สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 7
เพิ่มเติมจากความเห็น4นะครับ
ผมยกตัวอย่างแบบเข้าใจง่ายๆเลยนะครับ
เช่นเที่ยวบิน AA111 เวลาเครื่องออกตามเสก็ต (Schedule time departure) 1400pm
1. เที่ยวบินนี้ตาม procedure แจ้งใน precision time (Activity แต่ละอย่างตามเวลาของสายการบิน) ว่าก่อนเครื่องออก20นาทีถ้าผู้โดยสารท่านไหนยังไม่มาแสดงตัว ให้ทำการเช็คว่าผู้โดยสารท่านั้นมีสัมภาระเช็คอินหรือไม่ ถ้าไม่มีก็ไม่ต้องทำอะไรแต่ถ้ามีทางพนักงานที่เกทเช็คในระบบว่าเลขแท็กกระเป๋าที่เช็คอินคือเบอร์อะไร
2. พนักงานที่เกทแจ้งไปยังพนักงานควบคุมการโหลดด้านล่างให้หากระเป๋าเบอร์นี้เตรียมไว้ในการ offload
3. พนักงานควบคุมการโหลดด้านล่างเช็คในเอกสารเรียกว่า bingo sheet (เอกสารตัวนี้จะมีหางแท็กของกระเป๋าทุกใบที่เช็คอินไปแล้วอยู่ด้วย สังเกตุได้จากตอนเราเช็คอินหางแท็กจะมี3ส่วน คือส่วนที่ติดกระเป๋าเราไป, ส่วนที่พนักงานดึงมาติดที่ boarding passเรา, อีกส่วนที่ไปอยู่ที่ bingo sheet ตัวนี้แหละ) ว่ากระเป๋าใบนี้อยู่ในตู้ตำแหน่งใดในกรณีที่เป็นเครื่องที่ใช้ตู้โหลด หรือถ้าเป็นเครื่องที่ไม่ได้ใช้ตู้โหลดก็ขึ้นไปหาใน compartment (ห้องสินค้าของเครื่องบิน) วิธีการหาเช่น
กระเป๋าใบนี้เลขแท็กเป็น AA123456 พนักงานก็ไปหาเลขที่ติดกระเป๋าใบนี้ การดำเนินการหาใช้เวลาอย่างมากสุด15นาทีไม่เกิน
4. หากระเป๋าใบดังกล่าวเจอทำการแจ้งกลับไปยังพนักงานที่เกทเพื่อยืนยัน
5. ถึงเวลา5-10นาทีก่อนเครื่องออก พนักงานเกทยืนยัน offload ผู้โดยสารท่านนี้พร้อมกระเป๋า
6. พนักงาน load control (คนที่คำนวณน้ำหนักเครื่อง) เข้าไปทำการ LMC ให้นักบินโดยมีข้อมูลว่า offload อะไรไปบ้างน้ำหนักทั้งหมดเท่าไหร่ โดยไม่ต้องเปลี่ยน load sheet (เอกสารแสดงน้ำหนัก) ในกรณีที่อยู่ใน LMC limit (ซึ่งเครื่องเล็กๆอย่าง A320 ได้มากถึง500-750กิโลกรัม หมายถึง5-7ผู้โดยสารพร้อมกระเป๋า)
7. นักบินรับทราบ ปิดประตูเครื่อง ติดต่อหอบังคับการบินและทำการถอยเครื่องเพื่อเดินทาง
จบครับ มันมีแค่นี้จริงๆ พวกที่ชอบให้ความรู้ผิดๆแล้วจำมาตอบกันแบบผิดๆ ผมเห็นทีรัยหงุดหงิดทุกที บางคนบอกไปถึงต้องเปลี่ยนเอกสารประกอบแผนการบิน ซึ่งไม่ใช่มากๆ การที่นักบินจะเปลี่ยนเอกสารประกอบแผนการบินเนื่องมาจากการ offload หรือ onload มันต้องมีน้ำหนักเป็นพันกิโล เอาง่ายๆผู้โดยสารอย่างน้อย10คนขึ้นไปน่ะครับ บางคนบอกต้องคำนวณน้ำหนักใหม่ทั้งหมด
อย่างที่ผมบอกครับถ้าไม่เกิน LMC limited ไม่ต้องทำใหม่ถึงต่อให้เกิดต้องทำใหม่มันใช้เวลาไม่เกิน5นาทีด้วยซ้ำ ปัจจุบันใช้ระบบในการทำเอกสารแสดงน้ำหนักกันเกือบทั้งหมดแล้ว การทำเอกสารใหม่แค่ให้พนักงานเกท offload ผู้โดยสารออกจากระบบ จากนั้นพนักงานทำเอกสารแสดงน้ำหนักกดประมาณ 5คลิ๊กก็ได้เอกสารตัวใหม่แล้วครับ
หวังว่าจะช่วยคลายความสงสัยได้นะครับ
ผมยกตัวอย่างแบบเข้าใจง่ายๆเลยนะครับ
เช่นเที่ยวบิน AA111 เวลาเครื่องออกตามเสก็ต (Schedule time departure) 1400pm
1. เที่ยวบินนี้ตาม procedure แจ้งใน precision time (Activity แต่ละอย่างตามเวลาของสายการบิน) ว่าก่อนเครื่องออก20นาทีถ้าผู้โดยสารท่านไหนยังไม่มาแสดงตัว ให้ทำการเช็คว่าผู้โดยสารท่านั้นมีสัมภาระเช็คอินหรือไม่ ถ้าไม่มีก็ไม่ต้องทำอะไรแต่ถ้ามีทางพนักงานที่เกทเช็คในระบบว่าเลขแท็กกระเป๋าที่เช็คอินคือเบอร์อะไร
