พรรคประชาชน เปิดโมเดลที่มา ส.ส.ร. ผ่าน 2 กลไก คณะผู้ร่างรธน. – คณะผู้แทนประชาชน
https://www.matichon.co.th/politics/news_5371530
.
.
พรรคประชาชน เปิดโมเดลที่มา ส.ส.ร. ผ่าน 2 กลไก คณะผู้ร่างรธน. – คณะผู้แทนประชาชน
.
เมื่อวันที่ 17 กันยายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นาย
พริษฐ์ วัชรสินธุ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน โพสต์เกี่ยวกับ
ข้อเสนอของพรรคประชาชน ในการเปิดโมเดล 2 คณะ (คณะผู้ร่างรัฐธรรมนูญ & คณะผู้แทนประชาชน) เพื่อรับฟังความเห็นต่อการออกแบบกลไกการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ที่ยังคงยึดโยงกับประชาชน ในวันที่สภาร่างรัฐธรรมนูญที่มาจากการเลือกตั้ง อาจไปต่อได้ยาก เพราะคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ
.
ซึ่งรายละเอียดทั้งหมดระบุว่า
.
พรรคประชาชนยืนยันว่า เป้าหมายสำคัญในการแก้ไขปัญหาประเทศควบคู่ไปกับการฟื้นฟูความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจ คือ การจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ทางเราเห็นว่า รัฐธรรมนูญฉบับใหม่จะมีความชอบธรรมทางประชาธิปไตยและส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชนได้มากที่สุด
.
หากถูกจัดทำโดยสภาร่างรัฐธรรมนูญที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน – เมื่อปลายปี 2567 เราจึงได้ยื่นร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ หมวด 15/1 ที่เสนอให้มีกลไกดังกล่าว โดยมี สสร. ที่มาจากการเลือกตั้งทั้งหมด 200 คน (แบ่งออกเป็น 100 คน ที่เลือกตั้งแบบแบ่งเขตจังหวัด และอีก 100 คน ที่เลือกตั้งแบบบัญชีรายชื่อระดับประเทศ)
.
อย่างไรก็ตาม คำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้หลายฝ่ายตีความว่า เป็นการปิดประตูสู่การมีสภาร่างรัฐธรรมูญที่มาจากการเลือกตั้ง ซึ่งอาจทำให้พรรคประชาชนต้องทบทวนร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ หมวด 15/1 ที่ได้ยื่นไป
.
แม้ผมยืนยันว่า คำวินิจฉัยดังกล่าวมีปัญหาทั้งในเชิงกระบวนการที่เป็นการตอบเกินคำถาม และในเชิงเนื้อหาสาระที่ผมมองว่า ขัดกับหลักการว่าอำนาจสถาปนารัฐธรรมนูญเป็นของประชาชน แต่โจทย์ที่สำคัญสำหรับพรรคประชาชน
.
ณ เวลานี้ คือเราจะทบทวน ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ พัฒนาการเมืองฯ และกลไกในการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ อย่างไร ที่ยังคงความยึดโยงกับประชาชนและการมีส่วนร่วมของประชาชน แต่ไม่เสี่ยงจะขัดกับคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญที่ระบุว่า “รัฐสภาไม่อาจให้ประชาชนเลือกผู้ร่างรัฐธรรมนูญโดยตรง”
.
ผมขอลองเสนอนำเสนอกลไกดังต่อไปนี้ ที่ผ่านการหารือเบื้องต้นกับภาคส่วนต่างๆของพรรคประชาชน
.
1. ออกแบบให้ประชาชนมีส่วนร่วมกับการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ผ่าน 2 กลไก
.
– “คณะผู้ร่างรัฐธรรมนูญ” ที่มีหน้าที่ในการยกร่างรัฐธรรมนูญ เพื่อนำเสนอต่อรัฐสภา (เสมือนกับเป็น “คณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ”)
.
– “คณะผู้แทนประชาชน” ที่มีหน้าที่ในการรับฟังความเห็นประชาชน และสะท้อนต่อคณะผู้ร่าง (เสมือนกับเป็น “สภาที่ปรึกษาการร่างรัฐธรรมนูญ”)
.
