ปกติเราจะตั้งกระทู้พูดคุยไปเรื่อย นี่คือครั้งแรกที่ตั้งกระทู้ผีๆ
เพราะวันตรุษจีนทำให้เรานึกถึงเธอ...คนนั้นขึ้นมาเฉยเลย
ประมาณ 2 ปีที่แล้วเราเดินทางไปเมืองเฉิงตู ในมณฑลเสฉวนกับคณะเพื่อนๆนักศึกษาปริญญาโทประมาณปลายเดือนตุลาคม
ช่วงนั้นเริ่มเข้าหน้าหนาวแล้วค่ะ พอเครื่องบินลงจอดสนามบินเฉิงตูประมาณ 10.00 น. ก็ขึ้นรถแล้วแวะเข้าเยี่ยมคารวะท่านกงสุลใหญ่
หลังจากนั้นก็เที่ยวกันช่วงประมาณ 2 ทุ่มคณะของเราได้เข้าพักที่โรงแรมใหญ่แห่งหนึ่งตรงสี่แยกไฟแดงใจกลางเมืองเฉิงตู
ลักษณะห้องพักของเรา(น่าจะเหมือนของเพื่อนคนอื่นๆด้วยแหละ)คือ เดินเข้าห้องจะมีห้องน้ำอยู่ทางขวา เมื่อเดินเข้าไปอีกจะพบเตียง 2 เตียง
และมีโต๊ะเล็กๆระหว่างเตียงทั้งสอง เตียงหนึ่งติดห้องน้ำอีกเตียงหนึ่งติดระเบียงที่มองออกไปแล้วจะเจอสี่แยกไฟแดง ส่วนปลายเตียงเป็นทีวีติดผนัง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ด้วยความที่เที่ยวมาทั้งวัน เหนื่อย เพลีย พอเพื่อนเราใช้คีย์การ์ดเปิดเข้าห้องปุ๊ป ทำโน่นทำนี่เสร็จก็ตรงเข้าไปนอนเตียงติดระเบียงเลย
น้ำไม่ยอมอาบ ส่วนเราก็ต้องนอนเตียงติดห้องน้ำ
เราทำธุระส่วนตัวเสร็จเตรียมจะเข้านอน เราก็ไม่ลืมที่จะเปิดทีวีไว้เป็นเพื่อน(ถึงแม้จะมีเพื่อนอยู่ในห้องแล้ว 5555) แล้วปิดไฟนอนหมด
หลับไปได้นานเท่าไหร่ไม่รู้ เรารู้สึกร้อน เหงื่อออกเต็มตัว เลยถีบผ้าห่มออกจนรู้สึกได้ว่ามันหล่นไปที่ปลายเตียง
ซักพัก...เราได้ยินเสียงอินโทรเพลงชมรมขนหัวลุก วู่ ฮู้ วู้ ฮู มันดังแผ่วๆมาจากที่ไกลๆ แล้วค่อยๆดังเข้ามาใกล้ๆ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เราก็ลืมตามองทีวีเผื่อว่าจะเป็นรายการชมรมขนหัวลุกของไทยมาฉายที่จีน(คนเฉิงตูนิยมดูรายการทีวีของไทยมาก)
แต่ปรากฎว่ามันเป็นหนังแบบจอมยุทธ์จีน กำลังบู๊อย่างมันเลย เสียงกระบี่กระทบโฉงเฉ้งๆ
ก็เลยเริ่มสงสัยแล้วว่าเสียงมันมาจากไหนกันแน่หรือเราหูแว่วไปเอง...
แต่ก็ไม่ได้สนใจมากนักจึงหลับต่อเพราะความง่วงมากๆ พอหลับไปได้ประมาณ 10-15 นาที...มันมาอีกแล้วค่ะ อินโทรเพลงชมรมขนหัวลุก วู่ ฮู้ วู้ ฮู
แล้วมันก็ วู่ ฮู้ วู้ ฮู ดังกังวาลประมาณฟังเพลงโอเปร่าในฮอลล์แถมยังวนอยู่แบบนั้นไม่ยอมจบซักที จนเราเริ่มใจไม่ดีละ กลัวด้วย
อากาศก็ดั๊นหนาวขึ้นมาซะนี่!! ขนลุกไปหมด
ขณะนั้นสายตาเราเหลือบมองไปที่ระเบียง...