2. พนักงานที่เกทแจ้งไปยังพนักงานควบคุมการโหลดด้านล่างให้หากระเป๋าเบอร์นี้เตรียมไว้ในการ offload
3. พนักงานควบคุมการโหลดด้านล่างเช็คในเอกสารเรียกว่า bingo sheet (เอกสารตัวนี้จะมีหางแท็กของกระเป๋าทุกใบที่เช็คอินไปแล้วอยู่ด้วย สังเกตุได้จากตอนเราเช็คอินหางแท็กจะมี3ส่วน คือส่วนที่ติดกระเป๋าเราไป, ส่วนที่พนักงานดึงมาติดที่ boarding passเรา, อีกส่วนที่ไปอยู่ที่ bingo sheet ตัวนี้แหละ) ว่ากระเป๋าใบนี้อยู่ในตู้ตำแหน่งใดในกรณีที่เป็นเครื่องที่ใช้ตู้โหลด หรือถ้าเป็นเครื่องที่ไม่ได้ใช้ตู้โหลดก็ขึ้นไปหาใน compartment (ห้องสินค้าของเครื่องบิน) วิธีการหาเช่น
กระเป๋าใบนี้เลขแท็กเป็น AA123456 พนักงานก็ไปหาเลขที่ติดกระเป๋าใบนี้ การดำเนินการหาใช้เวลาอย่างมากสุด15นาทีไม่เกิน
4. หากระเป๋าใบดังกล่าวเจอทำการแจ้งกลับไปยังพนักงานที่เกทเพื่อยืนยัน
5. ถึงเวลา5-10นาทีก่อนเครื่องออก พนักงานเกทยืนยัน offload ผู้โดยสารท่านนี้พร้อมกระเป๋า
6. พนักงาน load control (คนที่คำนวณน้ำหนักเครื่อง) เข้าไปทำการ LMC ให้นักบินโดยมีข้อมูลว่า offload อะไรไปบ้างน้ำหนักทั้งหมดเท่าไหร่ โดยไม่ต้องเปลี่ยน load sheet (เอกสารแสดงน้ำหนัก) ในกรณีที่อยู่ใน LMC limit (ซึ่งเครื่องเล็กๆอย่าง A320 ได้มากถึง500-750กิโลกรัม หมายถึง5-7ผู้โดยสารพร้อมกระเป๋า)
7. นักบินรับทราบ ปิดประตูเครื่อง ติดต่อหอบังคับการบินและทำการถอยเครื่องเพื่อเดินทาง
จบครับ มันมีแค่นี้จริงๆ พวกที่ชอบให้ความรู้ผิดๆแล้วจำมาตอบกันแบบผิดๆ ผมเห็นทีรัยหงุดหงิดทุกที บางคนบอกไปถึงต้องเปลี่ยนเอกสารประกอบแผนการบิน ซึ่งไม่ใช่มากๆ การที่นักบินจะเปลี่ยนเอกสารประกอบแผนการบินเนื่องมาจากการ offload หรือ onload มันต้องมีน้ำหนักเป็นพันกิโล เอาง่ายๆผู้โดยสารอย่างน้อย10คนขึ้นไปน่ะครับ บางคนบอกต้องคำนวณน้ำหนักใหม่ทั้งหมด
อย่างที่ผมบอกครับถ้าไม่เกิน LMC limited ไม่ต้องทำใหม่ถึงต่อให้เกิดต้องทำใหม่มันใช้เวลาไม่เกิน5นาทีด้วยซ้ำ ปัจจุบันใช้ระบบในการทำเอกสารแสดงน้ำหนักกันเกือบทั้งหมดแล้ว การทำเอกสารใหม่แค่ให้พนักงานเกท offload ผู้โดยสารออกจากระบบ จากนั้นพนักงานทำเอกสารแสดงน้ำหนักกดประมาณ 5คลิ๊กก็ได้เอกสารตัวใหม่แล้วครับ
หวังว่าจะช่วยคลายความสงสัยได้นะครับ
แง่มๆ น้องหมา 2 ปี ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 869078 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 2317833 ถูกใจ, TsPl ถูกใจ, Dream on friday ถูกใจ, เข้ามากดปุ่ม ถูกใจ, เพียงเพื่อน ถูกใจ, David_kop ถูกใจ, Mr.Boon-Long ถูกใจ, Dearance ถูกใจรวมถึงอีก 2 คน ร่วมแสดงความรู้สึก
แสดงความคิดเห็น
ถามคนทำงานในสนามบินครับ ปกติเวลาเครื่องจะออกแล้ว แต่หาผู้โดยสารไม่พบ มีมาตรการยังไงบ้างครับ?
แต่มีประเด็นที่สงสัยและติดใจจากในกระทู้นั้นครับ
อยากถามพี่ๆหรือเพื่อนๆที่ทำงานสนามบินครับ ถ้าหากผู้โดยสารไม่พบในเวลาที่เครื่องจะออกแล้ว มีมาตรการดำเนินการยังไงบ้างครับ
และผลกระทบจริงๆจากการที่ผู้โดยสารคนหนึ่งมาสายหรือตกเครื่องเนี้ย มันส่งผลกระทบถึงคนอื่นๆยังไงบ้าง ทั้งพนักงานและผู้โดยสารคนอื่นๆนะครับ
จริงๆในกระทู้นั้นก็มีคนตอบ แต่ก็มีคนแย้งว่าข้อมูลผิดพลาด เลยขออนุญาตมาแตกประเด็นไว้ในกระทู้นี้ครับ ขอบคุณครับ