2. คณะผู้ร่างรัฐธรรมนูญ มี 35 คน โดยให้ประชาชนสรรหามาก่อน 70 คน (2 เท่า) ผ่านการเลือกตั้ง
.
– ให้ผู้สมัครที่สนใจ สมัครเป็นทีม (ทีมหนึ่งมีได้ไม่เกิน 70 คน โดยเรียงลำดับเหมือนผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ)
.
– อาจกำหนดคุณสมบัติเพิ่มเติมได้ ว่าผู้สมัครจะต้องมีประสบการณ์หรือความเชี่ยวชาญด้านใด
.
– ให้ประชาชนเลือก 1 ทีม ที่ตนอยากสนับสนุน โดยใช้ประเทศเป็นเขตเลือกตั้ง
.
– ผู้ได้รับการสรรหา 70 คน ให้คำนวณโดยใช้ระบบสัดส่วนแบบบัญชีรายชื่อ (เช่น หากทีม ก. ได้คะแนนเสียง 10% ของคะแนนทั่วประเทศ ทีม ก. จะมีผู้ได้รับการสรรหา 7 คน (10% ของ 70 คน) โดย ผู้สมัครในบัญชีรายชื่อของทีม ก. ในลำดับที่ 1-7 จะได้รับการสรรหา)
.
3. เมื่อได้รายชื่อที่ประชาชนเลือกมาแล้ว 70 คน ให้รัฐสภาคัดเลือกเหลือ 35 คน ที่จะมาทำหน้าที่คณะผู้ร่าง
.
– ในเชิงการเมือง เราคาดหวังให้สมาชิกรัฐสภาคัดเลือก 35 คน จาก 70 คน โดยคำนึงถึงเจตนารมณ์ของประชาชนที่สะท้อนผ่านผลการเลือกตั้ง
.
– ในเชิงกฎหมาย เราอาจกำหนดให้สมาชิกรัฐสภามีโอกาสเสนอชื่อหรือคัดเลือกคณะผู้ร่าง ตามสัดส่วน ส.ส. ส.ว. หรือ พรรคการเมือง
.
4. “คณะผู้แทนประชาชน” มี 100 คน โดยให้ประชาชนเลือกทางตรงทั้งหมด ผ่านการเลือกตั้ง
.
– ให้ผู้สมัครที่สนใจ สมัครเป็นรายบุคคล
.
– อาจกำหนดคุณสมบัติให้เปิดกว้างที่สุด เพื่อให้เรามีตัวแทนที่มีความหลากหลายและครอบคลุมทุกกลุ่ม
.
– ให้ประชาชนเลือก 1 คน ที่ตนอยากสนับสนุน โดยใช้จังหวัดเป็นเขตเลือกตั้ง (แต่ละจังหวัดจะมี “ผู้แทนประชาชน” 1-5 คน ขึ้นอยู่กับจำนวนประชากร)
.
– ผู้ได้รับการเลือกตั้ง 100 คน ให้คำนวณจากผู้ที่ได้รับคะแนนสูงสุดในแต่ละจังหวัด ตามจำนวนผู้แทนที่แต่ละจังหวัดมี (เช่น หากจังหวัด ก. มีผู้แทน 2 คน ผู้ที่ได้รับเลือกตั้งคือผู้สมัครที่ได้คะแนนสูงสุดอันดับที่ 1-2)
.
5.ในระหว่างที่มีการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ (ซึ่งอาจถูกกำหนดไว้ที่ 6-12 เดือน) ให้ทั้ง 2 คณะทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด และมีการประชุมร่วมกันอย่างสม่ำเสมอ โดย “คณะผู้ร่างรัฐธรรมนูญ” จะมีหน้าที่ชี้แจงความคืบหน้าของร่าง ในขณะที่ “คณะผู้แทนประชาชน” จะมีหน้าที่ซักถามและสะท้อนความเห็นประชาชนต่อร่างที่อยู่ระหว่างการพัฒนา
.
6.เมื่อยกร่างเสร็จแล้ว ให้คณะผู้ร่างนำร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ไปเสนอต่อรัฐสภา
.
