[CR] เข็ญใจขึ้นภูเขา : ภูสอยดาวในคราวฝนพรำ [Chill Out!!!#2]



เวลานานเท่าไหร่ถึงจะเรียกว่า “วันหยุดยาว” จะต้องมีเวลาแค่ไหนถึงจะไปท่องเที่ยวที่ไกลๆได้
ทุกๆครั้งที่อยากจะออกไปเที่ยวที่ไหนสักแห่ง ข้อจำกัดเรื่องเวลาก็มักคอยผูกมัดเราให้อยู่กับที่เสมอๆ
…………………
"ไปแล้วจะคุ้มไหม?” “ไปแล้วจะสนุกรึเปล่า?” “ไปแล้วจะต้องจ่ายเงินเท่าไหร่?”  
คำถามเหล่านี้ก็มักจะทำให้เราไม่กล้าที่จะออกไปไหน ทำให้เราไม่กล้าที่จะออกไปเสี่ยงกับความผิดหวัง
…………………
แต่ถ้าเราเลิกคิดมากหละ เราสามารถจะไปได้ไกลแค่ไหนกัน ? ….. ถ้าเราลองปล่อยตัวเองไปตามใจ  ลองปล่อยให้ความหลงใหลพาเราไปในสถานที่ที่อยากจะไป ถ้าเราสามารถปลดปล่อยตัวเองจากข้อจำกัดเหล่านั้นไม่ว่าที่ไหนๆเราก็คงจะสามารถไปท่องเที่ยวได้อย่างไม่ผิดหวัง


“จงลุกยืนขึ้นมา แม้จะต้องยืนหยัดอยู่คนเดียวก็ตาม ” ... คำสอนของต้นไม้

หลังจากเสร็จสิ้นภารกิจของการสอบในที่สุดชีวิตของนักศึกษาคนหนึ่งก็มีเวลาว่างเพิ่มมากขึ้น
แม้ว่าจะไม่ได้ปิดเทอมหยุดยาวหลังการสอบเหมือนแต่ก่อน แต่ก็ยังมีวันหยุดเสาร์อาทิตย์สุดสัปดาห์ให้ได้ใช้พักผ่อนและเยียวยาจิตใจ
เวลาสุดสัปดาห์เพียง 2 วันจะสามารถไปเที่ยวที่ไหนได้ ผมเคยนึกสงสัยมาตลอด.....
......จนกระทั้งวันหนึ่ง ผมได้ลองไปเที่ยว "ภูสอยดาว" ภายในช่วงหยุดเสาร์อาทิตย์

จุดเริ่มต้นของการเดินทางทั้งหมดเริ่มจากประโยคง่ายๆที่ผมบ่นกับเพื่อนว่า  "หลังสอบกรุอยากไปเที่ยวภูเขาอยากไปเดินป่าหวะ หน้าฝนแบบนี้ไปที่ไหนได้บ้างหวะ ?"
v
v
v
--- จากนี้การเดินทางของพวกเราก็ได้เริ่มต้นขึ้น ---

ติดตาม Chill Out!!! ตอนอื่นๆได้ที่นี้
- Chill out!!! ตอนที่ 1 : เกาะเกร็ดมีทีเด็ดที่บรรยากาศ --> http://pantip.com/topic/34906328
ปล. “Chill Out!!!” เป็นโปรเจคเดินทางท่องเที่ยวสั้นๆง่ายๆในประเทศไทยเพื่อสัมผัสกับความงดงามทั้งธรรมชาติและวัฒนธรรมของไทย


บรรยากาศระหว่างทางเดินขึ้นภูสอยดาว

เลิกเรียนบ่ายสามโมงของวันศุกร์ที่ 17 กันยายน นักศึกษาชายจำนวน 5 คนรีบขับรถมุ่งหน้าสู่จังหวัดอุตรดิตถ์ เพื่อจะไปรอยังจุดเริ่มต้นปีนขึ้นภูสอยดาวในวันรุ่งขึ้น แต่หลังจากเวลาล่วงเลยมามากกว่า 5ชั่วโมง ในที่สุดพวกเราก็ต้องยอมนอนพักที่อำเภอเมืองจังหวัดพิษณุโลกก่อนหนึ่งคืน โดยจากจุดนี้คาดว่าจะใช้เวลาอีก2 ชั่วโมงเพื่อขับรถไปยังปากทางเข้าอุทยานภูสอยดาว