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
มันเหมือนฉากในหนังฝรั่งเป๊ะเลย ลองนึกภาพตาม...หน้าต่างบานเลื่อนขนาดใหญ่เปิดอยู่ ผ้าม่านก็เปิดอยู่
ลมเย็นๆพัดเข้าห้องทำให้ผ้าม่านพลิ้วไหวเหมือนภาพสโลโมชั่นและ
ผู้หญิงคนหนึ่งยืนลอยตัวอยู่...นอกระเบียง...
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เราโคตรมั่นใจเลยว่าเราไม่ได้ตาฝาดหรือฝันหรือละเมอตดแน่นอน มันคือผู้หญิงจริงๆ ผมยาว สีดำ ปิดหน้า ใส่เสื้อสีขาวประมาณผีญี่ปุ่น
เราได้แต่คิดในใจ"คงโดนเข้าแล้ว ของจริงแน่ๆ"
พอเห็นภาพนั้นไอ้เพลง วู่ ฮู้ วู้ ฮู ยิ่งดังมากขึ้น เรางี้นอนตาเหลือกตัวสั่นไปหมดแต่ขยับตัวไม่ได้ เธอคนนั้นก็ค่อยๆลอยเข้ามาหา
เราก็คิดในใจว่าไม่ไหวแล้ว กลัวมาก ต้องเรียกเพื่อนให้มันตื่นให้ได้ เราก็พยายามชำเลืองมองไปที่เพื่อนปรากฎว่า...
เพื่อนลืมตาอยู่และนอนตะแคงหันมาทางเราแต่...เห็นแต่ตาสีขาว ไม่มีตาดำ!!
พอเห็นแบบนั้นแล้วสติแทบกระเจิงเลยทีเดียว ได้แต่คิดว่าทั้งห้องมีเราคนเดียวหรือเปล่าที่เป็นคน? แล้วเพื่อนเราหายไปไหน?
แล้วไอ้ที่นอนอยู่ตรงนั้นมันใครกันวะ?! แต่ก็คิดได้ไม่นานค่ะ คุณเธอยิ่งลอยเข้ามาใกล้เรื่อยๆ เรื่อยๆ
ไอ้เราจะลุกขึ้นไปหยิบผ้าห่มมาคลุมโปงก็ไม่ได้(ไม่น่าถีบออกเลยตู) มันขยับตัวไม่ได้เลยค่ะ
ส่วนไอ้บ้าเตียงข้างๆก็นอนจ้องอยู่นั่น เราเริ่มรู้สึกเหมือนจะเป็นบ้าแล้ว ไม่ไหวแล้วจริงๆ
น้ำตาเริ่มไหลแล้วค่ะ เราหลับตาปี๋แล้วลองสวดมนต์ ณ ตอนนั้นสวดมั่วมาก! นะโมตัสสะ อิติปิโส พาหุง ชินะปัญชะเรติ สัพเพสัพตา
ขนาดปาเจราจริยา โหนติ ยังท่องอะ คิดดูละกัน55555 นึกอะไรได้ก็ท่องมาหมด
อิเพลงชมรมขนหัวลุกก็เร้าซะจริง!!
หลังจากนั้นเรารวบรวมพละกำลังและลมหายใจที่มีอยู่ทั้งหมดร้อง "ฮึ๊บ!!" แล้วดีดตัวลุกขึ้นนั่ง ลืมตามองรอบๆด้าน
ทุกอย่างหายไปหมดค่ะ หายใจได้โล่งมากแต่หัวใจยังเต้นรัวอยู่ เพื่อนที่นอนอยู่เตียงข้างๆก็ยังนอนอยู่เหมือนเดิมแต่นอนหันหลังให้เรา
ทีวีก็ยังคงเป็นหนังจอมยุทธ์เรื่องเดิมอยู่ ข้างนอกระเบียงนั้นมีเสียงรถวิ่ง บีบแตร เสียงไซเรน ตรงถนนเจี๊ยวจ๊าวมาก
ไอ้เราก็อยากรู้ว่าตรงถนนนั้นมีอะไร อีกใจก็กลัวคุณเธอที่เห็นเมื่อกี๊แต่ความอยากรู้อยากเห็นมันมีมากกว่าความกลัวแล้วค่ะ
เลยตัดสินใจลุกจากเตียง แล้วเปิดไฟหัวเตียงไว้เพื่อเดินออกไปดูตรงระเบียง ตอนก้าวขาลงจากเตียงขาเรายังสั่นๆอยู่เลย
พอเดินไปถึงระเบียงก็กลัวนะคะว่าเธอจะโผล่ออกมา 55555
พอมองไปที่ถนนข้างล่างสิ่งที่เห็นคือมีจีนมุงยืนอยู่ริมถนนแต่ไม่มากนัก มีตำรวจประมาณ 3-4 คนยืนอยู่กลางสี่แยกโบกมือไปมา
พื้นผิวถนนตรงแถวนั้นมีคราบเลือดสีแดงเลือดหมูออกสีดำแต่ไม่เยอะและที่เด็ดกว่านั้นคือ...มีบุรุษพยาบาลกำลังเข็นร่างคนที่มีผ้าสีขาวห่ออยู่บนเตียง
ขึ้นรถพยาบาล(ก็เข็นศพขึ้นรถนั้นแหละ ไม่รู้จะพิมพ์ทำไมให้ยืดยาว) แล้วก็รถพยาบาลก็ขับออกไป...
