จขกท. ตั้งใจสมัครสมาชิกเพื่อคำถามนี้โดยเฉพาะเลย ปกติจะเข้ามาแค่อ่านๆ แล้วก็ผ่านไป แต่วันนี้มีเรื่องกลุ้มใจจริงๆ เลยอยากขอคำปรึกษาจากคนที่มีประสบการณ์ด้านนี้ เพื่อไม่ให้เราตัดสินใจสิ่งสำคัญที่สุดในชีวิตพลาด
ตัว จขกท. เคยเห็นเพื่อนหลายคนมีปัญหาด้านนี้มากนักต่อนัก แต่ก็ไม่คิดว่าวันหนึ่งมันจะมาเกิดกับตัวเองเข้าจนได้
จขกท. มีแฟนคนแรก ตอนสมัยเรียน ม.ปลาย เรียนห้องเดียวกัน ระหว่างคบกัน ไม่เคยมีเรื่องมีที่ 3 เขาเป็นนักบอล จขกท. เป็นนักเรียนตัวอย่าง การเรียนมีแต่ดีขึ้นทั้งคู่ จนอาจารย์ชอบพาไปพูดหน้าเสาธง บอกว่าให้เอา คู่รักคู่นี้เป็น ตัวอย่าง โดยนิสัยแล้วจขกท. เป็นคนที่จริงจังกับความรักมาก ตั้งใจว่าคนนี้แหละจะแต่งงานด้วยหลังจบมหาลัย แต่แล้ว พอขึ้นมหาลัย ก็เลิกกัน เพราะ ผช. มี ผญ. อื่น (คือเห็นกับตาตอนพวกเขา ... กัน) ตอนนั้นทั้งอึ้งและตกใจ คือช็อคไปพักหนึ่ง แต่ไม่ร้องไห้เลยนะ แต่ก็กลายเป็นคนเย็นชาต่อความรักไปโดยปริยาย พอเพื่อนหลายๆ คนรู้ว่า จขกท.โสด ก็พยายามแนะนำคนนั้น คนนี้มาให้คุย แต่สุดท้ายก็คุยกันได้ไม่นาน เพราะจขกท. ก็เป็นฝ่ายถอยห่างมาเองเสียหมด หลายครั้ง จขกท. พูดจา ไม่ดีใส่คนที่เพื่อนแนะนำมาให้ เพื่อนด่าว่า "ใจจืด ใจดำ ฯลฯ" จนเพื่อนๆ ไม่พูดถึงเรื่องการจับคู่ให้เราอีกเลย คือมันกลายเป็นแบบว่าเราเฉยๆ กับคนที่เข้ามา ไม่สนุก ไม่รู้สึกอะไรเลย บางครั้งก็ถามตัวเองนะ "นี่เรา เป็นบ้าอะไรเนี่ย"
จขกท. โสดหลายปีมาก จนตั้งใจแล้วว่าจะขึ้นคานแน่นอน ทำงานเก็บเงิน ไว้เลี้ยงตัวเองตอนแก่ดีกว่า ไม่อยากมีมันแล้ว ครอบครัว ลูก
จนกระทั่งวันหนึ่ง จขกท. ได้มีโอกาสรู้จักกับ ผช. คนหนึ่ง เขาแก่กว่าหลายปีมาก เกือบๆ สิบปี และอยู่คนละจังหวัด วันนั้นบังเอิญเขาแวะมาที่บริษัท (ชื่อ พี่ น.) แล้วเราก็แลกนามบัตรกัน จากนั้นเราก็ติดต่อกันผ่านทางอีเมล์ แต่ก็ไม่ค่อยคุยกันแบบชู้สาว จะคุยเรื่อยเปื่อยมากกว่า เช่นอาทิตย์จะไปไหนทำอะไร แล้วก็ไม่ค่อยคุยโทรศัพท์ เพราะ จขกท. จะแบบ "อืมๆ อือๆ โอเคๆ แค่นี้นะคะ" และนานๆ ทีจะได้เจอ ถ้าอาิทิตย์ไหนเขาแวะมาที่ จ. ที่ จขกท. อยู่ เราก็จะไปดูหนังด้วยกัน เดือนละวัน สองวัน แค่นั้น
หลังรู้จักกันประมาณ 6 เดือน พี่ น. ก็เอ่ยปากขอเป็นแฟน แต่จขกท. ก็เฉยๆ ไม่ได้ตื่นเต้น แต่ก็ตอบตกลงไปงั้นๆ 5555+ เพราะเราก็โสด เอ้า ลองเปิดใจดูสักหน่อยก็แล้วกัน แต่พอมาระยะหลังๆ งานเขาเริ่มยุ่งมากขึ้นเรื่อยๆ จากเดือนละครั้งก็จะเป็นสองเดือนครั้ง สามเดือนครั้ง แต่แปลกที่ จขกท. ไม่ร้อนใจหรือว่ากระวนกระวายอะไรเลย เฉยมาก จนถามตัวเอง "นี่แกไร้หัวใจไปแล้วเรอะ"
