[CR] Incredible India Leh-ladakh EP.3 (เหลือเชื่ออินเดีย)

Incredible India Leh-ladakh EP.3 (เหลือเชื่ออินเดีย)




23 กันยายน 2016

แสงอาทิตย์ยามเช้าที่สองที่ตกกระทบกับผืนผ้าใบในเต๊นท์ที่เราพัก บวกกับอากาศที่หนาวเย็นของค่ำคืนแห่งความเงียบสงบที่ Nubra Valley และเสียงนาฬิกาปลุกจากโทรศัพท์ที่ดังขึ้นมาพร้อมๆ กัน ทำให้เราตื่นลืมตาขึ้นมา......เห้ยนี่เช้าวันใหม่แล้ว

06.30 น. ได้เวลาลุกจากเตียงที่มีผ้าห่มแลเสื้อผ้าพันธนาการอยู่ประมาณ 7 ชั้น บวกกับถุงน้ำร้อนที่ทางโรงแรมจัดเตรียมไว้ให้ เช้าวันนี้เราได้อาบน้ำโว้ย!! อาบน้ำท่ากลางอุณหภูมิ 2-4 องศา แต่เดี๋ยวก่อน!!! ด้วยความเต๊นท์เราค่อนข้างไฮโซ อิอิ เช้านี้จึงมีน้ำอุ่นให้เราอาบ ดี๊ดีย์! ว่าแล้วก็ลุกไปอาบน้ำทันใด ความรู้สึกแรกเสมือนว่าได้สัมผัสกับน้ำทิพย์เพรราะความอุ่นของน้ที่มาดับหนาวำทำให้เราไม่อยากออกจากห้องน้ำเลยทีเดียว... คือ น้ำอุ่นใช้ได้เลย ฟินระดับ 10 ได้เช็ดล้างหัดถูทำความสะอาดแล้วโว้ย หลังจากที่เมื่อวานนี้ไปขี่อูฐมาแล้วนอนมันทั้งอย่างนั้นแหละ หยี๊......


07.30 น. ได้เวลาอาหารเช้าที่ทางที่พักจัดไว้ให้ ใครจะเชื่อ....... กลางหุบเขาขนาดนี้มีขนมปังปิ้งทาเนยทาแยมให้เรากินด้วย บวกกับซุปผักร้อนๆ ตามแบบฉบับของชาวเลห์รถชาติใช้ได้ แต่สิ่งที่ขาดไม่ได้นั่นก็คือ น้ำพริกและมาม่า... ใช่แล้ว!!! เราเตรียมตัวมาดีทริปนี้จึงมีคลังเสบียงอย่างมาม่าและน้ำพริกแบบเอามาจำหน่ายต่อยังไม่หมด ฮ่าาาๆๆๆ รวมๆแล้ว เช้านี้ดี๊ดี๊ย์ อิ่ม อร่อย เติมพลังพร้อมออกเดินทางกันต่อแล้วโว้ยยย.....


09.00 น. ว่าแล้วก็ขนของขึ้นรถและออกเดินทางกันทันที จาก Nubra Valley จุดหมายปลายทางต่อไปของเราในวันนี้คือ Pangong Lake หรือทะเลสาบพันกอง เป็นทะเลสาบน้ำเค็มที่อยู่สูงที่สุดในโลก คือมีความสูงถึง 4320 เมตร จากระดับน้ำทะเล จุดนี้ถือว่า พีคมากๆ เพราะเป็นไฮท์ไลท์สำคัญของทริปนี้ ที่ผมตั้งใจว่าอยากจะเป็นสักครั้งก่อนตาย ดูจากภาพแล้วสวยเหมือนภาพวาดหรือภาพแต่ง ของจริงจะเป็นอย่างนั้นหรือเปล่าเดินทางกันต่อเลยครับ.....


วันนี้คนขับของเราบอกว่าจะใช้เส้นทางคนละเส้นทางกับเมื่อวาน ซึ่งดีกว่า (รึเปล่า) แต่ก่อนออกจาก Nubra เส้นทางที่เราผ่านมีวัดวัดหนึ่งตั้งตระหง่านอยู่บนเนินเขา คนขับรถไม่รีรอพาเราแวะเก็บภาพความประทับใจทันที วัดนี้คือ วัดดิสกิต (Disket Gompa) เป็นวัดเก่าแก่และใหญ่ที่สุดในแถบ Nubra Valley มีพระพุทธรูปองค์ใหญ่เห็นโดดเด่นอยู่ข้างหน้าวัด วัดนี้มีการเก็บค่าใช้จ่ายสำหรับค่าเข้าชมซึ่งถูกมาก 4 คน เราจ่ายไปแค่ 120 รูปี หรือประมาณ 60 บาทเท่านั้นเอง  ซึ่งจุดนี้ยังจุดชมวิวที่ดีอีกจุดหนึ่งที่สามารถเห็นภูเขาเรียกซ้อนทับกัน ราวกกับแอนอวตาร สวยจนเราตะลึง...





จากวัดดิสกิตเรามุ่งหน้าออกเดินทางต่อไปยังทะเลสาบพันกองทันทีซึ่งจะใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 5 ชั่วโมง ผ่านเส้นทางที่ต้องบอกว่า Incredible สุดๆอ่ะ ไม่หน้าเว้ยแกร!! ว่ามันจะมีอยู่จริงและมีคนใช้ทางแบบนี้อยู่อีกเหรอ......เห้ย!!! ทางันนี้ส่วนใหญ่เป็นทางที่ขนานไปกับเชิงเขาด้านล่าง สลับกับขึ้นเขาบ้างแต่ไม่เยอะเท่าเมื่อวาน ต้องบอกเลยนะฮะว่าจุดนี้...... เจอะสภาพภูมิประเทศที่หลายหลายจริงๆ สวยงามแตกต่างกันออกไป





แต่สิ่งที่ทำให้เราต้องตะลึงคือ... เราเจอฝูงสัตรว์นานาๆ ชนิด โดยเฉพาะ แย๊คและม้า ที่มีเยอะเป็นพิเศษ อย่างกับดูสารคดีเปิดเลนส์ส่องโลกอยู่เลย เป็นทริปที่คูลไปเลยพวกกกกก......






