ยากเหลือเกินที่จะนิยามคุณงามความดีของในหลวงรัชกาลที่ ๙ ได้เพราะมันยิ่งใหญ่เหลือเกิน และรู้สึกดีใจเหลือเกินที่ได้เกิดมาในยุครัชสมัยนี้ แม้ว่าล่าสุดจะมีการผลัดแผ่นดินเกิดขึ้น แต่คุณงามความดีของพระองค์ท่านจะยังคงสถิตย์อยู่ในใจ
ในฐานะพสกนิกรไทยคนนึงที่จงรักภักดี จึงอยากจะนำเรื่องราวดีๆของพ่อหลวงมาเล่าสานต่อ เพื่อ เป็นการถวายความอาลัยและน้อมนำแนวพระราชดำริไปปฏิบัติ เพื่อชี้นำให้สังคมไทยดีขึ้นกับกระทู้ “พระราชกรณียกิจของพ่อหลวงที่คุณอาจไม่เคยรู้”

(ขอขอบคุณรูปจากเว็บไซต์ Chaopaya )
๑.พระราชทานทรัพย์ส่วนพระองค์สร้างโรงพยาบาลปอดเหล็ก
ในช่วงปี ๒๔๙๓ เป็นช่วงที่วัณโรคนั้นระบาดอย่างหนัก ในหลวงรัชกาลที่ ๙ จึงได้พระราชทานทรัพย์ส่วนพระองค์เพื่อ สร้างโรงพยาบาล “ปอดเหล็ก” และจัดซื้อเวชภัณฑ์เพื่อสู้กับวัณโรคที่กำลังระบาดหนัก พร้อมกับสนับสนุนให้สภากาชาดไทยผลิตวัคซีน BCG ป้องกันวัณโรค จนกระทั่งประเทศไทยสามารถเอาชนะวัณโรคที่กำลังระบาดอยู่ออกไปได้

(ขอขอบคุณรูปจากเว็บไซต์ Chaopaya )
๒.ทรงเป่าแซ็กโซโฟนตามคำขอ (ทางวิทยุ) หาทุนปราบอหิวาตกโรค
นอกจากพระองค์จะบริจาคทรัพย์สินส่วนพระองค์แล้ว ทรงยังเป่าแซ็กโซนโฟนเพื่อระดมทุนปราบอหิวาตกโรคอีกด้วย เพื่อเป็นทุนปราบโรคอหิวาตกโรคและเรื้อนที่กำลังระบาดอยู่ในขณะนั้น ด้วยการให้ประชาชนโทรมาขอเพลงกับวิทยุ อ.ส. จนในที่สุดก็หยุดการระบาดของโรคได้ภายในเวลา 1 ปี 5 เดือน เรียกได้ว่าพระองค์คือแรงขับเคลื่อนสำคัญที่ทำให้สังคมเรารอดพ้นจากโรคร้ายที่ระบาดในขณะนั้น

(ขอขอบคุณรูปจากเว็บไซต์ Chaopaya )
๓. เลี้ยงปลาบำบัดน้ำเสีย
“ปัญหาใหญ่แต่สามารถแก้ได้ด้วยวิธีเล็กๆ” ไม่จำเป็นต้องพึ่งเทคโนโลยีใหญ่โตอะไร เพียงแค่ใช้การสังเกตและเข้าใจธรรมชาติก็สามารถแก้ไขปัญหานน้ำเสียได้ด้วยการเลี้ยง ปลากระดี่และปลาสลิดที่มักชอบกินสารอินทรีย์ ในที่สุดก้ช่วยลดมลภาวะทางน้ำได้ นอกจากจะต้นทุนต่ำ แถมยังเพิ่มผลผลิตทางสัตว์น้ำได้อีกทาง
ด้วย เรียกได้ว่าพระองค์ทรงเล็งเห็นปัญหาที่ใหญ่แต่สามารถแก้ไขด้วยวิธีง่ายๆเล็กๆ

(ขอขอบคุณรูปจากเว็บไซต์ Chaopaya )
๔.โครงการชั่งหัวมัน
อีกหนึ่งในโครงการดีๆที่คนไทยหลายคนไม่ค่อยรู้ กับโครงการชั่งหัวมันที่เปลี่ยนพื้นที่แห้งแล้งของเกษตรกรผู้ผิดหวังจากการปลูกต้นยูคาลิปตัส ในจังหวัดเพชรบุรี จากพื้นดินที่แย่แตกระแหงไม่สามารถเพาะปลูกอื่นๆได้ แต่ในที่สุดพระองค์ก็เล็งเห็นทางออกปัญหาด้วยการปลูกมันเทศแทน งานนี้สร้างรายได้ให้กับเกษตรกรชาวไทย พลิกชีวิตจากความผิดหวังได้เต็มๆ