แล้ววันที่เหตุการณ์ผลิกพันก็เกิดขึ้น วันนั้น จขกท. ไปดูหนังคนเดียว เพราะพี่ น. ขอเลื่อนนัด เพราะติดงานด่วน ปกติ จขกท.ก็ดูหนังคนเดียวอยู่แล้ว เพราะเพื่อนไม่ชอบดูหนังโรง เลยไม่ได้คิดมากหรือว่าน้อยใจอะไร พอวันนั้นดูหนังเสร็จ ก็ไปเดินเล่นร้านหนังสือต่อ ไม่ได้จะซ์้อ แต่เดินเฉยๆ แล้วก็มี ผช. คนหนึ่ง ตัวสูงใหญ่ เดินชนเรา ชนหงายหลัง เพราะเขาไม่ทันได้มองเรา (เราสูงแค่ไหล่เขาเอง) เขาก็ขอโทษขอโพยใหญ่ จขกท. ก็ไม่ได้เจ็บมากเลยเดินดูหนังสือในร้านต่อ สักพักไม่ถึงสิบนาที เขาก็มาเลือกหนังสือข้างๆ แล้วเขาก็ชวนคุย (น้ำเสียงเขากระตุก กระตัก ฟังออกเลยว่าเขินมาก)
สักพักใหญ่ๆ จขกท. ก็ทำท่าจะออกจากร้าน เขาก็รีบบอกว่า จขกท. ว่าเขาเพิ่งมาห้างนี้เป็นครั้งแรก เลยอยากให้เราช่วยพาไปศูนย์อาหารหน่อย (ตอนนั้นเที่ยงพอดี) จขกท. ก็หิวขึ้นมากะทันหัน เลยโอเคไปกับเขาเพราะคิดว่าศูนย์อาหารคนก็เยอะ ไม่น่ามีอะไร ระหว่างกินข้าวก็นั่งคุยกันเรื่อยเปื่อย เขาก็แนะนำว่าตัวเองเป็นใครมาจากไหน แต่ไม่น่าเชื่อว่าแค่นั่งคุยกันธรรมดาจะปาเข้าไปถึง 4-5 ชั่วโมง
คนนี้ ชื่อพี่ ย. เขาแก่กว่า จขกท. 3-5 ปี
พอขากลับก็ลากันหน้าห้าง เขาก็ขอไลน์ (ไม่ขอเบอร์) ก็ให้ไลน์เขาไป แล้วตั้งแต่วันนั้นก็คุยกับเขาทุกวัน (ไม่เคยหายไปแม้แต่วันเดียว) คุยกันทุกเช้า-เย็น ส่วนใหญ่เขาจะส่งสติ๊กเกอร์มามากกว่า เพราะเขาบอกว่าเขาคุยไม่เก่ง จขกท.ก็ส่งสติ๊กเกอร์กลับ แล้วทีนี้ก็ต่างฝ่ายต่างส่งหากันเป็นจนเรื่องเป็นราว เป็นชั่วโมงๆ (นึกแล้วก็ขำ) ส่วนใหญ่ในแต่ละวัน เขาก็จะรายงานเองว่า วันนี้เขาไปไหนทำอะไรบ้าง ถ่ายรูปมาให้ดูตลอด ซึ่ง จขกท. ไม่เคยถามเลยแม้แต่ครั้งเดียว ไม่เคยถามว่าอยู่ไหน ทำอะไรอยู่ แรกๆ จขกท. ไม่เคยส่งรูปกลับ แต่ 2-3 เดือนต่อมา จขกท. ก็เริ่มส่งกลับบ้าง
แต่หลังจากที่เจอกันในห้างวันนั้นแล้ว จขกท. ก็ไม่ได้เจอเขาอีกเลย จนเข้าเดือนที่สาม เขาก็บอกว่าเขาแวะมาหาเราได้ 1 อาทิตย์เพราะเป็นวันหยุดยาว แต่ตอนแรก จขกท. นัด พี่ น. ไว้แล้ว แต่เขาก็เลื่อนมันเสียอย่างนั้น จขกท.ก็เลย โอเคกับ พี่ ย. แทน เพราะแค่ไปกินข้าวกัน ในฐานะเพื่อน คงไม่เป็นไร
แล้ววันนั้นจู่ๆ พี่ ย. ก็เอ่ยปากขอ จขกท. เป็นแฟน เพราะเขาบอกว่าคุยกับ จขกท. แล้วมีความสุขจนไม่อยากให้หายไปไหน ตอนนั้นก็ยังไม่ได้ตอบเสียทีเดียว แต่ก็ยิ้มๆ เป็นอันว่าตั้งแต่นั้นมา 2 ปีกว่าๆ จขกท. คบ ผช. 2 คน พร้อมกัน (ใครจะว่าไงก็แล้วแต่ มุมมองนะคะ) ด้วยทั้งคู่อยู่คนละ จังหวัด คนละที่ ดังนั้น โอกาส รถไฟชนกันก็แทบไม่มีเลย แต่เดือนกว่าๆ มานี้จขกท. ตั้งใจแน่วแน่แล้วว่า ถ้าเลือกใครแล้ว จะเลิกกับอีกคนเด็ดขาดแน่นอน
ทีนี่มาดูนิสัย จขกท.ก่อนนะคะจะได้เข้าใจมากขึ้น
อาชีพ:พนักงานออฟฟิศทั่วไป ทำงาน จ.-ศ. หยุด ส.-อ. (มีหนี้สินหลักหมื่น) ทำงานวนไปค่ะ
ครอบครัว:มีพี่สาว 1 คน จขกท. เป็นน้องสุดท้อง อายุเกือบ 30 แล้ว แต่ก็ยังมีนิสัยหลายๆ อย่างเหมือนเด็ก 10 ขวบ
นิสัย:อารมณ์ร้อน ขี้น้อยใจ ขี้บ่นมากก แต่บทจะเงียบก็ไม่คุยกับใครเลยเป็นอาทิตย์ๆ เบื่อคนง่ายและเมื่อไหร่จะใจดำก็ไม่แคร์ใครทั้งนั้น โลกส่วนตัวสูงปรี๊ดปรอทแตกเลยทีเดียว ร้องไห้กับคนยากแต่กับหนังละครน้ำตาไหลเป็นลิตรๆ แต่เพื่อนบอก จขกท. เป็นคนตลก มีมุกเยอะเป็นคนที่เป็นคนตัวของตัวเต็มที่
