เอาภาพนี้มาแปะแทนเพราะตอนนี้ไม่มีภาพเปิดครับ
- เปิดตอนมาต่อจากตอนที่แล้วที่พระเอกวิ่งตามหาคนน้องไปทั้งโรงเรียนจนเจอ
- เจอตัวปุ๊บ พระเอกก็ไม่พูดพร่ำทำเพลง คว้าข้อมือคนน้องพาวิ่งออกไปจากโรงเรียน ไม่นำพากับเสียงร้องประท้วงอย่างตกใจของคนน้องแม้แต่นิด
- วิ่งไปเรื่อยๆ จนมาถึงที่ที่ไม่มีคนอยู่ คนน้องก็ยืนหอบอยู่จนหายเหนื่อยสักพักก็ถามพระเอกว่าอยู่ดีๆ พาตัวเองมาที่นี่ทำไม พระเอกก็บอกว่าอัลจะได้ไม่มาเห็นเข้าไง และถามคนน้องว่าไปหาอัลมาแล้วใช่มั้ย
- โดนถามแบบนั้น คนน้องก็นิ่งไปแว่บหนึ่งก็พยักหน้าเป็นเชิงบอกว่าใช่
- ได้ยินแบบนั้นพระเอกก็หน้าเสียเพราะนึกว่าตัวเองมาสายเกินไป (แบบเดียวกับเพลง 25 Minutes) แต่ก็พยายามคุมตัวเองไว้ แล้วบอกความรู้สึกที่ตนเองเก็บงำในใจมาตลอดนับตั้งแต่แยกทางจากคนพี่ไป
- พระเอก
"ฉันรักเธอ...แค่เรื่องนี้เท่านั้นที่ฉันอยากบอกเธอให้ได้"
- ได้ยินแบบนั้น คนน้องก็เงยหน้าขึ้นมองหน้าพระเอกอย่างตกตะลึง พระเอกก็อธิบายต่อว่าก็เข้าใจว่าคนน้องคงสับสน เพราะกิริยาท่าทางที่ผ่านมาตลอดหลายเดือนของตัวเองมันไม่ชัดเจนจนน่าหงุดหงิดออกขนาดนั้นนี่นะ
- พระเอกยอมรับว่าที่ตัวเองไม่เคยยอมรับว่ารักคนน้องนั้นก็เพราะเรื่องของคนพี่ การสูญเสียคนพี่อย่างไม่ทันตั้งตัวในตอนนั้นกลายเป็นปมฝังใจพระเอกมาตลอด ทำให้พระเอกกลัวว่าถ้ารักคนน้องเหมือนที่เคยรักคนพี่ ก็อาจเกิดเรื่องอะไรสักอย่างให้ต้องแยกทางกับคนน้องในลักษณะเดียวกับเมื่อครั้งคนพี่ก็ได้ ดังนั้นพระเอกจึงแกล้งทำเป็นข่มใจตัวเอง ทำเหมือนตัวเองไม่เคยรักคนน้องมาตลอด ทั้งที่ความจริงก็รู้อยู่ว่าตัวเองรู้สึกยังไง
- จนกระทั่งได้เห็นกิ๊บติดผมที่ตัวเองเคยซื้อให้คนน้องในวันนั้น พระเอกถึงได้คิดได้ว่าคนน้องเองก็ยังรักตัวเองมาตลอดไม่เคยเปลี่ยนเหมือนกัน แม้จะถูกปฏิเสธ ถูกบ่ายเบี่ยง ถูกผลักไสอย่างไร มันทำให้เขาสำนึกในความโง่เขลาของตัวเองที่เอาแต่ฝังใจกับปมรักในอดีต ไม่ยอมรับความรักที่ก่อตัวขึ้นระหว่างตัวเองกับคนน้องจนเมื่อสายเกินไป
