สวัสดีค่ะมิตรรักแฟนซีรีส์ซากึกทุกท่าน วันนี้ จขกท.กลับมาอีกครั้งกับบทเรียนทางประวัติศาตร์สนุกๆประกอบการดูซีรีส์เรื่อง 'ฮวารัง' โดยวันนี้ มาเรียนรู้กันในหัวข้อ 'ระบบชั้นกระดูก ศักดินาที่สำคัญที่สุดในชิลลา' 골품제도 / Bone Rank System
สำหรับใครที่ยังไม่เคยอ่านบทที่ผ่านมา แนะนำให้ย้อนกลับไปอ่านกันก่อนเพื่อความเข้าใจที่ครบถ้วนนะคะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ บทที่ 1 สังคมและวัฒนธรรมพื้นฐานในสมัยชิลลา http://pantip.com/topic/35779011
บทที่ 2 ผ่าลำดับราชวงศ์ชิลลาทั้ง 56 พระองค์ http://pantip.com/topic/35970937
- ช่วงนี้มีคนสงสัยกันเยอะเหลือเกิน ว่าเจ้าระบบนี่มันแบ่งแยกคนอะไรนักหนา ถึงได้ล้อกันอยู่ได้ เจ้าเลือดแท้เลือดผสม
ส่วนผู้มีฐานะสูงเกินไปอย่างเพฮาของเราจะต้องซ่อนตัวไปทำไม? วันนี้เราจะได้ทราบความแตกต่างระหว่างชนชั้นในชิลลากันค่ะ
ก่อนอื่นเราต้องแบ่งเป็น 3 ประเภทหลักนะคะ
ชนชั้นราชวงศ์
ชั้นซองโกล และ ชั้นจินโกล
ชนชั้นขุนนาง
ขั้น 6 , ขั้น 5 , ขั้น 4
ชนชั้นไพร่
ขั้น 3 , ขั้น 2 , ขั้น 1
ชั้นกระดูกซองโกล หรือ สายเลือดศักดิ์สิทธิ์ จะมีแค่พระราชา พระมเหสี โอรสธิดาที่เกิดแด่พระราชากับพระมเหสีหรือพระสนมเท่านั้น
สิทธิของชั้นซองโกล คือ ไม่มีข้อจำกัดด้านทรัพย์สิน ทุกอย่างในชิลลาถือเป็นของพระราชา สามารถยึดคืนจากชนชั้นอื่นๆเมื่อปลดตำแหน่งออกไปแล้ว จากการกระทำอันผิดกฎหมาย หรือการก่อกบฎ
ชั้นกระดูกจินโกล หรือ สายเลือดแท้ คือ พระญาติสายที่ห่างออกไป และขุนนางที่เป็นชาวชิลลาแท้ที่ต้นตระกูลได้สร้างผลงานไว้มาก มีสิทธิในการครอบครองทรัพย์มากกว่าชนชั้นอื่น
ขั้น 6 , ขั้น 5 , ขั้น 4
เป็นชั้นกระดูกสำหรับตระกูลขุนนาง โดยระดับต่ำสุดคือชั้น 4 และสูงสุดคือชั้น 6
แผนภาพแสดงระดับขั้นของชนชั้นจินโกลและขุนนาง มีทั้งหมด 17 ระดับ และมีชื่อระดับด้วย
โดย แบ่งดังนี้
ชั้นจินโกล ชุดทางการสีม่วง – ขนาดบ้านไม่เกิน 24 ช็อก ครอบครองม้าได้ไม่จำกัด
ขุนนางขั้น 6 ชุดทางการสีแดง – ขนาดบ้านไม่เกิน 21 ช็อก ครอบครองม้าได้ไม่เกิน 5 ตัว
ขุนนางขั้น 5 ชุดทางการสีฟ้า – ขนาดบ้านไม่เกิน 18 ช็อก และสูงไม่เกิน 7 ช็อก ครอบครองม้าได้ไม่เกิน 3 ตัว
ขุนนางขั้น 4 ชุดทางการสีเหลือง – ขนาดบ้านไม่เกิน 15 ช็อก และสูงไม่เกิน 6 ช็อก ครอบครองม้าได้ไม่เกิน 2 ตัว