สิ่งที่ชอบ:อาหารรสจืด ภาพยนตร์ แฟนตาซี นิยาย หนังสือ โลกในจินตนาการ จขกท. เป็นคนไม่สูบบหุรี่ ไม่กินเหล้า ไม่เที่ยวกลางคืน เข้าบ้านไม่เกิน 2 ทุ่ม (ในกรอบเว่อร์ 5555+)
ประวัติของพี่ ย. ก่อนนะคะ
อาชีพ:พนักงานบริษัทธรรมดา เงินเดือนพอเลี้ยงตัวเองได้ กำลังผ่อนบ้าน มีรถยนต์มือสอง 1 คัน (มีหนี้สินมากระดับหนึ่งด้วย)
อายุ:สามสิบต้นๆ
การใช้จ่าย:ขี้เหนียวสุดๆ ไม่มีการซื้อดอกไม้เซอร์ไพรส์ในวันพิเศษ ไม่มีเซอร์ไพรส์วันเกิด ไม่มีกินข้าวในวันครบรอบอะไรทั้งนั้น มีแต่ จขกท. ซื้อหลายครั้งเวลาไปไหนก็ต้องหารกันคนละครึ่ง ส่วนใหญ่พากินแต่อาหารข้างทาง 40 บาท เขาออกค่าอาหาร จขกท.ออกค่าน้ำ และมื้อที่แพงที่สุดคือพันกว่าบาท และเป็นครั้งเดียวเพราะครั้งนั้นเราทั้งคู่บวกค่าอาหารผิด
ครอบครัว:เป็นลูกชายคนโต มีน้องสาว 1 คนแก่กว่าจขกท. 2 ปี น้องชาย 1 คนเด็กกว่าจขกท. 1 ปี
นิสัย:เป็นคนเสมอต้นเสมอปลาย ใจเย็น มีความเป็นผู้นำสูง ชอบสอน(ด้วยความที่เขาอายุไล่เลี่ยกับจขกท. ดังนั้น จขกท.สามารถอ้อน งอแงใส่ได้เต็มที่ เหนื่อยๆ ก็คอลไปบ่นนั้น บ่นนี้ได้) แต่ยังไงก็ตามถ้าจขกท. มีปัญหา เขาจะไม่แก้ไขให้เลย เขาจะบอกว่า ตัว สร้างปัญหาเอง ตัวก็ต้องแก้เอง ไม่ต้องมาบ่นให้ฟังเลย บางครั้งเขาก็เปลี่ยนเรื่องพูดไปซะอย่างนั้น แล้วก็จะเลี่ยงที่จะพูดถึงไปเลย แต่เวลาเขาทำผิด เขาไม่เคยขอโทษ เขาจะชอบพูดว่า ตัวนั้นแหละผิด ไม่ใช่ความผิดพี่เสียหน่อยและในเมื่อเขาเป็นคนประหยัดดังนั้น เขาไม่ใช่ ผช. โรแมนติก
การติดต่อ:ทุกวัน ตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้ 2 ปีไม่มีขาดหาย
สิ่งที่ชอบ:บาร์ เหล้า เบียร์ อาหารรสจัด และนอน แล้วเขาก็เป็นคนไม่ดูหนังเลย ไม่รู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับดาราเลยสักนิดเดียว ไม่สามารถคุยกับเขาเรื่องนี้ได้เลย (งกแต่เอาเงินไปลงเหล้า)
ตอนไปเที่ยวด้วบกัน:ด้วยความที่นิสัยแตกต่างกันมาก เวลาออกทิปไปไหนกัน วันหนึ่งก็แทบจะไม่ได้ไปไหนเลย อย่างครั้งล่าสุด ไปทะเล (เขาไม่ชอบทะเล) วันแรกตอนเช้า-สาย ขับมอไซค์ ผ่านทะเล (ขับผ่านเฉยๆ ไม่คิดจะลงไปว่ายหรือแตะน้ำแม้แต่น้อย) แล้วก็ไปห้างไปกินไอติม ตกเย็น เขาก็ไปส่งจขกท. ที่ห้องแล้ว เขาก็ไปบาร์ นั่งกินเบียร์ จนตี 2 ก็กลับมา เขาตื่นบ่ายโมง จขกท. ตื่นตี 5 ทั้งๆ ที่ตื่นลุกขึ้นมาเปิดประตูให้เขาแล้วนะตอนตี 2 จขกท. เป็นคนตื่นเร็วเป็นนิสัยอยู่แล้วดังนั้น กว่าเขาจะตื่น จขกท.ก็กินข้าวได้ 2 มื้อแล้ว แต่ไม่ได้ว่าอะไร เพราะเขาตื่นปุป ก็พาไปขับมอไซค์เล่นและชอบถามว่า ตัวอยากไปไหน อยากกินอะไรก็บอก(แต่จะพาไปไม่พาไปก็อีกเรื่อง)