ณ ตอนนั้นเราขนลุกซู่เลย อากาศมันเย็นๆหวิวๆ ด้วยแหละ แล้วก็มาลำดับเหตุการณ์เอาเองว่ามันเกี่ยวข้องกับสิ่งที่เราเจอหรือเปล่า
มีคนถูกรถชน > วิญญาณออกจากร่าง > มาเจอเราเพื่อต้องการสื่อสารบางอย่าง หรือมันอาจจะเป็นแค่เหตุบังเอิญเท่านั้น
คิดวนไปวนมาจนเกือบเช้าค่ะ เพราะไม่กล้านอนแล้ว
พอเวลาประมาณ 7 โมงก็ลงไปกินอาหารเช้าตามปกติแต่ไม่ได้เล่าเรื่องนี้ให้ใครฟัง
โดยเฉพาะเพื่อนที่นอนห้องเดียวกับเราเพราะเรากลัวว่ามันจะกลัวค่ะ
ส่วนคืนที่สองคณะของเราไปนอนบนโรงแรมแถวเขาจินติ่งแต่ไม่เจออะไรที่นั่นค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ ภาพนี้เป็นถนนที่เรามองลงมา(ถ่ายในวัดถัดมาค่ะ)
สี่แยกที่เกิดเหตุ(ถ่ายในวัดถัดมาค่ะ)
ยังคงมีตำรวจจราจรทำหน้าที่อยู่เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุซ้ำ(เดา)
ขอบคุณนะคะที่ทนอ่านจนจบ
และขออภัยที่ Spoil เยอะไปนิดนึง
ไว้คราวหน้าจะมาเล่าให้ฟังใหม่ค่ะ เรื่องหอพักแห่งหนึ่งในซอยวัดดงมูลเหล็ก
ปล.แท็กผิดขออภัยเน้อ
เธอ...ที่ยืนอยู่นอกระเบียง
เพราะวันตรุษจีนทำให้เรานึกถึงเธอ...คนนั้นขึ้นมาเฉยเลย
ประมาณ 2 ปีที่แล้วเราเดินทางไปเมืองเฉิงตู ในมณฑลเสฉวนกับคณะเพื่อนๆนักศึกษาปริญญาโทประมาณปลายเดือนตุลาคม
ช่วงนั้นเริ่มเข้าหน้าหนาวแล้วค่ะ พอเครื่องบินลงจอดสนามบินเฉิงตูประมาณ 10.00 น. ก็ขึ้นรถแล้วแวะเข้าเยี่ยมคารวะท่านกงสุลใหญ่
หลังจากนั้นก็เที่ยวกันช่วงประมาณ 2 ทุ่มคณะของเราได้เข้าพักที่โรงแรมใหญ่แห่งหนึ่งตรงสี่แยกไฟแดงใจกลางเมืองเฉิงตู
ลักษณะห้องพักของเรา(น่าจะเหมือนของเพื่อนคนอื่นๆด้วยแหละ)คือ เดินเข้าห้องจะมีห้องน้ำอยู่ทางขวา เมื่อเดินเข้าไปอีกจะพบเตียง 2 เตียง
และมีโต๊ะเล็กๆระหว่างเตียงทั้งสอง เตียงหนึ่งติดห้องน้ำอีกเตียงหนึ่งติดระเบียงที่มองออกไปแล้วจะเจอสี่แยกไฟแดง ส่วนปลายเตียงเป็นทีวีติดผนัง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ด้วยความที่เที่ยวมาทั้งวัน เหนื่อย เพลีย พอเพื่อนเราใช้คีย์การ์ดเปิดเข้าห้องปุ๊ป ทำโน่นทำนี่เสร็จก็ตรงเข้าไปนอนเตียงติดระเบียงเลย
น้ำไม่ยอมอาบ ส่วนเราก็ต้องนอนเตียงติดห้องน้ำ
