*** ขอออกตัวก่อนว่า ผมเป็นคนชอบพร่ำเพ้อพรรณนาโวหาร เล่าเรื่องไปเรื่อย ใครขี้เกียจอ่านขอให้ข้ามไปที่ย่อหน้าที่สามได้เลยครับ
เมื่อวานนี้ผมนัดเพื่อนไปกินข้าวเย็นแถวเอกมัยครับ นัดเพื่อนไว้สี่โมงเย็น คือคิดไว้พวกมันต้องมาห้าโมงแน่ๆ ปกติเผื่อเวลารถติดให้เดอะแก้งอยู่แล้ว แต่ผิดคาดครับ พวกเรามารวมตัวกันก่อนห้าโมงเย็น ถึงแม้จะเลยเวลานัดไปเกินครึ่งชั่วโมงเล็กน้อยก็ตาม แต่ก็มีบางคนเทหนีไปกินกะสาวๆ บอกเลย พลาดละ นอกจากอยากกลับมารีวิวแล้ว ผมตั้งใจเขียนกระทู้นี้แล้วจะส่งให้มันอ่านโดยเฉพาะ ให้มันเสียดายเล่น (ดูจากรูปที่พวกกูถ่ายมา คงจะรู้ละนะ ว่าพลาดมาก 555)
แรกเริ่มเดิมทีตั้งใจจะไปกินคิงคองบุฟเฟ่ต์ ร้านประจำของพวกผม ระหว่างวนหาที่จอดรถ มีลุงมาโบกให้จอดหน้าร้านสุกี้เปิดใหม่ แค่เห็นชื่อก็สุดตา สะดุดหู สะดุดขาตัวเอง เอ้ย ไม่ใช่แระ หน้าร้านแปะป้ายว่าชื่อ Mong Kok คุ้นใช่มั้ยล่ะครับ ก็มันไม่คุ้นได้ไง ก็มันชื่อย่านโคตรฮิตของ ฮ่องกงชัดๆ ไอ้เราเห็นอะไรเปิดใหม่ไม่ได้ก็อยากลองไปเรื่อย หันไปมองหน้าเพื่อน เอาไงดีวะ ถ้าจะบอกเพื่อนว่า อยากกินร้านนี้ มันจะด่าเปล่าวะ ก็ไอ้เพื่อนที่ไปด้วย มันชอบกินบุฟเฟ่ต์ที่คิงคอง กิน
ได้ทุกเดือน แต่วันนี้โชคเข้าข้างผม เพราะเพื่อนมันชิงพูดก่อน “กูอยากกินร้านนี้ ลองกันมะ” เสร็จโจร เข้าทางกู หึหึ เปิดมาอย่างนี้ มีหรือผมจะปฏิเสธ
พอเดินเข้าไปในร้านจะมีพนักงานสาวสวยแต่ไม่หมวยเหมือนชื่อร้านมาต้อนรับ ส่งพวกเราขึ้นสวรรค์ชั้นเจ็ด เอ้ย ไม่ใช่ ขึ้นลิฟท์ไปชั้นสอง เปิดประตูมาก็เข้าร้านพอดี โอ้โห มันใช่มาก ที่บอกว่า ใช่ นี่คือ นอกจากชื่อร้านจะใช้ชื่อเดียวกับ ย่านวัยรุ่นโคตรฮิตในฮ่องกงแล้ว ทั้งสี ทั้งดีไซน์ มีภาพกราฟิตี้ วาดๆ อยู่ที่ผนังแบบปูนแตกๆ ดิบๆ เค้าเรียกว่าอะไรนะ อ่อ แบบลอฟท์ๆ ไอ้เพื่อนหันมาบอกอย่างนั้น บรรยายเรื่องตกแต่งร้านไม่ค่อยถูก รู้แต่ว่ามันเท่ ดูภาพตามไปละกันนะครับ