สิ่งที่ประทับใจในตัวเขา:มีครั้งหนึ่ง จขกท.ไม่เคยบอกเลยว่า ตัวเองชอบดื่มนมช็อคโกแลตยี่ห้อนี้ เคยซื้อต่อหน้าเขาแค่ครั้งเดียวนานมากแล้ว แต่เขาจำได้ ถ้าไปไหนมาเขาก็จะแวะซื้อนมช็อคโกแลตยี่ห้อนี้มาฝากเสมอ และก็มีหลายๆ ครั้งถ้าไปเที่ยววันแรกแล้ว ที่ไหนแดดเปรี้ยง ตกเย็นจขกท. จะไข้ขึ้นทันที แล้ววันนั้นเขาก็จะไม่ไปบาร์เลยคือนอนกกเราจนติดไข้ไปด้วย แล้วก็หาผ้ามาเช็ดตัวให้ หายามาให้ คือดูแลจนเราหายดี
เรื่องทะเลาะกัน:เรื่องอาหาร จขกท.ชอบกินข้าวเหลือ มันติดเป็นนิสัย เขาก็จะโวยวาย ถ้าวันไหนเรากินเหลือให้จ่ายเอง / เขาชอบพูดเรื่องความผิดเราซ้ำ ชอบตอกย้ำ จนเราโวยวายกลับไปร้องไห้ฟูมฟายถามว่าทำไมชอบตอกย้ำ เขาก็ดีขึ้นเลิกพูดตอกย้ำไปพักใหญ่ แต่เดี๋ยวนี้ก็เริ่มกลับมาพูดอีก เหมือนอดไม่ได้
ความรู้สึกที่มีต่อเขา:เขาเป็นคนที่ทำให้ จขกท.หัวเราะได้ในรอบหลายปี และก็ทำให้ร้องไห้ได้ด้วยเช่นเดียวกัน ถ้าวันไหนเขาไม่ติดต่อมาวันนั้นเราจะว้าวุ่นใจ จนนอนไม่หลับ เพื่อนบอกจขกท. รักคนนี้ แต่จขกท. ไม่แน่ใจ
เวลาไปส่งที่สนามบินหรือสถานนีขนส่ง : เขาจะกอดจะหอมแล้วก็น้ำตาซึม บอกว่าคิดถึงมาก ไม่อยากกลับบ้าน กอดอยู่อย่างนั้นจนจขกท. อายคนที่เดินผ่านมา
ต่อมาประวัติของพี่ น. นะคะ
อาชีพ:เป็นเจ้าของโรงเรียน ติวเตอร์เล็กๆ มีลูกน้องราวๆ 10 คน มีฐานะพอสมควร
อายุ:สามสิบปลายๆ จะแตะ สี่สิบแล้ว
การใช้จ่าย:ตามใจเราทุกอย่าง อยากกินไรบอก เท่าไหร่จ่ายไม่อั๋น เขาบอกว่า ทดแทนในส่วนที่เขาไม่มีเวลาให้
ครอบครัว:เป็นลูกชายคนโต มีน้องสาว 1 คน
นิสัย:เรื่อยๆ เฉื่อยๆ ไม่ค่อยมีอะไรน่าค้นหาหรือตื่นเต้น เป็นผู้ใหญ่จนจขกท. ต้องโตตาม ไม่สามารถง้อแงหรือว่าอ้อนอะไรได้มากเท่าไหร่ งี่เง่าก็ไม่ได้ เพราะเขาจะไม่ง้อ แต่หลายครั้งเขาก็มีความเป็นเด็กจน จขกท.คาดไม่ถึง เขามักจะรับฟังปัญหาและช่วยแก้ไขเสมอ ไม่เคยตัดบทสนทนา เป็นคนโรแมนติกเล็กน้อย
การติดต่อ:นานๆ ที สองสามวันครั้ง ย้ายจากคุยใน อีเมล์ มาคุยในไลน์ ก็ยังคุยกันนานๆ ที ครั้งหนึ่งไม่ถึง 5 ประโยค
สิ่งที่ชอบ:ภาพยนตร์เหมือนกัน คุยกันเรื่องหนังได้ทั้งวัน ชอบมาร์เวล-ดีซี เหมือนกัน กินอาหารรสจืดเหมือนกัน ไม่ดื่มเหล้า ไม่สูบบุหรี่ เหมือนกัน มากสุดเขาจะดื่มไวน์แดงแค่แก้วเดียว
ตอนไปเที่ยวด้วบกัน:เขาจะอยู่กับเรา 24 ชั่วโมง ไม่ทิ้งเราแล้วไปดื่มเหล้าที่ไหน เขานอน 3 ทุ่มพร้อมๆ จขกท. ตื่นตี 5 พร้อมกัน ดังนั้นเวลาไปเที่ยวก็จะมีเวลาด้วยกันมาก และหลายครั้งเขาจะปล่อยให้เรานำ เช่น หนูไปก่อนเลย หนูเลือกเลย พี่ยังไงก็ได้
สิ่งที่ประทับใจในตัวเขา:เขาแก้ปัญหาให้เราเสมอ พึ่งพาอาศัยได้ในระดับดีทีเดียว
เรื่องทะเลาะกัน:ก็เรื่องที่เขาไม่ค่อยมีเวลาให้ เคยทะเลาะกันแรงมากครั้งหนึ่ง เขาก็ดีขึ้น ติดต่อเราบ่อยขึ้น แต่ก็ยังไม่มากพอ
ความรู้สึกที่มีต่อเขา:เนื่องจากเขาเป็นคนเฉยๆ จขกท. ก็เฉยๆ เช่นกัน มันบอกไม่ถูกอ่ะ ไม่ได้ตื่นเต้นหรือว่าอะไร เขาหายไปก็ไม่ได้เดือดร้อนมากนัก มันเป็นความรู้สึกเฉยๆ ก่อนเจอ พี่ ย. เสียอีก
เวลาไปส่งที่สนามบินหรือสถานนีขนส่ง:ก็จะแค่โบกมือลา ไม่ได้มีอะไรมากกว่านั้น ทั้งๆ ที่ก็ไม่รู้ว่าจะเจอกันอีกเมื่อไหร่ เพราะเวลาของเขาไม่แน่นอน
