เพลีย !!! รถเราโดนชนท้าย คู่กรณีไม่มีประกัน มีเงิน ไม่หนี แต่ไม่จ่าย

รถเราโดนชนท้าย คนขับรถคือน้องชายเรา

คู่กรณียอมรับผืดเพราะเป็นคนมาชน แต่รถเค้าไม่มีประกัน+อ้างว่าในรถมีเด็กไม่สบาย อยากรีบพาไปหาหมอ จึงพยายามจ่ายค่าเสียหายให้
2,000 บาทแต่เราไม่ให้ยอม เพราะรถเป็นรถของพ่อแม่ และเสียหายหนักมากแค่ไหนเราไม่รู้ เราจึงให้น้องเรียกประกันมา (ประกันของเราชั้น3)

เมื่อประกันมาถึง ได้แจ้งว่าเราถูกและทางคู่กรณีเป็นฝ่ายผิด เราพยายามสื่อสารกับน้องชายว่า ให้เค้าเซ็นต์ตกลงรับผิดชอบค่าเสียหาย
โดยเราจะเอารถเราไปเข้าอู่ที่เรารู้จักตีราคาให้ ตอนแรกเค้าก็จะเซ็นต์ แต่หลังจากโทรปรึกษากับทางพี่ชาย (ของเค้า) เค้าบอกไม่ให้เซ็นต์

เราจึงต้องไป โรงพักเพื่อลงบันทึกประจำวัน หลักฐานเรามีทั้งบัตรประชาชน ใบขับขี่ ทะเบียน รุ่น ยี่ห้อรถ

ระหว่างสืบสวนเพื่อลงบันทึกประจำวัน ตำรวจแจ้งว่าให้ไกล่เกลี่ยกัน โดยการให้เรากับคู่กรณีนัดกันเพื่อนำรถไปตรวจสภาพ หลังจากนั้นให้ทางคู่กรณีซ่อมโดยอาจเป็นอู่ที่เรารู้จัก หรืออู่ของทางคู่กรณี

ก่อนแยกจากกันได้ทำการขอเบอร์ แลกเบอร์กันอย่างดิบดี แต่แล้ววันรุ่งขึ้นเราโทรไป ..ไม่รับ
แม่เราโทรไป ..ไม่รับ
น้องชายเราโทรไป ..ไม่รับ
ไลน์ไป ไม่อ่าน !!
รวมแล้วโทรไปเป็นร้อยสาย ไม่รับสักสาย !!


เราจึงส่ง sms ไป ว่าถ้าหากคุณหนีไม่จ่าย ขออนุญาติแชร์ลง Pantip
ทางคู่กรณีได้ส่ง sms ตอบโต้กลับมาดังนี้







ตอนนี้เหนื่อยใจมากเลยคะ มี ไม่หนี แต่ไม่จ่าย รบกวนปรึกษาด้วยคะว่าควรทำอย่างไรต่อไปดี

ปล.1 เบื้องต้น ให้เอกสารกับทนายแล้ว และทนายได้แนะนำให้แจ้งตำรวจอีกครั้งเพื่อตามมาให้ไกล่เกลี่ย
ปล.2 คู่กรณี ที่เป็นคนมาชนไม่ได้มีปัญหาอะไร แต่พี่ชายที่ไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์มักจะว่าเราและน้องว่าตั้งใจหากินกับคนมีเด็กป่วยในรถ ข้อกล่าวหานี้น่าเบื่อมากเลยคะ ชนตั้งแต่สามทุ่ม ทางเค้ายึกยักจนเกือบเที่ยงคืน

สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 12
บ้านเราควรบังคับ ให้มีประกัน อย่างน้อยชั้น 3 ติดรถทุกคันได้เเล้ว
ถ้าไม่มีประกันก็ไม่ควรจะอนุญาติให้ต่อภาษีประจำปี เเละห้ามนำรถออกมาวิ่ง
ต้องบังคับทำหมด ตั้งเเต่มอเตอร์ไซค์ ซาเล้ง รถเก๋ง รถกระบะ ยันรถบรรทุก
ความคิดเห็นที่ 29
เรื่องฟ้องศาลเนี่ยระวังจบแบบเคสแม่น้องการ์ตูนนะครับ บอกตามตรง คือสุดท้ายถ้าอีกฝ่ายแบบไม่มีทรัพย์สิน ไม่มีงานประจำทำ ไม่มีอะไรให้ยึด ศาลก็บังคับอะไรไม่ได้ครับ คุณ จขกท ก็จะได้เอกสารว่าชนะคดีมาแค่นั้นครับ เรื่องค่าทนาย ค่าอื้นๆ ก็รับไปเต็มๆ