* ช็อก เป็นหน่วยวัดของเกาหลีโบราณ เทียบเคียงคล้ายวัดแบบตารางเมตรในปัจจุบัน
ฉากว่าการในท้องพระโรง ขุนนางชิลลายืนเรียงลำดับขั้นตามสีชุด
ท่านแม่ทัพใหญ่ 'คิมยูชิน' ตัวอย่างบุคคลในประวัติศาตร์ชนชั้นจินโกลระดับอีบอลชัน ที่มีสิทธิครอบครองม้าได้ไม่จำกัด เพื่อเสริมอำนาจการเป็นแม่ทัพสูงสุดของชิลลา
ชนชั้นไพร่
ขั้น 3 , ขั้น 2 , ขั้น 1
อาชีพส่วนใหญ่มักจะรับจ้างทำนาในที่ดินของชนชั้นขุนนางที่ได้รับประธานมาจากพระราชา จากการสร้างผลงานต่างๆ ชนชั้นนี้ไม่มีสิทธิในอสังหาริมทรัพย์ มักกินอยู่ในรั้วบ้านของขุนนางและรับใช้พวกเขา หากเจอขุนนางดีก็โชคดีไป แถมยังต้องรับภาระจ่ายภาษีอีกด้วยค่ะ
แคแซและมักมุน ตอนที่ยังไม่ทราบฐานะที่แท้จริงของตน ก็เป็นชนชั้นไพร่อยู่นอกเมืองหลวง
เหตุการณ์ขัดแข้งในราชวงศ์ ระหว่างระดับชั้นซองโกลและชั้นจินโกล
หลังจากรัชสมัยของพระเจ้าแนมุล ได้ประกาศยกเลิกการสืบทอดและก็แต่งตั้งด้วยการ 'คัดเลือก' ให้เปลี่ยนมาเป็น 'การสืบทอดผ่านทางสายเลือด' ทำให้ลำดับชั้นจินโกล ถูกสงวนไว้ให้แก่ราชสกุลคิมเท่านั้น ทำให้กษัตริย์ในลำดับต่อมาต้องแต่งงานกับพี่น้องต่างบิดาหรือมารดา ลุงหลาน อาหลาน เป็นเรื่องปกติ
จนถึงรัชสมัยของพระเจ้าจินฮึงมหาราชย์ ถึงแม้พระองค์จะถูกพระพันปีจีโซคลุมถุงชนให้อภิเษกกับองค์หญิงซุกมยอง น้องสาวต่างบิดากับพระองค์ก็ตาม แต่พระองค์ก็สมรสไปอย่างนั้น แต่กลับมีโอรสและธิดามากมายกับเหล่าพระสนมต่างสกุลและต่างชนชั้นกัน เพราะนโยบายการสร้างชิลลาของพระองค์ค่อนข้างแตกต่างจากกษัตริย์พระองค์อื่นๆที่ผ่านมา และค่อนข้างมองการณ์ไกลอย่างมาก ณ ช่วงเวลาตามแนวคิดของคนสมัยนั้น
ในส่วนขององค์หญิงซุกมยองเอง ก็มีอนุสามีเป็นหนึ่งในกลุ่มฮวารังและมีบุตรกับเขาเช่นกัน
ฉากพระพันปีจีโซเอ่ยปากบังคับพระเจ้าจินฮึงอภิเษก เพื่อรักษาชั้นกระดูกซองโกลเอาไว้
องค์หญิงซุกมยอง ธิดาของพระพันปีจีโซ น้องสาวต่างบิดาของพระเจ้าจินฮึง
ทางด้านของราชสกุลพัค และ ราชสกุลซอก ก็เสียสิทธิ์การได้อยู่ในชนชั้นซองโกลอีกต่อไป แต่จะยังอยู่ในชั้นจินโกลกันทั้งตระกูล ยิ่งพวกลูกผสมที่มีแม่เป็นชนชั้นไพร่ ก็กลายเป็นมีฐานะยิ่งต่ำลงไปอีก
