“กรมพระนครปฐมบรมขัตติยานี มหาธีรราชธิดา” ครั้งแรกในรอบ ๓๐ ปี ธรรมเนียม “การทรงกรม” โดยนำชื่อเมืองมาต่อท้ายพระนาม





[ ธรรมเนียม “การทรงกรม” โดยนำชื่อเมืองมาต่อท้ายพระนาม ]
.
“อิสริยยศ” คือพระยศที่ได้รับพระราชทานจากพระเจ้าอยู่หัว แบ่งออกเป็น ๒ รูปแบบ คือ “การเลื่อนพระยศ” เช่น เลื่อนพระยศจากชั้นพระองค์เจ้าเป็นเจ้าฟ้า และ “การทรงกรม” ซึ่งการทรงกรมนี้ปรากฏมาตั้งแต่สมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราชแห่งกรุงศรีอยุธยา การทรงกรมเป็นพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าฯ แก่เชื้อพระวงศ์เพื่อเป็นพระเกียรติยศเนื่องจากได้ช่วยเหลืองานราชการแผ่นดิน
.
“การทรงกรม” ของเจ้านายปรากฏครั้งแรกในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช แห่งกรุงศรีอยุธยา คือ การตั้งกรมขึ้นใหม่ต่างพระเนตรพระกรรณตามพระนามทรงกรมของเจ้านายพระองค์นั้น มีขุนนางเป็นเจ้ากรมตามอิสริยยศนั้น เช่น พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าฉัตร กรมหมื่นสุรินทรรักษ์ เจ้ากรมของท่านคือ หมื่นสุรินทรรักษ์ เป็นต้น มีปลัดกรม สมุห์บัญชี และไพร่พลในสังกัดกรม การทรงกรมเป็นพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าฯ แก่เชื้อพระวงศ์เพื่อเป็นพระเกียรติยศเนื่องจากได้ช่วยเหลืองานราชการแผ่นดิน
.




ซ้าย สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสุทธาทิพยรัตน์ สุขุมขัตติยกัลยาวดี กรมหลวงศรีรัตนโกสินทร (พระราชธิดาในรัชกาลที่ ๕)
ขวา สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา (พระราชธิดาในรัชกาลที่ ๑๐)


สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ องค์ต้นราชสกุล “ดิศกุล” (พระราชโอรสในรัชกาลที่ ๔)


สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ องค์ต้นราชสกุล “จิตรพงศ์” (พระราชโอรสในรัชกาลที่ ๔)


สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าบริพัตรสุขุมพันธุ์ กรมพระนครสวรรค์วรพินิต องค์ต้นราชสกุล “บริพัตร” (พระราชโอรสในรัชกาลที่ ๕)


(จากซ้ายไปขวา) - (พระราชโอรสในรัชกาลที่ ๕)
พระบิดาแห่งกองทัพบกไทย - จอมพล พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจิรประวัติวรเดช กรมหลวงนครไชยศรีสุรเดช
พระบิดาแห่งกองทัพเรือไทย - พลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์
พระบิดาแห่งกองทัพอากาศไทย - จอมพล สมเด็จพระอนุชาธิราช เจ้าฟ้าจักรพงษ์ภูวนาถ กรมหลวงพิษณุโลกประชานาถ



.
“การทรงกรม” แบ่งเป็น ๕ ชั้น ดังนี้
.
๑. “กรมพระยา” (อ่านว่า กฺรม-พระ-ยา) หรือ “กรมสมเด็จพระ” (อ่านว่า กฺรม-สม-เด็ด-พระ) สำหรับพระราชทานพระบรมวงศานุวงศ์ชั้นสูง

๒. “กรมพระ” (อ่านว่า กฺรม-มะ-พระ) สำหรับพระราชทานวังหน้า วังหลัง สมเด็จพระเจ้าพี่ยา/น้องยา/พี่นาง/น้องนางเธอ

