ใครไปเที่ยวญี่ปุ่นมาแล้วรู้สึกว่าประเทศเขาก็ไม่ได้เป๊ะขนาดนั้นบ้าง

กระทู้ก็ออกจะดี มาเล่าสู่กันฟังให้ได้ข้อคิด แต่ทำไมมีคนมาแขวะเยอะจัง สงสัยชีวิตนี้ไม่ค่อยมีอะไรให้คิด

ฮ่าๆๆๆๆๆ มีใครที่บอกว่าเป๊ะบ้างครับอยากจะรู้ ไม่มีที่ไหน perfect หรอกครับ

1. คาดหวัง - คนญี่ปุ่นพูดน้อย เรียบร้อย เป็นคนเงียบๆ
ความเป็นจริง - เมาท์มอยหนักมาก เสียงดังมาก คนที่อยู่เงียบๆก็คือคนที่อยู่คนเดียว ทั้งบนรถไฟฟ้า บนถนน ในร้านอาหาร และทุกที่ เมาท์กันเสียงดังกว่าเมืองไทยเยอะ ตะโกนข้ามหัวจขกท.ไปเลยก็ยังมีทั้งๆที่เราไม่ได้ไปแทรกกลางอะไรเขา หรือบ้านเขาไม่ถือเรื่องนี้ อันนี้ไม่แน่ใจ
+++++ คุณไปอยู่ตรงไหนล่ะครับ ไปกับทัวร์ใช่ไหม แล้วเขาพาไปไหน ถ้าในเมืองก็ประมาณนั้น คนใช้ชีวิตปรกติ วัยรุ่นญี่ปุ่นก็คนครับ
เขาก็ทำกันเต็มที่   ส่วนคำว่าเรียบร้อย มันแฝงอยู่ข้างในมากกว่า ลองๆนึกดูพนักงานโรงแรมดูแล้วกันครับว่าเรียบร้อยขนาดไหน
อาชีพบริการของเขาลองดูครับว่าเขาทำกันจริงจังขนาดไหน เวลาไปเรียวกังตามต่างจังหวัด ลองดูครับว่าคนที่อยู่ในเรียวกังนั้นเรียบร้อยแค่ไหน
เอาง่ายที่สุดก็บนรถไฟมีใครสักคนคุยโทรศัพท์ไหม


2. คาดหวัง - พ่อครัวแม่ครัวที่นี่พิถีพิถันในการทำอาหารเป็นอย่างมาก ต้องจับนิดจับหน่อย ประณีตเพื่อให้มื้ออาหารออกมาพิเศษที่สุดเพื่อลูกค้า
ความเป็นจริง - ถ้าไม่ได้เข้าร้านแพงๆ อย่างชิ้นนึงหลายร้อยถึงพันบาทเขาก็ทำเร็วๆนี่แหละ ไม่มีพิถีพิถันอะไร ทั่วไปเหมือนกินร้านอาหารในไทยทุกประการ
+++++ คุณก็บอกแล้วว่าไปกินอะไรมา ถ้าตามสถานที่ท่องเที่ยวพ่อครัวแม่ครัวมามัวพิถีพิถันนี่คงขายไม่ทันครับ  ผมว่าตรงนี้หลายๆคนที่ไปเที่ยว
ญี่ปุ่นด้วยตัวเองน่าจะรับรู้ได้ครับว่าพ่อครัวแม่ครัวที่นั่นเขาจริงจังขนาดไหน  เอาแค่ร้านซูชิร้านเล็กๆราคาไม่แพงมากมีที่นั่งสัก 8 ที่
ผมเคยเข้าไปนั่งแล้วแบบว่าเขาตั้งใจมากๆ ส่งมาแต่ละคำนี่อยากให้เรากินมากๆ บางครั้งเราเสียเงินราคาถูกกว่า MK บ้านเราแต่ได้รับการบริการ
ที่ยิ่งกว่าแขก VIP ในโรงแรมดีๆซะอีกครับ

