http://pantip.com/topic/35584514
ความจริง มีให้ถกหลายประเด็นเลยทีเดียวว่าทำไม ประเทศไทยถึงยังไม่พร้อม แต่ขอไปทีละเรื่อง หากคุยกันถูกคอจะไปต่อยาวๆ หากคุยไม่รื่นหูก็จบแค่ข้อเดียวนี้แหละ
ตามที่คุณว่าไว้ ระบอบ ปชต เป็นระบอบที่เลวน้อยที่สุด (ยังไง?)
เราว่ามันให้สิทธิและความเสมอภาคต่อประชาชนได้มากที่สุด
เป็นระบอบที่มีสามารถสลายจากความผิดพลาด และสร้างตัวเองได้ใหม่ หรือรีเซทครม ด้วยเสียงของประชาชน
นั่นคือคำว่า
"ยุบสภา เลือกตั้งใหม่ คืนอำนาจให้ประชาชน"
นักการเมืองไทย ใช้คำๆนี้เพื่อฟอกตัวในความผิดพลาดต่างๆนาๆ เมื่อประกาศเลือกตั้งใหม่ คนที่ถูกไม่ไว้ใจเดิมๆยังเดินกลับเข้าสภาได้ทุกรอบ จนไร้ความสามารถจะเดินกันเลยทีเดียว
ประเด็นนี้คือประเด็นหลัก ที่ว่า การถูกเสนอชื่อไม่ไว้วางใจ หากครมไม่ได้ทำผิดเหตุใดจึงเกิดการยุบสภา นั่นเพราะมันมีเหตุรึเปล่า?
เมื่อมีเหตุให้เกิดความไม่ไว้วางใจ แต่ผลการสืบสวนสอบสวน ยาวนานจนคดีหมดอายุความบ้าง หรือนักการเมืองหมดอายุเสียชีวิตไปก่อนบ้าง เอาเข้าจริงๆ คนที่ถูกเสนอชื่อไม่ไว้วางใจ ตั้งแต่อดีต จนถึงปัจจุบัน มีใครบ้างที่เคยถูกแอนตี้จากประชาชน ไม่ให้เข้าไปเป็นสมาชิกสภาอีก?
ปัญหามันอยู่ตรงนี้ จะร่างกฏหมายอะไรก็ช่วยไม่ได้
มันอยู่ที่ ต่อให้ฝ่ายค้านดีแค่ไหน แต่หากเสนอชื่อคนที่ไม่น่าไว้วางใจแล้ว ปชช ก็ยังเลือกเขากลับมานั่งหน้าสลอนในสภา มันก็ยังเกิดวังวนเดิมๆ
หากเป็นในโลกประชาธิปไตยอื่นๆ เมื่อมีความไม่โปร่งใส เขาตั้งคณะกรรมการตรวจสอบทันที หากเรื่องนั้นเป็นเรื่องฉาว เช่นให้เอื้อประโยชน์ให้คนในครอบครัว หรือแม้กระทั่งมีข่าวฉาวเช่นเป็นชู้กับเด็กในสังกัด คะแนนนิยมตกฮวบๆๆๆ จนพรรคต้องเอาออก แต่สำหรับคนไทย ไม่ว่าเรื่องอะไร รับได้หมด แล้วบอกว่า รอศาลแต่ในขณะที่รอ ก็จะเอาคนพวกนี้เข้าสภาแหละ มีไรป่าว วนเวียนไปเรื่อยๆ ไม่มีที่สิ้นสุด
พรรคการเมืองไม่มีการสรรหาบุคคลที่มีคุณสมบัติ แต่เน้นเอาบุคคลที่มีชื่อเสียง ยิ่งหล่อยิ่งดี เป็นสีสรรให้กับการเลือกตั้ง แต่ดันเอาไปไว้เป็นปาร์ตี้ลิสด้านบนๆ อ้างว่าให้โอกาสในการทำงาน แล้วคนที่ไม่เด่นแต่ทำงานดี มีประสบการณ์การเมืองมานานไม่มีบ้างเลยเหรอ? ต้องเอาลูกคนนั้น พี่คนนี้ เพื่อดึงคะแนนเสียง มันก็ไม่ใช่เพราะใครหรอก มันเป็นเพราะคนเลือก คนมีอำนาจ คนมีสิทธิเลือกตั้งนั่นแหละ ที่เลือกคนเดิมซ้ำๆซากๆ มันก็เลยเกิดสิ่งที่เกิดขึ้นมาแล้ว ซ้ำแล้วซ้ำอีก
เมื่อไหร่ก็ตาม ประชาชนผู้มีสิทธิเลือก สามารถเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการตรวจสอบได้ หมายถึง คุณใช้สิทธิของคุณ เพื่อยับยั้งวัฏจักรเดิมๆ ยับยั้งการกระทำของบุคคลเดิมๆ นั่นจึงจะพาให้ระบอบ สามาระซ่อมแซมตัวเอง จากที่มีรอยรั่ว ก็อุดรูซะ ทีละนิด ทีละน้อย สักวัน มันก็จะมีแค่รอยซึมจางๆ แต่หากปชช ยังคงคิดว่าตัวเองเป็นแค่ผู้เลือก มีสิทธิเลือก ก็เลือคนที่ชอบคนที่ใช่ โดยไม่ไตร่ตองถึงอนาคตของชาติ มันก็ยังเป็นอยู่อย่างนี้ พรรคการเมือง ก็ยังคงสรรหาคนที่คุณชอบ แต่ไม่ใช่คนที่ประเทศต้องการมาให้คุณเลือกเหมือนเดิม
เอาแค่นี้ก่อน ประเด็นอื่น ค่อยว่ากัน
ตอบคุณเป็นต่อ เหตุใดไทยจึงยังไม่พร้อม......