- ฉากตัดไปทางไอ้หนูปี 1 หัวทองที่นั่งคุยกับน้องแว่นปี 1 อยู่ ไอ้หนูก็โดนน้องแว่นแกล้งๆ แซวเรื่องยัยเอ๋อจนแอบเขินไปเลย แต่ก็พยายามบ่ายเบี่ยงไม่พูดถึงต่อ เพราะเข้าใจดีว่ายัยเอ๋อนั้นชอบพระเอก แถมป่านนี้อาจคบเป็นแฟนกับพระเอกไปแล้วก็ได้ ว่าจบก็ตัดบทลุกขึ้นจะไปเอาของที่ห้องชมรมเตรียมกลับบ้าน
- ปรากฏว่าพอไปถึง สิ่งที่ไอ้หนูหัวทองได้เห็นก็คือ...ยัยเอ๋อกำลังยืนร้องไห้อยู่คนเดียวในห้องชมรม
- ไอ้หนูตกใจ ตะกุกตะกักถามว่ามีเรื่องอะไรเหรอ ยัยเอ๋อก็ตอบไปว่าโดนพระเอกปฏิเสธมา ไอ้หนูก็งงว่าเป็นไปได้ยังไง เมื่อตอนกลางวันยังจู๋จี๋กันออกขนาดนั้น (ไม่ได้สังเกตสินะไอ้หนูว่ายัยเอ๋อเป็นฝ่ายเข้าหาข้างเดียวน่ะ) ยัยเอ๋อก็บอกว่าพระเอกมีคนอื่นในใจมานานแล้ว และก็คิดถึงคนคนนั้นอยู่ตลอดเวลา ไม่มีที่ให้ตัวเองเข้าไปแทรกกลางได้เลย
- ได้ยินแบบนั้นไอ้หนูก็เดือดขึ้นมา พูดจาว่าร้ายพระเอกเป็นชุดทำนองว่าชอบคนอื่นแล้วทำไมถึงยังไปเดทกับยัยเอ๋ออีก
- ฝ่ายยัยเอ๋อได้ยินไอ้หนูว่าร้ายพระเอกหนักเข้าก็ทนไม่ไหว ร้องห้ามบอกว่าสำหรับตัวเองแล้วพระเอกถือเป็นคนพิเศษนะ ว่าจบก็เลิกแขนเสื้อขึ้นแกะพลาสเตอร์ยาแผ่นใหญ่ตรงข้อมือออก โชว์รอยแผลเป็นจากการกรีดข้อมือเป็นสิบๆ เส้นให้ไอ้หนูหัวทองดู
- ไอ้หนูถึงกับยืนเซ่ออยู่กับที่ ยัยเอ๋อเห็นสีหน้าไอ้หนุก็ถามว่าน่ากลัวใช่มั้ยล่ะ แต่พระเอกน่ะไม่กลัวตอนเห็นรอยแผลนี่ทีแรกไม่พอ ยังยอมคุยยอมเป็นเพื่อนด้วยเหมือนปกติ เวลาเหงาๆ ก็ไปกินข้าวด้วยกัน ซึ่งในชีวิตที่ผ่านมาไม่เคยมีใครปฏิบัติตัวกับยัยเอ๋อแบบนี้เลย
- คำพูดของยัยเอ๋อทำเอาไอ้หนูถึงกับช็อค คิดไปถึงสีหน้าท่าทางยิ้มแย้มร่าเริงของยัยเอ๋อเหมือนไม่ยี่หระกับข่าวลือร้ายๆ ของตัวเองที่เคยเห็นมาตลอด โดยไม่เคยได้รู้เลยว่าแท้จริงแล้วภายใต้รอยยิ้มนั้นซ่อนความขมขื่นเจ็บปวดไว้มากมายแค่ไหน
- คิดได้ดังนั้น ไอ้หนูก็เข้าไปกุมมือข้างที่มีแต่รอยกรีดของยัยเอ๋อไว้ แล้วพูดพลางร้องไห้พลางว่าจะกลัวได้ยังไงล่ะ ก็ทั้งหมดนี่คือส่วนหนึ่งในตัวยัยเอ๋อนี่นา
- คำพูดของไอ้หนูหัวทองทำเอายัยเอ๋อถึงกับอึ้ง มองใบหน้านองน้ำตาของไอ้หนูอย่างตะลึง ก่อนจะค่อยๆ พูดออกมาเสียงแผ่วเบาว่า ขอบใจนะ
- ตัดกลับไปทางฝั่งพระเอกกับคนน้อง หลังได้ฟังคำสารภาพจากปากพระเอกจนหมด คนน้องก็ยืนเงียบไปครู่ใหญ่จึงพูดออกมาว่าที่ตัวเองไปหาอัลในตอนนั้นก็เพราะไม่อยากตัดสินใจว่า