ผมเล่าอะไรให้ฟัง บ้านเก่าผมอยู่ในรัชดา ซ.3 ออกไปทางซอยอยู่เจริญซึ่งแถวนั้นมีอู่ taxi ซึ่งมีอยู่คันนึงมีเมียเปิดร้านอาหารตามสั่งในซอยนะแหละ ซึ่งผมกินประจำๆ กินทุกวัน มีอยุ่วันนึงเมียแกขายของอยุ่ดีๆก็ปิดร้านแบบไม่ได้เก็บของ รีบขึ้นมอไซต์ไปเลย ผมก็งงๆ มารู้ทีหลังว่า ผัวแกที่ขับ taxi ไปชนรถเบ๊นซ์เข้า ซุ่งผมไม่รู้ตื้นลึกหนาบางอะไรนะ รู้ว่าเป็นเบนซ์ไม่รู้รุ่น รู้ปี

เสร็จแล้วอีกวันแกก็กลับมาขายของตามปกติ ผมก็เลยถามว่าเมื่อวานแกไปไหน เจ๊แกก็เล่าให้ฟังว่าผัวแกไปชนรถเมนซ์เข้า เนี่ยประกันก็เรียกไปคุย [ผมเลยเดาว่าน่าจะประกันชั้น 2+ ขึ้นแหละมั้ง] แกก็กลุ้มๆอยู่ว่าจะเอายังไงดีขายของวันนึงได้ไม่เท่าไร ผัวแก taxi ก็เช่าครับ บ้านก็เช่า สรุปเรื่องยาวไปถึงศาลครับ สรุปว่า พี่ taxi ต้องชดใช้ค่าเสียหายให้ แต่ผมไม่แน่ใจว่าจ่ายให้เจ้าของรถหรือประกันนะครับ

ไม่ได้ไปรู้มาก ที่รู้ๆคือแกแพ้ ศาลบังคับให้จ่าย แกก็บอกกับศาลไปว่า แกขับ taxi รายได้วันละพันกว่าบาท แกผ่อนให้ได้วันละ 300 เพราะแกต้องเลี้ยงลูก[ติดมาจากเมียเก่า] และต้องหากินด้วย

ส่วนเรื่องเมียแกไม่มี[แกไม่ได้จดทะเบียนกับเมียคนล่าสุด] และทรัพย์สินทุกอย่างในห้องเช่านั้นก็เป็นของเมียแก แกมาอยู่เป็นผู้อาศัยเท่านั้น สรุปสั้นๆนะครับ แกก็จ่ายวันละ 300 นะแหละ[ตามที่เมียแกว่า]จ่ายไปเรื่อยๆครับ ซึ่งบางวันก็มีบ้างไม่มีบ้าง[เมียแกบอกเองว่าให้งุบงิบ] ไม่รู้จ่ายได้เท่าไรนะครับ เพราะไม่กี่เดือน ตัวแกกับเมียแกก็ย้ายไปจากแถวนั้นผมเลยไม่ได้ตามเรื่องต่อ สรุปสุดท้ายก็คือ  แกจ่ายวันละ 300 กับความเสียหายน่าจะหลายหมื่น

ผมมาคิดแล้วการเป็นคนจนที่ไม่มีอะไรเลยนี่มันก็ได้ประโยชน์นะขับรถ here ยังไงชนเขาก็อ้างได้ว่าไม่มีเงิน เพราะส่วนใหญ่ก็เช่าเขาอยู่ที่หาได้ก็เป็นเงินสดไม่มี slip เยี่ยมจริงๆระบบบ้านเรา
ความคิดเห็นที่ 27
คู่กรณีเค้าบอกให้เราดำเนินการแจ้งความ ฟ้องศาลเพื่อเรียกเงินครับ

จขกท เอารถไปที่อู่ ถ่ายรูปให้รอบ พร้อมราคาค่าเสียหาย ระยะเวลาในการซ่อม จากที่อู่
เสร็จก็แจ้งความ หาทนายส่งฟ้องครับ ลงรายละเอียดขอเรียกค่าเสียหาย
1.ค่าทนาย-ค่าธรรมเนียมต่างๆระหว่างดำเนินคดี
2.ค่าใช้จ่ายในการลา-เดินทางระหว่างฟ้องร้อง
3.ค่าขาดประโยชน์จากการไม่ได้ใช้รถ
4.ค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซม
5.ดอกเบี้ยตั้งแต่เกิดเหตุจนถึงระยะเวลาซ่อมเสร็จ
เรียกไปก่อนเท่าที่คิดได้ ทางศาลจะพิจารณาตามเหตุอีกทีครับ

ถ้าคู่กรณีไม่จ่ายอีก ก็ค่อยฟ้องล้มละลายเอาครับ

ยังไงก็แล้วแต่ปรึกษาทนายอีกที หรือตำรวจก่อนเบื้องต้น จะได้ไม่ต้องเสียเวลาในการฟ้องร้องทั้งคู่ อยากให้จบตั้งแต่เจรจาครับ

ปล. ไม่ใช่นักกฎหมายนะ แต่แนะนำประมาณนี้ ยังไงให้ปรึกษาตำรวจก่อนโดยการคุมราคากับอู่ก่อนไปหาตำรวจให้ช่วยเจรจาครับ ถ้าจบเรื่องได้ตั้งแต่ต้นๆจะดีมากเลย
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่