(ขอขอบคุณรูปจากเว็บไซต์ Chaopaya )
๕.ทรงดำเนินการจัดทำสารานุกรมไทยสำหรับเยาวชน
นอกจากนี้พระองค์ยังทรงเคยดำเนินการจัดทำสารานุกรมไทย เพื่อรวบรวมองค์ความรู้ต่างๆเพื่อพัฒนาเยาวชนไทยไป พร้อมกับก่อตั้งกองทุนนวฤกษ์ เพื่อช่วยนักเรียนที่ขาดแคลน และยังพระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ เป็นทุนริเริ่มในการก่อสร้างโรงเรียนตามวัดในชนบท สำหรับที่จะสงเคราะห์เด็กยากจนและกำพร้า ให้ได้มีสถานที่สำหรับศึกษาเล่าเรียนอีกด้วย จะเห็นได้ว่าพระองค์ทรงส่งเสริมรากฐานให้กับสังคมไทยในทุกๆด้าน ตั้งแต่การศึกษา ปากท้อง และสุขภาพ
ทั้งหมดคือพระราชกรณียกิจที่เราพสกนิกรชาวไทยมักจะไม่ค่อยทราบ (หรือบางท่านอาจจะทราบดีต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ ) โดยผมหวังว่ากระทู้นี้จะสามารถชี้นำสิ่งดีๆให้คนรุ่นใหม่ได้ตั้งมั่นปณิธานเป็นคนดี กันนะครับ
และก่อนจากกันอยากชวนทุกท่านมาตั้งมั่นจิตใจให้คิดแต่เรื่องดีๆด้วยการเข้าไปลงชื่อที่
www.ทำดีตามพ่อ.com เพื่อการตั้งมั่นปณิธานความดี ให้สังคมไทยสร้างเรื่องราวดีๆ เหมือนที่พ่อหลวงของเราพยายามทำให้สังคมไทยเสมอมา หวังว่ากระทู้นี้ จะเป็นประโยชน์ในการสร้างแรงบันดาลใจในการคิดดี ไม่มากก็น้อยครับ ขอบคุณครับ
ความดีที่ยิ่งใหญ่เกินจะนิยามกับ ...กับพระราชกรณียกิจของพ่อหลวง “ที่คุณอาจไม่เคยรู้”
ในฐานะพสกนิกรไทยคนนึงที่จงรักภักดี จึงอยากจะนำเรื่องราวดีๆของพ่อหลวงมาเล่าสานต่อ เพื่อ เป็นการถวายความอาลัยและน้อมนำแนวพระราชดำริไปปฏิบัติ เพื่อชี้นำให้สังคมไทยดีขึ้นกับกระทู้ “พระราชกรณียกิจของพ่อหลวงที่คุณอาจไม่เคยรู้”
(ขอขอบคุณรูปจากเว็บไซต์ Chaopaya )
๑.พระราชทานทรัพย์ส่วนพระองค์สร้างโรงพยาบาลปอดเหล็ก
ในช่วงปี ๒๔๙๓ เป็นช่วงที่วัณโรคนั้นระบาดอย่างหนัก ในหลวงรัชกาลที่ ๙ จึงได้พระราชทานทรัพย์ส่วนพระองค์เพื่อ สร้างโรงพยาบาล “ปอดเหล็ก” และจัดซื้อเวชภัณฑ์เพื่อสู้กับวัณโรคที่กำลังระบาดหนัก พร้อมกับสนับสนุนให้สภากาชาดไทยผลิตวัคซีน BCG ป้องกันวัณโรค จนกระทั่งประเทศไทยสามารถเอาชนะวัณโรคที่กำลังระบาดอยู่ออกไปได้
(ขอขอบคุณรูปจากเว็บไซต์ Chaopaya )
๒.ทรงเป่าแซ็กโซโฟนตามคำขอ (ทางวิทยุ) หาทุนปราบอหิวาตกโรค
นอกจากพระองค์จะบริจาคทรัพย์สินส่วนพระองค์แล้ว ทรงยังเป่าแซ็กโซนโฟนเพื่อระดมทุนปราบอหิวาตกโรคอีกด้วย เพื่อเป็นทุนปราบโรคอหิวาตกโรคและเรื้อนที่กำลังระบาดอยู่ในขณะนั้น ด้วยการให้ประชาชนโทรมาขอเพลงกับวิทยุ อ.ส. จนในที่สุดก็หยุดการระบาดของโรคได้ภายในเวลา 1 ปี 5 เดือน เรียกได้ว่าพระองค์คือแรงขับเคลื่อนสำคัญที่ทำให้สังคมเรารอดพ้นจากโรคร้ายที่ระบาดในขณะนั้น