เรื่องบรรยายเกี่ยวกับดีไซน์ออกแบบผมไม่ค่อยถนัด แต่เรื่องอาหาร พี่ซัดไม่ยั้งนะครับ ขอบอก ที่นี่ยิ่งเข้าทางเป็น สุกี้บุฟเฟ่ต์สไตล์ฮ่องกง ใช้หม้อแบบชาบู แบบนี้ผมชอบอยู่แล้ว พวกผมเลือกนั่งโต๊ะติดริมหน้าต่าง นั่งปุ๊ป ก็ฟังพนักงานหน้าสวยแต่แข่งกันไม่หมวยเหมือนคนตอนรับข้างล่าง อธิบายกฎระเบียบของร้านตามแพทเทิร์นของร้านบุฟเฟ่ต์ห้องแอร์ทั่วไป คือ มีเวลาให้กิน 90 นาที กินเหลือโดนปรับ แต่ที่ต่างคือ เค้าจะมีจานให้คนละใบ เอาไว้ไปตักของ พนักงานย้ำว่าต้องรักษาเท่าชีวิต เอ้ย ไม่ถึงขนาดน้าน เค้าแค่บอกว่า เราจะต้องใช้จานไปหยิบของมาใส่ตลอดการกิน 90 นาทีต่อจากนี้ ประมาณนี้
อ่านป้ายดูเหมือนค่าปรับจะโหดนะ แต่ถ้าคิดอีกแง่หนึ่ง ถ้าเราไม่ทำผิดกฏของเค้า เราจะกลัวทำไม จริงป่ะ
พอฟังจบ จะรออะไรล่ะค้าบ พุ่งตรงไปเคาน์เตอร์อาหารสิครับ แต่เดี๋ยวก่อน น้องพนักงานเบรกเอี๊ยด ถามต่อว่า จะรับน้ำซุปแบบไหน มีให้เลือก 5 อย่าง แต่ที่สะดุดหู ก็มี หม่าล่า กับน้ำมะพร้าว เฮ้ยยย หม่าล่า ถ้าคนเคยกินสุกี้สไตล์นี้จะพอรู้อยู่ว่ามีรสชาติออกเผ็ดๆ มีกลิ่นเครื่องเทศสมุนไพรจีน ส่วนน้ำมะพร้าวนี่สิ น้องที่ร้านแนะนำบอกว่า ที่ร้านเป็นคิดสูตรนี้ขึ้นมาเอง ใช้น้ำมะพร้าวน้ำหอมแท้มาเป็นวัตถุดิบหลัก เออ ก็น่าลอง วันนี้ผมกับเพื่อนๆ ไปกันสามคน สั่ง หม่าล่า 2 กะ น้ำมะพร้าว 1 มาลอง
นี่ไงครับ ซุปน้ำมะพร้าว ลองชิมแล้วหวานหอมดีครับ
อันนี้ซุปหม่าล่าครับ ที่เห็นในภาพ ผมใส่เนื้อใส่ผักลงไปแล้ว ลืมถ่ายก่อนใส่ครับ
ที่นี้ก็ได้เวลาที่ผมจะเริ่มต้นกินแบบจริงจังแล้วแหละ ที่นี่มีพวกเนื้อ+ผักสดให้เราเลือกเยอะอยู่เหมือนกัน ไล่ตั้งแต่ เบสิคๆ อย่าง หมูสไลด์ เนื้อสไลด์ ไปจนถึงซีฟู้ดอย่าง หอยเชล ปลากะพง และปูม้า ส่วนน้ำจิ้มมีให้เลือก 5 อย่าง
น้ำจิ้มแจ่ว
น้ำจิ้มสุกี้ ผมเลือกอันนี้ เบสิคสุดๆ
น้ำจิ้มไต้หวัน คล้ายๆ พอนซึ ผมตักอันนี้มาด้วย คิดไว้ว่ามันน่าจะเข้ากันดี
น้ำจิ้มซีฟู้ด
น้ำจิ้มหม่าล่า อยากลองอยู่เหมือนกัน แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ตักมา
เพื่อนอีกคนชอบกินเนื้อวัว จัดเต็มจาน ข้าน้อยขอคาราวะ ยอมใจมันเลย
นอกจากนี้ยังมีพวกติ่มซำ ของทอด คล้ายๆ กับไปกินที่ฮ่องกง ไต้หวันนี่แหละ แต่ที่เด็ดคือ ซาลาเปาทอดไส้ไหล บิดครีม จุ่มนม แล้วเลียตามโฆษณา เอ้ย นั่นมันโอรีโอแล้ว แล้ว แล้ว (จะเอคโค่ทำไมวะ เออ นั่นสิ) ถ้าโชคดีพนักงานเอามาวางใหม่ๆ คือยังร้อนๆ อยู่ พอบิดก้อนซาลาเปาทอดจนไส้ไหล ค่อยๆ ละเลียดไส้ไปเรื่อยๆ จะฟินสุดๆ