– หากรัฐสภาเห็นชอบ ให้นำร่างดังกล่าวไปทำประชามติ เพื่อสอบถามประชาชนว่าเห็นชอบกับร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่หรือไม่
.
– หากรัฐสภาไม่เห็นชอบ ให้ร่างดังกล่าวเป็นอันตกไป โดยหากจะมีการจัดทำฉบับใหม่ขึ้นมาอีกฉบับ ให้รัฐสภาให้ความเห็นชอบให้มีการเลือก 2 คณะชุดใหม่ขึ้นมาตามกระบวนการเดิม
.
7. เราอาจกำหนดเพิ่มเติมให้การทำงานของ 2 คณะ ไม่จำกัดอยู่แค่ร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ แต่ให้ครอบคลุมถึงร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ที่ถูกกำหนดในรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ด้วย โดยอาจเริ่มต้นทันทีที่ประชาชนลงประชามติเห็นชอบร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ เพื่อประหยัดเวลาและป้องกันผลประโยชน์ทับซ้อน
.
8. เราอาจกำหนดเพิ่มเติม ให้บุคคลที่ทำหน้าที่ใน 2 คณะ ห้ามดำรงตำแหน่งทางการเมือง (เช่น สส. / สว. / รัฐมนตรี / ผู้บริหารหรือสมาชิกสภาท้องถิ่น / ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ / ผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ) ภายใน 5 ปีแรก เพื่อป้องกันผลประโยชน์ทับซ้อน
.
9. กำหนดให้ 2 คณะที่ตั้งขึ้นมาแล้ว สามารถปฏิบัติหน้าที่ต่อได้ โดยไม่ถูกกระทบจากการยุบสภาฯ หรือ จากการที่สภาฯหมดวาระ เพื่อความต่อเนื่องในการทำงาน และของกระบวนการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่
.
ทางผมจะเป็นตัวแทนพรรคประชาชน ในการนำเสนอโมเดลนี้ในการประชุม กมธ. พัฒนาการเมืองฯ ในวันพฤหัสบดี (พรุ่งนี้) เพื่อหารือและรับฟังความเห็นจากพรรคเพื่อไทย พรรคภูมิใจไทย กมธ. พัฒนาการเมืองฯ วุฒิสภา นักวิชาการ และตัวแทนภาคประชาชน.
.
https://www.facebook.com/paritw/posts/pfbid02zdF2Y78YEiEokmweMA1CTwEjP66i81N5s4LNRfsyJVfLyUuAERjb3WcjtYcqChLNl
.
.
กลุ่มต่อต้านทุจริต 4 ภาค ยื่นหนังสือปชน. ติดตามคดีเขากระโดง-ฮั้วสว. ย้ำปชช.จับตา
https://www.matichon.co.th/politics/news_5371170
.
ปชน. รับหนังสือ กลุ่มประชาชนต่อต้านการทุจริต 4 ภาค ขอติดตามคดีเขากระโดง – ฮั้วสว. ยืนยัน ติดตามใกล้ชิด
.
เมื่อวันที่ 17 กันยายน ที่รัฐสภา นายภัณฑิล น่วมเจิม สส.กทม.พรรคประชาชน และนายอานุภาพ ลิขิตอำนวยชัย สส.สมุทรสงคราม พรรคประชาชน รับหนังสือจากกลุ่มประชาชนต่อต้านการทุจริต 4 ภาค เพื่อติดตามคดีเขากระโดง และคดีฮั้ว สว.
.
ตัวแทนกลุ่มภาคประชาชน ระบุว่า ขณะนี้สถานการณ์การเมืองของประเทศไทย ค่อนข้างสับสนวุ่นวายสลับซับซ้อน เพราะมีเหตุการณ์บางอย่างได้เกิดขึ้นอย่างไม่คาดฝัน และพรรคประชาชนมีส่วนที่ทำให้การเมืองสับสนครั้งนี้ด้วย พวกตนเองในฐานะตัวแทนภาคประชาชน ขอแสดงความคิดเห็นต่อพรรคประชาชน ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้าน และเป็นตัวแทนของประชาชน ดังนี้
.
