ใครคือผู้กำหนดว่าอัลลอฮ์ "จะทรงรับการละหมาด" หรือ "ไม่ยอมรับการละหมาด" ในรูปแบบใดของมุสลิม?

เราชาวมุสลิมมักสงสัยว่าใครเป็นผู้กำหนดว่าอัลลอฮ์ "จะทรงรับการละหมาด" หรือ "ไม่ยอมรับการละหมาด" ในรูปแบบใด นั้นนักวิชาการอาศัยคำแนะนำที่อ่านพบได้ ในคัมภีร์อัลกุรอานและ หะดีษ, อย่างแน่นอนผู้ที่ตำหนิหรือประณามว่าการละหมาดเช่นนั้น/เช่นนี้อัลลอ์ไม่รับนั้น บุคคลเหล่านี้ อย่างแน่นอน พวกเขาก็ไม่อาจจะอ่านใจของอัลลอฮ์ได้ เขาเพียงแต่ปฏิบัติตามหลักปฏิบัติและแนวทางทางศาสนาที่กำหนดไว้เท่านั้น คำแนะนำเหล่านั้นอาจะได้มาจากอัลกุรอานซึ่งเป็นคัมภีร์เล่มเดียว ของศาสนาอิสลาม อันมีบทต่างๆ ที่อธิบายความสำคัญของการละหมาด (ศอละห์) และวิธีการละหมาดที่ถูกต้องไว้ อีกอย่างหนึ่งก็คือฮะดีษ และซุนนะห์ ซึ่งเป็นที่เชื่อกันว่าอาจจะเป็นคำสอนและการกระทำที่แท้จริงของท่านศาสดมูฮัมมัดที่ถูกบันทึกไว้ ซึ่งให้บริบทเพิ่มเติมและคำแนะนำเกี่ยวกับการละหมาด
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เมื่อพิจารณาอย่างถี่ถ้วนแล้ว พบว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดนั้นไม่ใช่ท่าทางในการละหมาดหรือการอ่านท่องอัลกุรอานอย่างถูกต้อง แต่อยู่ที่เจตนา (นียะห์) ทั้งนี้มุสลิมจะต้องมีเจตนาที่ถูกต้องเมื่อละหมาด เนื่องจากความจริงใจเป็นสิ่งสำคัญต่อการยอมรับการละหมาดภาคบังคับประจำวัน ทั้ง 5 เวลา  ซึ่งเวลาต่างๆได้ถูกกำหนดให้ละหมาดในเวลาที่กำหนดไว้ตลอดทั้งวัน และการปฏิบัติให้ถูกต้องถือเป็นสิ่งสำคัญ การปฏิบัติหลายอย่างยังได้รับอิทธิพลจากฉันทามติของนักวิชาการและประเพณีของชุมชนมุสลิมอีกด้วย, มุสลิมส่วนมากเชื่อว่าการการทำละหมาดเป็นรูปแบบการสื่อสารโดยตรงกับอัลลอฮ์ ดังนั้นมุสลิมทุกๆคนพยายามอย่างยิ่งที่จะทำการละหมาดให้สอดคล้องกับพระประสงค์ของ อัลลอฮ์ตามที่ปรากฏในคัมภีร์อัลกุรอาน

ความตั้งใจในตอนต้นของการละหมาดหรือการประกอบพิธีกรรมใดๆ ก็ตาม เกี่ยวข้องกับหัวใจ หมายความว่าเป็นความตั้งใจหรือความคิดที่เกิดขึ้นในหัวใจเกี่ยวกับการกระทำนั้นๆ ไม่มีคำวิงวอนจากอัลกุรอานหรือหะดีษที่เฉพาะเจาะจงสำหรับการตั้งเจตนาของมุสลิม อัลลอฮ์เท่านั้นที่จะเห็นและเข้าใจได้  เรื่องของเจตนาไม่ได้จำกัดอยู่แค่การละหมาดเท่านั้น แต่ใช้ได้กับการประกอบพิธีกรรมใดๆ เช่น การตั้งเจตนาไว้ก่อนชำระร่างกายก่อนอาบน้ำ ก่อนจ่ายซะกาต และก่อนบริจาคทาน การประกอบพิธีกรรมใดๆ ก็ตาม จะต้องตั้งเจตนาก่อนและเป็นเรื่องของความตั้งใจในหัวใจ ไม่มีคำพูดที่เฉพาะเจาะจงสำหรับเรื่องนี้
โดยพื้นฐานแล้ว คำพูดจำเป็นสำหรับลิ้น แต่หัวใจไม่ต้องการคำพูด หัวใจในที่นี้หมายถึงความคิดที่อยู่ลึกมากกว่าคำพูด

โดยสรุป มุสลิมเราอาศัยคัมภีร์อัลกุรอานและแนวทางปฏิบัติ (ซุนนะห์) อันเป็นที่ยอมรับเพื่อทำความเข้าใจถึงวิธีการละหมาดหรือการวิงวอนในลักษณะที่อัลลอฮ์ทรงพอใจ สิ่งนั้นก็คือความตั้งใจอย่างจริงใจและความเชื่อมั่นในศรัทธาอย่างลึกซึ้ง นั้นก็คือผู้ที่กำลังทำการละหมาดอยู่เท่านั้นที่จะบอกได้ว่าการทำละหมาดนั้นเป็นที่ยอมรับของพระองค์อัลลอฮ์หรือไม่?
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่