อันนี้ ซาลาเปาเริ่มเซ็ตตัวแล้ว ไอ้อันที่มีไส้เยิ้มๆ คือถ่ายไม่ทัน
ถัดไปถึงเห็นแผงบะหมี่ ราเมน มาม่า หลายแบบ หลายสัญชาติ ให้เลือก เรานี่หยิบราเมนเกาหลีมาก่อนเลย ชอบอยู่แล้ว เขยิบไปอีกนิดจะเห็นเคาท์เตอร์ของหวานทำโชว์สดๆ มีพวกบิงซู สมูตตี้ วาฟเฟิล และเครมบูเล่ (สะกดอย่างนี้ถูกเปล่า) ไอ้ผมกะเพื่อนก็เล็งๆ ไว้ก่อน กินของคาวนำก่อน ของหวานค่อยตบท้าย
กินไปสักพักเริ่มอิ่มกับของคาว ได้เวลากินของหวาน ขอบอก พวกผมนี่กระเพาะแยกส่วนของคาวกับของหวานได้นะเคิ้บบบ ว่าแล้วก็เดินไปสั่งที่บอกมาทั้งสี่อย่างสิครับ เค้าบอกว่าให้เอาการ์ดเสียบไว้ที่หน้าเคาท์เตอร์เลย พวกผมงงสิครับ การ์ดไรวะ จนน้องเห็นเราทำหน้างง ก็ใจดีบอกยิ้มๆ ว่า การ์ดที่เป็นรูปของหวานที่น้องเค้าแจกให้ตอนแรก มาถึงบางอ้อ พวกกูนี่แหละ มัวแต่อยากกินเร็วๆ ไม่ทันได้ฟังที่น้องอธิบายตั้งแต่แรก ก็เดินกลับมาหยิบการ์ดที่โต๊ะเอาไปให้น้องขนมหวาน กำลังจะเดินกลับไปรอที่โต๊ะ แต่ช้าก่อนไอ้เพื่อนที่มาอีกคน เดินมาตามให้ไปดูไลน์ขนมอีกฝั่ง คือตอนกินก็ไม่ได้สนใจอะไรไง แยกย้ายกันไปหยิบนู่นหยิบนี่ ช่วยๆ กันทำเวลา กินบุฟเฟ่ต์ต้องทำงานกันเป็นทีม ใช่มั้ยละค้าบบบ
หน้าเค้าท์เตอร์ของหวาน จะมีช่องให้เสียบตามอย่างที่เลือก
พอเดินไปเห็นเท่านั้นแหละ โอ้แม่เจ้า แมกนั่มทั้งลังมาอยู่ตรงหน้า ยังกะเห็นขุมทรัพย์ แถมข้างๆ ยังมีไอศกรีม ฮาเก้นดาส ของโปรดของผมอยู่ด้วย มีหรือจะพลาด ระหว่างรอของหวานที่สั่งไว้ ก็โซ้ยไอติมไปเพลินๆ สิครับ ส่วนเพื่อนก็หยิบนู่นหยิบนี่มาลองกิน ขนมแต่ละอย่างจัดเต็ม ก้อนใหญ่แบบที่ขายตามร้านขนม เหมือนยกร้านเบเกอรี่มาตั้งอยู่ที่นี่เลยก็ว่าได้ เอาเป็นว่ากว่าของหวานที่สั่งไว้จะมา พวกผมก็เริ่มอิ่มกันแล้วล่ะครับ
ขุมทรัพย์แม็กนั่ม
ฮาเก้นดาส ของโปรดก็มา
ดูของกินไปเพลินๆ นะ
เพื่อนผมก็หยิบเพลินไปสิครับ
โซนเครื่องดื่ม น้ำหวาน น้ำชา กาแฟ มีให้เลือกเพียบ
ผมลองกดชาเอิร์ลเกรย์ใส่นมใส่ไข่มุกมาลองชิม ก็หอมหวานดี
ทุกอย่างในร้านรวมในบุฟเฟ่ต์แล้ว มีแค่น้ำเปล่ากับเบียร์ จ่ายเพิ่มนะครับ