เราออกเดินทางตั้งแต่เช้าตรู่ของวันรุ่งขึ้นเพื่อไปให้ถึงอุทยานโดยเร็วที่สุด สภาพแวดล้อมที่เป็นตัวเมืองค่อยๆแปรเปลี่ยนเป็นทุ่งนาขนาดใหญ่ที่ถูกโอบล้อมด้วยภูเขารอบทิศทาง เนื่องจากถนนเข้าสู่อุทยานภูสอยดาวเป็นถนนที่คดเคี่ยวเราจึงใช้ถึง2ชั่วโมงกว่าๆ

เมื่อเรามาถึงอุทยาน พวกเราก็รีบจัดการซื้อเสบียง จ้างลูกหาบ เช่าเต็นท์ และ รับประทานอาหารเที่ยง
Safe point ที่จะต้องรีบเดินไปให้ถึงก่อนพระอาทิตย์ตกดินในวันนี้ก็คือ "ลานสามใบ" จุดพักแรมของพวกเราในคืนนี้ซึ่งอยู่ห่างจากจุดเริ่มต้นเดินไป 6.5 กิโลเมตร

!!!แต่ก่อนที่จะได้พักผ่อนในจุดพักแรม“ลานสนสามใบ”  ก็มีด่านที่เราจะต้องพิชิตให้ได้ทั้งหมด 5 ด่านหลัก คือ เนินทั้ง 5 ของอุทยานภูสอยดาว อันได้แก่ 1) เนินส่งญาติ 2) เนินปราบเซียน 3) เนินป่ากอ 4) เนินเสือ 5) เนินมรณะ


ลูกหาบที่เราพบเจอระหว่างทาง: พวกเขาคอยให้กำลังใจเราอยู่เสมอๆ ทั้งๆที่พวกเขานั้นแบกภาระไว้บนหลังมากกว่าพวกเราถึงหลายเท่า

เริ่มเดินได้เพียงไม่นาน ร่างกายของพวกเราก็เปียกชุ่มไปด้วยหยาดเหงื่อที่หยดลงมาจากท้องฟ้า น้ำหยดน้อยๆเหล่านั้นตกลงมาอย่างไม่ขาดสาย บางช่วงก็ตกหนัก บางเวลาก็ตกเบา สลับผลัดเปลี่ยนกันไปเหมือนมรสุมชีวิต

"เหนื่อยก็พัก ใจรักก็เดิน" พวกเราเดินมุ่งหน้าข้ามผ่านเนินแล้วเนินเล่าโดยมีเพื่อนร่วมทางเป็นเมฆฝนก้อนใหญ่

เดินไปเรื่อยๆไม่นานเวลาก็ล่วงเลยมาสองชั่วโมงครึ่ง พวกเราจึงหยุดพักหลังจากพิชิตเนินที่สามจากห้าเนิน(เนินป่าก่อ)
จากจุดๆนี้ไปเมฆฝนก็ได้บอกลาพวกเราแล้วแสงอาทิตย์อันแสนอบอุ่นก็กลับมาหาพวกเราอีกครั้ง เส้นทางข้างหน้าในตอนนี้ช่างดูสดใส เราใช้เวลาอีกเพียงไม่นานนักก็สามารถพิชิตเนินที่เหลือทั้งสองลงได้อย่างง่ายดาย


ความทรงจำในที่สุดก็จะเลือนหายไป แล้วเหลือไว้เพียงความรู้สึกดีๆ


“ลมมันแรงกล้า เราจึงอยู่ท้าแรงลม” -The wind rises


ผลลัพท์ของความพยายามที่ผ่านมา

จบจากเนินสุดท้ายเนินที่ห้าหรือก็คือเนินมรณะ เราก็มาถึงที่ราบ “ลานสนสามใบ” จุดสูงสุดที่เราสามารถเดินทางไปได้ในช่วงหน้าฝนเช่นนี้

[ความจริงแล้วยอดของภูสอยดาวไม่ใช่ลานสนสามใบ แต่เป็น “ยอด2100เมตร” ซึ่งจะไม่สามารถเดินขึ้นไปได้ในฤดูฝนเพราะอันตรายจากดินถล่มที่สามารถพบได้บ่อยๆ ดังนั้นหากใครต้องการจะพิชิตยอดจริงๆของภูสอยดาวผมขอแนะนำให้มาในช่วงหน้าหนาวและใช้เวลาในภูสอยดาว3วันขึ้นไปครับ]


ผู้ชาย กับ สายหมอก

ทิวทัศน์ของต้นสนที่ถูกกลืนกินโดยสายหมอกสีขาวชวนให้รู้สึกพิศวงยิ่งนัก เราพิจารณาดูมันไหลเอื่อยๆลงจากที่ราบสูงแห่งนี้ไปสู่ที่ราบด้านล่าง