(ต่อ)
เราควรเลือกคนที่จะมาเป็นคู่ชีวิตด้วย "สมอง" หรือว่า "หัวใจ" ดีคะ
ตัว จขกท. เคยเห็นเพื่อนหลายคนมีปัญหาด้านนี้มากนักต่อนัก แต่ก็ไม่คิดว่าวันหนึ่งมันจะมาเกิดกับตัวเองเข้าจนได้
จขกท. มีแฟนคนแรก ตอนสมัยเรียน ม.ปลาย เรียนห้องเดียวกัน ระหว่างคบกัน ไม่เคยมีเรื่องมีที่ 3 เขาเป็นนักบอล จขกท. เป็นนักเรียนตัวอย่าง การเรียนมีแต่ดีขึ้นทั้งคู่ จนอาจารย์ชอบพาไปพูดหน้าเสาธง บอกว่าให้เอา คู่รักคู่นี้เป็น ตัวอย่าง โดยนิสัยแล้วจขกท. เป็นคนที่จริงจังกับความรักมาก ตั้งใจว่าคนนี้แหละจะแต่งงานด้วยหลังจบมหาลัย แต่แล้ว พอขึ้นมหาลัย ก็เลิกกัน เพราะ ผช. มี ผญ. อื่น (คือเห็นกับตาตอนพวกเขา ... กัน) ตอนนั้นทั้งอึ้งและตกใจ คือช็อคไปพักหนึ่ง แต่ไม่ร้องไห้เลยนะ แต่ก็กลายเป็นคนเย็นชาต่อความรักไปโดยปริยาย พอเพื่อนหลายๆ คนรู้ว่า จขกท.โสด ก็พยายามแนะนำคนนั้น คนนี้มาให้คุย แต่สุดท้ายก็คุยกันได้ไม่นาน เพราะจขกท. ก็เป็นฝ่ายถอยห่างมาเองเสียหมด หลายครั้ง จขกท. พูดจา ไม่ดีใส่คนที่เพื่อนแนะนำมาให้ เพื่อนด่าว่า "ใจจืด ใจดำ ฯลฯ" จนเพื่อนๆ ไม่พูดถึงเรื่องการจับคู่ให้เราอีกเลย คือมันกลายเป็นแบบว่าเราเฉยๆ กับคนที่เข้ามา ไม่สนุก ไม่รู้สึกอะไรเลย บางครั้งก็ถามตัวเองนะ "นี่เรา เป็นบ้าอะไรเนี่ย"
จขกท. โสดหลายปีมาก จนตั้งใจแล้วว่าจะขึ้นคานแน่นอน ทำงานเก็บเงิน ไว้เลี้ยงตัวเองตอนแก่ดีกว่า ไม่อยากมีมันแล้ว ครอบครัว ลูก
จนกระทั่งวันหนึ่ง จขกท. ได้มีโอกาสรู้จักกับ ผช. คนหนึ่ง เขาแก่กว่าหลายปีมาก เกือบๆ สิบปี และอยู่คนละจังหวัด วันนั้นบังเอิญเขาแวะมาที่บริษัท (ชื่อ พี่ น.) แล้วเราก็แลกนามบัตรกัน จากนั้นเราก็ติดต่อกันผ่านทางอีเมล์ แต่ก็ไม่ค่อยคุยกันแบบชู้สาว จะคุยเรื่อยเปื่อยมากกว่า เช่นอาทิตย์จะไปไหนทำอะไร แล้วก็ไม่ค่อยคุยโทรศัพท์ เพราะ จขกท. จะแบบ "อืมๆ อือๆ โอเคๆ แค่นี้นะคะ" และนานๆ ทีจะได้เจอ ถ้าอาิทิตย์ไหนเขาแวะมาที่ จ. ที่ จขกท. อยู่ เราก็จะไปดูหนังด้วยกัน เดือนละวัน สองวัน แค่นั้น
หลังรู้จักกันประมาณ 6 เดือน พี่ น. ก็เอ่ยปากขอเป็นแฟน แต่จขกท. ก็เฉยๆ ไม่ได้ตื่นเต้น แต่ก็ตอบตกลงไปงั้นๆ 5555+ เพราะเราก็โสด เอ้า ลองเปิดใจดูสักหน่อยก็แล้วกัน แต่พอมาระยะหลังๆ งานเขาเริ่มยุ่งมากขึ้นเรื่อยๆ จากเดือนละครั้งก็จะเป็นสองเดือนครั้ง สามเดือนครั้ง แต่แปลกที่ จขกท. ไม่ร้อนใจหรือว่ากระวนกระวายอะไรเลย เฉยมาก จนถามตัวเอง "นี่แกไร้หัวใจไปแล้วเรอะ"
แล้ววันที่เหตุการณ์ผลิกพันก็เกิดขึ้น วันนั้น จขกท. ไปดูหนังคนเดียว เพราะพี่ น. ขอเลื่อนนัด เพราะติดงานด่วน ปกติ จขกท.ก็ดูหนังคนเดียวอยู่แล้ว เพราะเพื่อนไม่ชอบดูหนังโรง เลยไม่ได้คิดมากหรือว่าน้อยใจอะไร พอวันนั้นดูหนังเสร็จ ก็ไปเดินเล่นร้านหนังสือต่อ ไม่ได้จะซ์้อ แต่เดินเฉยๆ แล้วก็มี ผช. คนหนึ่ง ตัวสูงใหญ่ เดินชนเรา ชนหงายหลัง เพราะเขาไม่ทันได้มองเรา (เราสูงแค่ไหล่เขาเอง) เขาก็ขอโทษขอโพยใหญ่ จขกท. ก็ไม่ได้เจ็บมากเลยเดินดูหนังสือในร้านต่อ สักพักไม่ถึงสิบนาที เขาก็มาเลือกหนังสือข้างๆ แล้วเขาก็ชวนคุย (น้ำเสียงเขากระตุก กระตัก ฟังออกเลยว่าเขินมาก)
