((มาลาริน))^_^ อำมาตย์เต้นวนเวียนอยู่กับอดีตเพราะได้ตำแหน่งใหญ่โต..เหน็บคนเผลอคิดว่า 'มาตรการ ศก.' นึกว่าเป็นรบ.ทรท.

อำมาตย์เต้นตอนได้ตำแหน่งในรบ.ป้าปู
มีฝีมืออะไรบ้าง..?
ตอบคำถามนักข่าวก็ไม่ได้..
เที่ยวมาวิจารณ์คนที่มีฝีมือเหนือกว่า..
อย่ามาโหนลุงสมคิดเสียให้ยาก
อย่าหว่งตำแหน่งอะไรอีก..เพราะสอบตกปชช.ร้องยี้

จะมาบอกว่า..ประชาชนตกใจเรื่องเงินคงคลัง
ประชาชนเขาไม่ตกใจหรอกค่ะ..เรื่องจิ๊บๆ
ถ้าตกใจเขาวิ่งเข้าห้างไปแล้ว  เหมือนตอนปลุกม็อป

นายกฯท่านมอบลุงสมคิดทำงานให้..
ลุงสมคิดจะทำงานอย่างไร..ไปเหมือนรัฐบาลไหน
ก็เป็นเรื่องของท่าน ท่านทำงานมาในอดีตจะทำคล้ายกันก็ไม่แปลก

นายกฯท่านไม่เคยพึ่งโหรตอนเข้ามาทำงาน
ตอนนี้โหร..จะมาโหนท่านเสียมากกว่า
รบ.อำมาตย์เต้นทำผิดๆพลาดๆจนเสียหาย
โหรไม่เห็นมาทำนาย..มาช่วยเตือน

นานาโนนานาโนนานาโน

ฯลฯ
แกนนำ นปช. เหน็บ "สมคิด" กว่า2ปีมาตรการด้านเศรษฐกิจ คนเผลอคิดว่าเป็นยุครัฐบาลทรท. เย้ยมีฝีมือเท่าไหร่ใส่ให้หมด

นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำนปช. กล่าวว่า นายกฯ บอกว่าอย่าตกใจ แต่ช้าไป เพราะประชาชนจำนวนมากตกใจไปแล้ว กับยอดเงินคงคลังที่ลดลงอย่างมากหลังรัฐประหาร การอธิบายว่า ใช้เงินไปเพื่อลงทุนกระตุ้นเศรษฐกิจอาจรับฟังได้ แต่เมื่อพิจารณาจากสภาพความเป็นจริงก็พบว่า ปัญหาเศรษฐกิจยังส่งผลกระทบต่อประชาชนในวงกว้าง และไม่มีแนวโน้มว่าจะดีขึ้น รัฐบาลไม่ควรมองว่าคนวิพากษ์วิจารณ์หรือตั้งคำถามเรื่องเหล่านี้เป็นพวกไม่หวังดี เพราะตัวเลขด้านเศรษฐกิจไม่ใช่ความลับ เมื่อเป็นข่าวออกมาย่อมสร้างความสงสัยหรือวิตกกังวลได้ 

“สิ่งที่ควรจะเป็นคือ มีฝีมือเท่าไหร่ต้องใส่ให้หมด เพราะปีนี้เป็นปีสอบไล่ ไม่ได้หมายความว่าจะมีใครออกมาเผชิญหน้าหรือรุกไล่รัฐบาล แต่ทุกเรื่องที่ทำจะมีข้อสรุป จะสอบผ่านหรือสอบตกอยู่ที่ปีนี้ ผมคิดว่าประชาชนคงให้คะแนนได้ ปีนี้ของจริง นายกฯ จะดวงตกหรือไม่ผมไม่มีความรู้เรื่องโหร แต่มั่นใจว่างานหนักแน่ ผลโพล เพลง หรือการจัดรายการทุกสัปดาห์ จะมีน้ำหนักน้อยกว่ารูปธรรมที่ประชาชนจับต้องได้” แกนนำ นปช.กล่าว 

นายณัฐวุฒิ กล่าวด้วยว่า กว่า 2 ปีที่ผ่านมายังไม่มีอะไรใหม่ มาตรการด้านเศรษฐกิจคนยังเผลอคิดว่าเป็นยุครัฐบาลไทยรักไทย เพราะหลายเรื่องดูเหมือนนายสมคิดจะถอดแบบมาจากช่วงนั้น เรื่องปฏิรูป ยุทธศาสตร์ ปรองดอง ก็เหมือนเพิ่งมาเริ่มเอาตอนตั้ง ป.ย.ป. และยังมองไม่ออกว่าจะเดินไปได้แค่ไหน ส่วนโรดแม็พสู่การเลือกตั้งก็ยังไม่มีใครบอกได้ว่าจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ หลายคนสงสัยด้วยซ้ำว่า ถ้าไม่มีมาตรา 44 รัฐบาลนี้จะทำงานยังไง ทั้งนี้ รัฐบาลต้องเร่งมือทำงานทุกด้าน ไม่ต้องกังวลกับฝ่ายการเมือง แต่ผู้มีอำนาจต้องมองให้ชัดว่า คู่ต่อสู้ที่แท้จริงคือปัญหาปากท้องของประชาชน และการนำพาประเทศกลับคืนสู่แนวทางประชาธิปไตย เพื่อให้สอดคล้องกับความเป็นไปของโลก

http://www.bangkokbiznews.com/news/detail/739551
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่