เมื่อเก็บของเข้าที่พักเสร็จสรรพแล้วก็ถึงเวลาออกไปเดินชมรอบๆลานสนสามใบพร้อมกับถ่ายรูปแสงยามเย็นของวันนี้
แต่ราวกับว่าโชคชะตาจะไม่เป็นใจกับพวกเรา หมอกที่ปกคลุมป่าสมเมื่อสักครู่หนาตัวขึ้นจนบดบังท้องฟ้าทั้งหมดเหลือเพียงรูเล็กนิดเดียวเหนือศีรษะของพวกเรา ที่ราบสูงบนยอดภูสอยดาวในตอนนี้เสมือนว่าถูกห่อหุ้มไว้โดยหมอกอันหนาทึบซึ่งบดบังทัศนียภาพทุกๆสิ่ง  

อีก30นาทีพระอาทิตย์กำลังจะตกดิน เวลาที่ผ่านไปทำให้ความหวังที่จะได้ชมพระอาทิตย์ตกดินหมดลงไปเรื่อยๆเช่นกัน "คงไม่ได้ภาพแสงเย็นสวยๆแล้วมั้ง" ผมกล่าวกับเพื่อนอย่างท้อแท้ ...... ทันใดนั้นลมกรรโชกก็พัดมาจากทางทิศเหนือนำพาเอาหมอกที่ปกคลุมรอบตัวเราอยู่หายไปอย่างรวดเร็ว เพียง10นาที แสงจากดวงอาทิตย์ก็สามารถเล็ดลอดออกมาได้ในที่สุด


ความงดงามที่เหลือทิ้งเอาไว้ของสายหมอก


เส้นทางไปสู่จุดชมวิว


Honeymoon seat กับ ความรักไร้พรมแดน


ฺ My favorite picture of the day ยิ้ม


ตามองออกไปเห็นสิ่งที่อยู่ไกลแสนไกล แต่จินตนาการล่องลอยไปไกลเสียยิ่งกว่านั้น


ความงดงามที่เหลือทิ้งเอาไว้ของดวงอาทิตย์

ช่วงเวลาแห่งความสุขมักจะผ่านไปอย่างรวดเร็วเสมอๆ สิ้นเสียงกดชัตเตอร์กล้องพระอาทิตย์ก็ตกดินลงไปเสียแล้ว

แหล่งกำเนิดแสงที่มาแทนที่พระอาทิตย์ในครานี้ก็คือดวงจันทร์ดวงใหญ่ที่มาพร้อมกับดาวหมู่เล็กหมู่น้อยมากมายบนท้องฟ้า

ไม่รู้ว่าเป็นโชคดีหรือโชคร้าย ดวงจันทร์ในวันนี้ส่องสว่างสุกสกาวจนกลบแสงดาวข้างเคียงไปเยอะมาก
ดวงจันทร์ในวันนี้ส่องแสงสว่างไม่น้อยหน้าดวงอาทิตย์เลย

หลังจากรับประทานอาหารเย็นเสร็จเราก็ออกไปเดินเล่นอีกฝั่งหนึ่งของลานสนสามใบเสร็จ ต้นหญ้าที่ขึ้นอยู่ประปรายบนที่โล่งกว้างถูกย้อมด้วยแสงสีเหลืองอ่อนของดวงจันทร์ เดินไปได้ไม่นานเราก็สำรวจจนถึงสุดทาง

ก่อนที่จะเข้านอน ผมได้ตัดสินใจที่จะไปนั่งคุยกับชาวบ้านและคนงานที่ทำงานอยู่บนภูสอยดาวแห่งนี้
"นั่งผิงรอบกองไฟ" ครั้งสุดท้ายที่ได้ทำอะไรแบบนี้ก็คงจะเป็นตอนเข้าค่ายลูกเสือเมื่อสมัยม.ต้น คนที่นั่งอยู่กับพวกเราในตอนนี้ก็คือลูกหาบที่เคยให้กำลังใจเราขณะเดินขึ้นภูเขาก่อนหน้านี้ ลูกหาบพูดคุยกับเราอย่างเป็นกันเองพร้อมกับเล่าเรื่องราวของภูสอยดาวในสมัยก่อนให้ฟัง ความสวยงามของภูสอยดาวขณะที่ยังไม่ถูกทำลายด้วยน้ำมือของมนุษย์ได้ถูกร้อยเรียงออกมาให้เห็นชัดเชนผ่านทั้งทางคำพูดและแววตาของเขา

