คนหนึ่งรู้จักบาป อีกคนหนึ่งไม่รู้จัก แต่กระทำ บาปด้วยกันทั้งสองคน ข้างไหนจะได้บาปมากกว่ากัน ?

ถามถึงการทำบาปแห่งผู้รู้กับผู้ไม่รู้

“ ข้าแต่พระนาคเสน สมมุติว่ามีคน ๒ คน  คนหนึ่งรู้จักบาป อีกคนหนึ่งไม่รู้จัก แต่กระทำ

บาปด้วยกันทั้งสองคน ข้างไหนจะได้บาปมากกว่ากัน ? ”

“ ขอถวายพระพร ข้างไม่รู้จักได้บาปมากกว่า ”

“ ข้าแต่พระนาคเสน   ราชบุตรของโยมหรือราชมหาอำมาตย์คนใดรู้ แต่ทำผิดลงไปโยม

ลงโทษแก่ผู้นั้นเป็นทวีคูณ ”

“ ขอถวายพระพร  มหาบพิตรจะเข้าพระทัยความข้อนี้อย่างไร...   คือสมมุติว่ามีคน ๒ คน

จับก้อนเหล็กแดงเหมือนกัน คนหนึ่งรู้ว่าเป็นก้อนเหล็กแดง อีกคนหนึ่งไม่รู้ คนไหนจะจับ

แรงกว่ากัน ? ”
“ ข้าแต่พระผู้เป็นเจ้า คนไม่รู้จับแรงกว่า ”

“ ข้อนี้ก็ฉันนั้นแหละ มหาบพิตร คือผู้ไม่รู้บาปได้บาปมากกว่า”

“ ชอบแล้ว พระนาคเสน ”


.....................................................................................................................................................................


สิ่งที่ทำแล้วเป็นบาป

            คือ อกุศลกรรมบถ ๑๐ ได้แก่

            ๑.        ฆ่าสัตว์            เช่น ฆ่าคน ยิงนกตกปลา รวมถึงทรมานสัตว์

            ๒.        ลักทรัพย์          เช่น ลักขโมย ปล้น ฉ้อโกง หลอกลวง คอร์รัปชั่น

            ๓.        ประพฤติผิดในกาม  เช่น เป็นชู้ ฉุดคร่า อนาจาร

            ๔.        พูดเท็จ             เช่น พูดโกหก พูดเสริมความ ทำหลักฐานเท็จ

            ๕.        พูดส่อเสียด     เช่น พุดยุยงให้เขาแตกกัน ใส่ร้ายป้ายสี

            ๖.        พูดคำหยาบ     เช่น ด่า ประชด แช่งชักหักกระดูก ว่ากระทบ

            ๗.        พูดเพ้อเจ้อ       เช่น พูดพล่าม พูดเหลวไหล พูดโอ้อวด

            ๘.        คิดโลภมาก     เช่น อยากได้ในทางทุจริต เพ่งเล็งทรัพย์คนอื่น

            ๙.        คิดพยาบาท     เช่น คิดอาฆาต คิดแก้แค้น คิดปองร้าย

            ๑๐.      มีความเห็นผิด   เช่น เห็นว่าบุญบาปไม่มี เห็นว่าพ่อแม่ไม่มีพระคุณ เห็นว่าตายแล้วสูญ  เห็นว่ากฎแห่งกรรมไม่มี

.....................................................................................................................................................................................


  พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท เล่ม ๑ ภาค ๒ ตอน ๓

                  บุคคลไม่ควรดูหมิ่นบาปว่า    บาปมีประมาณน้อยจักไม่มาถึง  

         แม้หม้อน้ำยังเต็มด้วยหยาดน้ำที่ตกลง  ( ทีละหยาดๆ )   ได้ฉันใด      

         ชนพาลเมื่อสั่งสมบาป แม้ทีละน้อยๆ ย่อมเต็มด้วยบาปได้ฉันนั้น.




.............................................................................................................................................
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่