สวัสดีทุกคน คราวนี้เป็นเรื่องบังเอิญที่ถูกชวนไปเดินป่าปีนเขาแบบเบลอๆ
แล้วก็ตอบรับไปแบบงงๆ โดยที่ไม่ได้ดูสภาพร่างกายตัวเองเลย
กระทู้นี้ เราจะพาไปสันหนอกวัวอุทยานแห่งชาติเขาแหลม และชมบรรยากาศที่จุดชมวิวป้อมปี่ยามเช้า
เราเริ่มเดินทางออกจากกรุงเทพฯ ในคืนวันศุกร์
ออกจากกรุงเทพฯ ประมาณ 4 ทุ่มเพื่อมาพักเอาแรงกันที่ป้อมปี่ อุทยานแห่งชาติเขาแหลม
บรรยากาศคือดีมาก รถถึง ไม่ต้องเดิน อากาศเย็น มีวิวสวยๆ ของเขื่อนวชิราลงกรณ และกางเต้นท์ดูดาวได้แบบอลังการดาวเต็มฟ้า
เช้าๆ ประมาณ 6-7 โมงคนก็จะเริ่มพลุกพล่าน ตื่นมาล้างหน้า แปรงฟัน อาบน้ำ กินข้าว (จุดนี้มีร้านค้าสวัสดิการ) เพื่อเตรียมตัวไปขึ้นเขากันในช่วงสายๆ
อ่ะพามาชมวิวกันสักหน่อย
จุดชมวิวป้อมปี่ และเขื่อนวชิราลงกรณ





หลังจากชมวิวถ่ายรูปอะไรกันเรียบร้อยแล้ว ก็มาลงทะเบียนเตรียมไปปีนเขากันได้เลย
หลังจากลงทะเบียน เตรียมของให้ลูกหาบเสร็จแล้ว ก็เริ่มขึ้นได้ประมาณ 9 โมงไล่ไปเรื่อยๆ กรุ๊ปสุดท้ายก็ประมาณช่วง 10 โมงกว่าๆ (พวกเราเอง) จริงๆ รอรถนานต่างหากล่ะ เพราะวันนั้นมีคนขึ้นเยอะ รถเจ้าหน้าที่น่าจะเพิ่งวนกลับมาพาเราไปขึ้นรถพร้อมกับลูกหาบมาที่ตีนเขา เตรียมพร้อมเดินได้เลย ใช้เวลาเดินประมาณ 4-6 ชั่วโมงแล้วแต่ความฟิต
ทางที่เดินป่า แบ่งโง่ๆ ได้ประมาณ 3 ช่วง คือ เดินในป่าและปีนเขา แบบไม่มีป่าให้ร่มเงา แล้วก็ในป่าสั้นๆ อีกรอบ
อากาศตอนเดินในช่วงป่าคือเย็นมาก แต่พอเจอแดดเท่านั้นแหละรู้เรื่อง 5555


จุดพีคสุดคือ เนินหมาถอย ถ้าขาขึ้นสบายๆ ขาลงนี่รู้เรื่องกันแน่นอน


สำหรับระยะทางเดินทั้ง 2 รอบ ไปและกลับแล้วยังไม่มั่นใจเลยว่าสรุปมันกี่กิโลกันแน่ เจ้าหน้าที่บอกอย่าง(บอกว่านี่ระยะยิง GPS ไปตรง) ส่วน GPS บอกอีกอย่าง ไม่เท่ากันสักเครื่อง 5555
หลังจากทุลักทุเลเดินกันมาจนสุดทางก็เป็นช่วงบ่ายแก่ๆ โมเม้นท์ที่เจอเต้นท์อยู่ลิบๆ เป็นอะไรที่ฟินมาก เพราะเหนื่อย
เรื่องของอาหารการกิน ต้องแบกหรือฝากลูกหาบแบบมาจากด้านล่าง ส่วนข้างบนมีลำธารให้ไปตักน้ำได้ แต่ไม่อนุญาตให้เล่นน้ำ ลำธารอยู่ห่างจากจุดกางเตนท์ไปประมาณกิโลนึง ลูกหาบเค้ามีบริการเสริมเดินไปตักใส่แกลลอนไว้ให้เราได้ค่ะไม่ต้องห่วง
จุดกางเต้นท์มีหลายจุดในบริเวณใกล้ๆ กัน นับได้ประมาณ 4-5 จุด เลือกเอาตามอัธยาศัย
แล้วก็มีส้วมเป็นส้วมหลุมที่สะอาดเลยทีเดียว
พักแข้งพักขาเรียบร้อยก็เดินต่อไปถ่ายรูปกับป้ายผู้พิชิตได้เลย ป้ายจะอยู่ที่หนอกเล็ก ถ่ายรูปแล้วจะเห็นหนอกใหญ่ (เพื่อนขึ้นไปหนอกใหญ่แล้วบอกว่าไม่มีอะไรเลย)
ช่วงเย็นๆ สามารถมาเก็บภาพกับทุ่งหญ้าสีทอง ตัดกับวิวภูเขาสีเขียวโดยรอบ พร้อมถ่ายรูปพระอาทิตย์ตก แสงสะท้อนสีทองจากเขื่อนวชิราลงกรณและเกาะแก่งได้อย่างสวยงาม