เราทำธุระส่วนตัวเสร็จเตรียมจะเข้านอน เราก็ไม่ลืมที่จะเปิดทีวีไว้เป็นเพื่อน(ถึงแม้จะมีเพื่อนอยู่ในห้องแล้ว 5555) แล้วปิดไฟนอนหมด
หลับไปได้นานเท่าไหร่ไม่รู้ เรารู้สึกร้อน เหงื่อออกเต็มตัว เลยถีบผ้าห่มออกจนรู้สึกได้ว่ามันหล่นไปที่ปลายเตียง
ซักพัก...เราได้ยินเสียงอินโทรเพลงชมรมขนหัวลุก วู่ ฮู้ วู้ ฮู มันดังแผ่วๆมาจากที่ไกลๆ แล้วค่อยๆดังเข้ามาใกล้ๆ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เราก็ลืมตามองทีวีเผื่อว่าจะเป็นรายการชมรมขนหัวลุกของไทยมาฉายที่จีน(คนเฉิงตูนิยมดูรายการทีวีของไทยมาก)
แต่ปรากฎว่ามันเป็นหนังแบบจอมยุทธ์จีน กำลังบู๊อย่างมันเลย เสียงกระบี่กระทบโฉงเฉ้งๆ
ก็เลยเริ่มสงสัยแล้วว่าเสียงมันมาจากไหนกันแน่หรือเราหูแว่วไปเอง...
แต่ก็ไม่ได้สนใจมากนักจึงหลับต่อเพราะความง่วงมากๆ พอหลับไปได้ประมาณ 10-15 นาที...มันมาอีกแล้วค่ะ อินโทรเพลงชมรมขนหัวลุก วู่ ฮู้ วู้ ฮู
แล้วมันก็ วู่ ฮู้ วู้ ฮู ดังกังวาลประมาณฟังเพลงโอเปร่าในฮอลล์แถมยังวนอยู่แบบนั้นไม่ยอมจบซักที จนเราเริ่มใจไม่ดีละ กลัวด้วย
อากาศก็ดั๊นหนาวขึ้นมาซะนี่!! ขนลุกไปหมด
ขณะนั้นสายตาเราเหลือบมองไปที่ระเบียง...
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
มันเหมือนฉากในหนังฝรั่งเป๊ะเลย ลองนึกภาพตาม...หน้าต่างบานเลื่อนขนาดใหญ่เปิดอยู่ ผ้าม่านก็เปิดอยู่
ลมเย็นๆพัดเข้าห้องทำให้ผ้าม่านพลิ้วไหวเหมือนภาพสโลโมชั่นและผู้หญิงคนหนึ่งยืนลอยตัวอยู่...นอกระเบียง...
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เราโคตรมั่นใจเลยว่าเราไม่ได้ตาฝาดหรือฝันหรือละเมอตดแน่นอน มันคือผู้หญิงจริงๆ ผมยาว สีดำ ปิดหน้า ใส่เสื้อสีขาวประมาณผีญี่ปุ่น
เราได้แต่คิดในใจ"คงโดนเข้าแล้ว ของจริงแน่ๆ"
พอเห็นภาพนั้นไอ้เพลง วู่ ฮู้ วู้ ฮู ยิ่งดังมากขึ้น เรางี้นอนตาเหลือกตัวสั่นไปหมดแต่ขยับตัวไม่ได้ เธอคนนั้นก็ค่อยๆลอยเข้ามาหา
เราก็คิดในใจว่าไม่ไหวแล้ว กลัวมาก ต้องเรียกเพื่อนให้มันตื่นให้ได้ เราก็พยายามชำเลืองมองไปที่เพื่อนปรากฎว่า...
เพื่อนลืมตาอยู่และนอนตะแคงหันมาทางเราแต่...เห็นแต่ตาสีขาว ไม่มีตาดำ!!
พอเห็นแบบนั้นแล้วสติแทบกระเจิงเลยทีเดียว ได้แต่คิดว่าทั้งห้องมีเราคนเดียวหรือเปล่าที่เป็นคน? แล้วเพื่อนเราหายไปไหน?