เหตุการณ์ที่ ซอกดันเซ พี่ชายของซอกฮันซอง ได้เล่าเรื่องท่านปู่กับอาจารย์วีฮวาว่า ท่านปู่ยังกังวลอยู่ทุกวันว่าตระกูลซอกจะตกต่ำลงเพราะอาจจะถูกลดขั้นไปเรื่อยๆ นั่นแสดงถึงความกังวลของฝ่ายที่จะเสียเปรียบเรื่องระบบศักดินาได้อย่างชัดเจนค่ะ
เหตุการณ์ขัดแย้งเรื่องการสงวนสิทธิ์ชั้นซองโกลเพื่อสืบทอดราชบัลลังก์ก็ยังเกิดขึ้นอีกครั้ง ในรัชสมัยของพระนางซอนต็อก และ พระนางจินต็อก เหตุผลเนื่องจาก ทั้งสองพระนางแม้จะเป็นองค์หญิง แต่ ณ ตอนนั้น ราชวงศ์ชิลลาไร้ทายาทชายในชั้นซองโกลอย่างสิ้นเชิง เหลือเพียงแค่สองพระนางเท่านั้น ทำให้องค์หญิงต็อกมาน ได้กลายเป็นกษัตริยาพระองค์แรกของชิลลา ขึ้นเป็นพระนางซอนต็อก และ องค์หญิงซึงมานรับช่วงต่อ ขึ้นเป็นพระนางจินต็อก
ฉากถกประเด็นเรื่ององค์รัชทายาทแห่งชิลลาในตำนาน จากเรื่องควีนซอนต็อก
เหตุการณ์ถกประเด็นเรื่ององค์รัชทายาทในเรื่องควีนซอนต็อก ในองค์ประชุมสภาขุนนาง กับการปะทะคารมกันของ องค์หญิงต็อกมาน และ คุณชายชุนชู เนื่องด้วยเหตุการณ์คับขันที่ราชวงศ์ชิลลาไร้ทายาทชายชั้นซองโกล องค์หญิงต็อกมานเสนอตัวเองเป็นองค์รัชทายาท เพราะองค์หญิงเป็นชนชั้นซองโกลที่ยังเหลืออยู่ แม้ในประวัติศาตร์ชิลลาจะยังไม่เคยมีผู้หญิงขึ้นครองราชย์ แต่องค์หญิงก็เชื่อว่าตนจะเป็นคนแรกในประวัติศาตร์ได้ และเนื่องด้วยสังคมของชิลลาที่ยึดถือพระพุทธศาสนาและลัทธิเต๋า ซึ่งไม่มีการแบ่งแยกความสูงต่ำระหว่างชายหญิงมากนัก ทำให้ขุนนางบางส่วนเห็นด้วยหากองค์หญิงจะขึ้นครองราชย์
ในมุมของคุณชายชุนชู มองว่า การสืบทอดราชบัลลังก์โดยยึดถือเอาแต่การแบ่งแยกชนชั้นซองโกลนั้นล้าสมัย ในอารยประเทศแถบจีนไม่มีใครเขายืดถือกับเรื่องนี้มากนัก แค่มีเชื้อสายที่เหมาะสมก็เพียงพอ ตัวคุณชายเองเป็นชนชั้นจินโกล แต่หากนับขึ้นไปทางแม่ ก็มีพระเจ้าจินพยองเป็นตา นับทางพ่อก็มีพระเจ้าจินจีเป็นปู่ ซึ่งทั้งสองพระองค์ก็มีสายเลือดเข้มข้นจากพระเจ้าจินฮึงเหมือนกัน คุณชายมองว่าเรื่องนี้ไม่ใช่ปัญหาอะไร หากจะมีปัญหาก็เพียงเพราะตนยังอายุน้อยเกินไปและต้องมีผู้สำเร็จราชการไปก่อนเท่านั้น
สุดท้ายแล้ว ศึกครั้งนี้องค์หญิงต็อกมานก็เป็นผู้ชนะ ได้ครองราชย์เป็นพระนางซอนต็อก
แต่ถึงกระนั้น ในอนาคตคุณชายชุนชู ก็ได้ครองราชย์เป็นพระเจ้าแทจงมูยอล เช่นกัน
ระบบชั้นกระดูก คือต้นเหตุของการล่มสลายของชิลลารวมหรือไม่?