"จะคบหรือไม่คบ" ด้วยการแค่
"ไปหาหรือไม่ไปหา" แต่อยากบอกด้วยปากตัวเองมากกว่า
- พระเอกได้ยินแบบนั้นก็เงยหน้าขึ้นอย่างตะลึงเช่นกัน
- จากนั้นฉากก็ย้อนกลับไปตอนที่คนน้องคุยกับอัลค้างไว้ตอนไปหาอัลตามนัด (ต่อจากฉากแรกเมื่อตอนที่แล้ว) โดยคนน้องบอกกับอัลว่าตั้งแต่ได้รับฟังคำสารภาพจากอัลวันนั้น ตัวเองก็คิดทบทวนเรื่องนั้นอย่างหนักมาตลอด
- และคำตอบที่คนน้องได้ออกมาก็คือ
"ไม่อยากทิ้งรักแรกของตัวเองไป"
- คนน้องพูดต่อว่าก็รู้ตัวอยู่ว่าคิดแบบนี้ฟังเหมือนคนโง่ แต่จนถึงตอนนี้ตัวเธอก็ยังนึกดีใจเสียใจกับคำพูดของพระเอกเหมือนเดิม เธอแน่ใจว่าถ้าเลือกเป็นแฟนอัล อัลก็คงดีกับเธอ ทำให้เธอมีความสุขได้ แต่ถึงยังไงเธอก็ไม่อยากยอมแพ้เรื่องพระเอก
- คนน้อง
"ดังนั้น...ขอโทษนะ"
- ตัดกลับมาปัจจุบัน พระเอกได้ฟังคนน้องเล่าเรื่องทั้งหมดก็ตะลึงเบิกตาค้าง ไม่มีปัญญาพูดอะไรออกไปชั่วขณะ ได้แต่มองคนน้องอยู่เฉยๆ แบบนั้น
- คนน้องค่อยๆ เงยหน้ามองพระเอกอย่างช้าๆ ใบหน้านิ่งเฉยเมื่อครู่เปลี่ยนไปเป็นรอยยิ้มอย่างมีความสุข น้ำตาแห่งความยินดีพรั่งพรูจากสองตา ก่อนจะพูดออกมาว่า
- คนน้อง
"ดีจริงๆ ที่ไม่ได้ทิ้งความรู้สึกที่มีให้นัตสึโอะไป"
- ต่างฝ่ายต่างยืนมองกันอยู่ครู่หนึ่ง ก็โผเข้ากอดกันด้วยความรู้สึกยินดียิ่งกว่าครั้งไหนๆ นับตั้งแต่วันแรกที่พบกันมา
- พระเอก
"ทำให้ร้องไห้อีกแล้วสิ..."
- คนน้อง
"ช่างเถอะ...น้ำตานี่เอง...ก็เป็นครั้งแรกเหมือนกัน"
แล้วก็ไม่ต้องไปร้องเพลง 25 Minutes ท่อนหลังจนได้น้าบักพระเอกเอ๊ย หลังจากปล่อยให้ลุ้นกันมาแทบตายว่างวดนี้จะออกอีรูปไหน
ยังไงก็แสดงความยินดีกับทีมคนน้องด้วยละกันครับ ที่ได้สมหวังกันซะทีหลังจากปล่อยให้รอมานาน
ด้านยัยเอ๋อเองถึงจะน่าสงสาร แต่งานนี้คงได้ไอ้หนูหัวทองมาช่วยดามหัวใจตามที่วางไว้แล้ว หวังว่าครั้งนี้คงได้เจอใครที่รักจริงซะทีนะยัยเอ๋อเอ๊ย
รอดูว่าหลังจากนี้จะค่อยๆ เขียนถึงบทสรุป หรือว่าจะเตะถ่วงเรื่องไปต่อภาคมหาลัยละครับ
อนึ่ง สองเพลงที่แอบฟังตอนเขียนตอนนี้
เพลงแรกสำหรับพระเอก - คนน้อง
และเพลงที่สองสำหรับยัยเอ๋อ - ไอ้หนูหัวทอง
[Spoil] Domestic na Kanojo #115 - Now and Forever...
