สวัสดีครับท่านผู้อ่านทุกท่าน ผมเป็นผู้ขายคนหนึ่งซึ่งถือว่าผมเป็นคนบาปมากผมทำให้ครอบครัวญาติพี่น้องผมต้องได้รับความอับอายผมเป็นคนที่ชอบ
#ลักขโมย ซึ่งเป็นนิสัยที่ผมแก้ไม่หายผมเป็นคนชอบลักขโมยพวกเงินสิ่งของมาตั้งแต่เล็ก ตอนเด็กๆผมได้ขโมยเงินของตา ไป 500 เพื่อจะเอาไปเล่นเกม
แต่ก็โดนแม่จับได้เท่าที่จำได้นี่คือครั้งแรกของผมและผมก็ลักขโมยเงินเพื่อนที่จะเอาไปเล่นเกมเรื่อยมา แต่พอผมขึ้น ป.1-ป.3 ผมได้เลิกพฤติกรรมแบบนี้ไป จนกระทั่งมาทำอีกตอน ป.4 โดยครั้งนี้ผมได้มาอยู่กับตายาย ท่านทำงานหามรุ่งเพื่อส่งงผมเรียน แต่ผมก็เป็นหลานที่อกกตัญญูต่อพวกท่านโดยการที่ไปขโมยเงินที่พวกท่านได้มา เอาไปใช้จ่ายโดยไม่มีเหตุผล และก้ทำแบบนั้นเรื่อยมา ผมโดนจับได้ หลายครั้ง ท่านก็สอนผมหลายครั้งแต่ผมมันเป็นคนบาป ที่มันเลิกไม่ได้หรือที่เขาเรียกว่า สันดาน ต่อมาตอนผมอยู่ ม.2 ผมได้ขโมยของ ร้านค้าสะดวกซื้อต่างๆ ขอไมเ่อ่ยชื่อนะครับ ผมเคยดดนจับได้ครั้งหนึ่ง แต่ตอนนั้น ผมยังเด็กอยู่เขาก็เลยเอาแค่ของคืนไป ตอนนั้นผมก็ยังไม่เข็ดผมยังกระทำต่อไปเรื่อยไปจนถึงตอนขึ้นมหาลัยผมได้ดูเรื่อง พระพุทธเจ้ามหาศาสดาโลก ผมจึงได้เกิดความคิดว่าสิ่งที่ผมทำลงไปนั้นมันบาปหนามาก ผมก็เลยตัดสินใจเลิกที่จะขโมยของทุกๆอย่างและสาบานต่อสิ่งศักดิ์ว่าจะไม่กระทำสิ่งเหล่านี้อีก และหลังจากนั้นผมก็สวดมนก่อนนอน ทำบุญกรวดน้ำ ทุกคืน และปฏิบัติในสิ่งที่ดีเรื่อยมาจนผมเลิกคิดที่จะกลับไปเป็นคนขี้ขโมยอีก แต่ผมมันเป็นคนบาปจริงๆผมก็ยังกลับไปลักขโมยของอีกตามเคย ตอนนี้ผมรู้แล้วว่าตอนที่ผมทำแต่ความดีนั้น มีแต่สิ่งดีดีเรื่องดีดี เข้ามาในชีวิตมากมาย จนผมกลับมาลักขโมยชีวิตผมตกต่ำลงมากและล่าสุดผมโดนทางร้านจับได้อีกครั้ง แต่ครั้งนี้ไม่เหมือนที่ผ่านๆมา คือ ผมอายุ 20 แล้วเขาจะนำตัวผมส่งตำรวจเท่านั้นละครับผมกราบไหว้ขอวอนเจ้าของร้านว่าอย่านำผมส่งตำรวจเลยครับ เขาก็เลยบอกให้ผมโทรหาผู้ปกครอง ไม่งั้นก้จะโดนดำเนินคดี เจ้าของร้านคุยกับแม่และอาผมจนผมเองตอนนั้นทำอะไรไม่ถูกหน้าซีดพูดจาตะกุกกะกัก