ระบบศักดินาของชิลลานี้นับว่าเป็นต้นเหตุลึกๆที่แท้จริงของการล่มสลายของชิลลารวมค่ะ
เพราะนอกเหนือจากระบบการจัดสรรยศฐาบรรดาศักดิ์และทรัพย์สินที่พึงจะครอบครองในแต่ละระดับ ทำให้อัตราส่วนของชนชั้นไพร่มีสูงขึ้น และระดับขุนนางมีแต่ความมั่งคั่งแล้ว หลังจากรัชสมัยที่ชิลลาทำการรวมแคว้นสำเร็จแล้วนั้น การช่วงชิงบัลลังก์ในชิลลามีความดุเดือดมากขึ้นกว่าเดิม เนื่องจากอาณาเขตอำนาจกว้างไกลขึ้น
กลุ่มราชวงศ์ก็จะมีทั้งกลุ่มหัวสมัยใหม่ ที่อยากจะพัฒนาชิลลาเจริญรอยตามจีนและมีแนวโน้มจะยกเลิกระบบชั้นกระดูก กับ กลุ่มหัวสมัยเก่า ที่เน้นรักษาขนบธรรมเนียมดั้งเดิมของชิลลาไว้
แต่กลุ่มหัวสมัยใหม่กลับถูกรัฐประหารไป ทำให้ราชวงศ์ชิลลากลับมาล้าหลังลงคลองอีกครั้ง
และยิ่งไปกว่านั้น ทางการชิลลาได้ตั้งกฎแก่ประชากรจากแคว้นแพกเจเดิม ไม่ให้สามารถเลื่อนระดับได้สูงเกินไปกว่า ขั้น 6 และ ประชากรจากแคว้นโคคูรยอเดิม ไม่ให้สามารถเลื่อนระดับได้สูงเกินไปกว่า ขั้น 5 ในขณะที่ชาวชิลลาแท้กลับสามารถสร้างผลงานไปถึงขั้นจินโกลได้ มีกินมีใช้หรูหราอู้ฟู่ บ้านสร้างด้วยทองคำอีกต่างหากค่ะ
สิ่งนี้ทำให้ปัญญาชนที่มีความรู้ความสามารถ และอดีตเคยมีอำนาจสูงส่งในแพกเจ เริ่มกลับมารวมตัวก่อตั้งอาณาจักรฮูแพกเจขึ้นมาอีกครั้ง โดยมี ยางกิลเป็นผู้นำ สถาปณาพระเจ้าคยอนฮวอนขึ้นเป็นกษัตริย์แห่งฮูแพกเจ ซึ่งเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในรัชสมัยของพระนางจินซองปกครองชิลลา
พระเจ้าคยอนฮวอนแห่งฮูแพกเจ (จากซีรีส์ Emperor Wang Geon) และ พระนางจินซองแห่งชิลลา (จากหนัง The Legend of the Evil Lake)
ส่วนฝ่ายเหนือซึ่งเป็นอาณาจักรพัลแฮ มีชนกลุ่มหนึ่งที่ไม่ต้องการเป็นประชาชนของพัลแฮเช่นกัน เพราะวัฒนธรรมของชาวพัลแฮใต้จะใกล้เคียงกับโคคูรยอเดิมมากกว่าพัลแฮเหนือที่มีความเป็นจีน จึงมีการรวมตัวกันเพื่อสร้างอาณาจักรใหม่ คือ อาณาจักรฮูโคคูรยอ หรือ แทบง แต่แล้วประมุขแทบง คือ พระเจ้าคุงเย กลับเหลิงอำนาจ ทำให้กลุ่มเจ้าหัวเมืองต่างๆในเขตโคคูรยอเดิม รวมตัวกันเป็น โฮจก และสนับสนุนให้อัครเสนาบดีวังกอน ขึ้นเป็นกษัตริย์นามว่า 'พระเจ้าแทโจ' และตั้งชื่อแผ่นดินนี้ว่า 'โครยอ'
พระเจ้าคุงเยแห่งฮูโคคูรยอ กับ อัครเสนาบดีวังกอน (จากซีรีส์ Emperor Wang Geon)
