
.
เท้ง ซัดงบ 69 วาระ2-3 รัฐบาลคิดตื้น ไม่รอบคอบ ชี้ 1 ใน 3 หมดไปกับ สร้างตึก-ตัดถนน-ขุดคลอง ไม่กระจายลง อปท. ด้าน ศิริกัญญา เชื่อ รัฐบาลมีแผนสำรองรับมือภาษีทรัมป์ เหตุ ไม่ของบสำรอง ระบุ ทางออกเดียว ออกพ.ร.บ.เงินกู้-ขยายเพดานหนี้สาธารณะ
.
เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 13 สิงหาคม ที่รัฐสภา นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคประชาชน (ปชน.) กล่าวถึงการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 วาระ 2 และ 3 ภายหลังจากการที่กรรมาธิการพิจารณาเสร็จแล้ว ว่า
.
สิ่งที่รัฐบาลเตรียมมาเป็นสิ่งที่รัฐบาลคิดไม่รอบและไม่ลึก เพราะขาดความรอบคอบ การที่กรรมาธิการปรับลดงบประมาณ 8.9 พันล้านบาท แต่รัฐบาลกับแปรญัตติให้มีงบประมาณในรายจ่ายประจำ เช่น เงินเดือนข้าราชการประกันสุขภาพซึ่งงบส่วนนี้เป็นรายจ่ายประจำที่ต้องตั้งงบประมาณให้เต็มสัดส่วนอยู่แล้วตั้งแต่วาระ 1 แต่กลายเป็นว่าตั้งขาด พอมีการปรับลดงบประมาณก็แปรญัตติส่วนนี้กลับเข้ามา
.
“ส่วนที่บอกว่าคิดไม่ลึกเพราะคิดตื้น ๆ ในส่วนงบลงทุน 8.9 พันล้านบาทที่กรรมาธิการได้ตัดรถ 1 ใน 3 เป็นงบลงทุนในที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง กลายเป็นว่างบลงทุนส่วนใหญ่ของประเทศ จะถูกนำไปใช้ในการลงทุนเพื่อสร้างอนาคตให้กับประเทศ กลับเอาไปใช้สร้างตึกตัดถนน ขุดคลองซึ่งเป็นภาพสะท้อนที่ทำให้เห็นว่าตอนที่รัฐบาลเสนองบประมาณเข้ามา เป็นการคิดจัดสรรงบประมาณที่ไม่รอบคอบยังคิดไม่ลึกเพียงพอ” นายณัฐพงษ์ กล่าว
.
นายณัฐพงษ์ กล่าวอีกว่า ขอชื่นชมรัฐบาลตอนที่แปรญัตติกลับเข้ามา ไม่ได้นำงบประมาณไปกองไว้ที่งบกลางทั้งหมด แต่งบกลางก็มีความจำเป็นไปใช้ในกรณีที่เร่งด่วน มีการแปรญัตติกกลับเข้าไปในกองทุนประกันสังคม หรือเติมในรถไฟสายสีส้มซึ่งเรื่องนี้ฝ่ายค้านไม่ได้เห็นต่าง
.
เมื่อถามว่า มีการตัดงบในหลายกระทรวงสำคัญเพื่อนำไปจัดสรรให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) หลายจังหวัดนั้น เหมือนมีนัยยะสำคัญที่ใกล้กับการเลือกตั้งหรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ตนไม่ได้ขัดข้องอะไร ที่จะแปรญัตติเติมเข้าไปในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เช่น ภารกิจถ่ายโอนมีการประหยัดเอาไปให้ อบจ.ต่างๆ
.
ดังนั้นถ้าเป็นการแปรญัตติตรงไปตรงมาตามภารกิจของท้องถิ่นก็ไม่ติดใจอะไร แต่ถ้ามีในเรื่องของการประสานงานเบื้องหลังอยู่ใกล้เลือกตั้งหรือไม่เป็นสิ่งที่พวกเราไม่ได้อยากเห็น และไม่อยากให้กระบวนการพิจารณางบประมาณได้ประโยชน์ต่างตอบแทน เพื่อหวังผลประโยชน์ทางการเมืองแบบนั้น
.