พรรคจะรับผิดชอบอย่างไร เพราะพรรคประชาชนทำให้เกิดความสับสนในหมู่ประชาชน ที่ไป สส. มีเสียงข้างน้อย คือ พรรคภูมิใจไทย สส. 64 คน ให้เป็นรัฐบาล โดยมีพรรคสนับสนุนเสียงให้ สส. 143 คน โดยที่พรรคประชาชนยังคงทำหน้าที่ฝ่ายค้านเหมือนเดิม นี่คือการเมืองระบอบประชาธิปไตยที่ผิดปกติ และการทำ MOA น่าจะขัดต่อรัฐธธรรมนูญ ที่ต้องให้พรรคที่มีเสียงข้างมากจัดตั้งรัฐบาล ประชาชนจึงสงสัยว่า การจัดตั้งรัฐบาลครั้งนี้
.
2. พรรคประชาชนจะรับผิดชอบอย่างไร เพราะการจัดตั้งรัฐบาลครั้งนี้ ก็เพื่อจะฟอกขาวหรือแทรกแชง คดีฮั้ว สว. และคดีเขากระโดง
.
3. คดีเขากระโดง ศาลฎีกาได้ดูสินให้คืนที่ดินให้กับการรถไฟทั้ง 5,083 ไร่ แต่ก็ดื้อแพ่งไม่ยอมคืนที่ดินให้กับการรถไฟ โดยคดีนี้เทียบเคียงกับคดีที่ศาลฎีกาเคยตัดสินคดีของ นางสาวปารีณา ไกรคุปต์ อดีต สส. ราชบุรี ที่ไปสร้างฟาร์มไก่เนื้อในป่าสงวนแห่งชาติ ศาลฎีกาตัดสินให้พ้นจากการเป็น สส. และตัดสิทธิ์ทางการเมือง 10 ปี
.
ประชาชนจึงมีความต้องการให้ความยุติธรรม มีความยุติธรรม เสมอภาคกับทุกคน จึงขอให้ฝ่ายค้านได้ดำเนินการเรื่องนี้ ให้เป็นที่ประจักษ์ และนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี อาจใช้ตำแหน่งหน้าที่ ฟอกขาวคดีเขากระโดงก็ได้
.
4. คดีฮั้ว สว. ที่ทุจริตโกงเลือกตั้ง สว. มากที่สุดในประวัติศาสตร์ ก็ถูกกล่าวหาว่ามีพรรคการเมืองที่มีนายอนุทิน ชาญวีรกูล เป็นหัวหน้าพรรค เข้าไปครอบงำและเกี่ยวพันกับการทุจริต ซึ่งได้มีหมายเรียกจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ จำนวน 229 คน เป็น สว. ปัจจุบัน 138 คน และบุคคลที่เกี่ยวข้องกับพรรคภูมิใจไทย จำนวน 91 คน
.
การที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล เป็นนายกรัฐมนตรี จึงมีโอกาสใช้อำนาจหน้าที่เข้าไปแทรกแซงคดีฮั้ว สว.และฟอกขาวคดีนี้ได้ ประชาชนจึงต้องขอความกรุณาจากพรรคประชาชน ฝ่ายค้าน กรุณาตรวจสอบและติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิดเอาผู้กระทำผิดมาลงโทษตามกฎหมายให้ได้
.
5. การทุจริตโกงเลือกตั้งฮั้ว สว. ก็เพื่อจะเข้ายึดสภาสูงและ สว. ที่ทุจริต 138 คน ไปเลือกกรรมการองค์กรอิสระ พวกของตัวเอง ก็จะยึดองค์กรอิสระ และการที่ต้องการเป็นรัฐบาล ก็เพื่อต้องการใช้อำนาจ และกลยุทธ์ต่าง ๆ เตรียมการเลือกตั้งในปี 2570 ซึ่งมีเป้าหมายจะมี สส.จำนวนมากเป็นอันดับ 1 สรุปก็คือ ยึดสภาล่าง ยึดสภาสูง ยึดองค์กรอิสระ และยึดอำนาจของประเทศ พรรคประชาชน ฝ่ายค้าน จะช่วยแก้ไขและป้องกันเรื่องเหตุการณ์นี้ได้อย่างไร ประชาชนมีความห่วงกังวลมาก
.