ดังนั้น ประชาชนชั้นรากหญ้า ต่างก็อยากมีชีวิตที่ดีขึ้น ทุกคนก็อยากเป็นประชาชนของแคว้นโครยอหรือฮูแพคเจเสียมากกว่า ทำให้ชิลลาอ่อนอำนาจลงอย่างมาก และพระเจ้าคยอนวอนแห่งฮูแพกเจได้บุกเผาเมืองหลวงชิลลาสำเร็จ ทำให้พระเจ้าคยองซุนแห่งชิลลาต้องลี้ภัยไปพึ่งใบบุญโครยอ ส่วนหนึ่งที่พระเจ้าคยองซุนยอมปิดฉากชิลลาและรวมเป็นหนึ่งเดียวกับโครยอ ก็เป็นเพราะพระเจ้าแทโจแห่งโครยอ ทรงปกครองประชาชนโดยไม่แบ่งแยกว่าใครมาจากแคว้นที่ล่มสลายไปแล้ว แถมยังคืนฐานะเดิมแก่พวกเขาเหล่านั้นด้วย ตามคำถวายพระพรที่แฮซูกล่าวใน Moon Lovers เป๊ะเลยค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้สามารถติดตามเรื่องราวในตอนต้นของโครยอในกระทู้คุณ NATSUO http://pantip.com/topic/35643067
อวสานชิลลารวม แอนด์โกทูโครยอเจนเนอเรชั่น นะเพคะ
เครดิต
รอบนี้แปลเองทั้งหมดค่ะ ศึกษาจากการดูละคร และอ่านบทความ + ยืมภาพประกอบเหล่านี้
กรุณานำออกไปพร้อมเครดิตการแปลและเรียบเรียงด้วยนะคะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้http://ko.wikipedia.org/wiki/%EA%B3%A8%ED%92%88_%EC%A0%9C%EB%8F%84
http://namu.wiki/w/%EA%B3%A8%ED%92%88%EC%A0%9C
http://m.inven.co.kr/board/powerbbs.php?come_idx=2097&l=671591
Foundation of Hwarang101 วิชาฮวารังขั้นพื้นฐาน : บทที่ 3 ระบบชั้นกระดูก ศักดินาที่สำคัญที่สุดในชิลลา
สำหรับใครที่ยังไม่เคยอ่านบทที่ผ่านมา แนะนำให้ย้อนกลับไปอ่านกันก่อนเพื่อความเข้าใจที่ครบถ้วนนะคะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
- ช่วงนี้มีคนสงสัยกันเยอะเหลือเกิน ว่าเจ้าระบบนี่มันแบ่งแยกคนอะไรนักหนา ถึงได้ล้อกันอยู่ได้ เจ้าเลือดแท้เลือดผสม
ส่วนผู้มีฐานะสูงเกินไปอย่างเพฮาของเราจะต้องซ่อนตัวไปทำไม? วันนี้เราจะได้ทราบความแตกต่างระหว่างชนชั้นในชิลลากันค่ะ
ชนชั้นราชวงศ์
ชั้นซองโกล และ ชั้นจินโกล
ชนชั้นขุนนาง
ขั้น 6 , ขั้น 5 , ขั้น 4
ชนชั้นไพร่
ขั้น 3 , ขั้น 2 , ขั้น 1
ชั้นกระดูกซองโกล หรือ สายเลือดศักดิ์สิทธิ์ จะมีแค่พระราชา พระมเหสี โอรสธิดาที่เกิดแด่พระราชากับพระมเหสีหรือพระสนมเท่านั้น
สิทธิของชั้นซองโกล คือ ไม่มีข้อจำกัดด้านทรัพย์สิน ทุกอย่างในชิลลาถือเป็นของพระราชา สามารถยึดคืนจากชนชั้นอื่นๆเมื่อปลดตำแหน่งออกไปแล้ว จากการกระทำอันผิดกฎหมาย หรือการก่อกบฎ
ชั้นกระดูกจินโกล หรือ สายเลือดแท้ คือ พระญาติสายที่ห่างออกไป และขุนนางที่เป็นชาวชิลลาแท้ที่ต้นตระกูลได้สร้างผลงานไว้มาก มีสิทธิในการครอบครองทรัพย์มากกว่าชนชั้นอื่น
ขั้น 6 , ขั้น 5 , ขั้น 4
เป็นชั้นกระดูกสำหรับตระกูลขุนนาง โดยระดับต่ำสุดคือชั้น 4 และสูงสุดคือชั้น 6
แผนภาพแสดงระดับขั้นของชนชั้นจินโกลและขุนนาง มีทั้งหมด 17 ระดับ และมีชื่อระดับด้วย
โดย แบ่งดังนี้
