กระแสกลุ่มคนรักชาวนานี่มาแรงจริงๆ น่าดีใจนะครับที่มีคนหลายกลุ่ม ช่วยกันแก้ปัญหา ราคาข้าวตกต่ำของชาวนาไทย
แต่การแก้ปัญหาเหล่านั้นคนส่วนใหญ่ยังขาดการยึดถึงหลักความจริง เป็นการแก้ปัญหาโดยการสร้างสตอรี่สวยๆ แล้วโพสให้คนกดไลค์และแชร์กัน โดยคนโพสนั่งฟินกับสตอรี่ของตัวเอง
มีการยึดหลักการเกษตรของวิศวกรหนุ่ม หรือ สถาปนิก ที่ผันตัวไปเป็นชาวนาโดยที่ไม่ได้เอ่ยถึงปูมหลังว่ามีเงินในธนาคาร 6-7 หลัก จากการทำงาน ก่อนที่จะผันตัวไปทำตามฝัน
บุคคลเหล่านั้นคิดดีครับ ผมไม่ได้บอกว่าเขาคิดไม่ดี แต่การยึดเอาสิ่งที่เค้าทำไปเป็นบรรทัดฐานว่าชาวนาทั้งหมดต้องทำได้อย่างนั้น มันไม่ถูกต้อง เพราะความรู้ความสามารถและต้นทุนของแต่ละคนไม่เท่ากัน
ยกตัวอย่างเช่น การเอ่ยถึงการทำนาแบบเกษตรอินทรีย์ ซึ่งถ้าคุณมีเวลาพอที่จะรอการผลิต พวกปุ๋ย คุณจะไม่จำเป็นต้องใส่มันและผลิตปุ๋ยหมักขค้นเองได้ แต่ถ้าคุณต้องจ่ายหนี้ ธกส. ล่ะ คุณจะรอปุ๋ยให้หมักจนได้ที่หรือไม่ ?
เช่นเดียวกัน รถเกี่ยวข้าว หลายคนบอกทำไมไม่เกี่ยวเองล่ะ ประหยัดต้นทุน เพื่อจะได้เพิ่มกำไร นี่คือความคิดของคนรุ่นใหม่ครับ แต่ไปดูชาวนาจริงๆ อายุ 60+ ก็มี คิดว่าคนอายุขนาดนั้นจะไปเกี่ยวข้าวหลายๆไร่ไหวมั้ย ?
และที่หนักไปกว่านั้นบางคนบอก ปลูกแค่พอกินสิ !! คือนี่คิดแล้วรึเปล่าว่าปลูกแค่พอกิน แล้วการสร้างรายได้จากชาวนาล่ะครับ จะให้เป็น 0 เลยหรอ แล้ว สบู่ ยาสีฟัน ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าเล่าเรียนบุตรหลาน ค่าดูแลซ่อมแซมบ้านที่อยู่อาศัยล่ะครับ เค้าไม่ต้องจ่ายแล้วหรือไง
มีสถาปนิกหนุ่มคนนึงเขียนข้อความบนเฟสบุคว่า สีข้าวเอง จากโรงสีแถวบ้าน แล้วแพ็กใส่ถุง ใส่รถไปขายเองในตลาด #ไม่ต้องง้อพ่อค้าคนกลาง ถามว่า ข้าว 1 ไร = 400 กิโลกรัม ( ข้อมูลดิบจากลุงคนนึงที่มาถ่ายคลิปตัดพ้อรัฐบาล ) ชาวนาบางคนมีรถกระบะเก่าๆ คันนึง เค้าจะแบกข้าวจากผลผลิตนา 5 ไร่ 5×400 = 2 ตัน ไปขายได้อย่างไร
ขายข้าวออนไลน์ล่ะ ! คิดดีครับ แต่เป็นไปได้จริงมั้ยบอกเลยว่ายากมาก เพราะชาวนา ตา-ยาย บางคนเล่นคอมไม่เป็นจริงๆ จะกลายเป็นการไปสร้างอาชีพใหม่ของพวกวัยรุ่นฟรุ้งฟริ้ง รับข้าวชาวนามาขายออนไลน์ สุดท้าย ชาวนาจนเหมือนเดิม คนรวยคือะวกอาชีพใหม่เหล่านั้น ... และถึงทำได้จริง ค่าส่งล่ะครับ ไปรษณีย์ไทยคิดค่าส่งเป็นกิโล กิโลละเท่าไหร่ มันก็จะมาบวกอยู่ในต้นทุนของชาวนาอีก
ถามว่าเห็นด้วยมั้ย ผมเห็นด้วยและช่วยเหลือเต็มที่เท่าที่จะทำได้ ถ้าหากว่ามันทำได้จริง
ขอโทษครับที่คิดต่าง แต่อยากให้การคิดเหล่านั้นมันเป็นเพียงแค่แนวคิดเพื่อนำไปต่อยอด ไม่ใช่จะไปสร้างฝันให้กับชาวนา โดยที่โอกาสในการเกิดขึ้นจริงยังไม่ 100 % ครั้นแต่จะสร้างผลเสียให้กับพวกเค้าเข้าไปอีก