๓. “กรมหลวง” (อ่านว่า กฺรม-มะ-หลวง) สำหรับพระราชทานเจ้าฟ้าชั้นใหญ่

๔. “กรมขุน” (อ่านว่า กฺรม-มะ-ขุน) สำหรับพระราชทานเจ้าฟ้าชั้นเล็ก

๕. “กรมหมื่น” (อ่านว่า กฺรม-มะ-หมื่น) สำหรับพระราชทานพระองค์เจ้า
.
ภายหลังจากที่ล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ ๕ ทรงเลิกทาส ทำให้การทรงกรมของเจ้านายเป็นเพียงการเฉลิมพระเกียรติยศเจ้านายพระองค์นั้นให้สูงขึ้น ไม่มีการตั้งกรมขึ้นใหม่แต่อย่างใด
.
และพระองค์มีพระราชนิยมจากการเฉลิมพระยศในต่างประเทศ โดยการนำชื่อเมืองมาต่อท้ายพระนาม เช่น Prince of Wales ของสหราชอาณาจักร จึงมีพระบรมราชวินิจฉัยนำชื่อเมืองในสยามมาทรงกรมให้เจ้านาย เช่น กรมพระนครสวรรค์วรพินิต กรมหลวงราชบุรีดิเรกฤทธิ์ กรมพระกำแพงเพชรอัครโยธิน กรมหลวงนครไชยศรีสุรเดช กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ และกรมหลวงพิษณุโลกประชานาถ เป็นต้น
.



พระราชพิธีสถาปนาพระอิสริยศักดิ์ และทรงบำเพ็ญพระราชกุศลฉลองพระชนมายุ ๖ รอบ “สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์” (๖ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๓๘)

.
“การทรงกรม” โดยใช้ธรรมเนียมนำชื่อเมืองมาต่อท้ายพระนาม แบบนี้เรื่อยมาจนถึงจนถึงสมัยรัชกาลที่ ๙ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ สถาปนาพระอิสริยศักดิ์สมเด็จพระโสทรเชษฐภคินี เป็น “สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์” เมื่อวันที่ ๖ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๓๘ ในการพระราชพิธีสถาปนาพระอิสริยศักดิ์ และทรงบำเพ็ญพระราชกุศลฉลองพระชนมายุ ๖ รอบ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา ณ พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย พระบรมมหาราชวัง
.
พระนามกรม “กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์” นั้น เป็นพระนามตามนามเมืองในภาคใต้ สืบเนื่องมาจากการที่พระราชโอรสและพระราชธิดาที่พระราชสมภพแต่สมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า ล้วนได้รับพระกรุณาโปรดเกล้าฯ สถาปนาพระอิสริยศักดิ์ทรงกรมตามนามเมืองทางภาคใต้ทั้งสิ้น อาทิ สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมขุนศรีธรรมราชธำรงฤทธิ์ สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมหลวงเพชรบุรีราชสิรินธร สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมหลวงสงขลานครินทร์

ทั้งนี้ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ยังทรงกล่าวเกี่ยวกับการทรงกรมนี้ไว้ตอนหนึ่งความว่า "ชอบมาก เป็นกรมหลวงกำลังเหมาะดี ไม่สูงไปกว่าพ่อ แล้วนราธิวาสก็เหมาะดี เป็นจังหวัดที่ไม่อยู่สูงไปกว่าจังหวัดสงขลา แล้วนครินทร์ก็เหมาะอีก เพราะเป็นชื่อที่พ่อและแม่มีอยู่ในชื่อของฉัน"
.
พอมาถึงแผ่นดินในรัชกาลปัจจุบัน พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ในปี พ.ศ. ๒๕๖๒ การสถาปนา “การทรงกรม” แก่พระบรมวงศ์ หวนคืนไปใช้พระราชธรรมเนียมแบบเดิม คือ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ ให้ใช้การเฉลิมพระยศ “การทรงกรม” แบบเดิมแทนที่นำชื่อเมืองมาต่อท้ายพระนาม แบบรัชกาลที่ ๕
.
เจ้านายที่ได้รับการสถาปนาพระยศ “การทรงกรม” ในรัชกาลปัจจุบัน เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๖๒ มีดังนี้
.
๑. สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี “กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี”
๒. สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี “กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา”
๓. พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี “กรมหมื่นสุทธนารีนาถ”
.
รวมทั้งการกลับมาใช้ “กรมสมเด็จพระ” ซึ่งเป็นชั้นสูงสุดเหนือพระบรมวงศ์ทั้งปวง ที่มีการเริ่มใช้ครั้งแรกในช่วงรัชกาลที่ ๓ จนกระทั่งเลิกใช้ไปในช่วงรัชกาลที่ ๖ ซึ่งสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ได้รับการสถาปนาพระราชอิสริยยศและเฉลิมพระนามาภิไธยเป็น “สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี” นับเป็นเจ้านายพระองค์แรกที่ได้รับพระราชทานพระเกียรติยศที่ “สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า” โดยยังทรงดำรงพระราชอิสริยยศ “กรมสมเด็จพระ” และ “สยามบรมราชกุมารี” ตามที่ได้รับพระราชทานจากสมเด็จพระบรมชนกนาถ
.