สักพักใหญ่ๆ จขกท. ก็ทำท่าจะออกจากร้าน เขาก็รีบบอกว่า จขกท. ว่าเขาเพิ่งมาห้างนี้เป็นครั้งแรก เลยอยากให้เราช่วยพาไปศูนย์อาหารหน่อย (ตอนนั้นเที่ยงพอดี) จขกท. ก็หิวขึ้นมากะทันหัน เลยโอเคไปกับเขาเพราะคิดว่าศูนย์อาหารคนก็เยอะ ไม่น่ามีอะไร ระหว่างกินข้าวก็นั่งคุยกันเรื่อยเปื่อย เขาก็แนะนำว่าตัวเองเป็นใครมาจากไหน แต่ไม่น่าเชื่อว่าแค่นั่งคุยกันธรรมดาจะปาเข้าไปถึง 4-5 ชั่วโมง
คนนี้ ชื่อพี่ ย. เขาแก่กว่า จขกท. 3-5 ปี
พอขากลับก็ลากันหน้าห้าง เขาก็ขอไลน์ (ไม่ขอเบอร์) ก็ให้ไลน์เขาไป แล้วตั้งแต่วันนั้นก็คุยกับเขาทุกวัน (ไม่เคยหายไปแม้แต่วันเดียว) คุยกันทุกเช้า-เย็น ส่วนใหญ่เขาจะส่งสติ๊กเกอร์มามากกว่า เพราะเขาบอกว่าเขาคุยไม่เก่ง จขกท.ก็ส่งสติ๊กเกอร์กลับ แล้วทีนี้ก็ต่างฝ่ายต่างส่งหากันเป็นจนเรื่องเป็นราว เป็นชั่วโมงๆ (นึกแล้วก็ขำ) ส่วนใหญ่ในแต่ละวัน เขาก็จะรายงานเองว่า วันนี้เขาไปไหนทำอะไรบ้าง ถ่ายรูปมาให้ดูตลอด ซึ่ง จขกท. ไม่เคยถามเลยแม้แต่ครั้งเดียว ไม่เคยถามว่าอยู่ไหน ทำอะไรอยู่ แรกๆ จขกท. ไม่เคยส่งรูปกลับ แต่ 2-3 เดือนต่อมา จขกท. ก็เริ่มส่งกลับบ้าง
แต่หลังจากที่เจอกันในห้างวันนั้นแล้ว จขกท. ก็ไม่ได้เจอเขาอีกเลย จนเข้าเดือนที่สาม เขาก็บอกว่าเขาแวะมาหาเราได้ 1 อาทิตย์เพราะเป็นวันหยุดยาว แต่ตอนแรก จขกท. นัด พี่ น. ไว้แล้ว แต่เขาก็เลื่อนมันเสียอย่างนั้น จขกท.ก็เลย โอเคกับ พี่ ย. แทน เพราะแค่ไปกินข้าวกัน ในฐานะเพื่อน คงไม่เป็นไร
แล้ววันนั้นจู่ๆ พี่ ย. ก็เอ่ยปากขอ จขกท. เป็นแฟน เพราะเขาบอกว่าคุยกับ จขกท. แล้วมีความสุขจนไม่อยากให้หายไปไหน ตอนนั้นก็ยังไม่ได้ตอบเสียทีเดียว แต่ก็ยิ้มๆ เป็นอันว่าตั้งแต่นั้นมา 2 ปีกว่าๆ จขกท. คบ ผช. 2 คน พร้อมกัน (ใครจะว่าไงก็แล้วแต่ มุมมองนะคะ) ด้วยทั้งคู่อยู่คนละ จังหวัด คนละที่ ดังนั้น โอกาส รถไฟชนกันก็แทบไม่มีเลย แต่เดือนกว่าๆ มานี้จขกท. ตั้งใจแน่วแน่แล้วว่า ถ้าเลือกใครแล้ว จะเลิกกับอีกคนเด็ดขาดแน่นอน
ทีนี่มาดูนิสัย จขกท.ก่อนนะคะจะได้เข้าใจมากขึ้น
อาชีพ:พนักงานออฟฟิศทั่วไป ทำงาน จ.-ศ. หยุด ส.-อ. (มีหนี้สินหลักหมื่น) ทำงานวนไปค่ะ
ครอบครัว:มีพี่สาว 1 คน จขกท. เป็นน้องสุดท้อง อายุเกือบ 30 แล้ว แต่ก็ยังมีนิสัยหลายๆ อย่างเหมือนเด็ก 10 ขวบ
นิสัย:อารมณ์ร้อน ขี้น้อยใจ ขี้บ่นมากก แต่บทจะเงียบก็ไม่คุยกับใครเลยเป็นอาทิตย์ๆ เบื่อคนง่ายและเมื่อไหร่จะใจดำก็ไม่แคร์ใครทั้งนั้น โลกส่วนตัวสูงปรี๊ดปรอทแตกเลยทีเดียว ร้องไห้กับคนยากแต่กับหนังละครน้ำตาไหลเป็นลิตรๆ แต่เพื่อนบอก จขกท. เป็นคนตลก มีมุกเยอะเป็นคนที่เป็นคนตัวของตัวเต็มที่