3. คาดหวัง - คนญี่ปุ่นจะยิ้มแย้มแจ่มใสที่ได้เจอต่างชาติโดยเฉพาะประเทศไทย อ่านรีวิวมาเยอะว่าเพราะเราช่วยญี่ปุ่นสมัยสงครามโลก เยอะแยะมากมาย
ความเป็นจริง - ไม่มีใครมาอะไรกับใคร ไม่มีใครชื่นชมคนไทยอย่างที่อวยไว้ในหลายกระทู้ ฝรั่งมาเมืองไทยอาจได้รับการปฏิบัติดีเป็นพิเศษ แต่คนไทยในญี่ปุ่นไม่ได้รับการปฏิบัติที่ดีอะไรเป็นพิเศษ เผลอๆอาจจะแย่เป็นพิเศษเพราะคุยกันไม่รู้เรื่อง และคนญี่ปุ่นพูดภาษาอังกฤษกันไม่ค่อยเป็น
+++++ คนญี่ปุ่นมีความกดดันสูงครับ ไม่งั้นจะไม่ได้เป็นประเทศที่มีการฆ่าตัวตายสูงอันดับต้นๆของโลกหรอก เรื่องยิ้มแย้มแจ่มใสต้องดูว่าคุณ
ไปเจอคนญี่ปุ่นที่ไหน ถ้าคุณไปเที่ยวกับทัวร์ ทัวร์ไทยก็พาไปแต่แหล่งท่องเที่ยว ที่นักท่องเที่ยวเยอะๆ เขาคงไม่มามีเวลาบริการนักท่องเที่ยวเท่าไหร่
แต่ถ้าลองได้ไปสัมผัสกับญี่ปุ่นที่ออกนอกเมืองออกไป เอาแค่พนักงานเรียวกังที่ผมเจอนี่ผมซึ่งอะไรหลายๆอย่างนะ
เล่าเล่นๆแล้วกันครับ
- ผมออกจากเรียวกังจะไปเดินเล่นเดินไปได้สัก 200 เมตรนึกได้ว่าลืมของ ก็เลยวิ่งกลับไปที่ห้อง ให้แฟนรออยู่ตรงนั้น
ผมรีบขึ้นไปเอาของพอกลับลงมา  รู้ไหม....... รองเท้าที่ผมถอดไว้ข้างหน้าเรียวกังมีคนมาจัดกลับด้านหันออกเพื่อให้ผมกลับมาใส่ได้เลยทันที
- ผมเคยถามทางจะไปศาลเจ้าสักแห่ง มีคนญี่ปุ่นใจดีนำทางไปให้เลย เขาพูดอังกฤษไม่ได้สักคำ ผมก็ฟังญี่ปุ่นไม่รู้เรื่อง ทางที่เขานำไปนั้น
เดินไกลเหมือนกัน   รู้ไหม....... ระหว่างทางที่เดินไปเขาแวะซื้อซอฟครีมให้พวกผมกินด้วย
- วันนั้นฝนตก ผมกับแฟนลงมาจากห้องในโรงแรมแห่งหนึ่งเพื่อจะไปซื้อของใกล้ๆ พอเดินมาถึงหน้าทางออกแฟนก็บอกให้ผมรอเดี๋ยวเขาจะกลับ
ไปที่ล๊อบบี้เพื่อยืมร่ม   รู้ไหม....... พนักงานที่ล๊อบบี้ต้องเข้าไปเลือกร่มที่เข้ากับชุดที่แฟนผมใส่อยู่ที่สุดมาให้ (อันนี้แฟนผมบอกนะว่าให้ลองดู)

จริงๆมีอีกเยอะมากมายครับ เวลาไปซื้อของตามเมืองเล็กๆ คุณลุงคุณป้าจะยิ้มแย้มแจ่มใสมากๆ ใครเคยไปชิโรอิโตะมีร้านขายของที่ลุงพูดไทยได้นิดๆ
หรือแม้แต่ฟูจิชั้นห้าก็มีคุณลุงที่พูดไทยได้นิดๆเหมือนกันครับ