หนอกใหญ่ถ่ายจากหนอกเล็ก




พาโนรามาก่อนพระอาทิตย์ตก




หลังจากพระอาทิตย์ตก เราจะพาไปดูดาวกันต่อ
พากันไปเดินขึ้นเขา "สันหนอกวัว" ยอดเขาที่สูงสุดในจังหวัดกาญจนบุรี
แล้วก็ตอบรับไปแบบงงๆ โดยที่ไม่ได้ดูสภาพร่างกายตัวเองเลย
กระทู้นี้ เราจะพาไปสันหนอกวัวอุทยานแห่งชาติเขาแหลม และชมบรรยากาศที่จุดชมวิวป้อมปี่ยามเช้า
เราเริ่มเดินทางออกจากกรุงเทพฯ ในคืนวันศุกร์
ออกจากกรุงเทพฯ ประมาณ 4 ทุ่มเพื่อมาพักเอาแรงกันที่ป้อมปี่ อุทยานแห่งชาติเขาแหลม
บรรยากาศคือดีมาก รถถึง ไม่ต้องเดิน อากาศเย็น มีวิวสวยๆ ของเขื่อนวชิราลงกรณ และกางเต้นท์ดูดาวได้แบบอลังการดาวเต็มฟ้า
เช้าๆ ประมาณ 6-7 โมงคนก็จะเริ่มพลุกพล่าน ตื่นมาล้างหน้า แปรงฟัน อาบน้ำ กินข้าว (จุดนี้มีร้านค้าสวัสดิการ) เพื่อเตรียมตัวไปขึ้นเขากันในช่วงสายๆ
อ่ะพามาชมวิวกันสักหน่อย
จุดชมวิวป้อมปี่ และเขื่อนวชิราลงกรณ
หลังจากชมวิวถ่ายรูปอะไรกันเรียบร้อยแล้ว ก็มาลงทะเบียนเตรียมไปปีนเขากันได้เลย
หลังจากลงทะเบียน เตรียมของให้ลูกหาบเสร็จแล้ว ก็เริ่มขึ้นได้ประมาณ 9 โมงไล่ไปเรื่อยๆ กรุ๊ปสุดท้ายก็ประมาณช่วง 10 โมงกว่าๆ (พวกเราเอง) จริงๆ รอรถนานต่างหากล่ะ เพราะวันนั้นมีคนขึ้นเยอะ รถเจ้าหน้าที่น่าจะเพิ่งวนกลับมาพาเราไปขึ้นรถพร้อมกับลูกหาบมาที่ตีนเขา เตรียมพร้อมเดินได้เลย ใช้เวลาเดินประมาณ 4-6 ชั่วโมงแล้วแต่ความฟิต
ทางที่เดินป่า แบ่งโง่ๆ ได้ประมาณ 3 ช่วง คือ เดินในป่าและปีนเขา แบบไม่มีป่าให้ร่มเงา แล้วก็ในป่าสั้นๆ อีกรอบ
อากาศตอนเดินในช่วงป่าคือเย็นมาก แต่พอเจอแดดเท่านั้นแหละรู้เรื่อง 5555
จุดพีคสุดคือ เนินหมาถอย ถ้าขาขึ้นสบายๆ ขาลงนี่รู้เรื่องกันแน่นอน
สำหรับระยะทางเดินทั้ง 2 รอบ ไปและกลับแล้วยังไม่มั่นใจเลยว่าสรุปมันกี่กิโลกันแน่ เจ้าหน้าที่บอกอย่าง(บอกว่านี่ระยะยิง GPS ไปตรง) ส่วน GPS บอกอีกอย่าง ไม่เท่ากันสักเครื่อง 5555
หลังจากทุลักทุเลเดินกันมาจนสุดทางก็เป็นช่วงบ่ายแก่ๆ โมเม้นท์ที่เจอเต้นท์อยู่ลิบๆ เป็นอะไรที่ฟินมาก เพราะเหนื่อย
เรื่องของอาหารการกิน ต้องแบกหรือฝากลูกหาบแบบมาจากด้านล่าง ส่วนข้างบนมีลำธารให้ไปตักน้ำได้ แต่ไม่อนุญาตให้เล่นน้ำ ลำธารอยู่ห่างจากจุดกางเตนท์ไปประมาณกิโลนึง ลูกหาบเค้ามีบริการเสริมเดินไปตักใส่แกลลอนไว้ให้เราได้ค่ะไม่ต้องห่วง
จุดกางเต้นท์มีหลายจุดในบริเวณใกล้ๆ กัน นับได้ประมาณ 4-5 จุด เลือกเอาตามอัธยาศัย
แล้วก็มีส้วมเป็นส้วมหลุมที่สะอาดเลยทีเดียว
พักแข้งพักขาเรียบร้อยก็เดินต่อไปถ่ายรูปกับป้ายผู้พิชิตได้เลย ป้ายจะอยู่ที่หนอกเล็ก ถ่ายรูปแล้วจะเห็นหนอกใหญ่ (เพื่อนขึ้นไปหนอกใหญ่แล้วบอกว่าไม่มีอะไรเลย)
ช่วงเย็นๆ สามารถมาเก็บภาพกับทุ่งหญ้าสีทอง ตัดกับวิวภูเขาสีเขียวโดยรอบ พร้อมถ่ายรูปพระอาทิตย์ตก แสงสะท้อนสีทองจากเขื่อนวชิราลงกรณและเกาะแก่งได้อย่างสวยงาม
หนอกใหญ่ถ่ายจากหนอกเล็ก
พาโนรามาก่อนพระอาทิตย์ตก
หลังจากพระอาทิตย์ตก เราจะพาไปดูดาวกันต่อ