6. ขอให้พรรคฝ้ายค้าน ได้ตรวจสอบคุณสมบัติและมาตรฐานจริยธรรมของฝ่ายรัฐบาลทุกคน โดยเฉพาะคนที่ถูกกำหนดตัวให้มาล้มคดีฮั้ว สว. และคดีเขากระโดง ให้พรรคฝ่ายค้าน ได้ตรวจสอบอย่างเข้มงวดและอภิปรายไม่ไว้วางใจให้เร็วที่สุด ให้รัฐบาลนี้มีประชาชนให้กำลังใจ
.
นายภัณฑิล กล่าวว่า สว. มีการฮั้ว มีเส้นทางการเงินชัดเจน มีโพย เอไอวิเคราะห์การเลือก ซึ่งเป็นข้อกังวล จากที่ประชาชนได้ตัดสินไปแล้ว ถึงมีคำว่า สว.สีน้ำเงิน ดังนั้น พฤติกรรมอื่นที่เราเห็นในช่วงที่ผ่านมา วุฒิการศึกษาปลอม บางท่านมีพฤติกรรมก้าวร้าว โดยทั้งหมดนี้ ต้องขอให้สื่อมวลชนติดตามต่อด้วย และเราจะติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด
JJNY : ปชน.เปิดโมเดลที่มาส.ส.ร.│ยื่นปชน. ติดตามคดีเขากระโดง-ฮั้วสว.│‘โรม’เบรก‘กัมพูชา’│หล่มสักวิกฤตอีกครั้ง ฝนตกหนัก
https://www.matichon.co.th/politics/news_5371530
.
พรรคประชาชน เปิดโมเดลที่มา ส.ส.ร. ผ่าน 2 กลไก คณะผู้ร่างรธน. – คณะผู้แทนประชาชน
.
เมื่อวันที่ 17 กันยายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายพริษฐ์ วัชรสินธุ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน โพสต์เกี่ยวกับข้อเสนอของพรรคประชาชน ในการเปิดโมเดล 2 คณะ (คณะผู้ร่างรัฐธรรมนูญ & คณะผู้แทนประชาชน) เพื่อรับฟังความเห็นต่อการออกแบบกลไกการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ที่ยังคงยึดโยงกับประชาชน ในวันที่สภาร่างรัฐธรรมนูญที่มาจากการเลือกตั้ง อาจไปต่อได้ยาก เพราะคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ
.
ซึ่งรายละเอียดทั้งหมดระบุว่า
.
พรรคประชาชนยืนยันว่า เป้าหมายสำคัญในการแก้ไขปัญหาประเทศควบคู่ไปกับการฟื้นฟูความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจ คือ การจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ทางเราเห็นว่า รัฐธรรมนูญฉบับใหม่จะมีความชอบธรรมทางประชาธิปไตยและส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชนได้มากที่สุด
.
หากถูกจัดทำโดยสภาร่างรัฐธรรมนูญที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน – เมื่อปลายปี 2567 เราจึงได้ยื่นร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ หมวด 15/1 ที่เสนอให้มีกลไกดังกล่าว โดยมี สสร. ที่มาจากการเลือกตั้งทั้งหมด 200 คน (แบ่งออกเป็น 100 คน ที่เลือกตั้งแบบแบ่งเขตจังหวัด และอีก 100 คน ที่เลือกตั้งแบบบัญชีรายชื่อระดับประเทศ)
.
อย่างไรก็ตาม คำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้หลายฝ่ายตีความว่า เป็นการปิดประตูสู่การมีสภาร่างรัฐธรรมูญที่มาจากการเลือกตั้ง ซึ่งอาจทำให้พรรคประชาชนต้องทบทวนร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ หมวด 15/1 ที่ได้ยื่นไป
.
แม้ผมยืนยันว่า คำวินิจฉัยดังกล่าวมีปัญหาทั้งในเชิงกระบวนการที่เป็นการตอบเกินคำถาม และในเชิงเนื้อหาสาระที่ผมมองว่า ขัดกับหลักการว่าอำนาจสถาปนารัฐธรรมนูญเป็นของประชาชน แต่โจทย์ที่สำคัญสำหรับพรรคประชาชน
.
