เราเรียนอยู่ ม.6 เทอม 2 อยู่ในช่วงวุ่นวาย ของการหามหาลัย ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ช่วงนี่เป็นเหมือนช่วงที่โดนทำร้ายจาก คนรอบข้าง แต่สำหรับเราที่พ่อแม่พูดออกมาไม่รู้เรียกว่าทำร้ายรึป่าว ช่วงนี่เป็นช่วงที่ใช้เงินเยอะเลยทีเดียวเพราะต้องเดินทางไปสอบต่างๆ แต่เราต้องมาเจอกับคำพูดบางคำของแม่ ทำให้น้ำตาไหลออกมาแบบไม่ต้องสั่งเลย เราอยากระบาย กับใครก็ได้แต่ดูเหมือนว่าทุกคน กำลังคิดว่ามันเป็นเรื่องปกติ แต่สำหรับฉันมันหนักมากๆ เวลานี่เด็กแค่ต้องการคำพูดหวานๆ กำลังใจ ฉันจะไม่โกธรแม่แม้แต่น้อย แค่อยากมาระบายหรือ อยากถามว่าใครเคยเจอแบบเราบ้าง รับมือกับความท้อนี่ยังไง *เรื่องก็มีอยู่ว่า ฉันโทรหาแม่เพื่อนจะเตือนว่า อีก 2 วันต้องใช้เงินไปสอบล้ะน้ะ แม่ก็ไม่พูดอะไรมาก พูดแค่ มีแต่คนบอกว่า มหาลัย....... น่าเรียนน้ะ แต่ดันเป็นมหาลัยที่ฉันไม่อยากไปเพราะมันอันตราย เราก็บอกแม่ว่า เค้าบอกกัน แต่หนูเป็นคนเรียนน้ะแม่ ตอนนั้นมันก็รู้สึกอึนๆ พอคุยเรื่องเงินจบก็วางสายกันไป *เรากับแม่อยู่คนล่ะที่กัน ผ่านมา 2 นาที แม่ก็โทรมาถาม ว่า ต้องใช้เงินค่าอะไรบ้าง เราก็บอกไม่ถูกเพราะมันไม่แน่นอน ---------แล้วอยู่ดีๆแม่ก็พูดขึ้นมาว่า ..เวลาโทรมาหาอะ โทรมาให้ประจำ โทรมาทุกวัน ไม่ใข่พอจะเอาเงินค่อยโทรมา.... พอแม่พูดอยู่ดีๆ น้ำตามันก็ไหลแบบไม่ต้องสั่งเลยค่ะ ตอนแม่พูดเสียงน้องชายที่อยู่ข้างๆก็แทรกมาว่า ตัวก็โตแล้ว คิดอะไรไม่ได้สักอย่าง ได้ยินแบบนี่ทุกคนจะรู้สึกยังไงกันบ้างค่ะ ปกติเราจะโทรหาแม่ทุกวันแต่ก็รับบ้างไม่รับบ้าง พ่อก็เหมือนกัน แต่วันนี่ไม่รู้ทำไมถึงพูดแบบนี่ออกมา เราทั้งท้อ ทั้งเหนื่อย เราพยายามทำทุกอย่างทุกทางเพื่อให้พ่อแม่ได้ ดีใจกับความสำเร็จเราก็รู้ว่าพ่อแม่ทำงานหนักกว่าเราหลายเท่า แต่เราก็ต้องแบบไว้หลายอย่างเหมือนกัน เราขอเหนื่อยบ้างจะได้ไหม แต่นี่แค่เริ่มต้น ทำไมถึงรู้สึกเหนื่อยได้มากขนาดนี่ กับคำพูดแค่ไม่กี่คำของคนที่เรารัก อยู่ห่างพ่อแม่ก็อยากเจอ อยากกอดใช้ชีวิตเองมันก็เหนื่อยมากแล้ว บางทีก็ต้องการกำลังใจบ้าง ยอมรับเลยค่ะว่าน้อยใจมาก แต่ได้แค่เก็บแล้วนั่งร้องต่อไป เหนื่อยและท้อมากจริงๆค่ะ เราต้องรับมือกับความรู้สึกแบบนี่ยังไง ใครเคยเจอแบบนี่บ้างค่ะ
ใครรู้สึกท้อกับความหวังที่พ่อแม่ฝากไว้บ้าง เป็นเด็กท้อได้ไหม ?