เหนือกองไฟกองนั้นยังมีกาน้ำต้มเหล้าขาวอยู่อีกหนึ่งกา ภรรยาของลูกหาบได้หยิบกาน้ำพร้อมรินสุราท้องถิ่นให้พวกเราได้ลองชิมดูกัน รสชาติของน้ำใจที่หาได้ที่นี้ทำให้เรารู้สึกอบอุ่นทั้งร่างกายและจิตใจ


กองไฟกองนั้นที่ฉันเคยนั่งพิงมันกับเธอ

21.30น. พวกเรารีบนอนเพื่อที่จะได้ตื่นมาชมดาวและพระอาทิตย์ขึ้นยามเช้าในวันรุ่งขึ้น ผมตั้งนาฬิกาปลุกไว้ที่4.00น. ก่อนที่จะเผลอหลับไป
v
v
ตื่นขึ้นมา 4.00น. เมฆก้อนใหญ่ได้ปกคลุมผืนท้องฟ้าไว้เหมือนหมอกของเมื่อวาน ในเมื่อเราไม่สามารถมองเห็นได้ทั้งดาวและดวงจันทร์ ผมจึงล้มเลิกความพยายามที่จะชมดาว ก่อนที่จะเปลี่ยนนาฬิกาปลุกไปเป็น 5.45น. เพื่อรอรับชมพระอาทิตย์ชึ้นในอีก2ชั่วโมง
v
v
5.45น. ฝนได้ตกลงมาสู่ผืนดินอีกครั้งและได้ทวีความแรงขึ้นเรื่อยๆ จนท้ายที่สุดพวกเราก็ต้องยอมแพ้กับความคิดที่จะชมพระอาทิตย์ขึ้นยามเช้า
v
v
8.00น. ในที่สุดฝนก็หยุดตก เรารีบเก็บของเพื่อเตรียมตัวลงจากภูสอยดาวพร้อมกับทิ้งความผิดหวังจากเมื่อเช้าไว้บนลานสนสามใบแห่งนี้

ก่อนที่จะกลับลงสู่ผืนดินข้างล่างมีอีกสถานที่หนึ่งที่เราจะต้องไป นั้นก็คือ "น้ำตกสายทิพย์" น้ำตกที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากลานสนสามใบใกล้ๆกับทางลงสู่เนินมรณะ


--น้ำตกสายทิพย์--


ผู้อยู่เบื่องหลังของภาพถ่ายและความทรงจำ

น้ำตกก็"ตก" ส่วนฝนก็กลับมา"ตก" อีกครั้ง ราวกับว่าธรรมชาติทั้งสองกำลังแข่งกันเองโดยมีผู้รับเคราะห์เป็นมนุษย์ที่พึ่งพาอาศัยธรรมชาติ

เราใช้เวลาอยู่กับน้ำตกแห่งนี้ประมาณครั่งชั่วโมงก่อนที่จะเดินทางกลับลงสู่ที่ราบข้างล่าง




"ทางมีไว้ข้าม ไม่ได้มีไว้ให้กลัว" เพื่อนผมไม่ได้กล่าวไว้

ใช้เวลาขาลงเพียงประมาณ3ชั่วโมงก็สามารถกลับลงมาถึงจุดเกิดได้สำเร็จ เรามุ่งหน้ากลับสู่กรุงเทพในทันทีเพื่อจะกลับไปให้ทันเรียนในวันรุ่งขึ้น

ทริปนี้เรากำแบงค์พันมาเพียงสองใบ แต่สิ่งที่ได้กลับไปเป็นความทรงจำที่ประเมินค่าไม่ได้ //
"เพราะคุณค่าของเวลาเป็นสิ่งที่มิอาจหาอะไรมาเปรียบได้เลย"


มื้อสุดท้ายระหว่างทาง ทิ้งทวนด้วยบุฟเฟ่หมูกระทะร้อน

ขออนุญาติฝากกระทู้จากทริป "SeaShorehaikwaifung" ด้วยครับ (อันนี้ไปเที่ยวต่างประเทศ ไปเยอรมัน โครเอเชีย กรีซ และอีกหลายๆประเทศเลยครับ)
Chapter 1 : Mt. Herzogstand : http://pantip.com/topic/35682638

....จะรีบมาupdateทั้ง Chill Out!!!และ Seashorehaikwaifung นะครับ -/\-
ชื่อสินค้า:   ภูสอยดาว จังหวัดอุตรดิตถ์
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่