ชั้นจินโกล ชุดทางการสีม่วง – ขนาดบ้านไม่เกิน 24 ช็อก ครอบครองม้าได้ไม่จำกัด
ขุนนางขั้น 6 ชุดทางการสีแดง – ขนาดบ้านไม่เกิน 21 ช็อก ครอบครองม้าได้ไม่เกิน 5 ตัว
ขุนนางขั้น 5 ชุดทางการสีฟ้า – ขนาดบ้านไม่เกิน 18 ช็อก และสูงไม่เกิน 7 ช็อก ครอบครองม้าได้ไม่เกิน 3 ตัว
ขุนนางขั้น 4 ชุดทางการสีเหลือง – ขนาดบ้านไม่เกิน 15 ช็อก และสูงไม่เกิน 6 ช็อก ครอบครองม้าได้ไม่เกิน 2 ตัว
* ช็อก เป็นหน่วยวัดของเกาหลีโบราณ เทียบเคียงคล้ายวัดแบบตารางเมตรในปัจจุบัน
ฉากว่าการในท้องพระโรง ขุนนางชิลลายืนเรียงลำดับขั้นตามสีชุด
ท่านแม่ทัพใหญ่ 'คิมยูชิน' ตัวอย่างบุคคลในประวัติศาตร์ชนชั้นจินโกลระดับอีบอลชัน ที่มีสิทธิครอบครองม้าได้ไม่จำกัด เพื่อเสริมอำนาจการเป็นแม่ทัพสูงสุดของชิลลา
ชนชั้นไพร่
ขั้น 3 , ขั้น 2 , ขั้น 1
อาชีพส่วนใหญ่มักจะรับจ้างทำนาในที่ดินของชนชั้นขุนนางที่ได้รับประธานมาจากพระราชา จากการสร้างผลงานต่างๆ ชนชั้นนี้ไม่มีสิทธิในอสังหาริมทรัพย์ มักกินอยู่ในรั้วบ้านของขุนนางและรับใช้พวกเขา หากเจอขุนนางดีก็โชคดีไป แถมยังต้องรับภาระจ่ายภาษีอีกด้วยค่ะ
แคแซและมักมุน ตอนที่ยังไม่ทราบฐานะที่แท้จริงของตน ก็เป็นชนชั้นไพร่อยู่นอกเมืองหลวง
จนถึงรัชสมัยของพระเจ้าจินฮึงมหาราชย์ ถึงแม้พระองค์จะถูกพระพันปีจีโซคลุมถุงชนให้อภิเษกกับองค์หญิงซุกมยอง น้องสาวต่างบิดากับพระองค์ก็ตาม แต่พระองค์ก็สมรสไปอย่างนั้น แต่กลับมีโอรสและธิดามากมายกับเหล่าพระสนมต่างสกุลและต่างชนชั้นกัน เพราะนโยบายการสร้างชิลลาของพระองค์ค่อนข้างแตกต่างจากกษัตริย์พระองค์อื่นๆที่ผ่านมา และค่อนข้างมองการณ์ไกลอย่างมาก ณ ช่วงเวลาตามแนวคิดของคนสมัยนั้น
ในส่วนขององค์หญิงซุกมยองเอง ก็มีอนุสามีเป็นหนึ่งในกลุ่มฮวารังและมีบุตรกับเขาเช่นกัน
ฉากพระพันปีจีโซเอ่ยปากบังคับพระเจ้าจินฮึงอภิเษก เพื่อรักษาชั้นกระดูกซองโกลเอาไว้
องค์หญิงซุกมยอง ธิดาของพระพันปีจีโซ น้องสาวต่างบิดาของพระเจ้าจินฮึง
ทางด้านของราชสกุลพัค และ ราชสกุลซอก ก็เสียสิทธิ์การได้อยู่ในชนชั้นซองโกลอีกต่อไป แต่จะยังอยู่ในชั้นจินโกลกันทั้งตระกูล ยิ่งพวกลูกผสมที่มีแม่เป็นชนชั้นไพร่ ก็กลายเป็นมีฐานะยิ่งต่ำลงไปอีก
เหตุการณ์ที่ ซอกดันเซ พี่ชายของซอกฮันซอง ได้เล่าเรื่องท่านปู่กับอาจารย์วีฮวาว่า ท่านปู่ยังกังวลอยู่ทุกวันว่าตระกูลซอกจะตกต่ำลงเพราะอาจจะถูกลดขั้นไปเรื่อยๆ นั่นแสดงถึงความกังวลของฝ่ายที่จะเสียเปรียบเรื่องระบบศักดินาได้อย่างชัดเจนค่ะ
เหตุการณ์ขัดแย้งเรื่องการสงวนสิทธิ์ชั้นซองโกลเพื่อสืบทอดราชบัลลังก์ก็ยังเกิดขึ้นอีกครั้ง ในรัชสมัยของพระนางซอนต็อก และ พระนางจินต็อก เหตุผลเนื่องจาก ทั้งสองพระนางแม้จะเป็นองค์หญิง แต่ ณ ตอนนั้น ราชวงศ์ชิลลาไร้ทายาทชายในชั้นซองโกลอย่างสิ้นเชิง เหลือเพียงแค่สองพระนางเท่านั้น ทำให้องค์หญิงต็อกมาน ได้กลายเป็นกษัตริยาพระองค์แรกของชิลลา ขึ้นเป็นพระนางซอนต็อก และ องค์หญิงซึงมานรับช่วงต่อ ขึ้นเป็นพระนางจินต็อก
ฉากถกประเด็นเรื่ององค์รัชทายาทแห่งชิลลาในตำนาน จากเรื่องควีนซอนต็อก
เหตุการณ์ถกประเด็นเรื่ององค์รัชทายาทในเรื่องควีนซอนต็อก ในองค์ประชุมสภาขุนนาง กับการปะทะคารมกันของ องค์หญิงต็อกมาน และ คุณชายชุนชู เนื่องด้วยเหตุการณ์คับขันที่ราชวงศ์ชิลลาไร้ทายาทชายชั้นซองโกล องค์หญิงต็อกมานเสนอตัวเองเป็นองค์รัชทายาท เพราะองค์หญิงเป็นชนชั้นซองโกลที่ยังเหลืออยู่ แม้ในประวัติศาตร์ชิลลาจะยังไม่เคยมีผู้หญิงขึ้นครองราชย์ แต่องค์หญิงก็เชื่อว่าตนจะเป็นคนแรกในประวัติศาตร์ได้ และเนื่องด้วยสังคมของชิลลาที่ยึดถือพระพุทธศาสนาและลัทธิเต๋า ซึ่งไม่มีการแบ่งแยกความสูงต่ำระหว่างชายหญิงมากนัก ทำให้ขุนนางบางส่วนเห็นด้วยหากองค์หญิงจะขึ้นครองราชย์
ในมุมของคุณชายชุนชู มองว่า การสืบทอดราชบัลลังก์โดยยึดถือเอาแต่การแบ่งแยกชนชั้นซองโกลนั้นล้าสมัย ในอารยประเทศแถบจีนไม่มีใครเขายืดถือกับเรื่องนี้มากนัก แค่มีเชื้อสายที่เหมาะสมก็เพียงพอ ตัวคุณชายเองเป็นชนชั้นจินโกล แต่หากนับขึ้นไปทางแม่ ก็มีพระเจ้าจินพยองเป็นตา นับทางพ่อก็มีพระเจ้าจินจีเป็นปู่ ซึ่งทั้งสองพระองค์ก็มีสายเลือดเข้มข้นจากพระเจ้าจินฮึงเหมือนกัน คุณชายมองว่าเรื่องนี้ไม่ใช่ปัญหาอะไร หากจะมีปัญหาก็เพียงเพราะตนยังอายุน้อยเกินไปและต้องมีผู้สำเร็จราชการไปก่อนเท่านั้น
สุดท้ายแล้ว ศึกครั้งนี้องค์หญิงต็อกมานก็เป็นผู้ชนะ ได้ครองราชย์เป็นพระนางซอนต็อก
แต่ถึงกระนั้น ในอนาคตคุณชายชุนชู ก็ได้ครองราชย์เป็นพระเจ้าแทจงมูยอล เช่นกัน
ระบบศักดินาของชิลลานี้นับว่าเป็นต้นเหตุลึกๆที่แท้จริงของการล่มสลายของชิลลารวมค่ะ
เพราะนอกเหนือจากระบบการจัดสรรยศฐาบรรดาศักดิ์และทรัพย์สินที่พึงจะครอบครองในแต่ละระดับ ทำให้อัตราส่วนของชนชั้นไพร่มีสูงขึ้น และระดับขุนนางมีแต่ความมั่งคั่งแล้ว หลังจากรัชสมัยที่ชิลลาทำการรวมแคว้นสำเร็จแล้วนั้น การช่วงชิงบัลลังก์ในชิลลามีความดุเดือดมากขึ้นกว่าเดิม เนื่องจากอาณาเขตอำนาจกว้างไกลขึ้น
กลุ่มราชวงศ์ก็จะมีทั้งกลุ่มหัวสมัยใหม่ ที่อยากจะพัฒนาชิลลาเจริญรอยตามจีนและมีแนวโน้มจะยกเลิกระบบชั้นกระดูก กับ กลุ่มหัวสมัยเก่า ที่เน้นรักษาขนบธรรมเนียมดั้งเดิมของชิลลาไว้
