวิชชา
อวิชชา > สังขาร > วิญญาณ > นามรูป > อายตนะ > ฯลฯ
สื่งนี้มี มิ่งนี้จึงมี , สิ่งนี้เกิด สิ่งนี้จึงเกิด
สิ่งนี้ไม่มี สิ่งนี้จึงไม่มี , สิ่งนี้ดับ สิ่งนี้จึงดับ
สัพเพ สังขารา คือ สังขาร ในไตรลักษณ์ = สิ่งปรุงแต่งทั้งหมด ทั้งภายนอก ภายใน ทั้งรูป ทั้งนาม
สังขาร ในขันธ์ ๕ = สิ่งปรุงแต่งทางอายตนะ ปรุงแต่งเป็นผัสสะ ปรุงแต่งเป็นเวทนา ตัณหา อุปาทาน
ธรรมมารมณ์ + มโน + มโนวิญญาณ = ผัสสะ
ผัสสะ = สิ่งปรุงแต่ง
ได้รับเวทนาจากผัสสะแล้ว ปรุงแต่ง เป็นตัว เป็นตนว่าตนได้รับผัสสะ = ปรุงแต่งเป็นอุปาทาน ผลคือทุกข์ ทุกข์เพราะอวิชชา
ขันธ์ ๕ , นามรูป = วิบาก อันเนื่องมาแต่การปรุงแต่งของกรรมในอดีต
ขันธ์ ๕ , นามรูป เป็นผลสืบเนื่องของกรรมที่ส่งผลสีบต่อกันมา อันเกิดจากการปรุงแต่ง ต้องเปลื่อนแปลง มิมีใครเป็นเจ้าของ มิมีใครไปบังคับบัญชาได้
เกิดดับตามเหตุปัจจัย มิใช่เป็นอัตตา ตัวตนของใคร
สัพเพ ธัมมา อนัตตา
ธรรมทั้งปวง ไม่มีตัวตน
ไม่มีตัวตนที่เป็นเจ้าของที่แท้จริง ตัวตนที่จะไปบังคับบัญชาใดๆได้
ทั้งหมดล้วนขึ้นแก่เหตุและปัจจัย
ที่ยึดว่ามีตน เป็นตน ในขันธ์ , ในขันธ์เป็นตน มีตน นั้นเกิดจากสภาวะธรรมที่ชื่อว่า อุปาทาน
อันมีเหตุมาจากอวิชชา
สังขารทั้งปวงไม่เที่ยง สังขารทั้งปวงเป็นทุกข์ ธรรมทั้งปวงไม่มีตัวตนที่จะมีใครเป็นเจ้าของได้
สังขตธรรม
สัพเพ สังขารา อนิจจัง
สัพเพ สังขารา ทุกขัง
สังขารทั้งปวงไม่เที่ยง เป็นทุกข์
ขันธ์ ๕ = สังขารทั้งปวง
ขันธ์ ๕ , นามรูป = รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ
เหตุแห่งนามรูป คือ อวิชชา
อวิชชา > สังขาร > วิญญาณ > นามรูป > อายตนะ > ฯลฯ
สื่งนี้มี มิ่งนี้จึงมี , สิ่งนี้เกิด สิ่งนี้จึงเกิด
สิ่งนี้ไม่มี สิ่งนี้จึงไม่มี , สิ่งนี้ดับ สิ่งนี้จึงดับ
สัพเพ สังขารา คือ สังขาร ในไตรลักษณ์ = สิ่งปรุงแต่งทั้งหมด ทั้งภายนอก ภายใน ทั้งรูป ทั้งนาม
สังขาร ในขันธ์ ๕ = สิ่งปรุงแต่งทางอายตนะ ปรุงแต่งเป็นผัสสะ ปรุงแต่งเป็นเวทนา ตัณหา อุปาทาน
ธรรมมารมณ์ + มโน + มโนวิญญาณ = ผัสสะ
ผัสสะ = สิ่งปรุงแต่ง
ได้รับเวทนาจากผัสสะแล้ว ปรุงแต่ง เป็นตัว เป็นตนว่าตนได้รับผัสสะ = ปรุงแต่งเป็นอุปาทาน ผลคือทุกข์ ทุกข์เพราะอวิชชา
ขันธ์ ๕ , นามรูป = วิบาก อันเนื่องมาแต่การปรุงแต่งของกรรมในอดีต
ขันธ์ ๕ , นามรูป เป็นผลสืบเนื่องของกรรมที่ส่งผลสีบต่อกันมา อันเกิดจากการปรุงแต่ง ต้องเปลื่อนแปลง มิมีใครเป็นเจ้าของ มิมีใครไปบังคับบัญชาได้
เกิดดับตามเหตุปัจจัย มิใช่เป็นอัตตา ตัวตนของใคร
สัพเพ ธัมมา อนัตตา
ธรรมทั้งปวง ไม่มีตัวตน
ไม่มีตัวตนที่เป็นเจ้าของที่แท้จริง ตัวตนที่จะไปบังคับบัญชาใดๆได้
ทั้งหมดล้วนขึ้นแก่เหตุและปัจจัย
ที่ยึดว่ามีตน เป็นตน ในขันธ์ , ในขันธ์เป็นตน มีตน นั้นเกิดจากสภาวะธรรมที่ชื่อว่า อุปาทาน
อันมีเหตุมาจากอวิชชา
สังขารทั้งปวงไม่เที่ยง สังขารทั้งปวงเป็นทุกข์ ธรรมทั้งปวงไม่มีตัวตนที่จะมีใครเป็นเจ้าของได้