ณ เวลานี้ คือเราจะทบทวน ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ พัฒนาการเมืองฯ และกลไกในการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ อย่างไร ที่ยังคงความยึดโยงกับประชาชนและการมีส่วนร่วมของประชาชน แต่ไม่เสี่ยงจะขัดกับคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญที่ระบุว่า “รัฐสภาไม่อาจให้ประชาชนเลือกผู้ร่างรัฐธรรมนูญโดยตรง”
.
ผมขอลองเสนอนำเสนอกลไกดังต่อไปนี้ ที่ผ่านการหารือเบื้องต้นกับภาคส่วนต่างๆของพรรคประชาชน
.
1. ออกแบบให้ประชาชนมีส่วนร่วมกับการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ผ่าน 2 กลไก
.
– “คณะผู้ร่างรัฐธรรมนูญ” ที่มีหน้าที่ในการยกร่างรัฐธรรมนูญ เพื่อนำเสนอต่อรัฐสภา (เสมือนกับเป็น “คณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ”)
.
– “คณะผู้แทนประชาชน” ที่มีหน้าที่ในการรับฟังความเห็นประชาชน และสะท้อนต่อคณะผู้ร่าง (เสมือนกับเป็น “สภาที่ปรึกษาการร่างรัฐธรรมนูญ”)
.
2. คณะผู้ร่างรัฐธรรมนูญ มี 35 คน โดยให้ประชาชนสรรหามาก่อน 70 คน (2 เท่า) ผ่านการเลือกตั้ง
.
– ให้ผู้สมัครที่สนใจ สมัครเป็นทีม (ทีมหนึ่งมีได้ไม่เกิน 70 คน โดยเรียงลำดับเหมือนผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ)
.
– อาจกำหนดคุณสมบัติเพิ่มเติมได้ ว่าผู้สมัครจะต้องมีประสบการณ์หรือความเชี่ยวชาญด้านใด
.
– ให้ประชาชนเลือก 1 ทีม ที่ตนอยากสนับสนุน โดยใช้ประเทศเป็นเขตเลือกตั้ง
.
– ผู้ได้รับการสรรหา 70 คน ให้คำนวณโดยใช้ระบบสัดส่วนแบบบัญชีรายชื่อ (เช่น หากทีม ก. ได้คะแนนเสียง 10% ของคะแนนทั่วประเทศ ทีม ก. จะมีผู้ได้รับการสรรหา 7 คน (10% ของ 70 คน) โดย ผู้สมัครในบัญชีรายชื่อของทีม ก. ในลำดับที่ 1-7 จะได้รับการสรรหา)
.
3. เมื่อได้รายชื่อที่ประชาชนเลือกมาแล้ว 70 คน ให้รัฐสภาคัดเลือกเหลือ 35 คน ที่จะมาทำหน้าที่คณะผู้ร่าง
.
– ในเชิงการเมือง เราคาดหวังให้สมาชิกรัฐสภาคัดเลือก 35 คน จาก 70 คน โดยคำนึงถึงเจตนารมณ์ของประชาชนที่สะท้อนผ่านผลการเลือกตั้ง
.
– ในเชิงกฎหมาย เราอาจกำหนดให้สมาชิกรัฐสภามีโอกาสเสนอชื่อหรือคัดเลือกคณะผู้ร่าง ตามสัดส่วน ส.ส. ส.ว. หรือ พรรคการเมือง
.
4. “คณะผู้แทนประชาชน” มี 100 คน โดยให้ประชาชนเลือกทางตรงทั้งหมด ผ่านการเลือกตั้ง
.
– ให้ผู้สมัครที่สนใจ สมัครเป็นรายบุคคล
.
– อาจกำหนดคุณสมบัติให้เปิดกว้างที่สุด เพื่อให้เรามีตัวแทนที่มีความหลากหลายและครอบคลุมทุกกลุ่ม
.
– ให้ประชาชนเลือก 1 คน ที่ตนอยากสนับสนุน โดยใช้จังหวัดเป็นเขตเลือกตั้ง (แต่ละจังหวัดจะมี “ผู้แทนประชาชน” 1-5 คน ขึ้นอยู่กับจำนวนประชากร)
.