พอของหวานอีกสี่อย่างมาวางตรงหน้า ต่างคนต่างชิมคนละนิดคนละหน่อย รสชาติอร่อยดีนะ แต่คืออิ่มแล้วไง ก็เริ่มเกี่ยงกันไปมา กินสิ อะไรนี้อร่อยนะ อร่อยจริงๆ นะ คือเริ่มหว่านล้อมชักแม่น้ำทั้งห้า ให้เพื่อนกินให้หมด เพราะอย่างที่บอกไปตอนแรกว่า กินไม่หมดโดนปรับ เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ควรสำรวจของให้ทั่วก่อนตัดสินใจหยิบ เพราะของน่ากินทั้งนั้น อยากลองไปซะทุกอย่าง และอีกเรื่อง รู้หลบเป็นปีก รู้หลีกไม่จุก แต่เพื่อนจุกแทน 5555
เครมบูเล่ กับ สมูตตี้มะม่วง
บิงซู ถ้วยใหญ่มาก ลำพังแค่เกล็ดน้ำแข็งก็กินกันแทบไม่หมดแล้ว ยังมีไอศกรีมโปะข้างบนมาด้วย
วาฟเฟิล แป้งกรอบอร่อยดี
รีวิวจนครบแล้ว บอกพิกัดกันอีกที ถ้าใครเคยมากิน คิงคอง บุฟเฟ่ต์ สาขาเอกมัย คงไม่ต้องอธิบายอะไรมาก มันอยุ่ในเวิ้งเดียวกันนี่แหละ ส่วนคนที่ไม่เคยมา หรือจำไม่ได้แล้ว ให้วิ่งตรงเข้ามาในซอยเอกมัย เวิ้งนี้จะอยู่ระหว่างซอยเอกมัย 26 กะ 28 ครับ ราคาต่อหัวก็ 499++ แต่ช่วงนี้เปิดใหม่มีโปรลด 10% ส่วนเบอร์โทรของร้านดูจากรูปที่ผมแปะไว้ก็ได้ แต่ขอบอกอีกทีเผื่อดูจากรูปไม่ชัด 02-391-8688 ใครอยากไปกินกดโทรเลย เลี้ยงผมด้วย อยากกลับไปกินอีก เย้ๆ
ขอจบการรีวิวแต่เพียงเท่านี้ ติชมได้ แต่อย่าด่าแรง ผมมือใหม่กลับมาหัดรีวิว ใจมันอ้อนแอ
[CR] รีวิว Mong Kok สุกี้ยากี้บุฟเฟ่ต์สไตล์ฮ่องกง เปิดใหม่ที่เอกมัย
เมื่อวานนี้ผมนัดเพื่อนไปกินข้าวเย็นแถวเอกมัยครับ นัดเพื่อนไว้สี่โมงเย็น คือคิดไว้พวกมันต้องมาห้าโมงแน่ๆ ปกติเผื่อเวลารถติดให้เดอะแก้งอยู่แล้ว แต่ผิดคาดครับ พวกเรามารวมตัวกันก่อนห้าโมงเย็น ถึงแม้จะเลยเวลานัดไปเกินครึ่งชั่วโมงเล็กน้อยก็ตาม แต่ก็มีบางคนเทหนีไปกินกะสาวๆ บอกเลย พลาดละ นอกจากอยากกลับมารีวิวแล้ว ผมตั้งใจเขียนกระทู้นี้แล้วจะส่งให้มันอ่านโดยเฉพาะ ให้มันเสียดายเล่น (ดูจากรูปที่พวกกูถ่ายมา คงจะรู้ละนะ ว่าพลาดมาก 555)
แรกเริ่มเดิมทีตั้งใจจะไปกินคิงคองบุฟเฟ่ต์ ร้านประจำของพวกผม ระหว่างวนหาที่จอดรถ มีลุงมาโบกให้จอดหน้าร้านสุกี้เปิดใหม่ แค่เห็นชื่อก็สุดตา สะดุดหู สะดุดขาตัวเอง เอ้ย ไม่ใช่แระ หน้าร้านแปะป้ายว่าชื่อ Mong Kok คุ้นใช่มั้ยล่ะครับ ก็มันไม่คุ้นได้ไง ก็มันชื่อย่านโคตรฮิตของ ฮ่องกงชัดๆ ไอ้เราเห็นอะไรเปิดใหม่ไม่ได้ก็อยากลองไปเรื่อย หันไปมองหน้าเพื่อน เอาไงดีวะ ถ้าจะบอกเพื่อนว่า อยากกินร้านนี้ มันจะด่าเปล่าวะ ก็ไอ้เพื่อนที่ไปด้วย มันชอบกินบุฟเฟ่ต์ที่คิงคอง กิน