ความจริง มีให้ถกหลายประเด็นเลยทีเดียวว่าทำไม ประเทศไทยถึงยังไม่พร้อม แต่ขอไปทีละเรื่อง หากคุยกันถูกคอจะไปต่อยาวๆ หากคุยไม่รื่นหูก็จบแค่ข้อเดียวนี้แหละ
ตามที่คุณว่าไว้ ระบอบ ปชต เป็นระบอบที่เลวน้อยที่สุด (ยังไง?)
เราว่ามันให้สิทธิและความเสมอภาคต่อประชาชนได้มากที่สุด
เป็นระบอบที่มีสามารถสลายจากความผิดพลาด และสร้างตัวเองได้ใหม่ หรือรีเซทครม ด้วยเสียงของประชาชน
นั่นคือคำว่า
"ยุบสภา เลือกตั้งใหม่ คืนอำนาจให้ประชาชน"
นักการเมืองไทย ใช้คำๆนี้เพื่อฟอกตัวในความผิดพลาดต่างๆนาๆ เมื่อประกาศเลือกตั้งใหม่ คนที่ถูกไม่ไว้ใจเดิมๆยังเดินกลับเข้าสภาได้ทุกรอบ จนไร้ความสามารถจะเดินกันเลยทีเดียว
ประเด็นนี้คือประเด็นหลัก ที่ว่า การถูกเสนอชื่อไม่ไว้วางใจ หากครมไม่ได้ทำผิดเหตุใดจึงเกิดการยุบสภา นั่นเพราะมันมีเหตุรึเปล่า?
เมื่อมีเหตุให้เกิดความไม่ไว้วางใจ แต่ผลการสืบสวนสอบสวน ยาวนานจนคดีหมดอายุความบ้าง หรือนักการเมืองหมดอายุเสียชีวิตไปก่อนบ้าง เอาเข้าจริงๆ คนที่ถูกเสนอชื่อไม่ไว้วางใจ ตั้งแต่อดีต จนถึงปัจจุบัน มีใครบ้างที่เคยถูกแอนตี้จากประชาชน ไม่ให้เข้าไปเป็นสมาชิกสภาอีก?
ปัญหามันอยู่ตรงนี้ จะร่างกฏหมายอะไรก็ช่วยไม่ได้
มันอยู่ที่ ต่อให้ฝ่ายค้านดีแค่ไหน แต่หากเสนอชื่อคนที่ไม่น่าไว้วางใจแล้ว ปชช ก็ยังเลือกเขากลับมานั่งหน้าสลอนในสภา มันก็ยังเกิดวังวนเดิมๆ
หากเป็นในโลกประชาธิปไตยอื่นๆ เมื่อมีความไม่โปร่งใส เขาตั้งคณะกรรมการตรวจสอบทันที หากเรื่องนั้นเป็นเรื่องฉาว เช่นให้เอื้อประโยชน์ให้คนในครอบครัว หรือแม้กระทั่งมีข่าวฉาวเช่นเป็นชู้กับเด็กในสังกัด คะแนนนิยมตกฮวบๆๆๆ จนพรรคต้องเอาออก แต่สำหรับคนไทย ไม่ว่าเรื่องอะไร รับได้หมด แล้วบอกว่า รอศาลแต่ในขณะที่รอ ก็จะเอาคนพวกนี้เข้าสภาแหละ มีไรป่าว วนเวียนไปเรื่อยๆ ไม่มีที่สิ้นสุด
พรรคการเมืองไม่มีการสรรหาบุคคลที่มีคุณสมบัติ แต่เน้นเอาบุคคลที่มีชื่อเสียง ยิ่งหล่อยิ่งดี เป็นสีสรรให้กับการเลือกตั้ง แต่ดันเอาไปไว้เป็นปาร์ตี้ลิสด้านบนๆ อ้างว่าให้โอกาสในการทำงาน แล้วคนที่ไม่เด่นแต่ทำงานดี มีประสบการณ์การเมืองมานานไม่มีบ้างเลยเหรอ? ต้องเอาลูกคนนั้น พี่คนนี้ เพื่อดึงคะแนนเสียง มันก็ไม่ใช่เพราะใครหรอก มันเป็นเพราะคนเลือก คนมีอำนาจ คนมีสิทธิเลือกตั้งนั่นแหละ ที่เลือกคนเดิมซ้ำๆซากๆ มันก็เลยเกิดสิ่งที่เกิดขึ้นมาแล้ว ซ้ำแล้วซ้ำอีก
เมื่อไหร่ก็ตาม ประชาชนผู้มีสิทธิเลือก สามารถเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการตรวจสอบได้ หมายถึง คุณใช้สิทธิของคุณ เพื่อยับยั้งวัฏจักรเดิมๆ ยับยั้งการกระทำของบุคคลเดิมๆ นั่นจึงจะพาให้ระบอบ สามาระซ่อมแซมตัวเอง จากที่มีรอยรั่ว ก็อุดรูซะ ทีละนิด ทีละน้อย สักวัน มันก็จะมีแค่รอยซึมจางๆ แต่หากปชช ยังคงคิดว่าตัวเองเป็นแค่ผู้เลือก มีสิทธิเลือก ก็เลือคนที่ชอบคนที่ใช่ โดยไม่ไตร่ตองถึงอนาคตของชาติ มันก็ยังเป็นอยู่อย่างนี้ พรรคการเมือง ก็ยังคงสรรหาคนที่คุณชอบ แต่ไม่ใช่คนที่ประเทศต้องการมาให้คุณเลือกเหมือนเดิม
เอาแค่นี้ก่อน ประเด็นอื่น ค่อยว่ากัน