เวลาล่วงเลยไปประมาณ 3 ชั่วโมงก็มาถึงจุดพักรถและตรวจเอกสาร คนขับรถเราลงไปจัดการให้เสร็จสับ แต่ระหว่างรอก็หามุมถ่ายรูปไปก่อนแบบใสๆ จุดพักรถที่นี่พีคมากๆ คือมีแม่น้ำไหลผ่าน สวยราวกับเรื่องอลิสอินวันเดอร์แลน์.......



และแล้วเราก็ออกเดินทางกันต่อเลยจ้า!!! จากจุดพักรถใช้ไปเวลาไปอีกประมาณ 2 ชั่วโมง เราเริ่มเห็นวิวทิวทัศน์ภูเขาที่ขึ้นสลับไปมา มีป้ายบอกทางไปทะเลสาบพันกองเป็นระยะๆ เป็นสัญญาณบ่งบอกว่านี่คงใกล้ถึงแล้วสินะ...


และแล้วความพีคของวันนี้ก็มาเยือน พีค พีค พีค!!! เมื่อทะเลสาบค่อยๆ เผยโฉมให้เราได้เห็นเพียงเสี้ยวหนึ่งที่เราผ่านกระฉกรถออกไปโดยมีตีนเขาบนบัง เสมือนเจ้าสาวที่เราจะบ่าวมาเปิดผ้าคลุมหน้า รถค่อยๆ มุ่งหน้าไปสู่ทะเลสาบ วินาทีนั้นเองทุกคนก็รอคอยอย่างใจจดใจจ่อ ตื่นตาตื่นใจกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้า....ซึ่งมันก็ไม่ทำให้เราผิดหวังจริงๆ ต้องบอกเลยว่า สวยกว่าในภาพถ่ายเป็นร้อยเท้าล้านเท่า สวยจริงๆ ไม่รู้จะบรรยายังไงดูภาพเอาเอแระกัน......








จอดรถถ่ายภาพแบบพีคๆ กันสักพักเริ่มต้านทานอากาศที่หนาวเหน็บไม่ไหว รู้สึกหน้าชา มือชาแบบไม่ต้องฉีดยาชาเลยทีเดียว คนขับรถก็มุ่งหน้าพาเราไปที่พักของค่ำคืนนี้ ซึ่งอยู่ห่างจากจุดที่เราถ่ายรูปไม่ไกลนัก คืนนี้ใช้สเต็ปเดิมคือ นอเต๊นท์อีกแล้วจ้าาาา.. แต่ดูเหมือนว่าคืนนี้จะหนาวกว่าเมือนคืนที่ผ่านมา เราถามเจ้าหน้าที่ที่เต๊นท์เขาบอกว่าคืนนี้น่าจะเจอกับอุณหภูมิติดลบ..... เห้ยยยยยงงงงง!! ติดลบวะ!! ต้องห่มผ้ากี่ชั้นไหนพูดสิ! 7 ชั้นจ้าาาาาบวกกับถุงน้ำร้อนอีก 1 หนึ่ง และอาบน้ำอุ่นได้ตอน 06.30 น. เหมือนเดิมเลย ฮืออๆๆๆๆๆ






แต่วิวที่อยู่เบื้องหน้าที่มองออกมาจากเต๊นท์ที่เรานอนก็พอจะลบล้างอากาศที่หนาวเย็นยะเยือกไปได้บ้าง เพราะมันสวยจนลืมหนาวกันเลยทีเดียว





หลังจากความมืดมิตรมาเยือนก็ได้เวลาอาหารมื้อเย็นที่ทางที่พักจัดไว้ให้ รสชาติดีทีเดียว มื้อค่ำของเราวันนี้มีซุปผักและโรตี และแกงท้องถิ่นที่พอกินได้....กินไปเม้าส์ไปก็ได้เวลาที่เราจะนิทราไปพร้อมกับความมืดและวิวหลักล้านที่อยู่ตรงหน้า....แต่ แต่ แต่!!! เดี๋ยวก่อนเหมือนจะผ่านพ้นวันนี้ไปอย่างสวยงาม แต่ไม่จ้าาาาาา เพราะหญิงถึง 1 เดียวของเราเริ่มมีอากาศเป็นไข้ ไม่สบาย และรู้สึกวิงเวียนศรีษะ เราจึงพานางกลับเข้าเต๊นท์ไปนอนพักทันที.....

ว่าแล้วค่ำคืนนี้ก็เงียบสงบลงพร้อมเก็บแรงไว้ลุยในวันพรุ่งนี้กันต่อ.............



ปล.เรื่องราวของวันพรุ่งนี้ตามต่อได้ใน EP.4 นะครับ อดใจรอสักครู่


บัยยยยยยยยยยยย

ย้อนอ่านได้ตามลิงค์ด้านล่างนี่เลยครับ........
EP.1 http://pantip.com/topic/35639843
EP.2 http://pantip.com/topic/35641248
EP.3 http://pantip.com/topic/35647446
EP.4 http://pantip.com/topic/35653018




ฝากเพจ.........เท - แล้วเที่ยว จะรออะไรในเมื่อใจต้องการออกไปเที่ยว...........

https://www.facebook.com/เ-ท-แล้วเที่ยว-1272428862802148/