4. คาดหวัง - บ้านเมืองจะทันสมัย เจริญ ใหม่ ดูโมเดิร์น
ความเป็นจริง - ทุกอย่างค่อนข้างเก่า ถึงเก่ามากในหลายๆอย่าง อย่างตัวรถไฟฟ้าใต้ดิน สนามบิน จะใหม่ขึ้นมาก็คงเป็นชินกันเซ็น ที่จะใหม่ก็คงเป็นถนน ต้องชมว่าปูพื้นได้ไม่มีรอยแตกแยกหรือกระเบื้องทรุดแบบเมืองไทยเลย ทางเดินเท้ากว้างมาก ซึ่งมันดีมากๆ
+++++ ผมเที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรกเมื่อปี 2004 ตอนนั้นทุกอย่างสำหรับผมมันเจ๋งมากๆ ปีที่แล้วไปมาอีกรอบเป็นรอบที่ 6 แล้ว ผมรู้เลยว่าญี่ปุ่นเปลี่ยนไป
เยอะมากๆ เรื่องความทันสมัยผมว่ามันมีเพียบเลยครับ แต่สิ่งหนึ่งที่ญี่ปุ่นทำแล้วผมชอบมากๆก็คือ เขาพยายามที่จะรบกวนธรรมชาติให้น้อยที่สุด
ถ้าลองดูดีๆจะเห็นเลยครับว่า ไม่ว่าเราจะไปที่ไหนมันเป็นเช่นนั้นจริงๆ ความทันสมัยมันอยู่ข้างในลึกๆมากกว่าสำหรับตอนนี้ เพราะบ้านเราก็ค่อยๆ
ตามญี่ปุ่นมาเรื่อยๆ แต่ยังห่างอีกหลายปีในหลายๆอย่างครับ


5. คาดหวัง - ชาวญี่ปุ่นเคารพกฎจราจรมาก ไม่มีการข้ามไฟแดง แม้ว่าจะเป็นเวลาดึกแค่ไหน ถ้าเป็นไฟแดงก็จะไม่ข้าม เพราะบ้านเมืองเขาเคร่งและมีตำรวจตรวจตราทางกล้องวงจรปิดตลอดเวลา
ความเป็นจริง - ถ้าถนนมันโล่งจริงๆ เขาก็ฝ่าไฟแดงกันมันส์เลยจ๊ะ แต่ก็ไม่ได้ขับซิ่งแต่อย่างใด และคนขับก็บอกให้คาดเข็มขัดนิรภัยด้วยแม้ว่าจะคุยกันไม่รู้เรื่องแต่ทุกครั้งที่ขึ้นรถเขาก็พยายามจะบอกด้วยภาษามือไป คนที่ข้ามถนนก็เหมือนกัน ไฟจราจรยังไม่ให้ข้าม แต่ก็ข้ามกันหมด เราเป็นคนไทยก็ข้ามตามๆเขาไปด้วย ไหนว่าบ้านเมืองนี้เขาสตริคมากๆฟระ หรือจขกท.จะมาผิดประเทศก็คงไม่ใช่ ซึ่งที่ที่จขกท.อยู่ก็คิดว่าค่อนข้างในเมืองระดับนึงนะ
+++++ ฮ่าๆๆๆๆ ถ้าคุณไปเดินชินจูกุนี่จะได้เห็นบ่อยๆ แล้วคุณรู้เหรอว่าคนที่ข้ามนี่เป็นคนญี่ปุ่น ผมเห็นนักท่องเที่ยวนี่แหล่ะตัวดีเลย
คนญี่ปุ่นข้ามถนนเขาไม่กลัวรถหรอก มีแต่นักท่องเที่ยวโดยเฉพาะคนไทยนี่แหล่ะเวลาข้ามถนนทีกลัวรถมากๆ(ฮ่าๆ) กฏหมายจราจรของญี่ปุ่นแรงมาก
ถ้าคุณขับรถชนคนตายนี่ชีวิตแทบจะจบสิ้นเลย คนญี่ปุ่นเวลาทำผิดแล้วโดนจับได้เขาจะละอายอย่างมาก    อายจนไม่สามารถมีชีวิตอยู่ได้เลย