การแก้ปัญหาให้ชาวนาไทย มันง่ายอย่างที่แชร์กันในเฟสบุค จริงๆหรอครับ
แต่การแก้ปัญหาเหล่านั้นคนส่วนใหญ่ยังขาดการยึดถึงหลักความจริง เป็นการแก้ปัญหาโดยการสร้างสตอรี่สวยๆ แล้วโพสให้คนกดไลค์และแชร์กัน โดยคนโพสนั่งฟินกับสตอรี่ของตัวเอง
มีการยึดหลักการเกษตรของวิศวกรหนุ่ม หรือ สถาปนิก ที่ผันตัวไปเป็นชาวนาโดยที่ไม่ได้เอ่ยถึงปูมหลังว่ามีเงินในธนาคาร 6-7 หลัก จากการทำงาน ก่อนที่จะผันตัวไปทำตามฝัน
บุคคลเหล่านั้นคิดดีครับ ผมไม่ได้บอกว่าเขาคิดไม่ดี แต่การยึดเอาสิ่งที่เค้าทำไปเป็นบรรทัดฐานว่าชาวนาทั้งหมดต้องทำได้อย่างนั้น มันไม่ถูกต้อง เพราะความรู้ความสามารถและต้นทุนของแต่ละคนไม่เท่ากัน
ยกตัวอย่างเช่น การเอ่ยถึงการทำนาแบบเกษตรอินทรีย์ ซึ่งถ้าคุณมีเวลาพอที่จะรอการผลิต พวกปุ๋ย คุณจะไม่จำเป็นต้องใส่มันและผลิตปุ๋ยหมักขค้นเองได้ แต่ถ้าคุณต้องจ่ายหนี้ ธกส. ล่ะ คุณจะรอปุ๋ยให้หมักจนได้ที่หรือไม่ ?
เช่นเดียวกัน รถเกี่ยวข้าว หลายคนบอกทำไมไม่เกี่ยวเองล่ะ ประหยัดต้นทุน เพื่อจะได้เพิ่มกำไร นี่คือความคิดของคนรุ่นใหม่ครับ แต่ไปดูชาวนาจริงๆ อายุ 60+ ก็มี คิดว่าคนอายุขนาดนั้นจะไปเกี่ยวข้าวหลายๆไร่ไหวมั้ย ?
และที่หนักไปกว่านั้นบางคนบอก ปลูกแค่พอกินสิ !! คือนี่คิดแล้วรึเปล่าว่าปลูกแค่พอกิน แล้วการสร้างรายได้จากชาวนาล่ะครับ จะให้เป็น 0 เลยหรอ แล้ว สบู่ ยาสีฟัน ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าเล่าเรียนบุตรหลาน ค่าดูแลซ่อมแซมบ้านที่อยู่อาศัยล่ะครับ เค้าไม่ต้องจ่ายแล้วหรือไง
มีสถาปนิกหนุ่มคนนึงเขียนข้อความบนเฟสบุคว่า สีข้าวเอง จากโรงสีแถวบ้าน แล้วแพ็กใส่ถุง ใส่รถไปขายเองในตลาด #ไม่ต้องง้อพ่อค้าคนกลาง ถามว่า ข้าว 1 ไร = 400 กิโลกรัม ( ข้อมูลดิบจากลุงคนนึงที่มาถ่ายคลิปตัดพ้อรัฐบาล ) ชาวนาบางคนมีรถกระบะเก่าๆ คันนึง เค้าจะแบกข้าวจากผลผลิตนา 5 ไร่ 5×400 = 2 ตัน ไปขายได้อย่างไร
ขายข้าวออนไลน์ล่ะ ! คิดดีครับ แต่เป็นไปได้จริงมั้ยบอกเลยว่ายากมาก เพราะชาวนา ตา-ยาย บางคนเล่นคอมไม่เป็นจริงๆ จะกลายเป็นการไปสร้างอาชีพใหม่ของพวกวัยรุ่นฟรุ้งฟริ้ง รับข้าวชาวนามาขายออนไลน์ สุดท้าย ชาวนาจนเหมือนเดิม คนรวยคือะวกอาชีพใหม่เหล่านั้น ... และถึงทำได้จริง ค่าส่งล่ะครับ ไปรษณีย์ไทยคิดค่าส่งเป็นกิโล กิโลละเท่าไหร่ มันก็จะมาบวกอยู่ในต้นทุนของชาวนาอีก
ถามว่าเห็นด้วยมั้ย ผมเห็นด้วยและช่วยเหลือเต็มที่เท่าที่จะทำได้ ถ้าหากว่ามันทำได้จริง
ขอโทษครับที่คิดต่าง แต่อยากให้การคิดเหล่านั้นมันเป็นเพียงแค่แนวคิดเพื่อนำไปต่อยอด ไม่ใช่จะไปสร้างฝันให้กับชาวนา โดยที่โอกาสในการเกิดขึ้นจริงยังไม่ 100 % ครั้นแต่จะสร้างผลเสียให้กับพวกเค้าเข้าไปอีก