พอเดินเข้าไปในร้านจะมีพนักงานสาวสวยแต่ไม่หมวยเหมือนชื่อร้านมาต้อนรับ ส่งพวกเราขึ้นสวรรค์ชั้นเจ็ด เอ้ย ไม่ใช่ ขึ้นลิฟท์ไปชั้นสอง เปิดประตูมาก็เข้าร้านพอดี โอ้โห มันใช่มาก ที่บอกว่า ใช่ นี่คือ นอกจากชื่อร้านจะใช้ชื่อเดียวกับ ย่านวัยรุ่นโคตรฮิตในฮ่องกงแล้ว ทั้งสี ทั้งดีไซน์ มีภาพกราฟิตี้ วาดๆ อยู่ที่ผนังแบบปูนแตกๆ ดิบๆ เค้าเรียกว่าอะไรนะ อ่อ แบบลอฟท์ๆ ไอ้เพื่อนหันมาบอกอย่างนั้น บรรยายเรื่องตกแต่งร้านไม่ค่อยถูก รู้แต่ว่ามันเท่ ดูภาพตามไปละกันนะครับ
เรื่องบรรยายเกี่ยวกับดีไซน์ออกแบบผมไม่ค่อยถนัด แต่เรื่องอาหาร พี่ซัดไม่ยั้งนะครับ ขอบอก ที่นี่ยิ่งเข้าทางเป็น สุกี้บุฟเฟ่ต์สไตล์ฮ่องกง ใช้หม้อแบบชาบู แบบนี้ผมชอบอยู่แล้ว พวกผมเลือกนั่งโต๊ะติดริมหน้าต่าง นั่งปุ๊ป ก็ฟังพนักงานหน้าสวยแต่แข่งกันไม่หมวยเหมือนคนตอนรับข้างล่าง อธิบายกฎระเบียบของร้านตามแพทเทิร์นของร้านบุฟเฟ่ต์ห้องแอร์ทั่วไป คือ มีเวลาให้กิน 90 นาที กินเหลือโดนปรับ แต่ที่ต่างคือ เค้าจะมีจานให้คนละใบ เอาไว้ไปตักของ พนักงานย้ำว่าต้องรักษาเท่าชีวิต เอ้ย ไม่ถึงขนาดน้าน เค้าแค่บอกว่า เราจะต้องใช้จานไปหยิบของมาใส่ตลอดการกิน 90 นาทีต่อจากนี้ ประมาณนี้
อ่านป้ายดูเหมือนค่าปรับจะโหดนะ แต่ถ้าคิดอีกแง่หนึ่ง ถ้าเราไม่ทำผิดกฏของเค้า เราจะกลัวทำไม จริงป่ะ
พอฟังจบ จะรออะไรล่ะค้าบ พุ่งตรงไปเคาน์เตอร์อาหารสิครับ แต่เดี๋ยวก่อน น้องพนักงานเบรกเอี๊ยด ถามต่อว่า จะรับน้ำซุปแบบไหน มีให้เลือก 5 อย่าง แต่ที่สะดุดหู ก็มี หม่าล่า กับน้ำมะพร้าว เฮ้ยยย หม่าล่า ถ้าคนเคยกินสุกี้สไตล์นี้จะพอรู้อยู่ว่ามีรสชาติออกเผ็ดๆ มีกลิ่นเครื่องเทศสมุนไพรจีน ส่วนน้ำมะพร้าวนี่สิ น้องที่ร้านแนะนำบอกว่า ที่ร้านเป็นคิดสูตรนี้ขึ้นมาเอง ใช้น้ำมะพร้าวน้ำหอมแท้มาเป็นวัตถุดิบหลัก เออ ก็น่าลอง วันนี้ผมกับเพื่อนๆ ไปกันสามคน สั่ง หม่าล่า 2 กะ น้ำมะพร้าว 1 มาลอง
นี่ไงครับ ซุปน้ำมะพร้าว ลองชิมแล้วหวานหอมดีครับ
อันนี้ซุปหม่าล่าครับ ที่เห็นในภาพ ผมใส่เนื้อใส่ผักลงไปแล้ว ลืมถ่ายก่อนใส่ครับ