แล้วไอ้ที่นอนอยู่ตรงนั้นมันใครกันวะ?! แต่ก็คิดได้ไม่นานค่ะ คุณเธอยิ่งลอยเข้ามาใกล้เรื่อยๆ เรื่อยๆ
ไอ้เราจะลุกขึ้นไปหยิบผ้าห่มมาคลุมโปงก็ไม่ได้(ไม่น่าถีบออกเลยตู) มันขยับตัวไม่ได้เลยค่ะ
ส่วนไอ้บ้าเตียงข้างๆก็นอนจ้องอยู่นั่น เราเริ่มรู้สึกเหมือนจะเป็นบ้าแล้ว ไม่ไหวแล้วจริงๆ
น้ำตาเริ่มไหลแล้วค่ะ เราหลับตาปี๋แล้วลองสวดมนต์ ณ ตอนนั้นสวดมั่วมาก! นะโมตัสสะ อิติปิโส พาหุง ชินะปัญชะเรติ สัพเพสัพตา
ขนาดปาเจราจริยา โหนติ ยังท่องอะ คิดดูละกัน55555 นึกอะไรได้ก็ท่องมาหมด
อิเพลงชมรมขนหัวลุกก็เร้าซะจริง!!
หลังจากนั้นเรารวบรวมพละกำลังและลมหายใจที่มีอยู่ทั้งหมดร้อง "ฮึ๊บ!!" แล้วดีดตัวลุกขึ้นนั่ง ลืมตามองรอบๆด้าน
ทุกอย่างหายไปหมดค่ะ หายใจได้โล่งมากแต่หัวใจยังเต้นรัวอยู่ เพื่อนที่นอนอยู่เตียงข้างๆก็ยังนอนอยู่เหมือนเดิมแต่นอนหันหลังให้เรา
ทีวีก็ยังคงเป็นหนังจอมยุทธ์เรื่องเดิมอยู่ ข้างนอกระเบียงนั้นมีเสียงรถวิ่ง บีบแตร เสียงไซเรน ตรงถนนเจี๊ยวจ๊าวมาก
ไอ้เราก็อยากรู้ว่าตรงถนนนั้นมีอะไร อีกใจก็กลัวคุณเธอที่เห็นเมื่อกี๊แต่ความอยากรู้อยากเห็นมันมีมากกว่าความกลัวแล้วค่ะ
เลยตัดสินใจลุกจากเตียง แล้วเปิดไฟหัวเตียงไว้เพื่อเดินออกไปดูตรงระเบียง ตอนก้าวขาลงจากเตียงขาเรายังสั่นๆอยู่เลย
พอเดินไปถึงระเบียงก็กลัวนะคะว่าเธอจะโผล่ออกมา 55555
พอมองไปที่ถนนข้างล่างสิ่งที่เห็นคือมีจีนมุงยืนอยู่ริมถนนแต่ไม่มากนัก มีตำรวจประมาณ 3-4 คนยืนอยู่กลางสี่แยกโบกมือไปมา
พื้นผิวถนนตรงแถวนั้นมีคราบเลือดสีแดงเลือดหมูออกสีดำแต่ไม่เยอะและที่เด็ดกว่านั้นคือ...มีบุรุษพยาบาลกำลังเข็นร่างคนที่มีผ้าสีขาวห่ออยู่บนเตียง
ขึ้นรถพยาบาล(ก็เข็นศพขึ้นรถนั้นแหละ ไม่รู้จะพิมพ์ทำไมให้ยืดยาว) แล้วก็รถพยาบาลก็ขับออกไป...
ณ ตอนนั้นเราขนลุกซู่เลย อากาศมันเย็นๆหวิวๆ ด้วยแหละ แล้วก็มาลำดับเหตุการณ์เอาเองว่ามันเกี่ยวข้องกับสิ่งที่เราเจอหรือเปล่า
มีคนถูกรถชน > วิญญาณออกจากร่าง > มาเจอเราเพื่อต้องการสื่อสารบางอย่าง หรือมันอาจจะเป็นแค่เหตุบังเอิญเท่านั้น
คิดวนไปวนมาจนเกือบเช้าค่ะ เพราะไม่กล้านอนแล้ว
พอเวลาประมาณ 7 โมงก็ลงไปกินอาหารเช้าตามปกติแต่ไม่ได้เล่าเรื่องนี้ให้ใครฟัง
โดยเฉพาะเพื่อนที่นอนห้องเดียวกับเราเพราะเรากลัวว่ามันจะกลัวค่ะ
ส่วนคืนที่สองคณะของเราไปนอนบนโรงแรมแถวเขาจินติ่งแต่ไม่เจออะไรที่นั่นค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ขอบคุณนะคะที่ทนอ่านจนจบ
และขออภัยที่ Spoil เยอะไปนิดนึง
ไว้คราวหน้าจะมาเล่าให้ฟังใหม่ค่ะ เรื่องหอพักแห่งหนึ่งในซอยวัดดงมูลเหล็ก
ปล.แท็กผิดขออภัยเน้อ