เพื่อนที่ไปงานหนังสือฯมาเห็นตรงกับผมไหมครับ

#เมื่อฉันมางานหนังสือ #มาทำไม_ทำไมต้องมา
#มาแล้วได้อะไร #แล้วไม่มาจะเสียอะไร
.
#คือมีอะไรมากมายเหลือเกินที่อยากเล่า_และมีอะไรอีกเล็กน้อยที่อยากบ่น
เริ่มจากเรื่องแรกก่อนดีกว่า มหกรรมหนังสือระดับชาติ ครั้งที่21(ชื่อเล่น:งานหนังสือ) มาในธีม'เสนอหน้า' คำๆนี้หากฟังผาดๆ คงมิสบอารมณ์กันใช่ย่อย ด้วยเพราะความคุ้นชินในความหมายเชิงความรู้สึกว่า 'ไม่ควรปรากฎกายหรือเผยความสำคัญให้รับรู้' ยิ่งแปลก็เหมือนยิ่งงง งั้นแปลเเบบบ้านๆให้เข้าใจง่ายๆคือ "อย่าเผือกกก.." แต่ขึ้นชื่อว่างานใหญ่ระดับชาติอย่างนี้ และเลือกเอาคำๆนี้มาเป็นจุดขายของงาน คงต้องมีอะไรเด็ดๆแน่นอน และนั้นคือหนึ่งในสิ่งหลักที่อยากเล่าในบทความนี้ และอีกสิ่งที่อยากบ่น(คันปากยิบๆ) สิ่งนี้ที่กำลังจะบ่นถือเป็นจุดขาย(หน้า)อีกอย่างหนึ่งของงาน ที่มิได้มาจากการครีเอทของผู้จัดอย่างเรื่องแรก แต่เรื่องนี้กลับมาจากลักษณะพิเศษทางนิสัยส่วนตัว ของผู้เข้าร่วมที่มางานหนังสือในคราวนี้ ผู้จัดใช้คำว่า'เสนอหน้า' แต่ผู้มาร่วม(ชนกลุ่มน้อย)กลับเเสดงออกบางสิ่งบางอย่างออกมา เรียกได้ว่า'เสนอใจ'ให้เห็นเนื้อแท้กันเลยทีเดียว
.
#เสนอหน้า คืออะไร หัวข้อคำโปรยนั้นเราจะเข้าใจลึกซึ้งก็ต่อเมื่อมาถึงงานนี้แล้วเท่านั้น ด้านหน้าโถงใหญ่มีการจัด'นิทรรศการเสนอหน้า เบื้องหลัง6อาชีพคนทำหนังสือ' พร้อมนำเสนอถึงกระบวนการต่างๆ ของการทำ ว่าประกอบไปด้วยส่วนใดและเเต่ละส่วนมีหน้าที่หลักอย่างไรบ้าง กว่าจะกลายมาเป็นหนังสือหนึ่งเล่ม ควรค่าอย่างยิ่งที่จะเสียสละเวลา เล็กน้อยเดินชมสื่อแสดงเหล่านี้ เพราะภายในงานมีพวกเค้าเหล่านั้นเดินกันสลอนไปมาอย่างหน้าชื่นตาบาน แต่ส่วนตัวผมใช้เวลาตรงนี้นานมาก เพราะด้วยอะไรนะเหรอ ต้องไปดูเองเเล้วจะเข้าใจ
.
#เสนอหน้า มีใครบ้างที่มาเสนอหน้า ไล่มาตั้งแต่ นักแปล บรรณาธิการ นักพิสูจน์อักษร กราฟิกดีไซเนอร์ นักวาดภาพประกอบ และนักเขียน นี้คือ6อาชีพที่ทำให้เกิดงานนี้ขึ้นมาต่อเนื่องถึง21ครั้งแล้ว หากขาดพวกเข้าไป คงไม่มีบทความชิ้นนี้เช่นกัน สมควรแก่เวลายิ่งนักที่ควรให้คนเหล่านี้ เสนอหน้า กันสักทีหลังจากเป็นผู้อยู่เบื้องหลังมานาน
.