สิ่งที่ชอบ:อาหารรสจืด ภาพยนตร์ แฟนตาซี นิยาย หนังสือ โลกในจินตนาการ จขกท. เป็นคนไม่สูบบหุรี่ ไม่กินเหล้า ไม่เที่ยวกลางคืน เข้าบ้านไม่เกิน 2 ทุ่ม (ในกรอบเว่อร์ 5555+)
ประวัติของพี่ ย. ก่อนนะคะ
อาชีพ:พนักงานบริษัทธรรมดา เงินเดือนพอเลี้ยงตัวเองได้ กำลังผ่อนบ้าน มีรถยนต์มือสอง 1 คัน (มีหนี้สินมากระดับหนึ่งด้วย)
อายุ:สามสิบต้นๆ
การใช้จ่าย:ขี้เหนียวสุดๆ ไม่มีการซื้อดอกไม้เซอร์ไพรส์ในวันพิเศษ ไม่มีเซอร์ไพรส์วันเกิด ไม่มีกินข้าวในวันครบรอบอะไรทั้งนั้น มีแต่ จขกท. ซื้อหลายครั้งเวลาไปไหนก็ต้องหารกันคนละครึ่ง ส่วนใหญ่พากินแต่อาหารข้างทาง 40 บาท เขาออกค่าอาหาร จขกท.ออกค่าน้ำ และมื้อที่แพงที่สุดคือพันกว่าบาท และเป็นครั้งเดียวเพราะครั้งนั้นเราทั้งคู่บวกค่าอาหารผิด
ครอบครัว:เป็นลูกชายคนโต มีน้องสาว 1 คนแก่กว่าจขกท. 2 ปี น้องชาย 1 คนเด็กกว่าจขกท. 1 ปี
นิสัย:เป็นคนเสมอต้นเสมอปลาย ใจเย็น มีความเป็นผู้นำสูง ชอบสอน(ด้วยความที่เขาอายุไล่เลี่ยกับจขกท. ดังนั้น จขกท.สามารถอ้อน งอแงใส่ได้เต็มที่ เหนื่อยๆ ก็คอลไปบ่นนั้น บ่นนี้ได้) แต่ยังไงก็ตามถ้าจขกท. มีปัญหา เขาจะไม่แก้ไขให้เลย เขาจะบอกว่า ตัว สร้างปัญหาเอง ตัวก็ต้องแก้เอง ไม่ต้องมาบ่นให้ฟังเลย บางครั้งเขาก็เปลี่ยนเรื่องพูดไปซะอย่างนั้น แล้วก็จะเลี่ยงที่จะพูดถึงไปเลย แต่เวลาเขาทำผิด เขาไม่เคยขอโทษ เขาจะชอบพูดว่า ตัวนั้นแหละผิด ไม่ใช่ความผิดพี่เสียหน่อยและในเมื่อเขาเป็นคนประหยัดดังนั้น เขาไม่ใช่ ผช. โรแมนติก
การติดต่อ:ทุกวัน ตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้ 2 ปีไม่มีขาดหาย
สิ่งที่ชอบ:บาร์ เหล้า เบียร์ อาหารรสจัด และนอน แล้วเขาก็เป็นคนไม่ดูหนังเลย ไม่รู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับดาราเลยสักนิดเดียว ไม่สามารถคุยกับเขาเรื่องนี้ได้เลย (งกแต่เอาเงินไปลงเหล้า)
ตอนไปเที่ยวด้วบกัน:ด้วยความที่นิสัยแตกต่างกันมาก เวลาออกทิปไปไหนกัน วันหนึ่งก็แทบจะไม่ได้ไปไหนเลย อย่างครั้งล่าสุด ไปทะเล (เขาไม่ชอบทะเล) วันแรกตอนเช้า-สาย ขับมอไซค์ ผ่านทะเล (ขับผ่านเฉยๆ ไม่คิดจะลงไปว่ายหรือแตะน้ำแม้แต่น้อย) แล้วก็ไปห้างไปกินไอติม ตกเย็น เขาก็ไปส่งจขกท. ที่ห้องแล้ว เขาก็ไปบาร์ นั่งกินเบียร์ จนตี 2 ก็กลับมา เขาตื่นบ่ายโมง จขกท. ตื่นตี 5 ทั้งๆ ที่ตื่นลุกขึ้นมาเปิดประตูให้เขาแล้วนะตอนตี 2 จขกท. เป็นคนตื่นเร็วเป็นนิสัยอยู่แล้วดังนั้น กว่าเขาจะตื่น จขกท.ก็กินข้าวได้ 2 มื้อแล้ว แต่ไม่ได้ว่าอะไร เพราะเขาตื่นปุป ก็พาไปขับมอไซค์เล่นและชอบถามว่า ตัวอยากไปไหน อยากกินอะไรก็บอก(แต่จะพาไปไม่พาไปก็อีกเรื่อง)
สิ่งที่ประทับใจในตัวเขา:มีครั้งหนึ่ง จขกท.ไม่เคยบอกเลยว่า ตัวเองชอบดื่มนมช็อคโกแลตยี่ห้อนี้ เคยซื้อต่อหน้าเขาแค่ครั้งเดียวนานมากแล้ว แต่เขาจำได้ ถ้าไปไหนมาเขาก็จะแวะซื้อนมช็อคโกแลตยี่ห้อนี้มาฝากเสมอ และก็มีหลายๆ ครั้งถ้าไปเที่ยววันแรกแล้ว ที่ไหนแดดเปรี้ยง ตกเย็นจขกท. จะไข้ขึ้นทันที แล้ววันนั้นเขาก็จะไม่ไปบาร์เลยคือนอนกกเราจนติดไข้ไปด้วย แล้วก็หาผ้ามาเช็ดตัวให้ หายามาให้ คือดูแลจนเราหายดี