สำหรับเรื่องการซื้ออาวุธต่างๆ ของกองทัพนายณัฐพงษ์ กล่าวว่า เรายืนยันว่าอยากให้กองทัพทันสมัยทำหน้าที่ในการปกป้องประเทศไม่ใช่ปกครองประเทศ และในเรื่องของยุทโธปกรณ์ก็พิจารณาไปเป็นรายกรณี อะไรที่มีความจำเป็นต่อสถานการณ์ปัจจุบันก็สามารถที่จะพิจารณาได้ อะไรที่มีความจำเป็นก็พิจารณาผ่านได้ อะไรที่ไม่มีความจำเป็นในการป้องกันประเทศก็ต้องยืนยันว่าไม่มีความจำเป็น
.
เมื่อถามว่า การพิจารณาในชั้นกรรมาธิการพบร่องรอยการทุจริตบ้างหรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า มีสิ่งที่น่าสงสัยเต็มไปหมด ถ้าสังเกตการณ์พิจารณางบประมาณที่ผ่านมา อย่างการขอให้ถ่ายทอดสด ซึ่งทำได้ทันทีไม่ได้ซับซ้อนอะไร แต่กลายเป็นว่ากรรมาธิการเสียงข้างมาก ไม่ได้ยอมให้มีการถ่ายทอดสดจนทำให้สมาชิกบางส่วน ต้องไปถ่ายทอดสดในช่องทางของตัวเอง รวมถึงการประชุมในชั้นอนุกรรมาธิการที่ข้อมูลหลายส่วน ภาคประชาชนหรือแม้แต่สส.ที่ไม่ได้เข้าไปนั่งในอนุฯ ก็ไม่ได้เห็นข้อมูลอย่างรอบด้าน
.
“ดังนั้นสิ่งที่จะเป็นเกราะกำบังที่ดีที่สุดให้กับรัฐบาล เพื่อทลายข้อครหาต่าง ๆ ที่วันนี้รัฐบาลขาดความไว้วางใจจากประชาชน คือทำอย่างไรให้ การพิจารณางบประมาณมีความโปร่งใสมากที่สุด ซึ่งกระบวนการปัจจุบันขาดความโปร่งใสอยู่ค่อนข้างมาก” นายณัฐพงษ์กล่าว
.
นายณัฐพงษ์ ยังกล่าวถึงการจัดสรรคนที่จะอภิปรายงบประมาณในวาระ 2 ว่า ได้เตรียมผู้อภิปรายไว้เยอะ รวมเวลาอภิปรายทั้งสิ้น 24 ชั่วโมง คิดว่าช่วงเวลา 3 วัน ก็จะใช้เวลาอย่างเต็มที่ และหลังจากงบฯผ่านสภาไปแล้วฝ่ายค้านก็จะทำหน้าที่ตรวจสอบการใช้งบประมาณอย่างเต็มที่ต่อไป
.
เมื่อถามว่า กังวลเรื่องสภาล่มหรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า เชื่อว่าทางรัฐบาลต้องเตรียม ส.ส. ฝั่งตัวเองให้มาครบองค์ประชุม ไม่ควรหวังพึ่งองค์ประชุมจากฝ่ายค้าน เพราะถ้างบประมาณไม่สามารถผ่านสภาได้ ก็ไม่เห็นช่องทางว่ารัฐบาลจะบริหารประเทศได้อย่างไร
.
ด้าน น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคประชาชน กล่าวถึงกรณีที่รัฐบาลจะมีการแปรงบประมาณไปช่วยเหลือผลกระทบจากภาษีสหรัฐ จะมีการหยิบยกขึ้นมาพิจารณาในวันนี้หรือไม่ ว่า
.
มีกรรมาธิการ (กมธ.) หลายคนเสนอให้นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นผู้ชี้แจงว่าหลังจากที่ได้ข้อสรุปภาษีสหรัฐแล้วจะมีการปรับตัวหรือมีการเตรียมงบประมาณอย่างไร เพราะอยากทราบว่าจะต้องใช้เงินเท่าไหร่
.