พระราชพิธีสถาปนาพระอิสริยยศและพระอิสริยศักดิ์ เฉลิมพระนามตามที่จารึกในพระสุพรรณบัฏว่า “สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา เจ้าฟ้ามหาจักรีสิรินธร รัฐสีมาคุณากรปิยชาติ สยามบรมราชกุมารี” (๕ ธันวาคม ๒๕๒๐)


เฉลิมพระนามาภิไธย สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา เจ้าฟ้ามหาจักรีสิรินธร รัฐสีมาคุณากรปิยชาติ สยามบรมราชกุมารี ตามที่จารึกในพระสุพรรณบัฏว่า “สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา เจ้าฟ้ามหาจักรีสิรินธร มหาวชิราลงกรณวรราชภักดี สิริกิจการิณีพีรยพัฒน รัฐสีมาคุณากรปิยชาติ สยามบรมราชกุมารี” (๕ พฤษภาคม ๒๕๖๒)


สถาปนา สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี เป็นเจ้าฟ้าต่างกรมฝ่ายใน มีพระนามตามที่จารึกในพระสุพรรณบัฏว่า “สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี” (๕ พฤษภาคม ๒๕๖๒)


สถาปนา พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ เป็นพระองค์เจ้าต่างกรมฝ่ายใน มีพระนามตามที่จารึกในพระสุพรรณบัฏว่า “พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี กรมหมื่นสุทธนารีนาถ” (๕ พฤษภาคม ๒๕๖๒)


สถาปนา สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี เป็นเจ้าฟ้าต่างกรมฝ่ายใน มีพระนามตามที่จารึกในพระสุพรรณบัฏว่า “สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา” (๒๘ กรกฎาคม ๒๕๖๒)

.
บัดนี้ธรรมเนียม “การทรงกรม” โดยนำชื่อเมืองมาต่อท้ายพระนามกลับมาอีกครั้ง โดยพระองค์ล่าสุดที่ทรงกรมเป็นชื่อเมือง ได้แก่ เมือง “นครปฐม” คือ “สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี กรมพระนครปฐมบรมขัตติยานี มหาธีรราชธิดา” พระราชธิดาพระองค์เดียว ในรัชกาลที่ ๖ เฉลิมพระนามาภิไธยพระอัฐิ เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันประสูติครบ ๑๐๐ ปี
.
“ฝ่ายหน้า” หมายถึง เจ้านายพระองค์นั้นเป็นผู้ชาย

“ฝ่ายใน” หมายถึง เจ้านายพระองค์นั้นเป็นผู้หญิง
.
#โบราณนานมา #เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา #กรมพระนครปฐมบรมขัตติยานี 
.
ขอบคุณที่มา เพจ โบราณนานมา https://web.facebook.com/share/p/1BSiRivppw/
.




วันนี้ (๔ พฤศจิกายน ๒๕๖๘) เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันประสูติครบ ๑๐๐ ปี สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี ในวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๔๖๘ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ เฉลิมพระนามาภิไธยและสถาปนาพระอิสริยศักดิ์พระอัฐิ สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี เป็น “สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี กรมพระนครปฐมบรมขัตติยานี มหาธีรราชธิดา”
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่