- เปิดตอนมาต่อจากตอนที่แล้วที่พระเอกวิ่งตามหาคนน้องไปทั้งโรงเรียนจนเจอ
- เจอตัวปุ๊บ พระเอกก็ไม่พูดพร่ำทำเพลง คว้าข้อมือคนน้องพาวิ่งออกไปจากโรงเรียน ไม่นำพากับเสียงร้องประท้วงอย่างตกใจของคนน้องแม้แต่นิด
- วิ่งไปเรื่อยๆ จนมาถึงที่ที่ไม่มีคนอยู่ คนน้องก็ยืนหอบอยู่จนหายเหนื่อยสักพักก็ถามพระเอกว่าอยู่ดีๆ พาตัวเองมาที่นี่ทำไม พระเอกก็บอกว่าอัลจะได้ไม่มาเห็นเข้าไง และถามคนน้องว่าไปหาอัลมาแล้วใช่มั้ย
- โดนถามแบบนั้น คนน้องก็นิ่งไปแว่บหนึ่งก็พยักหน้าเป็นเชิงบอกว่าใช่
- ได้ยินแบบนั้นพระเอกก็หน้าเสียเพราะนึกว่าตัวเองมาสายเกินไป (แบบเดียวกับเพลง 25 Minutes) แต่ก็พยายามคุมตัวเองไว้ แล้วบอกความรู้สึกที่ตนเองเก็บงำในใจมาตลอดนับตั้งแต่แยกทางจากคนพี่ไป
- พระเอก "ฉันรักเธอ...แค่เรื่องนี้เท่านั้นที่ฉันอยากบอกเธอให้ได้"
- ได้ยินแบบนั้น คนน้องก็เงยหน้าขึ้นมองหน้าพระเอกอย่างตกตะลึง พระเอกก็อธิบายต่อว่าก็เข้าใจว่าคนน้องคงสับสน เพราะกิริยาท่าทางที่ผ่านมาตลอดหลายเดือนของตัวเองมันไม่ชัดเจนจนน่าหงุดหงิดออกขนาดนั้นนี่นะ
- พระเอกยอมรับว่าที่ตัวเองไม่เคยยอมรับว่ารักคนน้องนั้นก็เพราะเรื่องของคนพี่ การสูญเสียคนพี่อย่างไม่ทันตั้งตัวในตอนนั้นกลายเป็นปมฝังใจพระเอกมาตลอด ทำให้พระเอกกลัวว่าถ้ารักคนน้องเหมือนที่เคยรักคนพี่ ก็อาจเกิดเรื่องอะไรสักอย่างให้ต้องแยกทางกับคนน้องในลักษณะเดียวกับเมื่อครั้งคนพี่ก็ได้ ดังนั้นพระเอกจึงแกล้งทำเป็นข่มใจตัวเอง ทำเหมือนตัวเองไม่เคยรักคนน้องมาตลอด ทั้งที่ความจริงก็รู้อยู่ว่าตัวเองรู้สึกยังไง
- จนกระทั่งได้เห็นกิ๊บติดผมที่ตัวเองเคยซื้อให้คนน้องในวันนั้น พระเอกถึงได้คิดได้ว่าคนน้องเองก็ยังรักตัวเองมาตลอดไม่เคยเปลี่ยนเหมือนกัน แม้จะถูกปฏิเสธ ถูกบ่ายเบี่ยง ถูกผลักไสอย่างไร มันทำให้เขาสำนึกในความโง่เขลาของตัวเองที่เอาแต่ฝังใจกับปมรักในอดีต ไม่ยอมรับความรักที่ก่อตัวขึ้นระหว่างตัวเองกับคนน้องจนเมื่อสายเกินไป
- ฉากตัดไปทางไอ้หนูปี 1 หัวทองที่นั่งคุยกับน้องแว่นปี 1 อยู่ ไอ้หนูก็โดนน้องแว่นแกล้งๆ แซวเรื่องยัยเอ๋อจนแอบเขินไปเลย แต่ก็พยายามบ่ายเบี่ยงไม่พูดถึงต่อ เพราะเข้าใจดีว่ายัยเอ๋อนั้นชอบพระเอก แถมป่านนี้อาจคบเป็นแฟนกับพระเอกไปแล้วก็ได้ ว่าจบก็ตัดบทลุกขึ้นจะไปเอาของที่ห้องชมรมเตรียมกลับบ้าน