เพื่อที่จะเร่งรัดในการปรับลดงบประมาณมาณเพิ่มเติมในส่วนนั้น แต่สุดท้ายนายพิชัย ในฐานะประธานกรรมาธิการพิจารณาร่างงบประมาณปี 69 ไม่ได้เดินทางมาชี้แจงในห้องพิจารณาอาจจะเดินทางมายังสภาผู้แทนราษฎรแต่ไม่ได้เดินทางมาห้องประชุมงบประมาณ หลังจากที่เข้ามาประชุมสองครั้งแรกเท่านั้น สุดท้ายก็ไม่ได้มีการตัดลดงบประมาณ โดยสามารถปรับได้แค่ 9,000 ล้านบาท และไม่ได้นำไปใส่ในส่วนที่ควรจะนำไปบรรจุไว้เพื่อรับมือสงครามการค้า
.
น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า จึงเดาได้เพียงอย่างเดียวว่ารัฐบาลมีแผนสำรองไว้เรียบร้อยแล้ว เพราะค่อนข้างจะตีบตันไปในทุกหนทาง สำหรับนโยบายการคลัง พื้นที่การคลังก็ไม่เหลือแล้ว ซึ่งอาจจะมีแผนอื่นสำรองเอาไว้ โดยต้องรอติดตามว่ารัฐบาลจะรับมือกับสงครามการค้าที่จะหนักหน่วงมากขึ้นในปี 2569 อย่างไร
.
เพราะปี 2568 เหลืออีกเพียงแค่ 2 เดือนก็จะหมดปีงบประมาณแล้ว และทางออกตอนเดียวที่เห็นตอนนี้ คือการออก พ.ร.บ.เงินกู้ รวมถึงขยายเพดานหนี้สาธารณะให้เพิ่มจากที่ตั้งไว้ร้อยละ 70 ไม่เช่นนั้นจะไม่มีงบประมาณใด ๆ รองรับไว้เลย
.
.
ปชน.ท้าชิงเลือกตั้งซ่อม ส.ส.เชียงราย จับตาสมัคร 16 ส.ค.นี้ เท้งปัดคุยภท. ย้ำทุกพรรคมีสิทธิแข่ง
https://www.matichon.co.th/politics/news_5320491
.
‘เท้ง’ เผย ‘ปชน.’ ส่งชิงเลือกซ่อม ส.ส.เชียงรายแน่ แต่ขออุบชื่อก่อน บอกไม่ได้คุย ‘ภูมิใจไทย’ หลีกทางให้ ชี้ทุกพรรคมีสิทธิแข่ง
.
เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 13 สิงหาคม ที่รัฐสภา นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคประชาชน (ปชน.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการส่งผู้สมัครเลือกตั้งซ่อม ส.ส.เชียงราย เขต 7 แทนนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน ว่ายืนยันว่าพรรคประชาชนส่งผู้สมัครแน่นอน โดยนายศรายุทธิ์ ใจหลัก เลขาธิการพรรคประชาชน จะพาผู้สมัครไปสมัครรับเลือกตั้งในวันที่ 16 สิงหาคมนี้ ซึ่งขณะนี้มีการเคาะรายชื่อแล้ว ขอให้รออีกสักนิด พรรคจะมีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการ ซึ่งอยู่ระหว่างการตรวจสอบประวัติผู้สมัครย้อนหลัง เพื่อให้เกิดความรอบคอบมากที่สุด
.
นายณัฐพงษ์กล่าวว่า ยืนยันว่าเรามีความมั่นใจในทุกสนาม อย่างน้อยก็เป็นพื้นที่ที่พรรคประชาชนมี ส.ส.ถึง 3 คน และจะเดินหน้าหาเสียงเลือกตั้งอย่างเต็มที่ หวังว่าประชาชนจะให้ความไว้วางใจ
.
เมื่อถามว่า ได้คุยกับพรรคภูมิใจไทยหรือยังว่าจะไม่ส่งผู้สมัครแข่งกันเอง นายณัฐพงษ์กล่าวว่า ไม่ได้พูดคุยกันแบบนั้น การส่งผู้สมัครเป็นการตัดสินใจของแต่ละพรรค ทุกพรรคมีสิทธิลงชิงสนามอย่างเต็มที่ เชื่อว่าทุกทุกพรรคก็ไม่ยอมถอยให้ใคร หากมีความเชื่อมั่นในพื้นที่นั้น ก็จะส่งผู้สมัครในนามพรรคตัวเอง
.
.
เท้ง โยนถาม อิ๊งค์ หลังสะพัด ชิงลาออกก่อนศาลรธน.วินิจฉัย ชี้ ยุบสภาหรือไม่ อยู่ที่รัฐบาลตัดสินใจ
https://www.matichon.co.th/news-monitor/news_5320433
.