#ก่อนจะถึงเรื่องอยากบ่น แวะเติมความสุนทรีย์กันหน่อย กับรายละเอียดบางๆของานใหญ่ครานี้ ก่อนอื่นเลย งานนี้เหมาะกับใคร คำถามนี้อาจจะไม่ถูกถาม เพราะคนที่เคยมาแล้วในครั้งก่อนๆ ก็มีคำตอบ ส่วนคนที่ไม่เคยมาก็มีคำตอบเช่นกัน จะมีเหตุผลอะไรก็เเล้วแต่ ล้วนเป็นสิทธิ์ของปัจเจกชน แต่หากคนที่เคยมางานนี้เเล้วสามารถกลับไปสร้างความเปลี่ยนแปลงแก่ตนเองและสังคมได้ล่ะก้อ เชื่อว่าปีถัดๆไป อาจจะเดินกันลำบากกว่านี้อีกเท่าตัวแน่นนอน
.
#มาแล้วได้อะไร? อันนี้ตอบยากกส์..และไม่อยากตอบ แต่จะขอถามกลับว่า แล้วไม่มาได้ล่ะอะไร? ภายในงานจะได้เจอกับซุ้มมือปืนเอ้ย..ซุ้มนักเขียน ที่มารอแจกความประทับใจกับผู้อ่าน หลังจากที่ทั้งสองรู้จักกันผ่านตัวอักษรจนสนิทชิดเชื้อ ก็ได้เวลามานั่งๆยืนๆมองตากันให้หายคิดถึง แน่นอนงานหนังสือต้องมีหนังสือและสื่อการเรียนรู้นานาชนิด จะเล่าทั้งหมดคงไม่ไหว คงต้องหาเวลามากันเองแหละดีที่สุด
.
#ถึงเรื่องที่อยากบ่น ก่อนอื่นเลยสิ่งที่จะเล่าต่อจากนี้ไป ออกตัวก่อนว่าเป็นแค่ชุดความคิด จากสิ่งที่ผมพบเห็นเพียงบางช่วงเท่านั้น มิได้เหมารวมทั้งหมดว่าเป็นเช่นนี้  'ศิลปะของการใช้ชีวิตอยู่รวมกันของผู้คนที่มาร่วมงานถือว่าสอบตก' ผมอาจจะคิดไปเองหรือมองขวางโลกไปเองก็ได้ เนื่องจากผมมารถไฟฟ้าใต้ดิน ซึ่งมีธรรมเนียมที่และวัฒนธรรมที่แปลกๆอยู่แล้ว คือรถไฟฟ้าใต้ดินเนี่ย ผมเข้าใจดีนะครับว่า เค้าห้ามพกพาน้ำดื่มมาดื่ม แต่มิได้เหมารวมว่าห้ามเอาน้ำใจมาแบ่งปันกันมิใช่หรือ? ในเรื่องนี้ขอแตะผ่านๆ(รอชำแหละคราวหน้า)
.
#ส่วนในพื้นที่งาน แน่นอนครับ คนเยอะเรื่องแยะเป็นธรรมดา ยิ่งเรื่องที่เป็นสามัญอย่างเรื่องอาหารการกินแล้ว เลี่ยงไม่ได้เลยที่จะพบเจอกับปัญหา โซนอาหารภายในยังพอทำเนา ที่มีพี่ๆน้าๆแม่บ้านตามเช็ดตามถู แต่คงไม่ได้ทั้งหมด ทุกคนควรตระหนักในความรับผิดชอบรวมกันกว่านี้ มิใช่คิดว่าไม่ใช่ธุระ แล้วปล่อยวางไว้อย่างนั้น ส่วนด้านนอกนี่ยิ่งเเล้วใหญ่ กินเสร็จสะบัดก้นใส่ก็มีให้เห็น บางรายเดินกินอยู่ดีๆเเทนจะไปทิ้งลงถังกลับมาตั้งไว้บนโต๊ะซะงั้น อืม..น่าคิด แต่ที่แย่ที่สุดที่พบเห็น คือซื้ออาหารมานั่งกินบนโต๊ะ ที่มีร่องรอยของการฟัดเหวี่ยงให้เห็นคาตา ครั้นเมื่อกินเสร็จก็เอาของตัวเองไปทิ้ง แต่กลับละเลยกับร่องรอยอันเก่า ปล่อยให้เป็นอนุสรณ์แก่คนรุ่นหลังหรืออย่างไร..? #อ้อสำหรับพี่น้องมุสลิม อาหารฮาลาลพอมีให้หาได้ แต่ควรตระเตรียมมาบ้างจะดีมิใช่น้อย
.
#เรื่องห้องน้ำก็ดีหน่อย ที่ได้ป้าๆแม่บ้านเฝ้าวนอยู่ตลอด เรีนกว่ามีที่เล็ดลอดการตรวจสอบมาน้อย แต่หากคิดสักนิด ทุกคนที่ใช้ห้องน้ำก็ควรรับผิดชอบของส่วนร่วมด้วย มิใช่ดูแลแต่ ของส่วนตน #ส่วนมุสลิมที่ต้องใช้ห้องน้ำเพื่ออาบน้ำละหมาด ควรดูแลความเรียบร้อยด้วย อย่าให้เค้าว่าตามหลังได้ล่ะ ห้องละหมาดก็มีลองสอบถามที่ประชาสัมพันธ์กันดู ยังไงก็ระวังเรื่องเวลาหน่อย อย่าเพลินกันมากจนเลยเวลาสำคัญ
.
#ในดีมีแย่ในแย่ก็ยังมีดี ในเรื่องดีๆที่เห็นก็มีเรื่องแย่ให้ขบคิด ทำไมคนที่มีจิตสำนึกดีๆ เค้าไม่กล้าที่จะตักเตือนคนอื่นๆที่บกพร่อง หรือมองว่าฉันดีคนเดียวก็เพียงพอ นั้นยังไม่ใช่วิสัยของคนดีหรอกครับ หรือไม่ก็ขาดองค์ความรู้ในการตักเตือน การตักเตือนที่ดีมีวิธีของมันอยู่ ไม่ใช่ถ่ายรูปแล้วเตือนลงโซเชียลแบบที่เคยเห็น อันนั้นรังแต่จะแพร่เชื้อร้ายให้กระจายตัวอย่างรวดเร็ว มิได้บรรเทาอะไรได้เลย
.
#ส่วนเรื่องดีๆในเรื่องแย่ เชื่อว่างานหนังสือครั้งนี้ยังไม่ใช่รถไฟขบวนสุดท้าย ยังมีงานดีๆที่กำลังจะเกิดขึ้นอีกมากมาย(เดือนหน้ามีงานหนังสือเด็ก)รอพวกเราอยู่ เอาบทเรียนในครานี้เป็นบันได ให้จิตใจไต่สูงขึ้นด้วยเมตตา ช่วยเหลือ แบ่งปัน ถือโอกาสในช่วงที่คำสอนของพ่อหลวง กำลังก้องกังวารในโสตประสาทของเหล่าไทยทั้งผอง มาร่วมกันประคับประคองสิ่งดีๆที่พ่อสอนให้เป็นจริงดั่งที่พ่อหวัง เชื่อเหลือเกินว่าคนที่มาร่วมงานหนังสือครั้งนี้ ทุกคนรักพ่อหลวงอย่างจริงใจ ด้วยสัญลักษณ์แห่งสีเสื้อ ที่ปรากฎจากผู้จัดและผู้เข้าร่วมที่สัมผัสได้
.
#เมื่อฉันมางานหนังสือ อาจจะเป็นมุมมองที่คิดเองเพียงลำพังก็เป็นได้ หรือหากใครที่พอเห็นด้วยกับสิ่งที่ผมเขียนไป จงช่วยกันนำสิ่งนี้ไปสู่สังคมด้วย พวกเราอาจเป็นฟันเฟืองสำคัญในการสร้างสังคมอุดมสุขก็เป็นได้
#เพราะการอ่านคือการงอกเงย ครูผมสอนไว้
.
#หากหนังสือคือประตูสู่ความรู้
#การอ่านคือประตูสู่ความหวัง
#ความรักคือประตูแห่งพลัง
#ความชิงชังคือประตูถูกปิดตาย
.
รอชิดีน อัล-เกาซัร
#นายอ่อนหัด
16-10-59
มหกรรมหนังสือระดีบชาติครั้งที่21
13-24 ตุลาคม 2559
ณ ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่