แม่ผมโทมาหาผมถามว่าผม ทำทำไมแต่ตอนนั้นผมเหมือนพูดอะไรไม่ออก มันมัวหมองมากครับ จนผมได้ร้องไห้ออกมาในที่สุด ผมได้นึกถึงการกระทำที่เป็นบาปอีกครั้งแต่ครั้งนี้มันหนักกว่าครั้งที่ผ่านๆมา โดยผมได้เอาของไปคืนร้านส่วนทางร้านก็ให้ผมจ่ายค่าชดใช้ที่ทำไป คูณ 3 ซึ่งก็ตกราวๆ 8000 บาท พอผมกลับมาถึงห้องผมก็ทำอะไรไม่ถูก ได้ก็แต่ เอาสร้อยพระหมู่บูชามาวางไว้บนเก้าอี้และผมน้อมตัวกราบพ้อมทั้งบอกความรู้สึกที่ผมขโมยเงินไปในทุกๆครั้งที่ผ่านมา ผมอยากเป็นคนดีแต่ก็เหมือนมีความโลภเข้ามาลุมเล้าผม ตอนขโมยผมไม่เคยคิดเลยว่ามันจะส่งผลอะไรตามมาบ้าง แต่ตตอนนี้ผมพร้อมที่จะสารภาพผิดกับครอบครัวยอมรับในสิ่งที่ตัวเองได้ทำ กรรมที่ผมได้ก่อมันส่งผลถึงผมแล้ว ผมรู้ว่ากฎแห่งกรรมมีจริงเชื่อในเรื่องของบาปบุญคุณโทษ แต่ครั้งนี้ผมไม่ไหวกับตัวเองจริงๆ จึงต้องมาระบายความรู้สึกต่อท่านผู่อ่านทั้งหลายว่าผมควรทำตัวอย่างไรดี ผมไม่กล้าบอกว่าต่อไปผมจะไม่ทำอีกหรือจะทำแต่ความดี เพราะตอนนี้ผมยังสำนึกในบาปของผมอยู่ ขอร้องล่ะครับผมอยากเป็นคนดีจริงๆ ไม่อยากทำเรื่องแบบนี้อีกแล้ว
บาปของผม
#ลักขโมย ซึ่งเป็นนิสัยที่ผมแก้ไม่หายผมเป็นคนชอบลักขโมยพวกเงินสิ่งของมาตั้งแต่เล็ก ตอนเด็กๆผมได้ขโมยเงินของตา ไป 500 เพื่อจะเอาไปเล่นเกม
แต่ก็โดนแม่จับได้เท่าที่จำได้นี่คือครั้งแรกของผมและผมก็ลักขโมยเงินเพื่อนที่จะเอาไปเล่นเกมเรื่อยมา แต่พอผมขึ้น ป.1-ป.3 ผมได้เลิกพฤติกรรมแบบนี้ไป จนกระทั่งมาทำอีกตอน ป.4 โดยครั้งนี้ผมได้มาอยู่กับตายาย ท่านทำงานหามรุ่งเพื่อส่งงผมเรียน แต่ผมก็เป็นหลานที่อกกตัญญูต่อพวกท่านโดยการที่ไปขโมยเงินที่พวกท่านได้มา เอาไปใช้จ่ายโดยไม่มีเหตุผล และก้ทำแบบนั้นเรื่อยมา ผมโดนจับได้ หลายครั้ง ท่านก็สอนผมหลายครั้งแต่ผมมันเป็นคนบาป ที่มันเลิกไม่ได้หรือที่เขาเรียกว่า สันดาน ต่อมาตอนผมอยู่ ม.2 ผมได้ขโมยของ ร้านค้าสะดวกซื้อต่างๆ ขอไมเ่อ่ยชื่อนะครับ ผมเคยดดนจับได้ครั้งหนึ่ง แต่ตอนนั้น ผมยังเด็กอยู่เขาก็เลยเอาแค่ของคืนไป ตอนนั้นผมก็ยังไม่เข็ดผมยังกระทำต่อไปเรื่อยไปจนถึงตอนขึ้นมหาลัยผมได้ดูเรื่อง