และลิสต์สิ่งต่างๆที่ผิดคาดมาก ที่ไม่คาดหวังว่าจะได้เจอที่ญี่ปุ่นแต่ก็ได้เจอ อเมซิ่งมากๆ
1. คนไทยเยอะระดับนึงเลย ไม่ได้เยอะไปซะทุกที่ เยอะในเขตที่ดังๆอย่างวัดดัง หรือเขตการค้าชื่อดัง ชนิดที่ว่าเดินไปที่ไหนก็มีแต่คนไทย
+++++ แสดงว่าคุณไปแต่ที่ดังๆสินะครับ แน่นอนครับว่าตอนนี้คนไทยขึ้นมาเป็นอันดับสองของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ญี่ปุ่นแล้วครับ
ทัวร์ไทยก็จะพาไปแต่ที่ดังๆ โรงแรมก็นอนโรงแรมเดิมๆที่ดีลกับทัวร์ไทยไว้แล้วทั้งนั้น จึงไม่แปลกใจที่เวลาเราไปกับทัวร์ในโรงแรมนี่มีแต่คนไทย
แต่ถ้าคุณได้ไปที่ที่มันไกลออกไป อืมมมม... เช่น Zao  หรือ Hachinohe ตอนผมไปไม่เจอคนไทยสักคนเลยครับ


2. ด้วยความเฟรนลี่ของจขกท. จากการถามทางไปอ็อนเซ็นจากคนญี่ปุ่นคนนึง สรุปไปที่เดียวกันเฉยเลย พรหมลิขิตมากที่คนนี้พูดอังกฤษคล่องปร๋อ ที่บอกว่าคนญี่ปุ่นเขาไม่อายกันเวลาแก้ผ้า เขาบอกว่าจริงๆก็มีหลายคนที่อายแต่ก็เลือกที่จะแสดงออกว่าไม่อายเพื่อให้เข้ากับสังคมได้ สรุปจริงๆคือ หลายคนอายที่ต้องแก้ผ้าในอ็อนเซ็น /บอกให้เลยว่ามันเหมือนกับโปรดักชั่นหนังโป๊มาก แก้ผ้ากันทุกคน555555
+++++ ออนเซ็นครั้งแรกของผมนี่เดินไปเดินมาอยู่สี่รอบ สองจิตสองใจ จะเข้าหรือไม่เข้าไปดี ฮ่าๆๆๆๆ นึกแล้วยังขำตัวเอง
หลังๆก็เริ่มชินแล้ว แต่ที่เจ๋งสุดๆคือออนเซ็นแบบบ่อรวม outdoor ครับ อันนี้ผมว่ามันสุดๆจริงๆ ตั้งแต่ทางเดินจากห้องแต่งตัวไป
เดินตากหิมะไปจนถึงบ่อ สุดๆอ่ะ

3. หลายสิบปีก่อนที่เจป๊อปเคยฮิตในไทยมากๆ ที่ไว้ผมทรงรากไทร ผมไฮไลท์ทอง ทำสีผมแบบแหว่งๆ ผมฟูๆชี้ๆที่สมัยก่อนฮิตในไทย ทุกวันนี้ในญี่ปุ่นก็ยังฮิตอยู่ ไม่เสื่อมสลายไปไหน
+++++ ผมเคยถามแฟนเพราะแฟนผมเคยทำงานอยู่ JAL แฟนผมบอกว่าหลายๆอย่างของเกาหลีที่เราๆเห็นมานี้ เกาหลีลอกญี่ปุ่นมาแทบจะทั้งนั้น
ทั้งวัฒนธรรมการแต่งกาย ทรงผม แต่งหน้า  ถ้าคุณรู้จัก X-Japan คุณจะรู้ครับว่าญี่ปุ่นนั้นเรื่องการแต่งกายเขามีมานานมาก
ทุกวันนี้ผมว่าเรื่องการแต่งตัวเขาน่าทึ่งนะ   แฟนผมเคยบอกว่าคนญี่ปุ่นไม่เหมือนคนไทย ถ้าเป็นเราจะออกไปเซเว่นใกล้ๆบ้านก็กางเกงขาสั้นเสื้อยืด
ก็ไปได้แล้ว แต่คนญี่ปุ่นไม่เป็นแบบนั้น  ผมว่าเขาเนี๊ยบมากๆ เช้าๆเวลาดูคนทำงานเขาแต่งตัวนี่สุดๆ หรือในเมืองผมก็เห็นว่าคนญี่ปุ่นชอบเสื้อผ้า
สีเรียบๆมากกว่าสีฉูดฉาด ยกเว้นตามสกีรีสอร์ทที่สีสันมาเต็ม