ที่นี้ก็ได้เวลาที่ผมจะเริ่มต้นกินแบบจริงจังแล้วแหละ ที่นี่มีพวกเนื้อ+ผักสดให้เราเลือกเยอะอยู่เหมือนกัน ไล่ตั้งแต่ เบสิคๆ อย่าง หมูสไลด์ เนื้อสไลด์ ไปจนถึงซีฟู้ดอย่าง หอยเชล ปลากะพง และปูม้า ส่วนน้ำจิ้มมีให้เลือก 5 อย่าง
น้ำจิ้มแจ่ว
น้ำจิ้มสุกี้ ผมเลือกอันนี้ เบสิคสุดๆ
น้ำจิ้มไต้หวัน คล้ายๆ พอนซึ ผมตักอันนี้มาด้วย คิดไว้ว่ามันน่าจะเข้ากันดี
น้ำจิ้มซีฟู้ด
น้ำจิ้มหม่าล่า อยากลองอยู่เหมือนกัน แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ตักมา
เพื่อนอีกคนชอบกินเนื้อวัว จัดเต็มจาน ข้าน้อยขอคาราวะ ยอมใจมันเลย
นอกจากนี้ยังมีพวกติ่มซำ ของทอด คล้ายๆ กับไปกินที่ฮ่องกง ไต้หวันนี่แหละ แต่ที่เด็ดคือ ซาลาเปาทอดไส้ไหล บิดครีม จุ่มนม แล้วเลียตามโฆษณา เอ้ย นั่นมันโอรีโอแล้ว แล้ว แล้ว (จะเอคโค่ทำไมวะ เออ นั่นสิ) ถ้าโชคดีพนักงานเอามาวางใหม่ๆ คือยังร้อนๆ อยู่ พอบิดก้อนซาลาเปาทอดจนไส้ไหล ค่อยๆ ละเลียดไส้ไปเรื่อยๆ จะฟินสุดๆ
อันนี้ ซาลาเปาเริ่มเซ็ตตัวแล้ว ไอ้อันที่มีไส้เยิ้มๆ คือถ่ายไม่ทัน
ถัดไปถึงเห็นแผงบะหมี่ ราเมน มาม่า หลายแบบ หลายสัญชาติ ให้เลือก เรานี่หยิบราเมนเกาหลีมาก่อนเลย ชอบอยู่แล้ว เขยิบไปอีกนิดจะเห็นเคาท์เตอร์ของหวานทำโชว์สดๆ มีพวกบิงซู สมูตตี้ วาฟเฟิล และเครมบูเล่ (สะกดอย่างนี้ถูกเปล่า) ไอ้ผมกะเพื่อนก็เล็งๆ ไว้ก่อน กินของคาวนำก่อน ของหวานค่อยตบท้าย
กินไปสักพักเริ่มอิ่มกับของคาว ได้เวลากินของหวาน ขอบอก พวกผมนี่กระเพาะแยกส่วนของคาวกับของหวานได้นะเคิ้บบบ ว่าแล้วก็เดินไปสั่งที่บอกมาทั้งสี่อย่างสิครับ เค้าบอกว่าให้เอาการ์ดเสียบไว้ที่หน้าเคาท์เตอร์เลย พวกผมงงสิครับ การ์ดไรวะ จนน้องเห็นเราทำหน้างง ก็ใจดีบอกยิ้มๆ ว่า การ์ดที่เป็นรูปของหวานที่น้องเค้าแจกให้ตอนแรก มาถึงบางอ้อ พวกกูนี่แหละ มัวแต่อยากกินเร็วๆ ไม่ทันได้ฟังที่น้องอธิบายตั้งแต่แรก ก็เดินกลับมาหยิบการ์ดที่โต๊ะเอาไปให้น้องขนมหวาน กำลังจะเดินกลับไปรอที่โต๊ะ แต่ช้าก่อนไอ้เพื่อนที่มาอีกคน เดินมาตามให้ไปดูไลน์ขนมอีกฝั่ง คือตอนกินก็ไม่ได้สนใจอะไรไง แยกย้ายกันไปหยิบนู่นหยิบนี่ ช่วยๆ กันทำเวลา กินบุฟเฟ่ต์ต้องทำงานกันเป็นทีม ใช่มั้ยละค้าบบบ