พระพุทธเจ้ามหาศาสดาโลก ผมจึงได้เกิดความคิดว่าสิ่งที่ผมทำลงไปนั้นมันบาปหนามาก ผมก็เลยตัดสินใจเลิกที่จะขโมยของทุกๆอย่างและสาบานต่อสิ่งศักดิ์ว่าจะไม่กระทำสิ่งเหล่านี้อีก และหลังจากนั้นผมก็สวดมนก่อนนอน ทำบุญกรวดน้ำ ทุกคืน และปฏิบัติในสิ่งที่ดีเรื่อยมาจนผมเลิกคิดที่จะกลับไปเป็นคนขี้ขโมยอีก แต่ผมมันเป็นคนบาปจริงๆผมก็ยังกลับไปลักขโมยของอีกตามเคย ตอนนี้ผมรู้แล้วว่าตอนที่ผมทำแต่ความดีนั้น มีแต่สิ่งดีดีเรื่องดีดี เข้ามาในชีวิตมากมาย จนผมกลับมาลักขโมยชีวิตผมตกต่ำลงมากและล่าสุดผมโดนทางร้านจับได้อีกครั้ง แต่ครั้งนี้ไม่เหมือนที่ผ่านๆมา คือ ผมอายุ 20 แล้วเขาจะนำตัวผมส่งตำรวจเท่านั้นละครับผมกราบไหว้ขอวอนเจ้าของร้านว่าอย่านำผมส่งตำรวจเลยครับ เขาก็เลยบอกให้ผมโทรหาผู้ปกครอง ไม่งั้นก้จะโดนดำเนินคดี เจ้าของร้านคุยกับแม่และอาผมจนผมเองตอนนั้นทำอะไรไม่ถูกหน้าซีดพูดจาตะกุกกะกัก แม่ผมโทมาหาผมถามว่าผม ทำทำไมแต่ตอนนั้นผมเหมือนพูดอะไรไม่ออก มันมัวหมองมากครับ จนผมได้ร้องไห้ออกมาในที่สุด ผมได้นึกถึงการกระทำที่เป็นบาปอีกครั้งแต่ครั้งนี้มันหนักกว่าครั้งที่ผ่านๆมา โดยผมได้เอาของไปคืนร้านส่วนทางร้านก็ให้ผมจ่ายค่าชดใช้ที่ทำไป คูณ 3 ซึ่งก็ตกราวๆ 8000 บาท พอผมกลับมาถึงห้องผมก็ทำอะไรไม่ถูก ได้ก็แต่ เอาสร้อยพระหมู่บูชามาวางไว้บนเก้าอี้และผมน้อมตัวกราบพ้อมทั้งบอกความรู้สึกที่ผมขโมยเงินไปในทุกๆครั้งที่ผ่านมา ผมอยากเป็นคนดีแต่ก็เหมือนมีความโลภเข้ามาลุมเล้าผม ตอนขโมยผมไม่เคยคิดเลยว่ามันจะส่งผลอะไรตามมาบ้าง แต่ตตอนนี้ผมพร้อมที่จะสารภาพผิดกับครอบครัวยอมรับในสิ่งที่ตัวเองได้ทำ กรรมที่ผมได้ก่อมันส่งผลถึงผมแล้ว ผมรู้ว่ากฎแห่งกรรมมีจริงเชื่อในเรื่องของบาปบุญคุณโทษ แต่ครั้งนี้ผมไม่ไหวกับตัวเองจริงๆ จึงต้องมาระบายความรู้สึกต่อท่านผู่อ่านทั้งหลายว่าผมควรทำตัวอย่างไรดี ผมไม่กล้าบอกว่าต่อไปผมจะไม่ทำอีกหรือจะทำแต่ความดี เพราะตอนนี้ผมยังสำนึกในบาปของผมอยู่ ขอร้องล่ะครับผมอยากเป็นคนดีจริงๆ ไม่อยากทำเรื่องแบบนี้อีกแล้ว