4. คนญี่ปุ่นจะมีสกิลการยิ้มที่เหนือเมฆมาก คือคุยกันก็จะยิ้มให้กัน แต่พอแยกกันปุ๊บ หน้าจะกลับไปหน้านิ่ง นิ่งสนิท นิ่งมากๆ เหมือนกับว่าเขายิ้มให้กันตามมารยาทก็พอ พอแยกกันก็หยุดยิ้มทันที ตอนแรกคิดว่าคิดไปเอง แต่พอได้สังเกตไปซักพักก็เห็นได้ว่ามันเป็นแบบนี้จริงๆ ซึ่งจขกท.ไม่โอเคเท่าไหร่55555
+++++ ข้อนี้ผมไม่เคยสังเกตแฮ่ะ แต่เคยไปขอสาวถ่ายรูปอยู่ทีนึงเขาก็โอเคนะ  แต่กับเด็กๆเล็กๆนี่อย่าได้ไปขอนะ...วิ่งหนีเลย ฮ่าๆๆๆๆ


5. แฟชั่นการแต่งตัวของคนญี่ปุ่น มันไม่สอดคล้องกับแฟชั่นบ้านเราเลย ทั้งในวัยรุ่นและวัยผู้ใหญ่ เสื้อแดงแปร๊ดกระโปรงเขียวปื๋อรองเท้าน้ำเงินมาในชุดเดียวกันไม่ใช่เรื่องแปลกของคนที่นี่ ถึงจะดูแปลกๆ แต่ก็มีความเป็นญี่ปุ่นอยู่ข้างใน ที่เห็นชัดๆคือผู้ชายใส่สูทเดินเต็มไปหมด ก็เท่ดีนะ
+++++ เหมือนที่ผมบอกด้านบนว่าวัฒนธรรมการแต่งกายของเรากับเขาไม่เหมือนกันครับ บางอย่างเราก็ดูแปลกๆ ผมว่าจริงๆแล้วมันไม่แปลก
ที่แปลกมากๆที่ผมเคยเห็นคือ ผู้ชายใส่กระโปรงนี่แหล่ะ คือแต่งหน้าแบบแมนมากกกกกกกกกกก (ผู้ชายญี่ปุ่นแต่งหน้ากันเยอะมาก) แต่พอดูลงไป
ข้างล่างดันใส่กระโปรงซะงั้น ผมเรียกไม่ถูกอ่ะ มันเป็นแบบกระโปรงแต่มีกางเกงข้างในอ่ะ ตอนแรกนึกว่าเกย์หรือสาว แต่ดูจากการพูดคุยแล้ว
ไม่น่าจะใช่





เท่าที่ผมไปเที่ยวมาผมเจอด้าน Dark ของญี่ปุ่นเยอะมากๆ แต่ผมเชื่อว่ามีเยอะกว่าที่ผมเจออีกมากมาย
ใครอยากรู้ลองไปหน้าสถานี Ueno ตอนเที่ยงคืนตีหนึ่งดูครับ หรือช่วงสักตีสองตีสามคือวันศุกร์ตามแหล่งเที่ยวราตรี  น่ากลัวมากกกกกกกกก





***** tex *****

เอาสั้นๆ คุณจขกท.คาดหวังประเทศเกินจริง คิดในเกณฑ์ประเทศเหนือจริงไปแล้ว โดยลืมพื้นฐานหลักคือความเป็นมนุษย์ไป
ส่วนที่หลายคนนิยมชื่นชมญี่ปุ่นนั้น มันอยู่บนพื้นฐานจำนวนประชากรและความจริงบนโลกในนี้ แต่เขายังสามารถสร้างมาตรฐานในระดับนี้ได้ ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายๆ
มันคือตรงนี้ล่ะที่ใครทำได้หรือไม่ได้

ก็เพราะกระทู้อวยในพันทิพ จนเกิดกระทู้นี้
แต่กลับมาแขวะว่า จขกท จินตนาการเยอะไปเอง

กลับไปดูกระทู้อวยญี่ปุ่น ไม่เห็นมีมาแขวะแบบกระทู้นี้เลย