- ปรากฏว่าพอไปถึง สิ่งที่ไอ้หนูหัวทองได้เห็นก็คือ...ยัยเอ๋อกำลังยืนร้องไห้อยู่คนเดียวในห้องชมรม
- ไอ้หนูตกใจ ตะกุกตะกักถามว่ามีเรื่องอะไรเหรอ ยัยเอ๋อก็ตอบไปว่าโดนพระเอกปฏิเสธมา ไอ้หนูก็งงว่าเป็นไปได้ยังไง เมื่อตอนกลางวันยังจู๋จี๋กันออกขนาดนั้น (ไม่ได้สังเกตสินะไอ้หนูว่ายัยเอ๋อเป็นฝ่ายเข้าหาข้างเดียวน่ะ) ยัยเอ๋อก็บอกว่าพระเอกมีคนอื่นในใจมานานแล้ว และก็คิดถึงคนคนนั้นอยู่ตลอดเวลา ไม่มีที่ให้ตัวเองเข้าไปแทรกกลางได้เลย
- ได้ยินแบบนั้นไอ้หนูก็เดือดขึ้นมา พูดจาว่าร้ายพระเอกเป็นชุดทำนองว่าชอบคนอื่นแล้วทำไมถึงยังไปเดทกับยัยเอ๋ออีก
- ฝ่ายยัยเอ๋อได้ยินไอ้หนูว่าร้ายพระเอกหนักเข้าก็ทนไม่ไหว ร้องห้ามบอกว่าสำหรับตัวเองแล้วพระเอกถือเป็นคนพิเศษนะ ว่าจบก็เลิกแขนเสื้อขึ้นแกะพลาสเตอร์ยาแผ่นใหญ่ตรงข้อมือออก โชว์รอยแผลเป็นจากการกรีดข้อมือเป็นสิบๆ เส้นให้ไอ้หนูหัวทองดู
- ไอ้หนูถึงกับยืนเซ่ออยู่กับที่ ยัยเอ๋อเห็นสีหน้าไอ้หนุก็ถามว่าน่ากลัวใช่มั้ยล่ะ แต่พระเอกน่ะไม่กลัวตอนเห็นรอยแผลนี่ทีแรกไม่พอ ยังยอมคุยยอมเป็นเพื่อนด้วยเหมือนปกติ เวลาเหงาๆ ก็ไปกินข้าวด้วยกัน ซึ่งในชีวิตที่ผ่านมาไม่เคยมีใครปฏิบัติตัวกับยัยเอ๋อแบบนี้เลย
- คำพูดของยัยเอ๋อทำเอาไอ้หนูถึงกับช็อค คิดไปถึงสีหน้าท่าทางยิ้มแย้มร่าเริงของยัยเอ๋อเหมือนไม่ยี่หระกับข่าวลือร้ายๆ ของตัวเองที่เคยเห็นมาตลอด โดยไม่เคยได้รู้เลยว่าแท้จริงแล้วภายใต้รอยยิ้มนั้นซ่อนความขมขื่นเจ็บปวดไว้มากมายแค่ไหน
- คิดได้ดังนั้น ไอ้หนูก็เข้าไปกุมมือข้างที่มีแต่รอยกรีดของยัยเอ๋อไว้ แล้วพูดพลางร้องไห้พลางว่าจะกลัวได้ยังไงล่ะ ก็ทั้งหมดนี่คือส่วนหนึ่งในตัวยัยเอ๋อนี่นา
- คำพูดของไอ้หนูหัวทองทำเอายัยเอ๋อถึงกับอึ้ง มองใบหน้านองน้ำตาของไอ้หนูอย่างตะลึง ก่อนจะค่อยๆ พูดออกมาเสียงแผ่วเบาว่า ขอบใจนะ
- ตัดกลับไปทางฝั่งพระเอกกับคนน้อง หลังได้ฟังคำสารภาพจากปากพระเอกจนหมด คนน้องก็ยืนเงียบไปครู่ใหญ่จึงพูดออกมาว่าที่ตัวเองไปหาอัลในตอนนั้นก็เพราะไม่อยากตัดสินใจว่า "จะคบหรือไม่คบ" ด้วยการแค่ "ไปหาหรือไม่ไปหา" แต่อยากบอกด้วยปากตัวเองมากกว่า