เรื่องทะเลาะกัน:เรื่องอาหาร จขกท.ชอบกินข้าวเหลือ มันติดเป็นนิสัย เขาก็จะโวยวาย ถ้าวันไหนเรากินเหลือให้จ่ายเอง / เขาชอบพูดเรื่องความผิดเราซ้ำ ชอบตอกย้ำ จนเราโวยวายกลับไปร้องไห้ฟูมฟายถามว่าทำไมชอบตอกย้ำ เขาก็ดีขึ้นเลิกพูดตอกย้ำไปพักใหญ่ แต่เดี๋ยวนี้ก็เริ่มกลับมาพูดอีก เหมือนอดไม่ได้
ความรู้สึกที่มีต่อเขา:เขาเป็นคนที่ทำให้ จขกท.หัวเราะได้ในรอบหลายปี และก็ทำให้ร้องไห้ได้ด้วยเช่นเดียวกัน ถ้าวันไหนเขาไม่ติดต่อมาวันนั้นเราจะว้าวุ่นใจ จนนอนไม่หลับ เพื่อนบอกจขกท. รักคนนี้ แต่จขกท. ไม่แน่ใจ
เวลาไปส่งที่สนามบินหรือสถานนีขนส่ง : เขาจะกอดจะหอมแล้วก็น้ำตาซึม บอกว่าคิดถึงมาก ไม่อยากกลับบ้าน กอดอยู่อย่างนั้นจนจขกท. อายคนที่เดินผ่านมา
ต่อมาประวัติของพี่ น. นะคะ
อาชีพ:เป็นเจ้าของโรงเรียน ติวเตอร์เล็กๆ มีลูกน้องราวๆ 10 คน มีฐานะพอสมควร
อายุ:สามสิบปลายๆ จะแตะ สี่สิบแล้ว
การใช้จ่าย:ตามใจเราทุกอย่าง อยากกินไรบอก เท่าไหร่จ่ายไม่อั๋น เขาบอกว่า ทดแทนในส่วนที่เขาไม่มีเวลาให้
ครอบครัว:เป็นลูกชายคนโต มีน้องสาว 1 คน
นิสัย:เรื่อยๆ เฉื่อยๆ ไม่ค่อยมีอะไรน่าค้นหาหรือตื่นเต้น เป็นผู้ใหญ่จนจขกท. ต้องโตตาม ไม่สามารถง้อแงหรือว่าอ้อนอะไรได้มากเท่าไหร่ งี่เง่าก็ไม่ได้ เพราะเขาจะไม่ง้อ แต่หลายครั้งเขาก็มีความเป็นเด็กจน จขกท.คาดไม่ถึง เขามักจะรับฟังปัญหาและช่วยแก้ไขเสมอ ไม่เคยตัดบทสนทนา เป็นคนโรแมนติกเล็กน้อย
การติดต่อ:นานๆ ที สองสามวันครั้ง ย้ายจากคุยใน อีเมล์ มาคุยในไลน์ ก็ยังคุยกันนานๆ ที ครั้งหนึ่งไม่ถึง 5 ประโยค
สิ่งที่ชอบ:ภาพยนตร์เหมือนกัน คุยกันเรื่องหนังได้ทั้งวัน ชอบมาร์เวล-ดีซี เหมือนกัน กินอาหารรสจืดเหมือนกัน ไม่ดื่มเหล้า ไม่สูบบุหรี่ เหมือนกัน มากสุดเขาจะดื่มไวน์แดงแค่แก้วเดียว
ตอนไปเที่ยวด้วบกัน:เขาจะอยู่กับเรา 24 ชั่วโมง ไม่ทิ้งเราแล้วไปดื่มเหล้าที่ไหน เขานอน 3 ทุ่มพร้อมๆ จขกท. ตื่นตี 5 พร้อมกัน ดังนั้นเวลาไปเที่ยวก็จะมีเวลาด้วยกันมาก และหลายครั้งเขาจะปล่อยให้เรานำ เช่น หนูไปก่อนเลย หนูเลือกเลย พี่ยังไงก็ได้
สิ่งที่ประทับใจในตัวเขา:เขาแก้ปัญหาให้เราเสมอ พึ่งพาอาศัยได้ในระดับดีทีเดียว
เรื่องทะเลาะกัน:ก็เรื่องที่เขาไม่ค่อยมีเวลาให้ เคยทะเลาะกันแรงมากครั้งหนึ่ง เขาก็ดีขึ้น ติดต่อเราบ่อยขึ้น แต่ก็ยังไม่มากพอ
ความรู้สึกที่มีต่อเขา:เนื่องจากเขาเป็นคนเฉยๆ จขกท. ก็เฉยๆ เช่นกัน มันบอกไม่ถูกอ่ะ ไม่ได้ตื่นเต้นหรือว่าอะไร เขาหายไปก็ไม่ได้เดือดร้อนมากนัก มันเป็นความรู้สึกเฉยๆ ก่อนเจอ พี่ ย. เสียอีก
เวลาไปส่งที่สนามบินหรือสถานนีขนส่ง:ก็จะแค่โบกมือลา ไม่ได้มีอะไรมากกว่านั้น ทั้งๆ ที่ก็ไม่รู้ว่าจะเจอกันอีกเมื่อไหร่ เพราะเวลาของเขาไม่แน่นอน
(ต่อ)