หน้าเค้าท์เตอร์ของหวาน จะมีช่องให้เสียบตามอย่างที่เลือก
พอเดินไปเห็นเท่านั้นแหละ โอ้แม่เจ้า แมกนั่มทั้งลังมาอยู่ตรงหน้า ยังกะเห็นขุมทรัพย์ แถมข้างๆ ยังมีไอศกรีม ฮาเก้นดาส ของโปรดของผมอยู่ด้วย มีหรือจะพลาด ระหว่างรอของหวานที่สั่งไว้ ก็โซ้ยไอติมไปเพลินๆ สิครับ ส่วนเพื่อนก็หยิบนู่นหยิบนี่มาลองกิน ขนมแต่ละอย่างจัดเต็ม ก้อนใหญ่แบบที่ขายตามร้านขนม เหมือนยกร้านเบเกอรี่มาตั้งอยู่ที่นี่เลยก็ว่าได้ เอาเป็นว่ากว่าของหวานที่สั่งไว้จะมา พวกผมก็เริ่มอิ่มกันแล้วล่ะครับ
ขุมทรัพย์แม็กนั่ม
ฮาเก้นดาส ของโปรดก็มา
ดูของกินไปเพลินๆ นะ
เพื่อนผมก็หยิบเพลินไปสิครับ
โซนเครื่องดื่ม น้ำหวาน น้ำชา กาแฟ มีให้เลือกเพียบ
ผมลองกดชาเอิร์ลเกรย์ใส่นมใส่ไข่มุกมาลองชิม ก็หอมหวานดี
ทุกอย่างในร้านรวมในบุฟเฟ่ต์แล้ว มีแค่น้ำเปล่ากับเบียร์ จ่ายเพิ่มนะครับ
พอของหวานอีกสี่อย่างมาวางตรงหน้า ต่างคนต่างชิมคนละนิดคนละหน่อย รสชาติอร่อยดีนะ แต่คืออิ่มแล้วไง ก็เริ่มเกี่ยงกันไปมา กินสิ อะไรนี้อร่อยนะ อร่อยจริงๆ นะ คือเริ่มหว่านล้อมชักแม่น้ำทั้งห้า ให้เพื่อนกินให้หมด เพราะอย่างที่บอกไปตอนแรกว่า กินไม่หมดโดนปรับ เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ควรสำรวจของให้ทั่วก่อนตัดสินใจหยิบ เพราะของน่ากินทั้งนั้น อยากลองไปซะทุกอย่าง และอีกเรื่อง รู้หลบเป็นปีก รู้หลีกไม่จุก แต่เพื่อนจุกแทน 5555
เครมบูเล่ กับ สมูตตี้มะม่วง
บิงซู ถ้วยใหญ่มาก ลำพังแค่เกล็ดน้ำแข็งก็กินกันแทบไม่หมดแล้ว ยังมีไอศกรีมโปะข้างบนมาด้วย
วาฟเฟิล แป้งกรอบอร่อยดี
รีวิวจนครบแล้ว บอกพิกัดกันอีกที ถ้าใครเคยมากิน คิงคอง บุฟเฟ่ต์ สาขาเอกมัย คงไม่ต้องอธิบายอะไรมาก มันอยุ่ในเวิ้งเดียวกันนี่แหละ ส่วนคนที่ไม่เคยมา หรือจำไม่ได้แล้ว ให้วิ่งตรงเข้ามาในซอยเอกมัย เวิ้งนี้จะอยู่ระหว่างซอยเอกมัย 26 กะ 28 ครับ ราคาต่อหัวก็ 499++ แต่ช่วงนี้เปิดใหม่มีโปรลด 10% ส่วนเบอร์โทรของร้านดูจากรูปที่ผมแปะไว้ก็ได้ แต่ขอบอกอีกทีเผื่อดูจากรูปไม่ชัด 02-391-8688 ใครอยากไปกินกดโทรเลย เลี้ยงผมด้วย อยากกลับไปกินอีก เย้ๆ
ขอจบการรีวิวแต่เพียงเท่านี้ ติชมได้ แต่อย่าด่าแรง ผมมือใหม่กลับมาหัดรีวิว ใจมันอ้อนแอ