แต่กลุ่มหัวสมัยใหม่กลับถูกรัฐประหารไป ทำให้ราชวงศ์ชิลลากลับมาล้าหลังลงคลองอีกครั้ง
และยิ่งไปกว่านั้น ทางการชิลลาได้ตั้งกฎแก่ประชากรจากแคว้นแพกเจเดิม ไม่ให้สามารถเลื่อนระดับได้สูงเกินไปกว่า ขั้น 6 และ ประชากรจากแคว้นโคคูรยอเดิม ไม่ให้สามารถเลื่อนระดับได้สูงเกินไปกว่า ขั้น 5 ในขณะที่ชาวชิลลาแท้กลับสามารถสร้างผลงานไปถึงขั้นจินโกลได้ มีกินมีใช้หรูหราอู้ฟู่ บ้านสร้างด้วยทองคำอีกต่างหากค่ะ
สิ่งนี้ทำให้ปัญญาชนที่มีความรู้ความสามารถ และอดีตเคยมีอำนาจสูงส่งในแพกเจ เริ่มกลับมารวมตัวก่อตั้งอาณาจักรฮูแพกเจขึ้นมาอีกครั้ง โดยมี ยางกิลเป็นผู้นำ สถาปณาพระเจ้าคยอนฮวอนขึ้นเป็นกษัตริย์แห่งฮูแพกเจ ซึ่งเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในรัชสมัยของพระนางจินซองปกครองชิลลา
พระเจ้าคยอนฮวอนแห่งฮูแพกเจ (จากซีรีส์ Emperor Wang Geon) และ พระนางจินซองแห่งชิลลา (จากหนัง The Legend of the Evil Lake)
ส่วนฝ่ายเหนือซึ่งเป็นอาณาจักรพัลแฮ มีชนกลุ่มหนึ่งที่ไม่ต้องการเป็นประชาชนของพัลแฮเช่นกัน เพราะวัฒนธรรมของชาวพัลแฮใต้จะใกล้เคียงกับโคคูรยอเดิมมากกว่าพัลแฮเหนือที่มีความเป็นจีน จึงมีการรวมตัวกันเพื่อสร้างอาณาจักรใหม่ คือ อาณาจักรฮูโคคูรยอ หรือ แทบง แต่แล้วประมุขแทบง คือ พระเจ้าคุงเย กลับเหลิงอำนาจ ทำให้กลุ่มเจ้าหัวเมืองต่างๆในเขตโคคูรยอเดิม รวมตัวกันเป็น โฮจก และสนับสนุนให้อัครเสนาบดีวังกอน ขึ้นเป็นกษัตริย์นามว่า 'พระเจ้าแทโจ' และตั้งชื่อแผ่นดินนี้ว่า 'โครยอ'
พระเจ้าคุงเยแห่งฮูโคคูรยอ กับ อัครเสนาบดีวังกอน (จากซีรีส์ Emperor Wang Geon)
ดังนั้น ประชาชนชั้นรากหญ้า ต่างก็อยากมีชีวิตที่ดีขึ้น ทุกคนก็อยากเป็นประชาชนของแคว้นโครยอหรือฮูแพคเจเสียมากกว่า ทำให้ชิลลาอ่อนอำนาจลงอย่างมาก และพระเจ้าคยอนวอนแห่งฮูแพกเจได้บุกเผาเมืองหลวงชิลลาสำเร็จ ทำให้พระเจ้าคยองซุนแห่งชิลลาต้องลี้ภัยไปพึ่งใบบุญโครยอ ส่วนหนึ่งที่พระเจ้าคยองซุนยอมปิดฉากชิลลาและรวมเป็นหนึ่งเดียวกับโครยอ ก็เป็นเพราะพระเจ้าแทโจแห่งโครยอ ทรงปกครองประชาชนโดยไม่แบ่งแยกว่าใครมาจากแคว้นที่ล่มสลายไปแล้ว แถมยังคืนฐานะเดิมแก่พวกเขาเหล่านั้นด้วย ตามคำถวายพระพรที่แฮซูกล่าวใน Moon Lovers เป๊ะเลยค่ะ [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
อวสานชิลลารวม แอนด์โกทูโครยอเจนเนอเรชั่น นะเพคะ
เครดิต
รอบนี้แปลเองทั้งหมดค่ะ ศึกษาจากการดูละคร และอ่านบทความ + ยืมภาพประกอบเหล่านี้
กรุณานำออกไปพร้อมเครดิตการแปลและเรียบเรียงด้วยนะคะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้