- พระเอกได้ยินแบบนั้นก็เงยหน้าขึ้นอย่างตะลึงเช่นกัน
- จากนั้นฉากก็ย้อนกลับไปตอนที่คนน้องคุยกับอัลค้างไว้ตอนไปหาอัลตามนัด (ต่อจากฉากแรกเมื่อตอนที่แล้ว) โดยคนน้องบอกกับอัลว่าตั้งแต่ได้รับฟังคำสารภาพจากอัลวันนั้น ตัวเองก็คิดทบทวนเรื่องนั้นอย่างหนักมาตลอด
- และคำตอบที่คนน้องได้ออกมาก็คือ "ไม่อยากทิ้งรักแรกของตัวเองไป"
- คนน้องพูดต่อว่าก็รู้ตัวอยู่ว่าคิดแบบนี้ฟังเหมือนคนโง่ แต่จนถึงตอนนี้ตัวเธอก็ยังนึกดีใจเสียใจกับคำพูดของพระเอกเหมือนเดิม เธอแน่ใจว่าถ้าเลือกเป็นแฟนอัล อัลก็คงดีกับเธอ ทำให้เธอมีความสุขได้ แต่ถึงยังไงเธอก็ไม่อยากยอมแพ้เรื่องพระเอก
- คนน้อง "ดังนั้น...ขอโทษนะ"
- ตัดกลับมาปัจจุบัน พระเอกได้ฟังคนน้องเล่าเรื่องทั้งหมดก็ตะลึงเบิกตาค้าง ไม่มีปัญญาพูดอะไรออกไปชั่วขณะ ได้แต่มองคนน้องอยู่เฉยๆ แบบนั้น
- คนน้องค่อยๆ เงยหน้ามองพระเอกอย่างช้าๆ ใบหน้านิ่งเฉยเมื่อครู่เปลี่ยนไปเป็นรอยยิ้มอย่างมีความสุข น้ำตาแห่งความยินดีพรั่งพรูจากสองตา ก่อนจะพูดออกมาว่า
- คนน้อง "ดีจริงๆ ที่ไม่ได้ทิ้งความรู้สึกที่มีให้นัตสึโอะไป"
- ต่างฝ่ายต่างยืนมองกันอยู่ครู่หนึ่ง ก็โผเข้ากอดกันด้วยความรู้สึกยินดียิ่งกว่าครั้งไหนๆ นับตั้งแต่วันแรกที่พบกันมา
- พระเอก "ทำให้ร้องไห้อีกแล้วสิ..."
- คนน้อง "ช่างเถอะ...น้ำตานี่เอง...ก็เป็นครั้งแรกเหมือนกัน"
แล้วก็ไม่ต้องไปร้องเพลง 25 Minutes ท่อนหลังจนได้น้าบักพระเอกเอ๊ย หลังจากปล่อยให้ลุ้นกันมาแทบตายว่างวดนี้จะออกอีรูปไหน
ยังไงก็แสดงความยินดีกับทีมคนน้องด้วยละกันครับ ที่ได้สมหวังกันซะทีหลังจากปล่อยให้รอมานาน
ด้านยัยเอ๋อเองถึงจะน่าสงสาร แต่งานนี้คงได้ไอ้หนูหัวทองมาช่วยดามหัวใจตามที่วางไว้แล้ว หวังว่าครั้งนี้คงได้เจอใครที่รักจริงซะทีนะยัยเอ๋อเอ๊ย
รอดูว่าหลังจากนี้จะค่อยๆ เขียนถึงบทสรุป หรือว่าจะเตะถ่วงเรื่องไปต่อภาคมหาลัยละครับ
อนึ่ง สองเพลงที่แอบฟังตอนเขียนตอนนี้
เพลงแรกสำหรับพระเอก - คนน้อง
และเพลงที่สองสำหรับยัยเอ๋อ - ไอ้หนูหัวทอง