– ผู้ได้รับการเลือกตั้ง 100 คน ให้คำนวณจากผู้ที่ได้รับคะแนนสูงสุดในแต่ละจังหวัด ตามจำนวนผู้แทนที่แต่ละจังหวัดมี (เช่น หากจังหวัด ก. มีผู้แทน 2 คน ผู้ที่ได้รับเลือกตั้งคือผู้สมัครที่ได้คะแนนสูงสุดอันดับที่ 1-2)
.
5.ในระหว่างที่มีการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ (ซึ่งอาจถูกกำหนดไว้ที่ 6-12 เดือน) ให้ทั้ง 2 คณะทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด และมีการประชุมร่วมกันอย่างสม่ำเสมอ โดย “คณะผู้ร่างรัฐธรรมนูญ” จะมีหน้าที่ชี้แจงความคืบหน้าของร่าง ในขณะที่ “คณะผู้แทนประชาชน” จะมีหน้าที่ซักถามและสะท้อนความเห็นประชาชนต่อร่างที่อยู่ระหว่างการพัฒนา
.
6.เมื่อยกร่างเสร็จแล้ว ให้คณะผู้ร่างนำร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ไปเสนอต่อรัฐสภา
.
– หากรัฐสภาเห็นชอบ ให้นำร่างดังกล่าวไปทำประชามติ เพื่อสอบถามประชาชนว่าเห็นชอบกับร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่หรือไม่
.
– หากรัฐสภาไม่เห็นชอบ ให้ร่างดังกล่าวเป็นอันตกไป โดยหากจะมีการจัดทำฉบับใหม่ขึ้นมาอีกฉบับ ให้รัฐสภาให้ความเห็นชอบให้มีการเลือก 2 คณะชุดใหม่ขึ้นมาตามกระบวนการเดิม
.
7. เราอาจกำหนดเพิ่มเติมให้การทำงานของ 2 คณะ ไม่จำกัดอยู่แค่ร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ แต่ให้ครอบคลุมถึงร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ที่ถูกกำหนดในรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ด้วย โดยอาจเริ่มต้นทันทีที่ประชาชนลงประชามติเห็นชอบร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ เพื่อประหยัดเวลาและป้องกันผลประโยชน์ทับซ้อน
.
8. เราอาจกำหนดเพิ่มเติม ให้บุคคลที่ทำหน้าที่ใน 2 คณะ ห้ามดำรงตำแหน่งทางการเมือง (เช่น สส. / สว. / รัฐมนตรี / ผู้บริหารหรือสมาชิกสภาท้องถิ่น / ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ / ผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ) ภายใน 5 ปีแรก เพื่อป้องกันผลประโยชน์ทับซ้อน
.
9. กำหนดให้ 2 คณะที่ตั้งขึ้นมาแล้ว สามารถปฏิบัติหน้าที่ต่อได้ โดยไม่ถูกกระทบจากการยุบสภาฯ หรือ จากการที่สภาฯหมดวาระ เพื่อความต่อเนื่องในการทำงาน และของกระบวนการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่
.
ทางผมจะเป็นตัวแทนพรรคประชาชน ในการนำเสนอโมเดลนี้ในการประชุม กมธ. พัฒนาการเมืองฯ ในวันพฤหัสบดี (พรุ่งนี้) เพื่อหารือและรับฟังความเห็นจากพรรคเพื่อไทย พรรคภูมิใจไทย กมธ. พัฒนาการเมืองฯ วุฒิสภา นักวิชาการ และตัวแทนภาคประชาชน.
.
https://www.facebook.com/paritw/posts/pfbid02zdF2Y78YEiEokmweMA1CTwEjP66i81N5s4LNRfsyJVfLyUuAERjb3WcjtYcqChLNl
.
.
กลุ่มต่อต้านทุจริต 4 ภาค ยื่นหนังสือปชน. ติดตามคดีเขากระโดง-ฮั้วสว. ย้ำปชช.จับตา
https://www.matichon.co.th/politics/news_5371170
.