(ขอขอบคุณรูปจากเว็บไซต์ Chaopaya )
๓. เลี้ยงปลาบำบัดน้ำเสีย
“ปัญหาใหญ่แต่สามารถแก้ได้ด้วยวิธีเล็กๆ” ไม่จำเป็นต้องพึ่งเทคโนโลยีใหญ่โตอะไร เพียงแค่ใช้การสังเกตและเข้าใจธรรมชาติก็สามารถแก้ไขปัญหานน้ำเสียได้ด้วยการเลี้ยง ปลากระดี่และปลาสลิดที่มักชอบกินสารอินทรีย์ ในที่สุดก้ช่วยลดมลภาวะทางน้ำได้ นอกจากจะต้นทุนต่ำ แถมยังเพิ่มผลผลิตทางสัตว์น้ำได้อีกทาง
ด้วย เรียกได้ว่าพระองค์ทรงเล็งเห็นปัญหาที่ใหญ่แต่สามารถแก้ไขด้วยวิธีง่ายๆเล็กๆ
(ขอขอบคุณรูปจากเว็บไซต์ Chaopaya )
๔.โครงการชั่งหัวมัน
อีกหนึ่งในโครงการดีๆที่คนไทยหลายคนไม่ค่อยรู้ กับโครงการชั่งหัวมันที่เปลี่ยนพื้นที่แห้งแล้งของเกษตรกรผู้ผิดหวังจากการปลูกต้นยูคาลิปตัส ในจังหวัดเพชรบุรี จากพื้นดินที่แย่แตกระแหงไม่สามารถเพาะปลูกอื่นๆได้ แต่ในที่สุดพระองค์ก็เล็งเห็นทางออกปัญหาด้วยการปลูกมันเทศแทน งานนี้สร้างรายได้ให้กับเกษตรกรชาวไทย พลิกชีวิตจากความผิดหวังได้เต็มๆ
(ขอขอบคุณรูปจากเว็บไซต์ Chaopaya )
๕.ทรงดำเนินการจัดทำสารานุกรมไทยสำหรับเยาวชน
นอกจากนี้พระองค์ยังทรงเคยดำเนินการจัดทำสารานุกรมไทย เพื่อรวบรวมองค์ความรู้ต่างๆเพื่อพัฒนาเยาวชนไทยไป พร้อมกับก่อตั้งกองทุนนวฤกษ์ เพื่อช่วยนักเรียนที่ขาดแคลน และยังพระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ เป็นทุนริเริ่มในการก่อสร้างโรงเรียนตามวัดในชนบท สำหรับที่จะสงเคราะห์เด็กยากจนและกำพร้า ให้ได้มีสถานที่สำหรับศึกษาเล่าเรียนอีกด้วย จะเห็นได้ว่าพระองค์ทรงส่งเสริมรากฐานให้กับสังคมไทยในทุกๆด้าน ตั้งแต่การศึกษา ปากท้อง และสุขภาพ
ทั้งหมดคือพระราชกรณียกิจที่เราพสกนิกรชาวไทยมักจะไม่ค่อยทราบ (หรือบางท่านอาจจะทราบดีต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ ) โดยผมหวังว่ากระทู้นี้จะสามารถชี้นำสิ่งดีๆให้คนรุ่นใหม่ได้ตั้งมั่นปณิธานเป็นคนดี กันนะครับ
และก่อนจากกันอยากชวนทุกท่านมาตั้งมั่นจิตใจให้คิดแต่เรื่องดีๆด้วยการเข้าไปลงชื่อที่ www.ทำดีตามพ่อ.com เพื่อการตั้งมั่นปณิธานความดี ให้สังคมไทยสร้างเรื่องราวดีๆ เหมือนที่พ่อหลวงของเราพยายามทำให้สังคมไทยเสมอมา หวังว่ากระทู้นี้ จะเป็นประโยชน์ในการสร้างแรงบันดาลใจในการคิดดี ไม่มากก็น้อยครับ ขอบคุณครับ