เท้ง โยนถาม อิ๊งค์ หลังสะพัด ชิงลาออกก่อนศาลรธน.วินิจฉัย ชี้ ยุบสภาหรือไม่ อยู่ที่รัฐบาลตัดสินใจ เชื่อ มีความพยายามพยุงแบบนี้ไปก่อน
.
เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 13 สิงหาคม ที่รัฐสภา นาย
ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคประชาชน (ปชน.) ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกระแสข่าวการชิงลาออกของน.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ก่อนที่ศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัย กรณีคลิปเสียงสนทนากับสมเด็จฮุนเซน ว่า การตัดสินใจจะลาออกหรือไม่ลาออก ต้องถามที่ตัวของนายกรัฐมนตรี ส่วนตัวตอบแทนไม่ได้ ส่วนแนวทางคำวินิจฉัยจะออกมาอย่างไรนั้น ก็คงอยู่ที่ศาลรัฐธรรมนูญ ต้องรอติดตามสถานการณ์กันต่อไป
.
เมื่อถามว่า มีการประเมินไว้หรือไม่ว่าหลังจากผ่านการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2569 จะมีการยุบสภา หรือนายกฯ ชิงลาออก นาย
ณัฐพงษ์ กล่าวว่า การตัดสินใจจะยุบสภาหรือไม่ อยู่ที่ทางรัฐบาลและพรรคเพื่อไทย หากประเมินตามสถานการณ์ในปัจจุบัน ส่วนตัวเชื่อว่าอาจมีการพยายามพยุงรัฐบาลแบบนี้ไปก่อน แต่ว่าจะเป็นอย่างไรนั้น ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของรัฐบาล
JJNY : เท้งซัดงบ 69│ปชน.ท้าชิงเลือกตั้งซ่อม ส.ส.เชียงราย│เท้งโยนถามอิ๊งค์ หลังสะพัดชิงลาออก│รอดูสถานการณ์ไทย-กัมพูชา
https://www.matichon.co.th/politics/news_5320490
.
.
.
ปชน.ท้าชิงเลือกตั้งซ่อม ส.ส.เชียงราย จับตาสมัคร 16 ส.ค.นี้ เท้งปัดคุยภท. ย้ำทุกพรรคมีสิทธิแข่ง
https://www.matichon.co.th/politics/news_5320491
.
.
เท้ง โยนถาม อิ๊งค์ หลังสะพัด ชิงลาออกก่อนศาลรธน.วินิจฉัย ชี้ ยุบสภาหรือไม่ อยู่ที่รัฐบาลตัดสินใจ
https://www.matichon.co.th/news-monitor/news_5320433
.
เท้ง โยนถาม อิ๊งค์ หลังสะพัด ชิงลาออกก่อนศาลรธน.วินิจฉัย ชี้ ยุบสภาหรือไม่ อยู่ที่รัฐบาลตัดสินใจ เชื่อ มีความพยายามพยุงแบบนี้ไปก่อน
.
เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 13 สิงหาคม ที่รัฐสภา นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคประชาชน (ปชน.) ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกระแสข่าวการชิงลาออกของน.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ก่อนที่ศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัย กรณีคลิปเสียงสนทนากับสมเด็จฮุนเซน ว่า การตัดสินใจจะลาออกหรือไม่ลาออก ต้องถามที่ตัวของนายกรัฐมนตรี ส่วนตัวตอบแทนไม่ได้ ส่วนแนวทางคำวินิจฉัยจะออกมาอย่างไรนั้น ก็คงอยู่ที่ศาลรัฐธรรมนูญ ต้องรอติดตามสถานการณ์กันต่อไป
.
เมื่อถามว่า มีการประเมินไว้หรือไม่ว่าหลังจากผ่านการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2569 จะมีการยุบสภา หรือนายกฯ ชิงลาออก นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า การตัดสินใจจะยุบสภาหรือไม่ อยู่ที่ทางรัฐบาลและพรรคเพื่อไทย หากประเมินตามสถานการณ์ในปัจจุบัน ส่วนตัวเชื่อว่าอาจมีการพยายามพยุงรัฐบาลแบบนี้ไปก่อน แต่ว่าจะเป็นอย่างไรนั้น ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของรัฐบาล